เกิดใหม่เป็นทารกขั้นเทพ ตอนที่ 101
ตอนที่ 101
หลินซวนยิ้มพลางกล่าวออกมา
“ตระกูลที่สั่งสอนข้าย่อมต้องแข็งแกร่งใช่หรือไม่?”
เพียงเท่านั้นผู้คนจากหมู่บ้านหวงเหลียงก็เข้าใจบางสิ่ง พวกเขาช่างเรียบง่ายและมิได้คิดสิ่งใดมากมายนัก
หากว่าหลินซวนกลับไปวิ่งกลางอากาศแล้วล่ะก็ เหล่าคนจากหวงเหลียงก็คงไม่ประหลาดใจจนเกินไปนัก ทว่าฉากที่กำลังปรากฏเบื้องหน้าเขาตอนนี้ทำให้เขาชะงักค้างอย่างแท้จริง
แม้ว่าเส้นทางขากลับไปยังหมู่บ้านหวงเหลียงจะไม่ได้ยาวไกลนัก พวกเขาก็ต้องผ่านเขตของอสูรดุร้ายบางส่วน แม้กระทั่งพบพวกมันตัวเป็นๆ ในบางครั้ง
อสูรที่ดุร้ายเหล่านี้ หากเป็นกลุ่มนักล่าที่เก่งกาจเช่นพวกเขาก็คงใช้เวลามินานนักในการจะจัดการพวกมัน ทว่าเมื่ออสูรเหล่านั้นปรากฏตัวขึ้น หลินซวนเพียงก้าวออกไปเบื้องหน้าพร้อมกับพลังแปลกประหลาดบางประการที่ปรากฏใต้ฝ่าเท้าของเขา จากนั้นอสูรที่ขวางทางต่างก็กระอักเลือดออกมาก่อนจะกระเด็นไปไกลด้วยสภาพน่าอนาถ!
เหตุใดอสูรจากแดนรกร้างจึงได้อ่อนแอนัก? พวกมันอยู่ในระดับเพียงแดนปรับปรุงปราณเท่านั้น ยิ่งไปกว่านี้ เขาไม่อาจสัมผัสได้ถึงสิ่งอันตรายรอบด้านแม้แต่น้อย....
หลินซวนขมวดคิ้วมุ่น และมิได้ตระหนักถึงความน่าหวาดหวั่นของทักษะเจ็ดก้าวสวรรค์กลับกลายที่ใช้ออกมาเต็มกำลังในตอนนี้แม้แต่น้อย!
ไกลออกไปในหมู่บ้านหวงเหลียง เมื่อชาวบ้านพบเห็นฉากเหล่านี้ พวกเขาต่างกำลังตกตะลึงจนลูกตาแทบหลุดออกมาจากเบ้า!
เด็กน้อยวัยเพียงขวบด้วยเหตุใดจึงทรงพลังเช่นนี้!
เขาสามารถบีบบังคับให้เหล่าอสูรที่ดุร้ายล่าถอยไปได้ด้วยการกระทืบเท้าเบาๆ คราหนึ่งเท่านั้น!
ในตอนนี้ ชี่หู่อดมิได้ที่จะถามบางอย่าง
“เด็กน้อย พวกจากภายนอกแดนรกร้างแข็งแกร่งเช่นเจ้าทุกคนเลยหรือ?”
หลินซวนพยักหน้ารับ
“ความแข็งแกร่งมิได้ต่างกันมากนัก กระทั่งบางคนที่ทรงพลังยิ่งกว่าข้าก็มีจำนวนไม่น้อยเช่นกัน!”
เหล่าคนจากหวงเหลียงกลืนน้ำลายเหนียวหนืดในลำคอ มีเพียงเจ้าหนูน้อยหวงหาวเท่านั้นที่เปล่งประกายระยิบระยับ รอยยิ้มของเขายิ่งเจิดจ้ากว่าเสียด้วยซ้ำ เขากำหมัดแน่นก่อนจะเอ่ยออกมา
“โลกภายนอกแดนรกร้างช่างน่าสนใจยิ่งนัก หากมีโอกาส ข้าเองก็อยากจะออกไปผจญภัยด้านนอกนั่นเช่นกัน!”
อันที่จริงแล้ว ไม่เพียงเหล่าคนตรงหน้าหลินซวนเท่านั้นที่รู้สึกประหลาดใจ กระทั่งหลินซวนเองก็แปลกใจเช่นกันเมื่อมองไปยังเหล่าคนจากหมู่บ้านหวงเหลียง นี่เป็นเพราะว่าเขาสัมผัสได้ถึงความแข็งแกร่งทางร่างกายของคนเหล่านั้นได้ว่ามากมายเพียงใด ถึงขั้นเทียบเท่ากับผู้บ่มเพาะในแดนปราณสร้างรากฐานได้เลย!
ต้องรู้ก่อนว่าหากคนผู้หนึ่งต้องการจะบรรลุดินแดนปราณระดับสร้างรากฐานในโลกภายนอกนั้น พวกเขาจำต้องใช้เวลาอย่างน้อยก็นับร้อยปี!
