ตอนที่แล้วMDB ตอนที่ 78 สู้กันอย่างดุเดือด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปMDB ตอนที่ 80 ความจริงเปิดเผย

MDB ตอนที่ 79 ภาพวาดของปรมาจารย์กู่


กำลังโหลดไฟล์

สิ่งนี้กระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นของกู่เมียงจงทันที ดังนั้นเขาจึงถามว่า

“ข้าไม่ค่อยได้วาดภาพใด ๆ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ดังนั้นจึงไม่ควรมีภาพวาดหมุนเวียนในตลาดมากนัก ผู้ประเมินตัน ท่านซื้อมาจากที่ไหน? ขอข้าดูหน่อย มันอาจจะเป็นของปลอมก็เป็นได้?”

ตันซุนหัวเราะและอธิบายว่า “ข้าได้รับของขวัญมาจากคนใหญ่คนโต นอกจากนี้ ข้าได้ตรวจสอบด้วยตัวเองแล้วว่าไม่ใช่ของปลอมอย่างแน่นอน เดี๋ยวข้าจะนำภาพวาดที่ได้มาให้อาจารย์กู่ดูเอง”

ภาพวาดที่ตันซุนกล่าวถึงนี้เป็นหนึ่งในผลงานสร้างสรรค์ของกู่เมียงจงที่เขาได้รับจากท่านเจ้าเมือง

ย้อนกลับไปในตอนที่เขามองดูมันครั้งแรก ตันซุนรู้ว่ามันเป็นของแท้

อย่างไรก็ตาม เขากลัวว่าเขาจะถูกเข้าใจผิดและกู่เมียงจงเองก็อยู่ที่นี่ จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่จะปล่อยให้เขาตรวจสอบเพื่อยืนยันความถูกต้อง

เพราะเขาชื่นชอบภาพวาดนี้มาก ตันซุนจึงให้คนรับใช้พกติดตัวไปทุกที่ คนรับใช้คนนั้นรีบเข้ามาทันทีและยื่นภาพวาดให้ตันซุน

หวังจีตกตะลึงในขณะที่เขามองดูภาพวาด

เขาจำได้ว่าพ่อบ้านจั่วแห่งคฤหาสน์ท่านเจ้าเมืองได้กล่าวไว้ว่าในบรรดาของขวัญของหวังจี มีภาพวาดของแท้ของปรมาจารย์กู่ ย้อนกลับไปในตอนนั้น หวังจีไม่ได้คิดเรื่องนี้อย่างลึกซึ้งมากนัก เขาคาดว่าพ่อบ้านจั่วอาจตรวจสอบผิดพลาดก็เป็นได้

‘มันคงไม่ใช่ภาพวาดของแท้อย่างแน่นอน’

หวังจีส่ายหัว ถ้ามันเป็นภาพวาดที่ซื้อโดยผู้ใต้บังคับบัญชาของเขา มันต้องเป็นของปลอม มันจะเป็นของแท้ได้อย่างไร?

ดังนั้น หวังจีรำพึงในใจว่าแม้แต่ผู้ประเมินตันอาจยังมองพลาดได้ในบางครั้ง

ในขณะเดียวกัน ตันซุนก็ค่อย ๆ คลี่ภาพวาดออก ผู้คนรอบ ๆ ขยับเข้ามาใกล้ขึ้นทันที พยายามดูว่าภาพวาดนั้นเป็นของจริงหรือไม่?

เมื่อภาพวาดถูกเปิดเผยกู่เมียงจงก็ตะลึงก่อนที่สีหน้าของเขาจะมืดลง พ่อครัวใหญ่เหลียวกู่ที่ยืนอยู่ข้างเขาเห็นภาพวาดด้วยและอุทานว่า “นี่มันไม่ใช่…”

เขายังพูดไม่จบประโยค

เหลียวกู่ไม่ใช่คนโง่ เขารู้ว่ามีเรื่องคาวเกิดขึ้น

ตันซุนกล่าวว่า “เป็นอย่างไรบ้าง? นี่เป็นหนึ่งในผลงานสร้างสรรค์ด้วยมือของท่านหรือเปล่า?”

ไม่มีร่องรอยของความพอใจบนใบหน้าของกู่เมียงจง ในขณะที่เขาพยักหน้า "ใช่แล้ว มันเป็นหนึ่งในผลงานของข้า”

“ฮ่าฮ่า ข้ารู้แล้ว ข้าจะพลาดภาพวาดที่สร้างขึ้นโดยอาจารย์กู่ได้อย่างไร?” ตันซุนดีใจในขณะที่เขาสรรเสริญท่านเจ้าเมืองอย่างเงียบ ๆ

'ตามคาด พวกเขาช่างมีน้ำใจอย่างมากถึงให้มอบของขวัญอันล้ำค่านี้แก่ข้า'

ในขณะที่ ตันซุนกำลังจะเก็บมันลง อยู่ ๆ กู่เมียงจงได้ยื่นมือออกมาหยุดเขาไว้

“อาจารย์กู่ เกิดอะไรขึ้น?” ตันซุนตกตะลึง ในที่สุดเขาก็สังเกตเห็นท่าทางเคร่งขรึมของกู่เมียงจง

“ผู้ประเมินตัน ข้าขอถามท่านได้มั้ยว่าท่านได้ภาพวาดนี้มาจากไหน?” กู่เมียงจงถาม

แม้ว่าตันซุนจะงงงวย แต่เขาตอบอย่างตรงไปตรงมาว่า “เมื่อสองสามวันก่อน ตอนที่ข้าเป็นแขกที่คฤหาสน์ของท่านเจ้าเมือง ท่านไป่ได้มอบมันให้ข้าเป็นของขวัญ”

“ฮึ่ม!” กู่เมียงจงเผยความไม่พอใจออกมา

ตันซุนรู้ว่าต้องมีบางอย่างเกิดขึ้น มิฉะนั้นกู่เมียงจงจะไม่อารมณ์เสียเช่นนี้

“มันเกิดอะไรขึ้น?” ตันซุนถาม

ในขณะนั้น พ่อครัวใหญ่เหลียวอธิบายว่า “นี่เป็นภาพวาดที่เมียงจงได้มอบให้หลินจิน เมื่อหลายวันก่อน มันมาลงเอยที่คฤหาสน์เจ้าเมืองได้อย่างไรและสุดท้ายมันมาอยู่ในมือของเจ้าได้อย่างไร ผู้ประเมินตัน”

"อา!" ตันซุนร้องออกมาอย่างไร้เสียง

นี่เป็นปัญหาใหญ่และน้ำเสียงของเหลียวกู่ก็มีความสงสัยอย่างชัดเจน

หัวใจของหวังจีเริ่มเต้นแรงเมื่อรู้สึกไม่สบายใจผุดขึ้นในหัวใจของเขา

เขามีความรู้สึกว่าจะมีภัยพิบัติเกิดขึ้นอีก

“มันอาจจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดก็ได้ขอรับ ภาพวาดนี้ถูกมอบโดยท่านไป่โดยตรงจริง ๆ” คนรับใช้ของตันซุนอธิบาย

ตันซุนหันไปมองที่กู่เมียงจง เขาหวังว่าคนหลังจะเข้าใจผิดจริง ๆ

กู่เมียงจงชี้ไปที่มุมหนึ่งของภาพวาดและกล่าวว่า “ภาพวาดนี้สามารถมองได้จากมุมมองที่ต่างกัน ภาพใหญ่เป็นภาพวาดทิวทัศน์จริง ๆ แต่ภายในภาพวาดนี้มีลานเล็ก ๆ ที่คนสามคนกำลังพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน นี่คือภาพของข้า พี่เหลียวและหลินจิน พวกเราพูดคุยกันอย่างสนุกสนานในวันนั้น บอกฉันทีว่าข้าจะเข้าใจผิดได้อย่างไร!?”

ตันซุนหน้าซีดทันที

มีคนโพล่งขึ้นมาว่า “ผู้ประเมินหลินอาจมอบสิ่งนี้ให้กับท่านเจ้าเมืองหรือเปล่าขอรับ?”

กู่เมียงจงส่ายหัวทันที “เมื่อข้าไปหาหลินจินเพื่อให้เขาช่วยข้าทำพันธสัญญาโลหิตกับอสูรน้ำหมึกของข้า เขาบอกข้าว่าภาพวาดที่ข้าให้เขาหายไปและมันก็หายไปภายในสมาคมประเมินสัตว์วิเศษ ย้อนกลับไปในตอนนั้น ข้าทำได้แค่วาดเขาอีกอันแต่ตอนนี้เมื่อคิดดูแล้ว สิ่งต่าง ๆ ไม่ได้ฟังดูง่ายอย่างที่คิด เนื่องจากสิ่งนี้เกี่ยวข้องกับท่านเจ้าเมือง...พวกเจ้าไปแจ้งเรื่องนี้ให้พวกเขาทราบและส่งคนของพวกเขามาที่นี่ พวกเราจะได้รู้ความจริงเมื่อเราถามพวกเขาโดยตรง”

มีคนไปแจ้งไปทางคฤหาสน์เจ้าเมืองทันที

ไม่มีใครสังเกตเห็นว่าใบหน้าของหวังจีเปลี่ยนเป็นสีแดงเข้มได้อย่างไร

ไม่นาน พ่อบ้านจั่วแห่งคฤหาสน์เจ้าเมืองก็มาถึง

ทั้งตันซุนและปรมาจารย์กู่เป็นบุคคลสำคัญอย่างไม่น่าเชื่อ ดังนั้น จั่วเหวินถังจึงไม่ฝันที่จะให้พวกเขารอนาน

“พ่อบ้านจั่ว ท่านได้ภาพวาดนี้มาจากที่ไหน?” ตันซุนอธิบายต่อว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อจั่วเหวินถังเห็นภาพวาด ดูเหมือนว่าเขาจะจำที่มาของมันได้

“นี่เป็นภาพวาดที่มอบให้โดยหัวหน้าหวังจี มีไข่กลายพันธุ์จำนวนหนึ่งที่ต้องประเมินไม่ใช่หรือ ไข่กลับมาพร้อมกับของขวัญจากหัวหน้าหวังและภาพวาดนี้เป็นหนึ่งในของขวัญเหล่านั้น”

เมื่อจั่วเหวินถังอธิบายเสร็จแล้ว ทุกคนก็จ้องมองไปที่หวังจี

ตอนนี้หวังจีก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

ไม่ว่าเขาจะไร้ยางอายหรือจิตใจแข็งแกร่งเพียงใด เขาก็ไม่อาจห้ามตัวเองไม่ให้เหงื่อไหลเย็นออกมาได้ มันไม่ใช่แค่เกี่ยวกับภาพวาดเท่านั้นแต่มันยังเกี่ยวกับไข่กลายพันธุ์เหล่านั้นด้วย

มีเพียงเขาเท่านั้นที่รู้ว่าหลินจินเป็นคนประเมินไข่กลายพันธุ์ในคืนนั้น ไม่ใช่หวังจี

“ข้า…ข้า…”

เขาไม่มีทางออกจากเรื่องนี้ได้ เขารู้ว่าหลังจากหลินจินประเมินไข่กลายพันธุ์ คนหลังต้องเผลอทิ้งภาพวาดไว้ในห้องโถงประเมิน ดังนั้นมันจึงถูกสันนิษฐานว่าเป็นของขวัญและถูกส่งไปยังคฤหาสน์เจ้าเมือง

แต่หวังจีจะอธิบายเรื่องนี้ได้อย่างไร?

ถ้าเขาทำเขาจะถูกเปิดเผย

แต่ถ้าเขาไม่ทำ มันก็จะจบไม่สวยเช่นกันเพราะมีคนคิดว่าเขาขโมยภาพวาดนั้นไป

คนรอบข้างเขาไม่ได้โง่ เมื่อเห็นว่าวังจีพูดตะกุกตะกักโดยไม่สามารถอธิบายได้ พวกเขารู้ว่ามีบางอย่างหลบซ่อนอยู่

แม้แต่หนานกงเซียนก็ยังสับสน เขาค่อย ๆ ขยับห่างออกจากหวังจีสองก้าว เขารู้สึกว่าหัวหน้าคนนี้กำลังจะเจอปัญหาใหญ่ที่กำลังเกิดขึ้นในวันนี้

*แกร๊ง แกร๊ง*

ทันใดนั้น ระฆังในสมาคมก็ดังขึ้น

การสอบสิ้นสุดลงแล้ว

ในไม่ช้าผู้สมัครก็หลั่งไหลออกจากห้องโถง ด้วยสายตาที่เฉียบแหลมของซูคาน เขาสังเกตเห็นหลินจินท่ามกลางฝูงชนทันที ดังนั้นเขาจึงส่งเสียงเรียกเขา

"ผู้ประเมินหลิน ทางนี้!"

หลินจินสังเกตเห็นซูคานกวักมือเรียกเขาเช่นกัน ดังนั้นเขาจึงเดินไปหาอีก่าย แต่พอเข้าไปใกล้ เขาต้องถึงกับอึ้ง

‘มันช่างเป็นการแสดงที่ใช้ตัวละครฟุ่มเฟือยอะไรอย่างนี้’

ซูคานอยู่ที่นี่ พ่อครัวใหญ่เหลียวด้วย แม้แต่อาจารย์กู่ก็มา

หลินจินที่เพิ่งเสร็จสิ้นการสอบของเขารู้สึกงุนงงกับจำนวนคนมากขนาดนี้

เมื่อตันหลินเห็นหลินจินความรู้สึกผิดในตัวเธอล้นออกมา เธออยากจะเข้าหาเขาเพื่อขอโทษแต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นจากตรงไหน ตันซุนที่เห็นเช่นนั้น เขาตระหนักถึงความขัดแย้งภายในของลูกสาวได้ทันที ตันซุนจึงเข้าไปแทน

สิ่งนี้ไม่เกี่ยวข้องกับตัวตนของเขาในฐานะผู้ประเมิน มันเป็นเพียงพ่อที่แสดงความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณของลูกสาว

“ผู้ประเมินหลิน วิธีการของเจ้าในการใช้นิ้วพลังนวิญญาณแห่งไฟเพื่อโจมตีจุดหมุนสวรรค์นั้นยอดเยี่ยมมาก ข้าขอบคุณเจ้าแทนลูกสาวของข้าด้วย”

เมื่อตันซุนพูดเช่นนี้ หลินจินก็รู้ว่ามันเกี่ยวกับอะไร

“เธอเป็นลูกสาวของท่านงั้นเหรอ?” หลินจินถามและชี้ไปที่ตันหลิน

ตันซุนพยักหน้า

แต่ทว่าคำพูดต่อไปของหลินจินทำให้ตันซุนต้องอับอาย “แม้ว่าจะเป็นความเข้าใจผิดในคืนนั้น ข้าแค่พยายามช่วยเธอด้วยความปรารถนาดีแต่เธอกลับไม่ได้แสดงความขอบคุณเลยสักนิด ไม่เพียงเท่านั้นเธอยังสมคบคิดกับหวังจีเพื่อวางแผนเล่นงานข้า นอกจากนี้เธอยังขับไล่ข้าออกจากสมาคมด้วย ท่านต้องทำอะไรบางอย่างเกี่ยวกับเรื่องนี้!”

หลินจินดูไม่พอใจ

ใบหน้าสูงวัยของตันซุนแดงก่ำ เขากำลังถูก 'ประณาม' โดยชายหนุ่ม อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเขาเป็นฝ่ายผิด ตันซุนจึงพยักหน้าทันที

“ถูกต้อง ลูกสาวของข้านิสัยเสียตั้งแต่ยังเด็กและเอาแต่ใจเกินไป เธอไม่ได้ชี้แจงสถานการณ์ก่อนตัดสินใจและข้าได้ตักเตือนเธอแล้ว”

เมื่อเห็นว่าชายชรานั้นดีเพียงใด หลินจินจึงไม่ได้กดดันเรื่องนี้ เขาเพียงพยักหน้าแล้วพูดว่า “เยี่ยมมาก แต่ท่านต้องให้อบรมเธอเพียงเล็กน้อยและอย่ารุนแรงกับเธอมากเกินไป ท้ายที่สุดแล้ว สาว ๆ มักจะเขินอายได้ง่าย ๆ เธออาจจะรับไม่ได้ถ้าท่านไปยุ่งกับเธอมากเกินไป”

สิ่งที่เขาพูดทำให้คนดูอ้าปากค้างในความเงียบ

อาจารย์กู่ทนดูต่อไปไม่ไหวแล้ว เขาจึงพูดขึ้นว่า

“หลินจิน นี่คือผู้ประเมินระดับสาม ผู้เฒ่าตันจากสำนักงานใหญ่ของสมาคมประเมินสัตว์วิเศษของเจ้า”

"หา!" หลินจินกระโดดด้วยความตกใจ ตันซุนได้เอามือไว้ข้างหลัง ดังนั้น หลินจินจึงไม่สังเกตเห็นปลอกแขนรูปสัตว์วิเศษบนแขนเสื้อของเขา ตอนนี้เขาเอียงคอเพื่อให้ดูชัดขึ้น ชายผู้นั้นสวมปลอกแขนลายสัตว์วิเศษเอาไว้ แถมยังเป็นสามห่วงอีกด้วย!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด