STBI : ตอนที่ 54 เจดีย์ถงเทียน
ไป๋ตงหลิน ไม่ได้กลับไปที่ เรือนพักของเขา แต่เดินลึกเข้าไปในหุบเขาไท่ซาง
เขาหยุดลงที่ใต้น้ำตก ไม่ไกลจากน้ำตก มีบ้านเรือนที่สง่างามตั้งอยู่ ที่นี่ถูกรายล้อมไปด้วยทะเลดอกไม้สีฟ้า และ ดอกไม้สีฟ้าที่ไม่เป็นที่รู้จักนี้ก็ส่องสว่างสีฟ้าที่มัวหมองออกมา
ทำให้ ที่นี่มีพลังปราณฟ้าดินรายล้อมอยู่มากมาย จนเหมือนกับดินแดนสวรรค์
เขาได้เดินไปเคาะประตูลานบ้าน ไม่นานเขาก็ได้ยินเสียงวิ่งเหยาะ ๆ ออกมาจากลานบ้าน พร้อมกับเสียงที่น่ารักสดใส ‘นั่นใคร’
“เสี่ยวจิ่ว นี่ข้าเอง ไม่ได้เจอกันนาน!”
“อ๊ะ! พี่ไป๋ เชิญท่านเข้าไปข้างในก่อน”
เมื่อทั้งสองเข้าไปในบ้าน ซูเสี่ยวจิ่ว ก็ดูมีชีวิตชีวา และ กระโดดไปรอบ ๆ พร้อมกับกล่าวถาม
“พี่ไป๋มาหาพี่สาวงั้นเหรอ?”
“ใช่แล้ว ข้ามีเรื่องจะคุยกับพี่สาวของเจ้า”
ไป๋ตงหลินตอบกลับด้วยรอยยิ้ม ไม่นานทั้งสองก็เข้าไปในห้องโถง ในเวลานี้ ซูฉี กำลังรอเขาอยู่ในห้องโถง ด้วยสถานในปัจจุบันของ ซูฉี นางสามารถสัมผัสเขาได้ตั้งแต่เขาปรากฏตัวที่ด้านนอกทะเลดอกไม้แล้ว
“คุณหนูซู ข้ามาที่นี่โดยไม่ได้นัดหมายล่วงหน้า โปรดยกโทษให้ข้าด้วย”ไป๋ตงหลิน ได้กล่าวออกมาเล็กน้อย
“คุณชายไป๋ เชิญนั่งเกิน ข้าสงสัยว่าท่านมาหาข้ามีธุระอันใดอย่างงั้นหรือ?”
ซูฉี ได้แสดงความอยากรู้อยากเห็นในสายตาของนาง นางไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับ ไป๋ตงหลิน อีกฝ่ายแข็งแกร่งขึ้นมาก ราวกับว่า ในปัจจุบัน นางได้ยินเสียงคำรามออกมาจากโลหิตในร่างกายของอีกฝ่าย
ไป๋ตงหลิน ได้นั่งลงตรงข้ามกับ ซูฉี โลหิตในร่างกายของเขาได้พลุ่งพล่าน สถานการณ์ของเขารุนแรงกว่าที่คิดเอาไว้ และ จิตวิญญาณของเขาได้มาถึงขีดจำกัดแล้ว เขาต้องหาทางเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับจิตวิญญาณของเขาอย่างรวดเร็ว ดังนั้น เขาจึงได้มาหา ซูฉี ในเวลานี้
“คุณหนูซู ข้าได้ยินว่าท่านเชี่ยวชาญเรื่องการใช้พิษ และ ตอนนั้นข้าก็เคยสัมผัสมันกับตัวเอง ดังนั้นข้าจึงได้เดินทางมาที่นี่เพื่อขอซื้อพิษจากท่าน”
