579 - เทพธิดาปะทะร่างศักดิ์สิทธิ์เซียนโบราณ
579 - เทพธิดาปะทะร่างศักดิ์สิทธิ์เซียนโบราณ
เก๋อจิ่วโหย่วบุคคลที่มีชื่อเสียงระดับโลกเมื่อแปดพันปีที่แล้ว เขาอยู่ยงคงกระพันและมองข้ามสิ่งมีชีวิตทั้งหมดจนเกือบจะเป็นจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ด้วยซ้ำ
ภายใต้แสงจันทร์เซี่ยจี้โหยวแต่งกายด้วยชุดสีขาว ดวงตาที่ชัดเจนพร้อมด้วยไอสังหารอันบ้าคลั่งที่แม้จะมองไม่เห็นแต่ก็สามารถสัมผัสได้ด้วยความรู้สึก
ในตอนนี้ผู้บ่มเพาะรุ่นเยาว์หลายคนต่างก็ถอยออกจากสนามรบญาณวิเศษจักรพรรดิอมตะเก้าพิภพส่งเสียงดังกึกก้องราวกับจะทำลายทั้งสวรรค์และปฐพี
เซี่ยจี้โหยวผสานร่างกายของตัวเองเข้าสู่ความว่างเปล่าราวกับว่ายืนอยู่อีกด้านของทะเลแห่งดวงดาวและทำให้โลกทั้งหมดสั่นสะท้าน
หลายคนในเด็กรุ่นเยาว์ดูซีดเซียว สงครามครั้งใหญ่แบบนี้ทำให้พวกเขารู้สึกเย็นชา ไม่มีผู้ใดทราบว่าผลแพ้ชนะจะเกิดขึ้นอย่างไร?
มันสามารถลบล้างกฎทั้งหมดของโลก ทำความสะอาดสุดยอดเต๋า ตัดโดมสวรรค์และครอบครองพลังสูงสุด! ชายหนุ่มที่น่าทึ่งคนนี้ที่มีดวงตาที่สดใสและผิวพรรณที่งดงามปราศจากความชั่วร้ายเหมือนเช่นนิสัยส่วนตัวของเขา
ด้วยความสำเร็จระดับนี้ไม่น่าแปลกใจเลยที่เขากล้าประกาศว่าจะรับเย่ฟ่านเป็นทาสรับใช้
ในโลกนี้มีเพียงร่างเซียนเท่านั้นที่กล้าจะโจมตีเขาด้วยทักษะราชาอมตะเก้าสวรรค์
“เจิ้ง…”
เย่ฟ่านยืนนิ่งอย่างสงบ ภาพธรรมของเขาแข็งแกร่งเปรียบเสมือนเทพสามารถบดขยี้อวตารทั้งมวลของร่างศักดิ์สิทธิ์ที่ปรากฏขึ้นมา
มือทั้งสองข้างของเขาปรากฏเป็นดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ดวงเล็กๆที่กำลังหมุนวนด้วยความร้อนถึงขีดสุด ด้วยทักษะที่เขาแสดงออกมานั้นแม้แต่ผู้อาวุโสหลายคนก็ยังตกตะลึงด้วยความกลัว!
“ครืน!”
ดวงอาทิตย์ที่อยู่ในมือของเย่ฟ่านกดเข้าหาเซี่ยจี้โหยวที่ผสานอยู่ในความว่างเปล่า แม่น้ำสีทองที่ลากยาวอยู่ด้านหลังของดวงอาทิตย์ขนาดเล็กเผาผลาญบรรยากาศจนทำให้เกิดรอยแยกมิติมากมาย
“ปัง!”
ดวงตะวันและดวงจันทร์ที่ล้ำลึกและไม่อาจวัดได้ ส่องแสงบนท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว ความร้อนที่ปรากฏออกมานั้นแม้แต่ผู้คนที่อยู่ด้านล่างก็ยังต้องกลืนน้ำลายใบหน้าซีดเผือด
บนท้องฟ้ามีเสียงระเบิดดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง เซี่ยจี้โหยวที่ดูหยิ่งผยองในตอนแรกกลับไม่สามารถพาตัวหลบซ่อนอยู่ในความว่างเปล่าได้อีกต่อไป
“ปัง!”
