ตอนที่แล้วเกิดใหม่เป็นทารกขั้นเทพ ตอนที่ 102
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเกิดใหม่เป็นทารกขั้นเทพ ตอนที่ 104

เกิดใหม่เป็นทารกขั้นเทพ ตอนที่ 103


ตอนที่ 103

ส่วนใบของต้นหลิวนั้น พวกมันเปล่งประกายนุ่มนวลราวกับไม่มีสมบัติชิ้นใดในใต้หล้านี้มีค่าพอจะเทียบได้กับของมันแม้เพียงใบเดียว

ในตอนนี้ หลินซวนต้องการจะใช้นัยน์ตาหยินหยางของเพื่อสำรวจสิ่งต่างๆ อย่างละเอียด ทว่า ก่อนที่เขาจะได้กระทำสิ่งใดก็โดนกิ่งของต้นหลิวหวดเข้าเสียก่อน และหวงหาวเองก็โดนเช่นเดียวกัน

โดยเฉพาะเจ้าเด็กน้อยหวงหาว เมื่อเขาเห็นประกายแสงสีเขียวที่สว่างวาบขึ้น สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป แม้ว่าเขาจะหันหลังจะเตรียมจะหลบหนี แต่ช่างน่าเสียดาย เขามิอาจหลบรอดกิ่งของต้นหลิวที่พุ่งเข้าและหิ้วร่างน้อยๆ ของเขาให้ลอยก่อนจะถูกขว้างไปยังสระน้ำด้านข้าง

“ฮึก ข้าขอโทษ...ท่านผู้พิทักษ์วิญญาณ ข้าจะไม่ทำตัวดื้อดึงอีกต่อไปแล้วในอนาคต ข้าจะเร่งบ่มเพาะเดี๋ยวนี้...” เสี่ยวหาวที่ถูกดีดออกไปคร่ำครวญออกมา และต่อให้เขาจะยังสะอื้นอยู่แต่ก็รีบนั่งลงในสระน้ำแห่งนั้นเพื่อบ่มเพาะทันที...

“ข้าเองก็ต้องขออภัยท่านผู้อาวุโส ข้าล่วงเกินท่านเสียแล้ว”

หลินซวนตัวสั่นเทาและรีบแสดงออกถึงความเคารพทันที จากนั้นเขาก็โค้งคำนับลงเพื่อขอโทษอีกฝ่าย

ดูเหมือนว่าความแข็งแกร่งของอีกฝ่ายจะมีมากเกินไป เขาน่ากลัวเสียยิ่งกว่าจ้าวแห่งห้วงเหวเสียด้วยซ้ำ! ที่มาที่ไปของต้นหลิวนี้เป็นอย่างไรกันแน่?

อันที่จริงแล้ว ในอีกด้านหนึ่ง เซียนต้นหลิวที่กำลังสำรวจหลินซวนอยู่ก็ตื่นตระหนกเช่นกัน และดูเหมือนว่ายิ่งเขาสำรวจเด็กน้อยเบื้องหน้ามาเท่าไหร่ ความตกตะลึงก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น

ต้นหลิวนี้กำเนิดมาต้นแต่จุดเริ่มต้นของยุคสมัยที่ถูกลืมเลือนไปแล้ว มันมีชีวิตอยู่มานานจนมิอาจจะนับเวลาได้ในแดนรกร้างแห่งนี้และได้พบพานยอดยุทธมานับไม่ถ้วน พบเห็นการต่อสู้สะท้านฟ้าสะเทือนดินมากมาย พบเจออัจฉริยบุคคลนับหมื่นพัน

แต่สิ่งเซียนต้นหลิวสัมผัสได้จากหลินซวนในตอนนี้ เขากลับพบว่าหลินซวนนั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังแปลกประหลาดบางประการ

“หรือว่าร่างกายของเขาจะเป็นกายเซียนแห่งเต๋าในตำนาน?”

