เกิดใหม่เป็นลิโป้ ตอนที่ 18
เกิดใหม่เป็นลิโป้ ตอนที่ 18
"นายท่านชมเกินไปแล้ว ข้าน้อยจะเดินทางไปยังจวนของแม่ทัพเตียวเจเพื่อแจ้งต่อกาเซี่ยง ส่วนจะสำเร็จหรือล้มเหลว ข้าน้อยไม่อาจบอกได้" หลังจากยึดถือลิโป้เป็นเจ้านาย ลิซกก็วางตัวนอบน้อม ไม่แสดงท่าทางก้าวล่วงใดๆแม้แต่น้อย
"ดี เว่ยกงขยันทำงาน หลังจากเสร็จงานนี้แล้ว ข้าจะตบรางวัลให้" ลิโป้หัวเราะเบิกบาน
เฝ้ารอจนถึงพลบค่ำ ลิซกก็รีบกลับมา
เมื่อเห็นว่ารอบด้านไม่มีคนอื่น ลิซกก็กล่าวเบาๆ "กาเซียนเซิงจะตามมาภายหลังขอรับ"
"ยาก ยากจริงๆ" ลิโป้เดินวนไปวนมาภายในห้องโถง เขาไม่ค่อยแน่ใจเกี่ยวกับกาเซี่ยงนัก กาเซี่ยงนั้นไม่เหมือนกับลิซก แต่เขาก็เป็นยอดกุนซือเลื่องชื่อแห่งยุคสามก๊ก แน่นอนว่าคำพูดของลิโป้อาจจะสร้างความหวั่นไหวให้กาเซี่ยงได้ยาก
"เรียนนายท่าน ที่ด้านนอกประตูมีคนผู้หนึ่งมาขอเข้าพบขอรับ"
"รีบเชิญเข้ามา" ลิซกรีบเดินออกไปรับทันที
"เว่ยกง คนที่ว่าเป็นใครกัน? ดึกดื่นค่อนคืนไม่ปล่อยให้ผู้แซ่กาได้พักผ่อน กระทั่งยังเรียกผู้แซ่กามาหา ไม่ทราบว่าเป็นผู้สูงศักดิ์จากสารทิศใด?" กาเซี่ยงเอ่ยถามด้วยรอยยิ้มขณะเดินเข้ามา สีหน้าท่าทางของเขาดูสุขุมลุ่มลึกราวกับไม่ได้รับผลกระทบจากความวุ่นวายภายในลั่วหยาง
"เซียนเซิง[1] ไม่ใช่ว่าข้าไม่ต้องการบอก เพียงแต่นี่เป็นเรื่องราวสำคัญ ผู้ที่ต้องการพบท่านคือแม่ทัพลิโป้" ลิซกกระซิบบอก
[1 คำเรียกหาด้วยความยกย่อง]
"ลิโป้? ลิโป้นายอำเภอแห่งจิ่วหยวนน่ะหรือ?" ม่านตาของกาเซี่ยงหดวูบขณะถามออกไป
"ใช่แล้ว แม่ทัพลิโป้ที่ราชสำนักแต่งตั้งให้ปกครองจิ่วหยวน" ลิซกกล่าวบอกตามจริง
"เว่ยกง ลิโป้นั้นเป็นศัตรูของท่านอุปราช แล้วจะพบได้อย่างไร? ขอตัวลา" กาเซี่ยงชะงักเท้าที่กำลังจะก้าวสู่ห้องโถงทันที เขากลัวว่าตัวเองจะเข้าไปพัวพันจนพลอยโดนลูกหลงไปด้วย
"เหวินเหอเซียนเซิง ลิโป้ผู้นี้เป็นขุนนางรับใช้ราชสำนักฮั่น ท่านจะไม่พบหน้ากันสักหน่อยหรือ?" ลิโป้พลันกังวลเมื่อยินคำพูดของกาเซี่ยง เขารีบเดินออกมาทันที
ความประทับใจแรกที่เขาได้เห็นจากกาเซี่ยงไม่ใช่ความสง่างาม กาเซี่ยงสูงเจ็ดฉื่อ อายุราวสี่สิบปี สวมชุดบัณฑิตทรงภูมิ เขามีโครงหน้าเรียวบาง ดวงตาให้ความรู้สึกน่าหลงใหลต่อผู้จ้องมอง ที่มุมปากประดับรอยยิ้มบางไว้ ให้ความรู้สึกใจดีมีเมตตาแก่ผู้คน
"แม่ทัพลิช่างกล้าหาญนัก ที่เชิญข้ามา ไม่ทราบมีเรื่องใด?" เมื่อพบหน้าแล้วก็ไม่อาจหลีกหนี กาเซี่ยงได้แต่ต้องพูดคุยด้วย
"เหวินเหอเซียนเซิง ที่นี่ไม่เหมาะที่จะพูดคุย เชิญเข้าไปสนทนาข้างในเถอะ"
กาเซี่ยงเหลือบมองซ้ายขวา จากนั้นจึงพยักหน้า ฝีเท้าของเขาไม่ได้สงบสุขุมเหมือนตอนแรกอีก
"เซียนเซิง ข้าว่าท่านคงได้ยินมาแล้วว่าตั๋งโต๊ะคิดที่จะย้ายเมืองหลวง ไม่ทราบว่าท่านมีความเห็นอย่างไร?" เป็นครั้งแรกที่ได้พบกับยอดกุนซือเลื่องชื่อเช่นนี้ ดังนั้นลิโป้จึงไม่รู้ว่าจะเอ่ยชักชวนอย่างไร ดังนั้นจึงได้แต่ชวนพูดคุยเรื่องอื่นก่อน
"แม่ทัพลิที่เป็นขุนศึกของกองทัพพันธมิตร กลับลักลอบเข้ามาภายในลั่วหยาง กำแพงมีหู ประตูมีช่อง ท่านไม่กลัวว่าข่าวจะรั่วไหลออกไป จนถูกท่านอุปราชจับตัวไว้หรือ? ท่านอุปราชให้ความสนใจต่อท่านแม่ทัพยิ่ง" กาเซี่ยงไม่ตอบคำถามของลิโป้
"ผู้แซ่ลิมาที่นี่ก็เพราะต้องการพบกับเซียนเซิง ขอเซียนเซิงโปรดช่วยเหลือ" ลิโป้กุมหมัดค้อมคำนับด้วยความจริงใจ
กาเซี่ยงตกตะลึง อย่างไรเสียลิโป้ก็ถือเป็นผู้ครองเขตแดนหนึ่ง "ไฉนท่านแม่ทัพจึงกล่าวเช่นนี้? ผู้แซ่กาเป็นเพียงเสมียนตัวเล็กๆ จะกล้าให้ความช่วยเหลือท่านแม่ทัพได้อย่างไร?" กาเซี่ยงรีบลุกขึ้นกล่าว
"ความสามารถของเซียนเซิง ผู้แซ่ลิได้ยินมานาน หวังจะได้พบหน้าท่าน ผู้แซ่ลิขอร้องต่อเซียนเซิง โปรดมาเป็นที่ปรึกษาให้ทัพปิงโจวด้วยเถอะ"
"แม่ทัพลิ ผู้แซ่กาเป็นคนในสังกัดแม่ทัพเตียวเจ ท่านคงทราบอยู่แล้ว แล้วข้าจะเปลี่ยนฝ่ายได้อย่างไร?" หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง กาเซี่ยงก็หัวเราะกล่าว
"เตียวเจมองไม่เห็นความสามารถของเซียนเซิง แต่ผู้แซ่ลิไม่ใช่ หากว่าเซียนเซิงตกลงช่วยเหลือ ผู้แซ่ลิเต็มใจส่งมอบการบริหารทัพปิงโจวให้ซียนเซิงดูแล"
กาเซี่ยงพลันนิ่งเงียบ ลิโป้กล่าวด้วยความจริงใจ กระทั่งตั้งใจจะส่งมอบอำนาจในการควบคุมดูแลทัพปิงโจวออกมา เขาเคยพบเจอผู้คน ได้มองคนมานับไม่ถ้วน ย่อมมองออกว่าลิโป้ไม่ได้เสแสร้งแกล้งทำ
"เซียนเซิง เฟิ่งเสียนชื่นชมเซียนเซิงมานานแล้ว" ลิซกช่วยพูด "เซียนเซิงมากพรสวรรค์ หากว่าย้ายไปปิงโจว ท่านก็จะสามารถแสดงความสามารถได้อย่างเต็มที่"
"ขอข้าคิดดูก่อน" กาเซี่ยงไม่ได้รีบตัดสินใจ เหล่าผู้ที่มีชื่อเสียงยามเมื่อพวกเขาย้ายเข้าไปสังกัดผู้ใด ส่วนใหญ่จะปักหลักอยู่ฝ่ายนั้นจวบจนตาย น้อยคนนักที่จะเปลี่ยนสังกัดกลางคัน เวลานี้เขาทำงานให้เตียวเจ แต่เขาก็ไม่ได้ภักดีต่อเตียวเจอะไร และหากว่าเขาย้ายไปพึ่งพิงลิโป้ เขาก็จำต้องฝากความคาดหวัง รวมทั้งชีวิตของเขาไว้กับลิโป้ด้วย
ชื่อเสียงของลิโป้ในหมู่เจ้าเมืองนั้นไม่ค่อยดีสักเท่าใด เขาเป็นแม่ทัพที่เก่งกล้าในทางบู๊ หากแต่เมืองปิงโจวที่เขาอยู่นั้นยังไม่มั่นคง นี่นับเป็นข้อเสีย
"ผู้แซ่ลิจะรอฟัง" ลิโป้รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย ผู้ยิ่งใหญ่เหล่านี้ไม่อาจชักชวนได้โดยง่ายจริงๆด้วย
"ผู้แซ่ลิเป็นนักรบ ไม่รู้จักการพูดจา ตราบใดที่เซียนเซิงเต็มใจช่วย ผู้แซ่ลิขอสาบานว่า ตราบที่ข้ายังมีชีวิตอยู่ จะไม่ให้ผู้ใดทำร้ายท่านได้เด็ดขาด" ลิโป้กล่าวสาบาน
กาเซี่ยงพลันหวั่นไหว ด้วยวิสัยทัศน์ของเขาแล้ว เขาย่อมทราบดีว่าแผ่นดินกำลังจะเข้าสู่ความวุ่นวาย ตัวเขาก็ไม่ต่างอะไรจากลูกไก่ตัวเล็กๆ จะอยู่รอดได้ก็ด้วยการเข้าพึ่งพิงต่อผู้มีอำนาจในฐานะที่ปรึกษา เขาเชื่อว่า จะมองโลกได้นั้น ก่อนอื่นก็ต้องมองตัวเองเสียก่อน
"ท่านแม่ทัพวางแผนไว้อย่างไร?" หลังจากนิ่งเงียบอยู่นาน กาเซี่ยงก็เอ่ยถามขึ้น
ในเวลานี้ลิซกเดินออกไปอย่างรู้งาน ในใจรู้สึกทดท้ออยู่บ้าง เห็นได้ชัดว่าลิโป้ให้ความสำคัญกับกาเซี่ยงอย่างมาก เมื่อคิดถึงความสามารถของกาเซี่ยงแล้ว เขาก็สับสน การเข้าร่วมกับลิโป้ใช่มีหนทางสำหรับเขาหรือไม่? แต่ในใจเขาก็ตัดสินใจได้ เขาจะต้องทำอะไรบางอย่างเพื่อให้ลิโป้พึ่งพาเขาให้มาก
"ขอเซียนเซิงโปรดชี้แนะ" ลิโป้เล่าสถานการณ์ของกองทัพพันธมิตรที่นอกด่านกิสุยก๋วนโดยกระชับก่อนจะถามความเห็น