ฝ่ามือของคนทั้งสองปะทะกันอย่างรุนแรงและพวกเขาก็กระเด็นถอยหลังออกไปหลายจ้าง
เซี่ยจี้โหยวแม้ว่าจะมีอายุเพียงสิบสามปียังห่างไกลจากความเป็นผู้ใหญ่ แต่ความแข็งแกร่งที่เขาแสดงออกมานั้นมีศักยภาพที่สามารถพัฒนาต่อได้อย่างไม่สิ้นสุด!
อาจกล่าวได้ว่าแม้แต่ในยุคโบราณคนที่มีพรสวรรค์ระดับนี้ก็หาได้ยากยิ่ง
เย่ฟ่านก็เช่นกัน เพียงแค่เข้าสู่อาณาจักรสี่สุดขั้วในเวลาไม่นาน พลังที่เขาแสดงออกมาก็ดูแข็งแกร่งไม่เป็นรองบุตรศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายแล้ว
โดยเฉพาะภาพธรรมที่เป็นอวตารของร่างศักดิ์สิทธิ์เซียนโบราณนั้นมีอำนาจในการยับยั้งอวตารทั้งหมดของร่างศักดิ์สิทธิ์ นั่นจึงเป็นเหตุผลให้บุตรศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงไม่กล้าเปิดศึกกับเขาตรงๆ
“ครืน!”
ความว่างเปล่าสั่นสะท้านและทะเลแห่งดวงดาวก็ครอบคลุมเข้าหาเย่ฟ่านในทันที
แต่การโจมตีของเซี่ยจี้โหยวกลับสะกิดความโหดร้ายที่อยู่ในใจของเย่ฟ่านขึ้นมาอีกครั้ง!
เขามีความเกลียดชังต่อทะเลแห่งดวงดาวอย่างยิ่ง ก่อนหน้านี้มันแทบจะบดขยี้ร่างกายของเขาจนแหลกละเอียด หากไม่ใช่ราชันย์ศักดิ์สิทธิ์ผู้เฒ่าเสียสละชีวิตช่วยเหลือ ป่านนี้เขาคงเหลือเพียงแค่ชื่อเท่านั้น
“ปัง!”
ราชาอมตะเก้าสวรรค์ที่อยู่ด้านหลังของเขาฟาดฟันกระบี่เซียนเล่มใหญ่จนทำให้สวรรค์และปฐพีเกิดรอยแยกนับพันจ้าง ทะเลแห่งดวงดาวที่เซี่ยจี้โหยวสร้างขึ้นถูกฉีกออกจากกันเป็นสองส่วนและปราศจากอำนาจคุกคามต่อเย่ฟ่านในทันที
เซี่ยจี้โหยวร่างกายสั่นสะท้าน แต่ดวงตาของเขายังคงปรากฏความมุ่งมั่นและพึมพำกับตัวเองเบาๆว่า
"เจ้าผู้นี้คู่ควรต่อการเป็นทาสรับใช้ของข้า!"
“เซี่ยจี้โหยวต้องเกี่ยวข้องกับเก๋อจิ่วโหย่วเมื่อแปดพันปีก่อน ไม่เช่นนั้นมรดกอันยิ่งใหญ่นี้จะไม่มีทางตกมาถึงเขาอย่างแน่นอน!”
ผู้คนต่างคาดเดากันอย่างรวดเร็ว เพราะไม่ว่าอย่างไรคนที่อยู่ในวัยนี้ก็ไม่มีทางที่จะเข้าสู่อาณาจักรสี่สุดขั้วได้ เว้นแต่เขาจะได้รับมรดกโบราณที่ไม่มีผู้ใดเทียบได้
เมื่อเจียงไท่ซูมองเห็นการโจมตีของเซี่ยจี้โหยวร่างกายอันแห้งเหี่ยวที่สงบนิ่งของเขาก็ลืมตาตื่นขึ้นอีกครั้ง เขาขมวดคิ้วเล็กน้อยและกล่าวว่า
“นางหนูนี่เป็นทายาทของเก๋อจิ่วโหยวเมื่อแปดพันปีที่แล้ว...”