เซียนหลิวกำลังใคร่ครวญบางอย่างในใจ แม้ว่าหลินซวนจะดูเหมือนทารกน้อยวัยเพียงครึ่งปีผู้หนึ่ง ทว่ากายเซียนแห่งเต๋าของเขากลับเต็มไปด้วยความทรงพลังอันมากล้น แต่เซียนต้นหลิวเองก็นับว่าเป็นตัวตนบรรพกาลเช่นกัน!

ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ หลินซวนที่ใช้ออกซึ่งทักษะเจ็ดก้าวสวรรค์กลับกลายของตนและล่วงล้ำเข้ามาในแดนรกร้างแห่งนี้ ก็เป็นต้นหลิวต้นนี้เองที่หยุดหลินซวนลงและตรวจสอบร่างกายของทารกน้อย!

ทั้งกระดูก โลหิต เส้นลมปราณ กล้ามเนื้อหรือแม้กระทั่งเส้นผมของหลินซวนก็ปกคลุมไปด้วยชั้นของรูปแบบอักขระแห่งเต๋านับไม่ถ้วน!

ราวกับว่าเด็กน้อยผู้นี้คือตัวแทนของกฎเกณฑ์แห่งโลกใบนี้!

ยิ่งไปกว่านั้น สิ่งที่ทำให้เซียนต้นหลิวประหลาดมากที่สุดก็คือดวงตาของหลินซวน เด็กน้อยที่เกิดมาพร้อมนัยน์ตาหยินหยาง นัยน์ตาในตำนานที่เป็นของทวยเทพ มันทรงพลังยิ่งใหญ่ตั้งแต่แรกกำเนิด และเป็นเครื่องบ่งบอกถึงความไร้เทียมทาน!

อีกทั้งดวงตาที่สามที่อยู่กลางหน้าผากของทารกผู้นั้น!

ดวงตานั้นแฝงไปด้วยความล้ำลึกอันมากล้น แม้กระทั่งความรู้และประสบการณ์ทั้งมวลของเซียนต้นหลิวที่มีชีวิตอยู่มายาวนานเช่นเขาก็มิอาจจะระบุได้ว่ามันคือสิ่งใด อย่างไรก็ตาม เซียนต้นหลิวสามารถยืนยันได้สิ่งหนึ่งว่าดวงตานั้นย่อมต้องมีความลับบางประการแฝงอยู่!

ยังมิได้กล่าวถึงท่าเท้าอันน่าพิศวงและทรงอำนาจก่อนหน้านี้... อายุกระดูกของทารกน้อยยังมิทันจะถึงครึ่งปีดี ทว่าว่าความคิดกลับเป็นผู้ใหญ่อย่างไม่น่าเชื่อ...

กิ่งก้านของต้นหลิวกวัดแกว่งไปมากลางอากาศ และจิตวิญญาณภายในกำลังตกอยู่ในห้วงความคิด

หากหลินซวนได้รู้ถึงสิ่งที่ต้นหลิวกำลังขบคิดอยู่ เขาย่อมต้องประหลาดใจอย่างแน่นอน เพราะว่าเซียนต้นหลิวที่เพียงพบเขาไม่นานนักกลับสามารถมองลึกไปได้ถึงรากฐานทั้งหมดของเขา! สิ่งนี้ย่อมต้องทำให้หลินส่วนนิ่งค้างไปเป็นเวลานานได้อย่างแน่นอน!