ทว่าเหล่าชายรูปร่างใหญ่โตด้านหน้าของเขาในเวลานี้ อายุน่าจะราวสามสิบปีเท่านั้น หากเขาออกไปภายนอกย่อมกลายเป็นอัจฉริยะผู้หนึ่งทันที!
ทว่า หลินซวนค้นพบสิ่งแปลกประหลาดบางประการ พวกเขาล้วนไม่มีปราณวิญญาณในร่างกาย มีเพียงเสี่ยวหาวเท่านั้นที่มีปราณไหลเวียนอยู่ในตัว เด็กน้อยอายุเพียงสามปีทว่ากลับอยู่ในขั้นที่เก้าของแดนปราณปรับปรุงกาย!
หากเจ้าหนูน้อยผู้นี้ออกไปสู่โลกภายนอก กองกำลังและตระกูลทั้งหลายย่อมต้องต่อสู้กันเพื่อแย่งชิงเขาอย่างแน่นอน!
ไม่นานหลังจากนั้น ทุกคนก็พาหลินซวนกลับไปถึงหมู่บ้านหวงเหลียงในที่สุด
คนจำนวนมากกำลังรอให้ชี่หู่และคนที่เหลือกลับมาอยู่ เมื่อเห็นว่านักรบทั้งหลายกลับมาได้อย่างปลอดภัย เสียงโห่ร้องก็ดังขึ้นทันที
และเมื่อพวกเขาได้รับรู้เหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น สีหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนเป็นประหลาดใจยิ่งนัก
“อาณาจักรฉีซาน?” หัวหน้าหมู่บ้านเป็นชายชราผมเผ้าขาวโพลน เมื่อเขาได้ยินคำพูดของหลินซวนเขาก็เอ่ยถามด้วยความสับสน
“เด็กน้อย เจ้ามาที่นี่ได้อย่างไร? เจ้าต้องรู้เสียก่อนว่าอาณาจักรฉีซานนั้นห่างจากที่นี่นับแสนลี้! สมัยที่ข้าเดินทางไปยังอาณาจักรที่ใกล้กับแดนรกร้างที่สุด ในตอนนั้นข้ายังต้องใช้เวลาถึงสามปีด้วยกัน!”
“ข้าได้ยินมาว่าอาณาจักรฉีซานนั้นไกลออกไปมากกว่าที่ที่ข้าเดินทางไปเสียด้วยซ้ำ!”
สามปี? เมื่อหลินซวนได้ยินเช่นนั้น ใบหน้าของเขาก็ดำคล้ำทันที!
นี่เขาวิ่งเล่นออกมาไกลเพียงใดกัน? ย่อมมิใช่เรื่องดีอย่างแน่นอน! หลินซวนรู้สึกขมปร่าในอก
“เป็นอันใดไป? เจ้าสามารถบอกพวกเราได้ พวกเราย่อมยินดีจะช่วยเหลือเจ้าอย่างแน่นอน!” สีหน้าผิดหวังของหลินซวนแสดงออกมาจนหวงหาวสัมผัสได้ หลินซวนจึงรีบตอบออกไปโดยเร็ว
“ในระหว่างที่ข้าบ่มเพาะปราณอยู่ คาดว่าต้องมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ข้าจึงได้มาปรากฏตัวยังที่แห่งนี้...” สีหน้าของหลินซวนเต็มไปด้วยความกังวล ก่อนจะกล่าวบางอย่าง
“ถ้าหากข้าจำไม่ผิด เหมือนว่าจะมีแสงสีเขียวบางอย่างที่หยุดข้า?”
แสงสีเขียว? ผู้คนโดยรอบกำลังอยู่ในห้วงความคิดของตน
เป็นหัวหน้าหมู่บ้านที่เอ่ยขึ้นมาเป็นคนแรก
“พวกเขาคิดว่าจะเป็นไปได้หรือไม่ที่...ผู้พิทักษ์วิญญาณในหุบเขาจะเป็นผู้กระทำสิ่งนี้?”
“ผู้พิทักษ์วิญญาณ?” หลินซวนชะงักไปเล็กน้อย
“เช่นนั้นก็ไปถามเขากันเถิด!” เจ้าเด็กน้อยกระโดดโลดเต้นอย่างมีความสุขและดึงแขนหลินซวนวิ่งเข้าไปยังหุบเขาแห่งนั้น
ถูกหวงหาวลากให้วิ่งออกไปเช่นนี้ หลินซวนเองก็มิได้ต่อต้านอันใด ประกายแรกเพราะเขาสัมผัสมิได้ถึงเจตนาไม่ดีของเด็กน้อย และประการที่สอง เขาเองก็สงสัยเช่นกันว่าตัวตนอย่างผู้พิทักษ์วิญญาณนั้นสามารถหยุดเขาได้อย่างไร
ท้ายที่สุด เมื่อเขาถูกลากเข้าไปยังชายขอบของหุบเขา หลินซวนก็มิสามารถจะก้าวเดินไปด้านหน้าได้อีกต่อไป
เขาเหม่อมองแท่นบูชาห้าสีที่ปรากฏไปทั่วทุกที่ในบริเวณนั้นอย่างตกตะลึง
แท่นบูชาห้าสี!? เหตุใดจึงมีพวกมันจำนวนนับไม่ถ้วนเช่นนี้? แท่นบูชาทั้งหมดมาจากที่แห่งนี้เช่นนั้นหรือ?