แม้ว่าทุกคนจะคาดเดาได้อยู่แล้ว แต่เมื่อได้รับคำยืนยันจากราชันย์ศักดิ์สิทธิ์ผู้เฒ่าพวกเขาก็ยังหนาวสั่นไปถึงข้างใน
ในเวลาเดียวกันผู้คนมากมายกลับรู้สึกหวาดกลัวต่อภาพธรรมของเย่ฟ่านมากกว่า อวตารโบราณนี้น่าสะพรึงกลัวมากที่สุดนับตั้งแต่สิ้นสุดยุคเซียนโบราณเป็นต้นมา!
ลองนึกภาพถึงอวตารทั้งหมดที่เป็นไพ่ตายของรางศักดิ์สิทธิ์ซึ่งไม่สามารถใช้งานได้ นั่นย่อมหมายความว่าหากเกิดการต่อสู้พวกเขาจะต้องปะทะกันด้วยกายเนื้อเท่านั้น
และร่างเซียนโบราณที่มีร่างกายแข็งแกร่งไม่เป็นรองอาวุธศักดิ์สิทธิ์ระดับเซียน ยังจะมีผู้ใดสามารถเอาชนะเขาได้?
“หากญาณวิเศษของเจ้าไม่มีอะไรมากกว่านี้ เจ้าก็จงมัดตัวเองและติดตามรับใช้ข้าตั้งแต่เดี๋ยวนี้เถอะ”
เซี่ยจี้โหยวยืนนิ่งด้วยสีหน้าเย็นชา แต่คำพูดของเขานั้นเต็มไปด้วยการเสียดสีและเยาะเย้ย
“เจ้าหยิ่งทะนงเกินไปแล้ว ระวังไว้ด้วย เพราะเจ้าต่างหากจะกลายเป็นทาสรับใช้ของข้า” เย่ฟ่านเย้ยหยัน
เซี่ยจี้โหยวกวาดสายตามองบน เขาแค่นเสียงเบาๆและกล่าวว่า
"ข้ายังมีญาณวิเศษมากมายที่ยังไม่ได้ใช้ออก เจ้าคิดว่าตัวเจ้าที่มีเพียงพลังอันดิบเถื่อนของร่างกายจะสามารถทำอะไรข้าได้!”
"ครืน!!!"
ทันใดนั้นชุดเกราะที่สร้างจากทองคำมืดก็ครอบคลุมเข้าสู่ร่างกายของเซี่ยจี้โหยว ซึ่งแวววาวและโปร่งแสงราวกับหยกดำมันสร้างความลึกลับและน่ากลัวให้กับเด็กน้อยคนนี้มากขึ้นไปอีก
“ไม่ใช่ว่าข้าคิดจะเอาเปรียบเจ้า เพราะตอนนี้เจ้าเพิ่งเข้าสู่อาณาจักรสี่สุดขั้วโดยที่ไม่มีเวลาปรับพื้นฐานความแข็งแกร่งให้กับตัวเอง
แต่ข้ากำลังจะเข้าสู่อาณาจักรใหม่แล้ว เมื่อถึงเวลานั้นช่องว่างของพวกเราคงห่างไกลเกินกว่าจะต่อสู้กันได้!"
ชุดเกราะสีดำทองของเซี่ยจี้โหยวสั่นไหว รูปลักษณ์ที่งดงามของเขานั้นเต็มไปด้วยความลึกลับน่าค้นหา ในตอนนี้มือขวาของเขาถือกระบี่เล่มหนึ่งและกำลังชี้มันมาที่ใบหน้าของเย่ฟ่าน
"จงเป็นผู้รับใช้ของข้าและจงรักภักดีต่อข้าตลอดไป!"