อย่างไรก็ตาม หลินซวนย่อมมิใช่คนโง่งม เสี่ยวหาวได้บอกกับเขามาก่อนหน้านี้ว่าแสงสีเขียวที่หยุดเขาดูคลับคล้ายคลับคลาว่าจะเป็นเซียนต้นหลิวผู้นี้ เขาจึงสามารถคาดเดาได้ว่าเป็นผู้พิทักษ์วิญญาณในคราบต้นหลิวนี้อย่างแน่นอนที่เป็นผู้หยุดเขาเอาไว้

“ขอบพระคุณท่านผู้อาวุโส หากมิใช่ท่านเป็นผู้ช่วยเหลือข้าเอาไว้ ข้าเกรงว่าตนเองคงต้องพบกับปัญหาใหญ่อย่างแน่นอน”

หลินซวนคุกเขาลงก่อนประสานมือคารวะ

เขามิใช่คนโง่เง่า หากผู้พิทักษ์วิญญาณต้นหลิวผู้นี้ไม่ได้ช่วยเหลือ เขาย่อมต้องอยู่ในห้วงสมาธิการดูดซับทักษะเจ็ดก้าวสวรรค์กลับกลายต่อไป ใครจะรู้ว่าเขาจะไปปรากฏยังที่แห่งใด และอันตรายอันใดที่เขาจะต้องเผชิญ

ผู้พิทักษ์วิญญาณไม่ได้ตอบสิ่งใด สายลมพัดผ่าน และกิ่งต้นหลิวสั่นไหว ในหุบเขาช่างเงียบสงบและผ่อนคลาย สายหมอกลอยอ้อยอิ่ง

เสี่ยวหาวผู้ซุกซนและวุ่นวายไปมากก่อนหน้านี้ บัดนี้ก็เพียงนั่งนิ่งสงบในสระน้ำแห่งนั้นพร้อมกับบ่มเพาะปราณของตน ร่างของเขาเปล่าแสงของปราณวิญญาณออกมาบางเบา กลิ่นอายสูงสง่าก็ปรากฏให้เห็นเล็กน้อย

ณ ที่แห่งนี้ หลินซวนและเซียนต้นหลิวต่างเพียงจ้องมองกันไปมา ทว่ามิได้เอ่ยสิ่งใดทั้งสิ้น

บรรยากาศรอบด้านกลายเป็นแปลกประหลาด หลินซวนหรี่ตาลงเล็กน้อย เขาเองก็เริ่มหมุนวนลมปราณของตนและกำลังคำนวณว่าจะมีสิ่งใดที่เกิดขึ้นต่อจากนี้

ถ้าหากว่าเขาสามารถปลดปล่อยพลังอำนาจของเนตรสวรรค์และนัยน์ตาหยินหยางออกมาผสานรวมกันกายเซียนแห่งเต๋าแล้ว ก็พอจะเป็นไปได้ที่เขาจะสามารถต่อกรอีกฝ่ายอย่างทัดเทียมกัน!

“เนตรสวรรค์และนัยน์ตาหยินหยาง? ร่างกายของเจ้าคือกายเซียนแห่งเต๋าจริงๆ? ทว่า ก็เหมาะสมกับนามของมันแล้ว”

เสียงไร้ที่มาปรากฏขึ้นในหุบเขา

หลินซวนเงยหน้าขึ้น และดวงตาเบิกกว้างก่อนจะเอ่ยบางอย่าง

“ทักษะอ่านใจ!?”

ต้นหลิวผู้พิทักษ์ยังคงสงบนิ่งอย่างที่เคยเป็นมา กิ่งก้านใส่กระจ่างราวกับหยกเนื้อดีพลิ้วไหวตามสายลม ประกายแสงระยิบระยับ และมิได้กล่าวสิ่งใดออกมาในทันที

“ข้ามิได้มีจุดประสงค์ร้ายใดๆ แก่เจ้า แต่ข้าคิดว่าเจ้ากำลังสนใจในแท่นบูชาห้าสีเหล่านั้น!”

ดวงตาของหลินซวนเปล่งประกายเจิดจ้า เขาถอยหลังออกไปเล็กน้อย เตรียมพร้อมที่จะใช้เนตรสวรรค์และนัยน์ตาหยินหยางของตนออกมา

อย่างไรก็ตาม ต้นหลิวผู้พิทักษ์กลับมิได้นำพาใดๆ เพียงรอให้หลินซวนตอบคำถามตนอย่างสงบ

หลังผ่านไปชั่วครู่ หลินซวนก็ลดความก้าวร้าวของตนลงและกล่าวออกมา

“ท่านรู้วิธีอ่านใจใช่หรือไม่?”