“ไม่ว่าจะเป็น หินวิญญาณ ของวิเศษ หรือ วัตถุดิบอะไร ข้าสามารถจ่ายได้ ดังนั้นโปรดขายพิษให้แก่ข้าด้วย”
ซูฉี เลิกคิ้วเมื่อได้ยิน นางไม่ได้คาดหวังเลยว่า ไป๋ตงหลิน จะมองหานางเพื่อขอซื้อยาพิษ พิษเหล่านี้ ล้วนถูกกลั่นกรองด้วยวิธีการลับของนาง และ นางก็หวงแหนพวกมันมาก เพราะพวกมันคือไพ่ตายของนาง ดังนั้น นางไม่อาจส่งมอบให้เขาได้โดยง่าย
“คุณชายไป๋ ข้าไม่ได้ขาดสิ่งของเช่น หินวิญญาณ ของวิเศษ ฯลฯ ข้าเกรงว่า…”
ไป๋ตงหลิน ยิ้มเล็กน้อยหลังจากได้ยิน เขาก็คาดหวังไว้เช่นเดียวกัน เพราะท้ายที่สุดความสัมพันธ์ของพวกเขาก็ยังไม่ได้ดีจนถึงจุดนั้น มันเป็นเรื่องปกติที่จะถูกปฏิเสธ ดังนั้นเขาจึงได้กล่าวออกมา :
“เช่นนั้น ข้าสามารถจ่ายท่านเป็นคะแนนของนิกายได้”
ดวงตาของ ซูฉี ได้เป็นประกายเมื่อนางได้ยินเรื่องนี้ เพราะนางมีภูมิหลังครอบครัวที่แข็งแกร่ง ดังนั้นจึงไม่สนใจสิ่งต่าง ๆ เช่น โอสถพลังปราณ หินวิญญาณ หรือ กระทั่ง อาวุธวิเศษ แต่ทว่า คะแนนการมีส่วนร่วมของนิกายนั้นแตกต่างกัน แม้ว่า ทางนิกายจะอนุญาติให้เหล่าศิษย์แลกเปลี่ยนคะแนนกันได้ แต่ทุกคนต่างก็ใช้คะแนนเหล่านี้เพื่อตนเอง ใครจะคิดนำมันมาแลกเปลี่ยน?
แม้ว่านางจะไม่รู้ว่า ไป๋ตงหลิน ต้องการทำอะไรกับพิษของนาง แต่นางก็ไม่สนใจมัน แน่นอนว่านางไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธคะแนนเหล่านี้ ดังนั้นนางจึงได้พยักหน้าตอบตกลง
“ข้ายินดี เพียงแต่ไม่รู้ว่าคุณชายไป๋ต้องการมันมากแค่ไหน?”
“ข้าต้องการทั้งหมดที่ท่านมี!”
พิษของ ซูฉี นี้ รุนแรงมาก และ มันยากที่จะต้านทานได้ หากเขาสามารถได้รับมันเพิ่มอีกสักเล็กน้อย มันก็จะเปลี่ยนแปลงคลื่นขนาดใหญ่และเพิ่มความแข็งแกร่งให้แก่เขา
ซูฉี ได้โบกมือ เมื่อได้ยินคำนั้น ขวดคริสตัลกว่า 50 ขวด ได้ปรากฏขึ้นบนโต๊ะ ทั้งนี้จะสามารถมองเห็นของเหลวทั้ง 5 สี แตกต่างกันในแต่ละขวดที่ส่องแสงเล็กน้อย
“นี่คือพิษร้ายแรง 5 ประเภทที่แตกต่างกัน และ มีผลการทำงานที่ต่างกัน แต่ความเป็นพิษไม่แตกต่างกันมาก หากคุณชายไป๋ ต้องการมัน ข้าจะคิดราคา 100 แต้มคะแนน ต่อขวดเป็นอย่างไร?”
“ข้าตกลง!”
แม้ว่าแต้มคะแนนจะสำคัญมาก แต่มันก็เพียงพอที่เขาจะเสียสละเพื่อซื้อพิษเหล่านี้ในการแก้ไขปัญหาของเขา
ไป๋ตงหลิน ได้เหยียดมือซ้ายออกมา จากนั้น ซูฉี ก็เหยียดมือขวา ทั้งสองได้แตะสร้อยข้อมือจี้เต๋าของพวกเขา และ เมื่อพวกเขาขยับความคิด ไป๋ตงหลิน ก็ได้ส่งมอบแต้ม 5,000 คะแนนให้กับ ซูฉี อีกทั้ง ทั้งสองคนยังเพิ่มเพื่อนกันเพื่อที่จะสื่อสารกันได้
ซูฉี ผู้เย็นชาอยู่เสมอ อดไม่ได้ที่จะยิ้มเล็กน้อยในเวลานี้ แม้แต่ ไป๋ตงหลิน ก็ยังประหลาดใจ
หลังจากทั้งสองเสร็จสิ้นการทำธุรกรรม ซูฉี ก็ได้แนะนำรายละเอียดเกี่ยวกับวิธีการใช้พิษและข้อควรระวังต่าง ๆ จากนั้น ไป๋ตงหลิน ก็ลุกขึ้นและจากไป เขาต้องการกลับไปแก้ไขปัญหาของเขาโดยเร็วที่สุด เพราะความรู้สึกของการสูญเสียการควบคุมร่างกายทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจจริง ๆ
เขาได้บอกลาสองสาว และ กวาดผ่านประตูแสงพร้อมกับกลับไปที่เรือนที่พักของเขา
จากนั้นเขาก็นั่งไขว่ห้างอยู่บนเตียง พร้อมกับ หยิบ ขวดคริสตัลออกมาจิบ ร่างของ ไป๋ตงหลิน ได้กลายเป็นปั่นป่วนในทันที เส้นโลหิตภายในทะเลโลหิตของเขาได้พลันแตกสลาย กระทั่งอวัยวะภายในก็กลายเป็นเนื้อเน่า มันเริ่ม ทำลาย และ ซ่อมแซมในเวลาเดียวกัน ในเวลานี้ คลื่นพลังเสริมแกร่งได้ปรากฏขึ้นจากอากาศบาง ๆ
เขาได้นึกถึงตอนที่ถูกวางยาพิษเช่นนี้ตอนอยู่บนเกาะ สิ่งนี้ แม้จะสัมผัสทางอากาศ ก็ยังให้ผลที่รุนแรง ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการจิบมัน อีกอย่างร่างกายของเขาก็แข็งแกร่งขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก แต่สิ่งนี้เกือบจะส่งเขาไปสวรรค์ในทันที
ในปัจจุบัน จิตวิญญาณของเขาได้ทำงาน และ ได้กระตุ้นทะเลจิตวิญญาณในการดูดกลืนพลังนี้ ความเจ็บปวดทางจิตวิญญาณของเขาได้ลดลงอย่างมากในทันที และ มันก็ถูกแทนที่ด้วยการเสริมแกร่ง
หลังจากหลอมรวมจิตเป็นหนึ่ง จิตวิญญาณของเขาก็พลันแข็งแกร่งขึ้น ความรู้ที่สั่งสมมาได้ถูกย่อยลงอย่างรวดเร็ว และ ไป๋ตงหลิน ก็ได้เข้าสู่ห้วงแห่งการฝึกฝน
…
2 เดือนต่อมา
ณ ลานจตุรัสของนิกาย ที่นี่มีร้านอาหารและร้านค้ามากมาย เหล่าศิษย์ของนิกายศักดิ์สิทธิ์ ได้เดินทางมาที่นี่ เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และพูดคุยกัน
พวกเขาไม่สามารถปิดด่านฝึกตนได้ตลอดเวลา ศิษย์เหล่านี้ยังจำเป็นจะต้องสื่อสารกัน และ ผ่อนคลายการใช้ชีวิตของพวกเขา หลังจากที่สื่อสารกันเอง บางทีพวกเขาก็ได้รับแรงบันดาลใจในการฝึกฝนต่อ กระทั่งพวกเขายังสามารถแลกเปลี่ยนความรู้กันได้ และ สิ่งนี้ ทำให้ ทางนิกายศักดิ์สิทธิ์ ได้สนับสนุนเป็นอย่างมาก
ในเวลาเดียวกัน ก็มีบรรยากาศที่อบอุ่นภายในร้านอาหาร เหล่าศิษย์หลายคน กำลังดื่มเหล้าองุ่นวิญญาณและพูดคุยเกี่ยวกับสิ่งที่น่าสนใจต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นภายในนิกาย
“ข่าวใหญ่ ข่าวใหญ่!”
“เจ้าได้ยินหรือไม่ อันดับสองในรายชื่อของเจดีย์ถงเทียนกำลังจะเข้าท้าทายอันดับหนึ่ง!”
“อะไรนะ คุณชายถู๋หยา ได้พัฒนาทักษะการฝึกฝนของเขาแล้วงั้นหรือไม่? เขาถึงกล้าที่จะแย่งชิงอันดับหนึ่ง?”
“หึ่ม เจ้าถู๋หยา คนนี้หยิ่งผยองเกินไป เขาคิดว่าตนเองจะสามารถแย่งชิงอันดับหนึ่งมาได้งั้นหรือไม่?”
“หุบปาก เจ้ามีสิทธิ์อะไรมาดูถูก คุณชายถู๋หยา?”
ทันใดนั้น ก็มีเสียงดังเกิดขึ้นในร้านอาหาร พวกเขาได้ถกเถียงกันว่าใครจะเป็นฝ่ายชนะ
“การปะทะคารมณ์เช่นนี้จะมีประโยชน์อะไร ไปที่เจดีย์ถงเทียนเอง เดี๋ยวก็รู้ มาดูกันว่าใครจะเป็นฝ่ายชนะกันแน่!”
“ข้าเห็นด้วย!”
“เช่นนั้นก็ไปกันเถอะ!”
เมื่อประตูแสงเปิดออก คนในร้านอาหารก็หายตัวไปในทันที
หุบเขาไท่ซาง,เรือนที่พักของ ไป๋ตงหลิน
ไป๋ตงหลิน ได้นั่งไขว่ห้างอยู่บนเตียงโดยไม่ขยับเขยื้อน บนพื้นดินเต็มไปด้วยขวดคริสตัลใส ในระยะเวลา 2 เดือนที่ผ่านมานี้ เขาได้ปิดด่านฝึกตน และ ใช้พิษไปจนหมด โดยพิษนี้ เขาได้ใช้มันไปกับการเสริมพลังจิตวิญญาณ
ภายในพื้นที่ทะเลจิตวิญญาณ
จิตวิญญาณของ ไป๋ตงหลิน ได้คุกเข่าลงในหมอกสีเทา ทั่วร่างของเขาได้สะท้อนสีทองออกมาเป็นครั้งคราว และ ตรงกลางหน้าผากของเขาก็มีลวดลายแนวตั้งสีทองส่องประกายระยิบระยับ
“ย๊าาา!”