หลินซวนขยี้ดวงตาอย่างแรงและอดมิได้จะคิดว่าตัวเองกำลังมองเห็นภาพหลอนอยู่
ทว่า เมื่อเขาลืมตาขึ้นอีกครั้ง เขาก็ยังคงมองเห็นแท่นบูชามากมายอยู่ที่เดิม พวกมันล้วนแตกต่างจากแท่นบูชาที่เป็นของจ้าวห้วงเหวซึ่งโดนเขากลืนกินเข้าไป!
มีบางส่วนที่มีขนาดใหญ่กว่าแท่นบูชาที่เป็นของจ้าวหุบเหวเสียด้วยซ้ำ!
นี่ช่างคล้ายกับเป็นดงเห็ดที่ผุดขึ้นทั่วทั้งพื้นที่ เพียงแต่ว่าเห็ดที่เขาเอ่ยถึงคือแท่นบูชาห้าสี!
หวงหาวที่ลากหลินซวนมามองตามสายของเขาและเห็นว่ามันจับจ้องอยู่ที่แท่นบูชาเหล่านั้น ดังนั้นเด็กน้อยจึงอธิบายแก่หลินซวน
“เจ้ากำลังมองแท่นบูชาอยู่เช่นนั้นหรือ? ข้าเองในคราแรกที่เห็นพวกมันก็รู้สึกสนใจและอยากได้พวกมันบางส่วนเช่นกัน”
“แต่ท้ายที่สุด เจ้ารู้หรือไม่ว่าเกิดอันใดขึ้น?” เจ้าเด็กน้อยยังคงพูดต่อไป
“ข้าใช้พละกำลังทั้งหมดทว่าไม่อาจจะขยับมันได้แม้แต่นิดเดียว! ไม่รู้ว่าเจ้าของแท่นบูชาเอาพวกมันมาฝังไว้ที่แห่งนี้มากมายทำไมกัน....ช้าก่อน!”
ก่อนที่หวงหาวจะเอ่ยจบประโยค หลินซวนก็อ้าปากของเขาออกและใช้พลังกลืนกินดาราของตนออกมาพลางเล็งไปยังแท่นบูชาอันหนึ่งทันที!
วูบ!
จากนั้น เขาก็กลืนมันทั้งหมดลงไป!
หลินซวนเคี้ยวเล็กน้อยด้วยความพึงพอใจ เมื่อเจ้าเด็กน้อยที่ลากเขามามองเห็นแท่นบูชากลายเป็นแสงสว่างและลอยเข้าปากหลินซวนไป เขาก็นิ่งค้างไปทันที!
จากนั้น หลินซวนก็เรอออกมา!
ใจกลางหุบเขา เมฆหมอกมากมายปรากฏขึ้น ร่างในชุดสีทองขัดสมาธิอยู่ใต้ต้นหลิว เขาค่อยๆ เงยหน้าขึ้นอย่างช้าๆ สายตาของเขาราวกับทะลุทะลวงผ่านกาลเวลาและห้วงมิติ ทว่าแฝงประกายประหลาดใจเอาไว้บางเบาเมื่อมองเห็นเด็กน้อยทั้งสองบริเวณทางเข้าหุบเขา
‘เจ้าเด็กคนนั้น? เขาถึงกับกลืนแท่นบูชาของข้าลงไปในคำเดียว?’
แท่นบูชาห้าสีปรากฏอยู่ทั่วพื้นที่เต็มไปหมด! ยิ่งกว่านั้น หลินซวนสัมผัสได้ถึงพลังงานที่แฝงอยู่ในแท่นบูชาเหล่านี้ มันมากยิ่งกว่าอันที่เป็นของจ้าวห้วงเหวเสียด้วยซ้ำไป!
พลังกลืนกินของหลินซวนทะลักทลายออกมา ดวงตาเปล่งประกายเจิดจ้า เมื่อมองไปยังแท่นบูชาที่ปรากฏอยู่ทั่วหุบเขาแห่งนี้ นัยน์ตาของเขาปลายเป็นสีแดงทันที!
จำนวนมากมายยิ่งนัก! หากเขาสามารถกลืนกินพวกมันทั้งหมดได้ เขาจะพัฒนาได้ถึงขั้นใดกัน!?
หลินซวนมิได้ใส่ใจนัก เขาเพียงเปิดปากของตนออก.... จากนั้นก็ใช้พลังสามครั้ง และเหลือทิ้งไว้เพียงหลุมลึกสามแห่งบนพื้นดิน แท่นบูชาอีกสามแท่นถูกกลืนลงท้องของเขาไป!