ตอนที่ 661+662 พี่รองก็อยู่ที่นี่
ตอนที่ 661 พี่รองก็อยู่ที่นี่
“ใช่ ผมได้วันหยุดสองสามวัน” ลู่ชิงสีได้ยินเสียงสนามบินลอดผ่านโทรศัพท์ จึงถามว่า “พี่รอง พี่กลับมาแล้วเหรอ?”
“ใช่ ฉันเพิ่งลงจากสนามบิน ตอนนี้อยู่ที่สนามบินเมืองหนานเจียง” กู้ฮ่าวอวี้ยิ้ม “ฉันแวะมาหาภรรยาของนายเป็นพิเศษเลย แต่เพิ่งรู้จากพี่ใหญ่ว่านายก็อยู่ที่นี่กับภรรยาด้วย”
ลู่ชิงสีตอบ “โอ้ พี่มาหาภรรยาผมทำไมเหรอ?”
“นายกับเจียงเหยาไม่ได้ขอให้ฉันช่วยเรื่องทีมวิจัยหรอกหรือ?”
“ฉันมีข่าวจะมาบอก แต่ช่วงสองสามวันที่ผ่านมาพวกนายไม่มีใครรับสายฉันเลย ฉันเลยต้องมาหาที่เมืองหนานเจียง หลังจากลงจากเครื่องบิน ก็โทรหาพี่ใหญ่ ได้ยินว่าพวกนายเป็นฮีโร่ด้วยนี่ ภรรยาของนายเป็นคนดีจริง ๆ เธอมักทำให้ผู้คนประหลาดใจ”
“งั้นพี่รอผมที่สนามบิน ผมจะขับรถไปรับ”
ลู่ชิงสียืนขึ้นขณะที่เขาพูด เขาโบกมือให้ผู้จัดการซุนก่อนออกไป จากนั้นเขาก็แตะบนแผนที่บนโต๊ะ ส่งสัญญาณด้วยสายตาของเขา และทิ้งเรื่องการหาบ้านให้อีกฝ่ายจัดการ เขาเปิดประตูและออกไปจากบ้านของผู้จัดการซุน
“ไม่เป็นไร ขี้เกียจรอนาน ฉันนั่งแท็กซี่ไปหานายเองดีกว่า บอกชื่อโรงแรมที่นายพักมา แล้วเดี๋ยวเจอกันที่โรงแรม” หลังจากที่พูดอย่างนั้น กู้ฮ่าวอวี้ก็หัวเราะกับตัวเอง เขาเป็นพี่ชายนะ จะมารับทำไมกัน ไม่ใช่ว่าเขานั่งแท็กซี่ไปเองไม่เป็นเสียหน่อย
ลู่ชิงสีหยุดคิดและรู้สึกว่ามันสะดวกกว่าจริง ๆ จึงตอบตกลง
หลังจากที่เขากลับถึงโรงแรม เขาก็เปิดอีกห้องโดยขอเป็นห้องตรงข้ามของเขาให้กับกู้ฮ่าวอวี้ จากนั้นก็นั่งไขว่ห้างรอพี่รองของตนบนโซฟาหนังสุ่มในล็อบบี้ของโรงแรม
หลังจากคิดถึงเรื่องนี้ เขาโทรหาเจียงเหยาอีกครั้ง
ในเวลานั้นเจียงเหยาเพิ่งจะได้หยุดพักระหว่างเรียนสิบห้านาที
“น้องสะใภ้ พี่รองมาที่เมืองหนานเจียง เขาจะอยู่พักอยู่ที่โรงแรมระยะหนึ่ง ถามเพื่อนร่วมห้องของคุณหน่อยสิ ว่าให้เขาไปร่วมมื้ออาหารค่ำคืนนี้ด้วยได้ไหม” ลู่ชิงสีคิด หากสาว ๆ ไม่สนใจ เขาจะพากู้ฮ่าวอวี้ไปด้วย ดีกว่าต้องปล่อยให้พี่ชายทานอาหารที่โรงแรมเพียงลำพังในมื้อแรกที่มาถึงเมืองหนานเจียง
เจียงเหยารู้สึกประหลาดใจที่ได้ยินอย่างนั้น “พี่รองอยู่ที่นี่ด้วยเหรอคะ? ไม่ใช่ว่าเขาอยู่ต่างประเทศหรอกเหรอ?”
“เขามาหาคุณ เรื่องทีมวิจัยน่ะ?” ลู่ชิงสีอธิบาย
“งั้นฉันขอถามคนอื่นก่อน!” เจียงเหยากล่าว จากนั้นเธอก็เรียกเวินเสวี่ยฮุ่ยที่กำลังคุยกับคนอื่นอยู่ เธอดึงเวินเสวี่ยฮุ่ยออกมาและถามเบา ๆ ว่า “คืนนี้มีคนอื่นมาทานข้าวกับเราด้วย เธอจะรังเกียจไหม?”
“ใครเหรอ?” เวินเสวี่ยฮุ่ยถามด้วยความสงสัย
“พี่ชายของสามีฉันน่ะ เขารีบมาจากต่างประเทศเพราะธุระของฉัน” เจียงเหยาถาม “เธอจะรังเกียจไหม?”
“มาสิ! คนเยอะ ๆ สนุกดีออก ฉันโอเค” เห็นได้ชัดว่าเวินเสวี่ยฮุ่ยรับรู้ถึงภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกของเจียงเหยา
ด้านหนึ่ง เธอได้รับปากพวกเธอไว้ก่อน อีกด้านหนึ่งก็คนที่เพิ่งมาจากประเทศเพื่อช่วยงานของเธอ เจียงเหยาไม่สามารถยกเลิกนัดเพื่อนสาวของเธอได้ และเธอก็ทำใจทิ้งพี่ชายของสามีให้อยู่ตามลำพังไม่ได้
“แล้วเสี่ยวเซียกับคนอื่น ๆ ล่ะ” เจียงเหยากังวลเกี่ยวกับพวกเขา
“อย่ากังวลไปเลย พวกเราเป็นครอบครัวกันนะ เราจะทำเรื่องที่เธอลำบากใจได้ยังไง” เวินเสวี่ยฮุ่ยยิ้ม “อีกอย่าง ไม่ใช่คนอื่นที่ไหน? พวกเราไม่ใช่สัตว์ประหลาดที่จะจับคนกินหรอกน่า”
เจียงเหยาพยักหน้าอย่างหนักแน่นแล้วตอบกลับลู่ชิงสี
__
ตอนที่ 662 มีอะไรต้องทำเสียมากมาย
“ได้ ถ้าอย่างนั้นพี่รองกับผมจะขับรถไปรับพวกคุณที่มหาวิทยาลัยคืนนี้นะ” ลู่ชิงสียิ้ม “ดีเหมือนกันที่พี่รองอยู่ที่นี่ เราจะได้มีคนขับรถเพิ่มด้วย”
อันที่จริงเจียงเหยากังวลว่าเพื่อนร่วมห้องของเธอจะไม่พอใจกับการเพิ่มมาของกู้ฮ่าวอวี้ ซึ่งเป็นความกังวลที่ไม่จำเป็นเสียจริง ๆ
หลังเลิกเรียนตอนบ่าย เมื่อโจวเสี่ยวเซียและคนอื่น ๆ ได้ยินว่าจะมีคนมาทานข้าวเพิ่ม อีกทั้งยังเป็นคนโสด โปรไฟล์ดีที่ทำงานอยู่ต่างประเทศ พวกเธอรู้สึกตื่นเต้นในทันที
“ไม่! ฉันควรเปลี่ยนชุดดีกว่า” เวินเสวี่ยฮุ่ยดึงแขนของเจียงเหยาแล้วเขย่าอย่างแรง “ฉันอยากใส่ชุดฤดูร้อน!”
“ไม่กลัวหนาวตายหรือไง!” เจียงเหยายิ้ม
“ฉันอยากให้ความเย็นเข้ามาช่วย!” เวินเสวี่ยฮุ่ยยิ้ม “ลองคิดดู ผู้ชายที่อยู่ต่างประเทศมักจะเป็นสุภาพบุรุษมาก ถ้าเขาเห็นว่าฉันหนาว เขาต้องถอดเสื้อโค้ตแล้วสวมให้ฉัน เหมือนในหนังไง!”
“จากนั้น ฉันก็รู้สึกประทับใจมากจนเอนพิงไหล่ของเขา แล้วเขาก็ตกหลุมรักฉัน จากนั้นเขาก็จับมือเล็ก ๆ ของฉันไว้อย่างเงียบ ๆ อัยะ!! เขิน!!!”
เมื่อเห็นเวินเสวี่ยฮุ่ยแสดงท่าทางมีความสุขโดยใช้มือทั้งสองข้างปิดหน้าและเขย่าร่างกาย เจียงเหยาก็ถอยห่างออกไปสองก้าวอย่างเงียบ ๆ แสดงว่าคนนี้ป่วยหนัก เธอไม่อยากทำความรู้จักกับอีกฝ่ายเลยจริง ๆ
“เวินเสวี่ยฮุ่ย เธอนี่เยอะเกินไปนะ เรียนแพทย์เสียเวลาเปล่า! เธอควรไปเรียนที่มหาวิทยาลัยการละครจินโด ที่นั่นน่าจะเหมาะกับเธอมากกว่า” โจวเสี่ยวเซียตบไหล่เวินเสวี่ยฮุ่ย
“ฉันเกลียดเธอ!” เวินเสวี่ยฮุ่ยแหย่นิ้วอ้วน ๆ ของเธอไปที่หน้าอกของโจวเสี่ยวเซียและหลีกเลี่ยงอีกฝ่ายทันที
“เธอควรใส่แจ็กเกตของเธอไปด้วย ถ้าเขาใส่แต่เสื้อมาจะทำยังไง เธอได้อับอายแน่ อย่างหวังว่าสามีฉันจะถอดเสื้อแจ็กเกตให้เธอ ถ้าเขากล้า ฉันทุบเขาตายแน่” เจียงเหยาล้อเล่น
“เสื้อแจ็กเกตลองของคนที่มีภรรยาแล้ว ฉันไม่เอาหรอก ถึงจะหนาวตายก็ตาม!” เวินเสวี่ยฮุ่ยเย้ยหยัน เธอกลอกตา “วันนั้นที่มหาวิทยาลัยเปิด ฉันเห็นเขาจัดเตียงให้เธอ สามีของเธอทำเหมือนที่พ่อของฉันทำเลย แค่จามก็กังวลว่าจะเป็นหวัดหรือเป็นไข้แล้ว ฮ่าฮ่าฮ่า”
พวกเขาคุยกันในหอพักสักครู่ ครึ่งชั่วโมงต่อมาลู่ชิงสีและกู้ฮ่าวอวี้ที่ขับรถของผู้จัดการซุนก็มาถึงหอพักหญิง
เมื่อสาว ๆ มาถึงชั้นล่าง พวกเขาเห็นชายร่างสูง สองคนกำลังยืนคุยกันอยู่นอกรถ ใบหน้าของพวกเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงทันที
ไม่ว่าพวกเขาจะกล้าพูดอะไรในห้องพักก็ตาม แต่ต่อหน้าแล้ว เด็กสาวเหล่านี้นั้นขี้อายเสียยิ่งกระไร
“ฉันจะแนะนำให้พวกเธอได้รู้จัก นี่สามีของฉัน ลู่ชิงสี แล้วนี่พี่ชายของสามีฉัน สามีของฉันกับฉันเรียกเขาว่าพี่รอง กู้ฮ่าวอวี้” หลังจากนั้น เจียงเหยาก็กล่าวแนะนำเพื่อนร่วมห้องของเธอ
เมื่อเทียบกับใบหน้าที่ไร้อารมณ์ของลู่ชิงสี กู้ฮ่าวอวี้ดูเป็นสุภาพบุรุษมากกว่า “ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนครับ ไม่ต้องกังวล ผมขับรถปลอดภัย พวกคุณนั่งรถไปกับผมได้ครับ”
“หลี่อี้ เฉินซีหยาง เธอสองคนนั่งด้วยกันนะ” เจียงเหยาเรียกเด็กสาวที่ขี้อายทั้งสองคนให้ขึ้นไปนั่งข้างกัน จากนั้นเธอก็ผลักเวินเสวี่ยฮุ่ยที่ยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นแล้วพูดว่า “เธอนั่งรถไปกับพี่รองได้ไหม?”
“ได้!” เวินเสวี่ยฮุ่ยกลับมารู้สึกตัวและพยักหน้า จากนั้นเธอก็ขึ้นรถไปกับกู้ฮ่าวอวี้ หลี่อี้ และเฉินซีหยาง