ไป๋ตงหลิน ได้เปิดปากของเขา คลื่นเสียงคำรามของเขาได้เปิดแนวเส้นตั้งสีทองบนหน้าผากเล็กน้อย ทันใดนั้น เนตรสีทองของเขาก็ฉายแสงออกมา นี่คือ การโจมตีทางจิตวิญญาณ ดูเหมือนว่าเขาจะปลูกฝังเนตรจิตวิญญาณสำเร็จแล้ว
เขาได้หยุดใช้พลังจิตวิญญาณ แล้วปิดเส้นแนวตั้งสีทองในทันที
จากนั้นก็ลืมตาตื่นขึ้น ในเวลานี้ มีตัวละครลับนับไม่ถ้วนไหลเวียนอยู่ในส่วนลึกของดวงตาของเขา
ครั้งสุดท้ายที่เขาเผชิญหน้ากับสิ่งนี้ มันทำให้เขารู้สึกเจ็บปวด โชคดีที่จิตวิญญาณของเขาได้รับการปรับปรุงทำให้ เขาแยกแยะเทคนิคลับทั้ง 39,000 ชุดเหล่านี้ได้สำเร็จ
นี่เป็นการเก็บเกี่ยวที่ดี ความรู้ทั้งหมดของเขาได้ถูกนำมาปรับปรุงเส้นทางการบ่มเพาะพลัง ทำให้เขาดูมีภูมิฐานที่ดีมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ เมื่อเขาฝึก ‘คัมภีร์เทพอสูร’ ปากทางเดินจิตวิญญาณระดับมนุษย์กว่า 50 ช่อง ก็ได้เปิดออก ด้วยความแข็งแกร่งทางจิตวิญญาณในปัจจุบัน การควบคุมโลหิตของเขาก็ดีขึ้นมาก
และทุกครั้งที่เขาเปิดปากทางเดินจิตวิญญาณ สิ่งนี้ก็จะกลืนกินองค์ประกอบโลหิตภายในร่างกายของเขา และ มันจำเป็นจะต้องใช้เวลานานมากในการฟื้นฟู ทำให้เขาไม่สามารถเปิดช่องทางเดินจิตวิญญาณได้จำนวนมากในระยะเวลาอันสั้น
แต่การพัฒนาปากทางเดินจิตวิญญาณก็ทำให้องค์ประกอบโลหิตของเขาแข็งแกร่งขึ้น อีกทั้งร่างกายของเขายังแข็งแกร่งมากขึ้นอีกด้วย
เขาได้ลุกขึ้นจากเตียง ทำความสะอาดขวดบนพื้น และ เตรียมจะออกไปเดินเล่น เขาได้ปิดด่านฝึกตนเป็นเวลา 2 เดือน ทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อยหลังจากที่ผละออกจากการฝึก
ไม่นานหลังจากที่เขาเดินออกมาที่ลานบ้าน สร้อยข้อมือจี้เต๋า ก็เรืองแสงสีแดงเล็กน้อย มันเป็นเวลากว่า 2 เดือนแล้ว ที่เขาไม่ได้ตรวจสอบสถานการณ์ภายในนิกายเลย
ทันใดนั้น ข้อความบางอย่าง ก็ถูกส่งไปยังจิตใจของเขา
“อันดับล่าสุดของรายชื่อดาวดวงใหม่ของเจดีย์ถงเทียน?”
การแสดงออกของ ไป๋ตงหลิน ได้เปลี่ยนไป และ เขาก็เข้าใจข้อมูลพื้นฐาน นี่คือรายชื่อสำหรับศิษย์ใหม่ ดังนั้นเขาจึงได้ตรวจสอบรายชื่อด้วยความสงสัย
อันดับที่ 1 : อู๋เหว่ย ชั้นที่ 36
อันดับที่ 2 : ถู๋หยา ชั้นที่ 35
…
อันดับที่ 145,800 : ไป๋ตงหลิน ชั้น 0
เขาได้มองดูรายชื่อและข้อมูลเวลาที่ใช้ในการผ่านหอคอยในปัจจุบัน ยิ่งใช้เวลาน้อย อันดับก็จะยิ่งสูง
สิ่งนี้ค่อนข้างน่าสนใจ ดูเหมือนว่าจะมีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นในระยะเวลา 2 เดือนนี้ และ เขายังไม่เคยท้าทายเจดีย์ถงเทียน ดังนั้นเขาจึงอยู่ที่ชั้น 0 โดยธรรมชาติ
ดวงตาของ ไป๋ตงหลิน ได้แสดงความอยากรู้อยากเห็น เขาต้องการไปดูว่าเจดีย์ถงเทียน นี้ คืออะไร
หลังจากล็อคพิกัดไปที่ เจดีย์ถงเทียน เขาก็กวาดผ่านสร้างประตูแสงและเข้าไปข้างใน