ทุกคนคิดว่าการฆ่าการฆ่าเย่ฟ่านได้สำเร็จคงเป็นเรื่องที่มีหน้ามีตามากที่สุดแต่เซี่ยจี้โหยวกลับคิดตรงกันข้าม เขาต้องการเหยียบย่ำเย่ฟ่านซึ่งได้ชื่อว่าแข็งแกร่งที่สุดในรุ่นเดียวกันให้จมเท้าไม่มีโอกาสเงยหน้าขึ้นอีก
“ระวังไว้นางหนู ข้าจะตีก้นเจ้า!”
เย่ฟ่านที่นิ่งสงบอยู่ตลอดเวลาก็กล่าวเบาๆด้วยรอยยิ้ม
“บังอาจ!”
เซี่ยจี้โหยวตะโกนด้วยความโกรธ กระบี่ในมือขวาของเขาขยายใหญ่ขึ้นกว่าพันจ้างก่อนจะสับเข้าหาเย่ฟ่านที่อยู่ด้านล่าง!
เย่ฟ่านไม่ได้เคลื่อนไหวอะไร แต่ปราณโลหิตของเขาพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าและภาพธรรมของราชาอมตะแห่งเก้าสวรรค์ก็กระทืบเท้าและยื่นมือเข้าหาคมกระบี่ตรงๆโดยไม่หลบเลี่ยง
“โครม!”
เสียงระเบิดรุนแรงดังขึ้นอีกครั้งก่อนที่ภาพธรรมขนาดใหญ่จะค่อยๆรวมเข้าหาร่างกายของเย่ฟ่านภายในเวลาเสี้ยวลมหายใจ
“ร่างศักดิ์สิทธิ์เซียนโบราณและภาพธรรมเป็นหนึ่งเดียว!”
“ในตำนานกล่าวว่าเมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นเขาจะสามารถโจมด้วยพลังของผู้สูงสุดได้หนึ่งครั้ง!”
ผู้บ่มเพาะทุกคนหวาดกลัวอย่างหนัก ไม่มีใครคาดหวังว่าเย่ฟ่านจะสามารถทำเช่นนี้ได้เมื่อเขามาถึงอาณาจักรสี่สุดขั้วเป็นครั้งแรก
บางคนก็รู้สึกโล่งใจที่ไม่ได้ออกมายืนด้านหน้าและเป็นเป้าลองกระบี่ให้กลับเย่ฟ่าน
“ครืน!”
เย่ฟ่านเหวี่ยงกระบี่เล่มใหญ่ ตัดผ่านโดมสวรรค์และบดขยี้ทะเลแห่งดวงดาวของราชาอมตะเก้าพิภพอย่างรุนแรง!
“ปัง!”
เซี่ยจี้โหยวซึ่งอยู่ในความว่างเปล่าควบคุมกระบี่เล่มใหญ่ของเขาเข้าต่อต้านโดยใช้จังหวะฉาบฉวยและหลีกเลี่ยงการปะทะกับเย่ฟ่านด้วยพลังดิบเถื่อน
“ครืน!”
กระบี่ของเย่ฟ่านยังคงไล่ล่าเซี่ยจี้โหยวด้วยความมุ่งมั่นที่จะทำให้เกิดการปะทะซึ่งๆหน้า!
“ปัง!”
สุดท้ายเซี่ยจี้โหวก็ไม่สามารถหลบเลี่ยงได้ทั้งหมดและกระบี่ขอเย่ฟ่านก็ฟาดเข้าหากระบี่ของเขาตรงๆ
เซี่ยจี้โหยวใบหน้าซีดขาวไร้สีเลือด ในขณะเดียวกันชุดเกราะทองคำมืดของเขาก็ปลดปล่อยแสงสีดำออกมาต้านทานคมกระบี่ของเย่ฟ่าน
"บูม"
"เจ้า..."
เซี่ยจี้โหยวอุทานด้วยความเจ็บปวด แต่กระบี่ของเย่ฟ่านไม่ได้เปิดโอกาสให้เขาเอ่ยวาจามากกว่านี้!