เกิดใหม่เป็นทารกขั้นเทพ ตอนที่ 104
ตอนที่ 104
กิ่งก้านต้นหลิวโบกสะบัดไปมากลางสายลม คลื่นแสงบางประการเจิดจ้าขึ้นมา จากนั้นยันต์หยกวิญญาณก็ปรากฏขึ้นเบื้องต้นหลิวก่อนจะลอยลงไปยังมือน้อยๆ ของหลินซวน
“เจ้าสามารถฝังจินตภาพของตนลงในยันต์หยกชิ้นนี้เพื่อใช้มันเป็นตัวแทนกฎเกณฑ์แห่งพลังดูดกลืนของเจ้า”
“หลังจากที่ข้าแน่ใจแล้วว่าพลังดูดกลืนที่อยู่ในยันต์ชิ้นนี้ใช้งานได้อย่างปกติ ข้าจะส่งเจ้ากลับบ้าน”
...........................
ในขณะที่หลินซวนกำลังเจรจาต่อรองแลกเปลี่ยนพลังดูดกลืนของตนกับแท่นบูชาของเซียนต้นหลิวอยู่นั้น ทางด้านตระกูลหลินที่ห่างออกไปนับแสนลี้ก็กำลังตกอยู่ในความบ้าคลั่ง!
“ซวนเอ๋อร์อยู่ที่ใด!?”
“พวกเราไม่สามารถปล่อยให้เหตุการณ์เป็นเช่นนี้ได้ อีกไม่กี่วันหลังจากนี้เขาจำเป็นต้องเดินทางไปยังราชวงศ์อมตะแล้ว!”
“ทว่าพวกเราไม่สามารถหาร่องรอยของซวนเอ๋อร์ได้พบเลย พวกเรารู้เพียงเขามุ่งหน้าเข้าไปในเขตลึกของแดนรกร้างเพียงเท่านั้น!”
“แล้วพวกเราควรทำเช่นใดดี! พวกเรามิสามารถปล่อยให้ซวนเอ๋อร์ตกอยู่ในอันตรายได้ เป็นความผิดของข้าเอง เหตุใดข้าจึงไม่เชื่อถือในลางสังหรณ์ของตนก่อนหน้านี้กัน!”
“หรือว่านี่จะเป็นการวางแผนอย่างลับๆของจ้าวห้วงเหว?”
เหล่าตาแก่สกุลหลินกำลังกระวนกระวายและใกล้จะเสียสติเต็มที
หลังจากผ่านไปพักใหญ่ บรรพชนหลินก็บังคับตนเองให้ใจเย็นลงได้บ้าง
“อย่าเพิ่งตื่นตระหนกไป”
“ถ้าหากว่ายังไม่มีสัญญาณจากซวนเอ๋อร์ภายในสามชั่วยาม พวกเราจะมุ่งหน้าไปยังหุบเหวแห่งนั้นด้วยกัน!”
บัดนี้ ภายในตระกูลหลิน ตาเฒ่าหลินเปากำลังวิตกกังวลยิ่งนัก หน้าผากของเขาเต็มไปได้หยาดเหงื่อหนาวเย็น
“นี่มันก็สามวันเข้าไปแล้ว ซวนเอ๋อร์ไปอยู่ที่ใดกัน!”
ไม่มีใครคาดคิดว่าหลินซวนจะหายตัวไปเช่นนี้!
จากเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น ใครเล่าจะไปคาดคิดว่าทารกน้อยวันครึ่งปีที่เพิ่งลองหัดเดินเป็นคราแรกจะก่อให้เกิดปรากฏการณ์ที่ช่วยหนุนเสริมความเร็วของเขาจนแม้กระทั่งยอดคนชนชั้นแดนปราณก่อตั้งจิตจะมิสามารถไล่ตามได้ทัน!
เหล่าศิษย์แซ่หลินบางส่วนที่ยืนอยู่ข้างหลินเปาเองก็เต็มไปด้วยความวิตกเช่นกัน แต่ด้วยระดับการบ่มเพาะของพวกเขาที่มิได้สูงส่งพอ พวกเขาจึงไม่สามารถจะช่วยเข้าไปค้นหาตัวหลินซวนในแดนรกร้างได้ ทำได้เพียงพยายามลดความกระวนกระวายของตนลงเท่านั้น
ในขณะเดียวกัน ใจกลางแดนรกร้าง
ตูม!!
สามารถพบเห็นก็ระเบิดที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในบริเวณนั้นได้จากระยะไกล แสงสีทองเจิดจ้าปรากฏขึ้น และด้านบนของมันมีชายหนุ่มในชุดเกราะสีดำทองลอยอยู่ ในมือของเขาเป็นง้าวทองคำ และกลิ่นอายที่ปลดปล่อยออกมาทั้งเย็นชาและทรงพลัง เขาคือบิดาของหลินซวน หลินเฮ่า!
ตรงข้ามกับหลินเฮ่าคือมังกรวายุสี่เล็บที่มีปีกอยู่กลางหลัง ทว่าเจ้ามังกรวายุตนนี้กำลังอยู่ในสภาพที่ย่ำแย่ยิ่งนัก เกล็ดทั่วร่างของมันถูกขอดออกจนเกลี้ยงเกลาและปีกก็ถูกฉีกกระชาก โลหิตไหลราวกับสายน้ำ มีประกายสายฟ้าเต้นระบำอยู่รอบบาดแผลของมัน
“พูด! แดนรกร้างของพวกเจ้ากำลังวางแผนใดอยู่?” หลินเฮ่าคำรามอย่างโหดเหี้ยม
เขาปาดรอยเลือดที่มุมปากของตนออก ความดุดันในตอนนี้ราวกับเป็นเทพสงครามสักองค์ เขามิได้ใส่ใจความปลอดภัยของตนแม้แต่น้อย หลังจากที่ตะโกนออกมาอีกครั้ง เขาก็พุ่งเข้าใส่มังกรเบื้องหน้าพร้อมง้าวในมือ!
ทักษะเนตรสวรรค์ปะทุขึ้น เกิดเป็นแสงเก้าสีลอยวนทั่วท้องฟ้า ราวกับว่ามันสามารถจะทำลายทุกสิ่งในใต้หล้าให้ย่อยยับสิ้น มังกรวายุตนนั้นถูกแทงทะลุกายก่อนจะโดนง้าวกวาดผ่านในแนวขวาง โลหิตมังกรบัดนี้สาดกระจายไปทั่วทุกทิศทาง!
มังกรวายุเกรี้ยวกราดยิ่งนักหลังจากที่ต้องพบเจอการโจมตีเช่นนี้!
บัดซบ พวกมนุษย์ตระกูลหลินเสียสติไปแล้วหรือ?
“พวกเจ้าเป็นบ้าไปแล้วเช่นนั้นรึ? ข้าก็บอกแล้วอย่างไรว่าข้ามิเคยเห็นเซียนน้อยของพวกเจ้ามาก่อน แล้วเหตุใดยังต้องทำตัวบ้าคลั่งเช่นนี้?” มังกรวายุได้เพียงคำรามอย่างโกรธเคือง เกล็ดของมันที่หายไปกำลังงอกกลับขึ้นมาไม่ต่างกับปีกบนหลัง!
บัดนี้ มังกรวายุสี่เล็บมีโทสะมากล้น เมื่อใดกันที่มนุษย์แสนอ่อนแอกล้าหาญพอจะเข้ามายังแดนรกร้างโดยเปิดเผยเช่นนี้?
ต้องรู้ก่อนว่าความเป็นจริงแล้วควรจะเป็นพวกมันเหล่าอสูรที่บุกเข้าไปยังเขตแดนของมนุษย์เพื่อเข่นฆ่าและปล้นชิง ทว่าตอนนี้ ตระกูลหลินกลับทำส่งตรงกันข้าม และกำลังตามหาพวกมันเพื่อจุดประสงค์บางอย่าง
สามวันก่อน ในยามที่ราตรีกาลมาเยือน มีบางสิ่งเกิดขึ้นในสกุลหลิน เหล่าผู้บ่มเพาะระดับสูงนับไม่ถ้วนต่างก็พุ่งเข้าไปยังแดนรกร้าง
ผู้นำเหตุการณ์ในครั้งนี้คือบรรพชนหลิน เขากุมด้านกระบี่และมุ่งหน้าไปยังส่วนลึกของแดนรกร้างด้วยความโกรธกรุ่นและสีหน้าราวกับต้องการสังหารทุกชีวิต!
สมาชิกตระกูลหลินที่เหลือเองก็มิได้อยู่ในอารมณ์ที่แตกต่างกัน พวกเขาก่อให้เกิดหายนะในชายขอบของแดนรกร้างราวกับไม่กังวลว่าต้องเอาชีวิตมาเสี่ยง
ไม่ว่าสิ่งมีชีวิตใดก็ตามที่พวกเขาพบเจ้าล้วนถูกรังแก! ใครก็ตามที่ไม่ยอมตอบคำถามหรือไม่สามารถตอบได้ถูกทุบตีจนยับเยิน!
คำถามที่พวกเขาเอ่ยขึ้นล้วนแต่เกี่ยวกับเซียนน้อยแซ่หลินผู้นั้น พวกเขาบอกว่ากำลังตามหาตัวทารกคนนั้นอยู่
“ใครจะไปรู้ว่าเจ้าเด็กสวะนั่นอยู่แห่งหนใด! มันหายตัวไปก็ดีแล้ว ถ้าหากข้าค้นพบมัน ข้าจะเคี้ยวกินกระดูกและเลือดเนื้อของมันเพื่อแก้แค้นสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้!” เสียงของเจ้ามังกรวายุหนาวเย็นยิ่งนัก
ได้ยินประโยคของมังกรตัวนั้น หลินเฮ่าที่กำลังทุกข์ตรมก็ระเบิดโทสะออกมาทันที ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยประกายความเกรี้ยวกราด เขากวัดแกว่งง้าวในมือขึ้นราวกับจะใช้มันฝ่าท้องฟ้าออกเป็นสองส่วน!
“ตาย!”
ฉากที่เกิดขึ้นต่อจากนั้นน่าหวาดผวามากเกินไป เทียบกับมังกรวายุแล้ว ร่างของหลินเฮ่าเป็นเพียงจุดเล็กๆ เท่านั้น มังกรตัวยาวมากถึงพันฉื่อ เกล็ดทั่วร่างเป็นประกายล้อแสง รูปลักษณ์ของมันช่างดูทรงพลัง อย่างไรก็ตาม มันกลับถูกทุบตีจนอยู่ในสภาพน่าอนาถจากแสงสีทองเล็กจ้อย เลือดเนื้อและเกล็ดกระจัดกระจายไปทุกทิศทางดูน่าสะพรึงกลัว!
เจ้ามังกรวายุตนนั้นถูกทุบตีโดยหลินเฮ่าจนมันเองก็ยังต้องสำนึกเสียใจขึ้นมา!
‘มารดามันเถอะ! หากเจ้าต้องการจะต่อสู้ พวกเราก็จะสู้กลับเช่นกัน! พวกเจ้าคิดว่าข้า อสูรที่แสนดุร้ายแห่งแดนรกร้าง สามารถยั่วยุได้ง่ายได้นักหรือ? ทว่า เจ้าหลินเฮ่าผู้นี้เหตุใดจึงพัฒนาอย่างมหาศาลในเวลาเพียงครึ่งปีเท่านั้นกัน? พลังต่อสู้ของมันพุ่งขึ้นถึงระดับที่น่าหวั่นเกรงเช่นนี้ได้อย่างไร!’
ฉากเช่นนี้มิได้เกิดขึ้นแค่เพียงบริเวณเดียวเท่านั้น แต่ปรากฏไปทั่วทั้งดินแดนรกร้าง
ในห้วงลึกสุดหยั่งของหุบเหว แสงสว่างเจิดจ้าปรากฏขึ้น!
โดยมิจำเป็นต้องคาดเดา ผู้คนทั้งหลายล้วนรับรู้กันว่านี่ต้องเป็นเพราะบรรพบุรุษสกุลหลินกำลังปะทะกับจ้าวห้วงเหวอยู่อย่างแน่นอน!
ไม่นานหลังจากนั้น ความปั่นป่วนที่เกิดขึ้นบริเวณหุบเหวลึกก็จางลง ก่อนที่บรรพชนแซ่หลินจะก้าวเดินออกมาด้วยสีหน้าอัปลักษณ์
“ซวนเอ๋อร์ไม่ได้อยู่ที่นี่จริงๆ ดูเหมือนว่าเขาจะเข้ายังส่วนที่ลึกกว่านี้ในแดนรกร้าง!”
ไม่กี่วันต่อมา ไม่เพียงแค่ชนชั้นยอดยุทธของสกุลหลินเท่านั้น แม้กระทั่งคนของตระกูลซวนและตระกูลเป่ยเฉินก็เข้าร่วมการค้นหาตัวหลินซวนในครั้งนี้
ทว่า พวกเขาล้วนแล้วแต่สำรวจในบริเวณชายขอบของแดนรกร้างจนทะลุปรุโปร่งแล้วก็ยังมิอาจหาตัวหลินซวนได้พบ หลักฐานทั้งหมดที่พวกเขาพอจะหาได้ต่างก็ชี้ไปยังที่แห่งเดียวเท่านั้น เป็นส่วนลึกสุดของแดนรกร้างที่ทารกน้อยบินเข้าไป!
หลังจากได้รับรู้สถานการณ์ทั้งหมด หลินเฮ่าใกล้จะเสียสติเต็มที!
ความอันตรายในแดนรกร้างนั้นเหนือยิ่งกว่าจินตนาการของคนธรรมดาสามัญ! โดยเฉพาะในส่วนที่ลึกเข้าไปนั้น ยิ่งไกลยิ่งทวีความน่าสะพรึงกลัว ถึงขั้นเป็นดินแดนแห่งความตาย อย่าได้กล่าวถึงการสำรวจให้ลึกเข้าไป เพียงสังเกตอยู่รอบนอกก็มากพอจะพบเจอกับหายนะมากมาย!
ผู้ที่ระดับการบ่มเพาะต่ำกว่าแดนแก่นทองคำล้วนไม่กล้าจะย่างกรายเข้าไปใกล้ แต่หลินซวนเป็นเพียงทารกตัวน้อยที่อายุเพียงครึ่งปีเท่านั้น ทว่าเขากลับมุ่งตรงเข้าไปยังส่วนลึกที่สุดของแดนรกร้างโดยมิได้ตั้งใจ!
หลินเฮ่าไม่กล้ามากพอจะคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้น เขาทำเพียงนำเอานาวาล่องอากาศของตนออกมาและต้องการจะมุ่งหน้าเข้าไปยังเขตแดนแห่งนั้นเพื่อตามหาตัวบุตรชาย!
“หลินเฮ่า เจ้าไม่ควรจะบ้าบิ่นเช่นนี้!” หลินเปาปรากฏตัวขึ้นและรีบคว้าตัวหลินเฮ่าเอาไว้
“ปล่อยข้า! ซวนเอ๋อร์เป็นบุตรชายของข้า เขาที่อายุยังไม่ทันครบปีด้วยซ้ำ เขาจะอยู่รอดในแดนรกร้างได้เช่นไรกัน!” หลินเฮ่าพยายามใช่พละกำลังทั้งหมดของตนเพื่อให้เป็นอิสระ ดวงตาของเขาแดงก่ำ ใบหน้าเต็มไปด้วยความกังวล
“แล้วการกระทำเช่นนี้จะสามารถช่วยซวนเอ๋อร์ได้เช่นนั้นหรือ? พวกเราจะไปกับเจ้าด้วย เพียงแต่ต้องมีการเตรียมพร้อมก่อนเท่านั้น!” หลินเปาคำรามออกมา
*ตอนหน้าจะเริ่มกลับไปติดเหรียญตามเดิมแล้วนะครับ ขอบพระคุณทุกท่านที่ยังคงสนับสนุนเสมอมา