"ท่านแม่ทัพ เหล่าเจ้าเมืองที่นอกด่านมารวมตัวก็เพราะคำผลประโยชน์ ในใจไม่มีความคิดกอบกู้บ้านเมืองแต่อย่างใด เมื่อท่านอุปราชย้ายเมืองหลวงไปยังฉางอัน กองทัพพันธมิตรก็จะล่มสลาย ต่างคนต่างแยกตัวออกไปทำตามเป้าหมายของตัวเอง สองพี่น้องสกุลอ้วนที่เป็นผู้นำกลุ่มพันธมิตร มองดูจากพฤติการณ์ที่ผ่านมาแล้ว ชัดเจนว่ามีเจตนาบั่นทอนกองกำลังของเจ้าเมืองคนอื่นๆ ท่านแม่ทัพควรจะระวัง ไม่ให้ถูกพวกเขาหลอกใช้"
"ปิงโจวเป็นรากฐานของท่านแม่ทัพ ราชสำนักแต่งตั้งเตียนเอี๋ยง เจ้าเมืองเสียงตงเป็นผู้ตรวจการแห่งปิงโจว ท่านแม่ทัพควรระวังขณะยึดอำนาจกลับคืน"
"แม้ว่าผู้แซ่ลิจะโง่เขลา แต่ก็มองออกว่าแผ่นดินกำลังจะวุ่นวาย เวลานี้ปิงโจวมีเตียวเลี้ยวคอยดูแล และคาดว่าเขาจะไม่ตกหลุมพรางของเตียนเอี๋ยน" ลิโป้กล่าวขึ้น
แวววตาของกาเซี่ยงไหววูบ แม้แผ่นดินทุกวันนี้จะมีบรรยากาศที่อึมครึม กระนั้นแผ่นดินก็ยังไม่ถึงขั้นกลียุค ลิโป้สามารถมองเรื่องราวออกได้ ย่อมไม่ธรรมดาอย่างที่เห็น "วิสัยทัศน์ของข้าไม่สู้ท่านแม่ทัพจริงๆ"
"เซียนเซิงกล่าวหนักไปแล้ว สถานการณ์ตอนนี้ของผู้แซ่ลิ ขอเซียนโปรดช่วยแก้ไข หลังจากกลับไปแล้วข้าควรกระทำสิ่งใด?"
กาเซี่ยงต้องปรับความเข้าใจกับภาษาที่แข็งกระด้างของลิโป้อยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงกดเสียงกล่าว "หลังจากท่านแม่ทัพกลับไปแล้ว แน่นอน ท่านควรชูธงแห่งความชอบธรรม และรอคอยโอกาสที่จะนำทัพกลับปิงโจว ด้วยความสามารถของท่านแม่ทัพแล้ว การปราบปรามกลุ่มอำนาจอื่นภายในปิงโจวย่อมสำเร็จราบรื่น จากนั้นค่อยๆพัฒนาปิงโจว รอคอยโอกาส ไม่อาจใช้กำลังทหารออกไปสร้างศัตรู"
"ขอบคุณเซียนเซิง" ได้ฟังคำแนะนำของกาเซี่ยง ลิโป้ก็ค้นพบเป้าหมาย ร่างกายเบาสบายคล้ายยกภาระหนักอึ้งออกจากอก
"ท่านแม่ทัพสุภาพไปแล้ว นี่ก็ดึกแล้ว ขอลา" กาเซี่ยงกุมมือลา
"เซียนเซิง ข้าทราบดีว่าปิงโจวเป็นดินแดนอันแร้นแค้น ไม่อยู่ในสายตาของเซียนเซิง แต่ข้าขอความช่วยเหลือจากเซียนเซิงจากใจจริง" ลิโป้หยุดกาเซี่ยงไว้ก่อนจะกล่าวด้วยความไม่เต็มใจสักเท่าใด
"ขอบคุณท่านแม่ทัพที่เห็นค่าในตัวข้า" กาเซี่ยงหักห้ามความคิดที่จะตอบตกลงไว้ก่อนจะรีบจากไป