“ข้ารู้ทักษะอ่านใจก็จริงอยู่ ทว่าจิตใจของเจ้าก็ล้ำลึกเกินไปเช่นกัน”

ผู้พิทักษ์วิญญาณตอบหลินซวน

“ข้าต้องการจะแลกเปลี่ยนแท่นบูชาห้าสีจำนวนห้าร้อยแท่นกับพลังดูดกลืนที่เจ้าใช้ออกมาก่อนหน้านี้ ยิ่งกว่านั้น หากเจ้าเห็นด้วยกับข้อตกลงของข้า ข้าจะส่งเจ้ากลับไปยังอาณาจักรฉีซานด้วยตนเอง”

แท่นบูชาห้าสีห้าร้อยแท่น? เมื่อหลินซวนได้ยินประโยคนี้ เขาก็ขมวดคิ้วก่อนจะตอบอีกฝ่าย

“น้อยเกินไป! ท่านต้องเข้าใจก่อนว่าพลังดูดกลืนนี้คือพลังชั้นยอด ยิ่งไม่กว่านั้น ด้านความแข็งแกร่งของท่าน ท่านย่อมต้องรู้ประโยชน์ทั้งหมดของมัน”

“เอาล่ะ เช่นนั้นเป็นแท่นบูชาห้าสีทั้งหมดเป็นอย่างไร?”

แท่นบูชาห้าสีทั้งหมด? ได้ยินผู้พิทักษ์วิญญาณเอ่ยเช่นนี้ ต่อให้เป็นคนเช่นหลินซวนก็อดมิได้ที่จะชะงักงันไปชั่วครู่

ต้องรู้ก่อนว่าแท่นบูชาห้าสีนั้นล้ำค่าเพียงใด ก่อนหน้านี้เขาเพียงกลืนกินพวกมันไปสี่แท่นเท่านั้น ทว่าพลังงานที่เขาดูดซับได้ยังเป็นเพียงหนึ่งในร้อยส่วนเท่านั้น แต่มันก็มากพอที่จะยกระดับชนชั้นปราณของเขาขึ้นไปจนถึงแดนสร้างรากฐาน! ต่อให้เป็นจ้าวห้วงเหวที่ครั้งหนึ่งเคยเหยียบย่างจนถึงระดับแดนปราณรวมวิญญาณก็ยังมีแท่นบูชาเพียงแค่หนึ่งเดียวเท่านั้น และมันก็นับว่าเป็นสมบัติล้ำค่าที่สุดของจ้าวหุบเหว!

หากกล่าวถึงแท่นบูชาทั้งหมดในหุบเขาแห่งนี้...มิใช่ว่ามันมีจำนวนนับร้อยนับพันหรอกหรือ?

“ต่อให้ท่านยกแท่นบูชาทั้งหมดให้แก่ข้า ข้าก็มิสามารถจะเอาพวกมันไปหมดได้หรอกนะ!” หลินซวนบ่นออกมา

กิ่งก้านต้นหลิวลอยออกมากลางอากาศ ค่ายกลขนาดเล็กปรากฏขึ้นจากความว่างเปล่าและเคลื่อนตัวไปเบื้องหน้าของหลินซวน

“เจ้าไม่จำเป็นต้องกังวล ค่ายกลนี้จะอนุญาตให้เจ้าสามารถเดินทางไปมาระหว่างที่นี่และอาณาจักรฉีซานได้ตามต้องการ!”

หลินซวนอดมิได้ที่จะชะงักไปชั่วขณะ... เขาใช้นัยน์ตาหยินหยางของตนตรวจสอบค่ายกลนั้น ก่อนที่จะว่ามันทรงพลังเพียงใด เพราะเหตุนี้เขาจึงพยักหน้าออกมา

“ตกลง!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด