ตอนที่ 37 เจียน่า ปะทะ อาร์มันโด้(อ่านฟรี)
ตอนที่ 37 เจียน่า ปะทะ อาร์มันโด้
ลูอิสมองการกระโดดหลบและโต้ตอบของเจียน่าด้วยความพอใจ ‘เธอกะเวลาแปลงร่างเป็นมนุษย์หมาป่าไว้ก่อนที่อาร์มันโด้จะลงมือสินะ ทำให้ลงมือตอบโต้ไปอย่างทันท่วงที แถมความเร็วยังตามทันนักล่าระดับครึ่งดาวด้วย แต่อาร์มันโด้ที่กลายเป็นคนเถื่อนแล้วก็เชี่ยวชาญในอาวุธมากขึ้นเช่นกัน ทำให้สามารถใช้ดาบกลับมากันได้’
‘คงต้องมาลุ้นว่า ความเร็วในการโจมตีและพลังกำลังของมนุษย์หมาป่ากับพลังโจมตีและการใช้อาวุธของคนเถื่อนใครจะเหนือกว่า’
“รูปร่างนี่มัน?” อาร์มันโด้ไม่ได้แตกตื่นแต่กำลังดูให้รู้ว่าตัวเองประลองกับอะไรอยู่
“ฉันคือ ดรูอิด ส่วนรูปร่างในตอนนี้คือ ทักษะที่ได้มาใหม่ มนุษย์หมาป่า มันเพิ่มพลังกายภาพให้ในทุก ๆ ด้านจนแข็งแกร่งกว่าระดับครึ่งดาวเลยทีเดียว” เจียน่ายินดีอธิบายให้อาร์มันโด้ฟัง เพราะนี่คือการประลอง
“มนุษย์หมาป่าอย่างนั้นเหรอ เหลือเชื่อมาก แต่ว่าฉันก็ไม่ยอมแพ้เด็กสาวเด็ดขาด” อาร์มันโด้พุ่งเข้าหาเจียน่าอีกครั้ง พร้อมกับใช้ทักษะอย่าง ผู้เชี่ยวชาญดาบ lv.1 ทำให้ความเสียหายและการความเร็วการโจมตีขณะที่เขาใช้ดาบเพิ่มขึ้นอย่างมากจากความชำนาญในการใช้ดาบที่เพิ่มขึ้น
ดาบในมืออาร์มันโด้ฟันใส่เจียน่า เจียน่าใช่กรงเล็บเข้าปะทะในทันที จนเกิดไฟเล็บระหว่างดาบและกรงเล็บ ความเร็วการโจมตีของทั้งสองเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
เจียน่าวิ่งไปรอบ ๆ อาศัยความเร็วและความเฉียบแหลมในการโจมตี เธอใช้ทั้งกรงเล็บ คมเขี้ยวและเท้าได้อย่างครบถ้วน ส่วนอาร์มันโด้นั้นแม้จะมีดาบเล่มเดียว แต่ก็ยังด้านรับได้ด้วยการโจมตีสวนกลับไปอย่างดุดัน
ลูอิสมองทั้งสองสู้กันอย่างไม่วางตา แม้เหมือนพวกเขาจะเคลื่อนที่อยู่ตลอด แต่อาร์มันโด้กลับมีประสบการณ์ต่อสู้ที่สูงกว่าอย่างเห็นได้ชัด เพราะในตอนนี้ไม่ว่าเจียน่าจะพยายามต้อนอาร์มันโด้ให้จนมุมเพื่อยึดพื้นที่โจมตีมาฝั่งตัวเอง แต่ถ้าสังเกตดี ๆ กลับเป็นอาร์มันโด้ที่ครองพื้นที่ในสนามได้มากกว่า
‘การควบคุมพื้น แต่เหมือนฉันจะมีวิธีจัดการอยู่’ ทารกน้อยลูอิสมั่นใจมากว่าเขาจัดการปัญหานี้ได้ เพราะเขาคืออัศวินที่เชี่ยวชาญการต่อสู้ไม่แพ้คนเถื่อน ซึ่งในด้านนี้เขาเหนือกว่าแน่นอน
ในตอนนั้นเองขณะที่เจียน่าโจมตีไม่หยุด อาร์มันโด้ก็หาจังหวะการโจมตีสวนกลับได้ในจังหวะหนึ่ง
“รับนี่ไป!!! ย๊ากกก!!” อาร์มันโด้ตวัดดาบจากข้างลำตัวโจมตีใส่อย่างดุดัน เสียงของดาบฟันผ่านอากาศเสียงดัง ฟิ้ว!
เจียน่าที่รู้ว่าตัวเองพลาดแล้ว รีบยกแขนทั้งสองขึ้นมากัน ขณะที่กระโดดหลบไปด้วย แต่ก็ยังไม่ทัน ดาบของอาร์มันโด้โจมตีเข้าไปเต็มแรงใส่เจียน่า ยังดีที่เธอนั้นใช้กรงเล็บรับดาบได้ทัน
แต่ในเสี้ยววินาทีนั้นเจียน่าก็รับรู้ได้ถึงแรงกระแทกจากการโจมตี
“นี่มัน! ทักษะ!”
ปัง! เจียน่ากระเด็นไปตามแรงโจมตีของดาบในมืออาร์มันโด้ เธอหล่นลงพื้นและพยายามทรงตัวยืนให้มั่นคง
‘แม้จะเหมือนคนสมองทึบ แต่เวลาต่อสู้ก็บ้าระห่ำคนหนึ่งเลยทีเดียว จบแล้วสินะ’ ลูอิสกล่าวชื่นชมอาร์มันโด้ในใจ เพราะผลของการต่อสู้ออกมาแล้ว
“ย๊ากกก!!” อาร์มันโด้พุ่งเข้าหาเจียน่าระยะประชิด ขณะที่เจียน่าพยายามยืนให้มั่นคง แต่ว่าดาบอาร์มันโด้ก็โจมตีเข้ามาก่อน หนึ่งดาบ ปัง! เจียน่ากระเด็นไปอีกครั้งเป็นการใช้ทักษะโจมตี lv.1 ครั้งที่สอง
เจียน่าที่กระเด็นไปไกลอาศัยความคล่องตัวของมนุษย์หมาป่าเพื่อตั้งหลัก กรงเล็บทั้งสองข้างของมนุษย์หมาป่าขุดลากยาวไปกับพื้นเกิดเสียงดังลากยาว ทำให้เธอหยุดได้อย่างมั่นคงมากขึ้น เจียน่าเงยหน้าและกำลังพุ่งเข้าหาอาร์มันโด้ แต่อาร์มันโด้ก็เข้าหาเธอในระยะประชิด ก่อนจะใช้ทักษะคำราม lv.1 ใส่เธอ ทำเอาเจียน่าตกอยู่ในสถานะหวาดกลัวอย่างไม่ทันตั้งตัว ขาของเธอแข็งจนแทบขยับไม่ออก
‘ขยับขาไม่ได้’ เจียน่าพยายามขยับตัวเต็มที่ แต่ก็ช้าไป
‘ไม่ทันแล้ว’ เจียน่าหลับตาด้วยความตกใจกลัว
“โจมตี! ย๊ากกก!!” อาร์มันโด้ใช้หน้าดาบฟาดเข้าไปที่ข้างไหลของเจียน่าจนตัวทำให้เธอกระเด็นไปกระแทกกับผนังของโกดัง
ปัง!
โกดังสั่นเบา ๆ มีขี้ฝุ่นตกลงมาเล็กน้อย เจียน่าลุกขึ้นมายืนขณะที่คืนร่างกลับมาเป็นคนปกติ เธอรู้สึกเจ็บเล็กน้อยบริเวณที่โดนดาบฟาดเท่านั้น ซึ่งในจังหวะสุดท้ายเธอรู้ว่าอาร์มันโด้ตั้งใจออมแรงไว้ และใช้ผลจากทักษะโจมตีให้ตัวเธอกระเด็นเท่านั้น
“แพ้แล้ว” เจียน่าพูดออกมาอย่างเสียดาย
“เออ...เรียกว่าอาร์มันโด้เฉย ๆ ก็ได้ ยังไงพวกเราก็เป็นลูกน้องของท่านบลูอิสด้วยกันอยู่แล้ว” อาร์มันโด้ยิ้มเจื่อน ๆ เขาพูดเสริมในใจ ‘ฉันไม่อยากโดนเรียกว่าลุง’
ก่อนจะสูดหายใจเข้าลึก ๆ เพราะเขาพึ่งใช้ทักษะติดต่อกันทำให้พลังงานในร่างที่มีอยู่จนหมด
“อืม” เจียน่าพยักหน้ารับ
ทั้งสองนั่งกับพื้นด้านหน้าลูอิสเพื่อพักหายใจ โดยมีลมเย็น ๆ พัดผ่านเบา ๆ ทำให้พวกเขารู้สึกเย็นสบายมาก ลูอิสเอาโพชั่นชีวิตให้เจียน่ารักษาและเอาโพชั่นพลังงานออกมาให้ทั้งสองดื่มเพื่อฟื้นฟูพลังงานที่เสียไป
เขาหันไปกล่าวชมอาร์มันโด้ว่า “สมแล้วที่เป็นนักล่า ควบคุมการต่อสู้ได้สูงกว่าเจียน่ามาก”
“แน่นอน แต่พลังที่ท่านลูอิสมอบให้นี่สิ มันสุดยอดมาก ผมจะเป็นระดับครึ่งดาว แต่ถ้ารวมกับทักษะที่มีด้วยคงจัดการพวกนักล่าคนอื่น ๆ ได้สบายมาก ราวกับว่าในร่างมีพลังมากมายและทุกการโจมตีผมอยากจะตะโกนตลอดเวลาเลย ไม่รู้เพราะอะไร” อาร์มันโด้ยิ้มออกมาอย่างยินดี ตอนนี้เขาเคารพเด็กทารกตรงหน้าที่มอบพลังนี้ให้เขามาก
แต่ก็รู้สึกแปลกที่ตนเองชอบแหกปากตอนสู้ ทั้งที่เมื่อก่อนก็ไม่ได้ตะโกนแหกปากแบบนี้
“อืม...” ลูอิสปากกระตุกเล็กน้อย เขาพอจะรู้ว่านี่อาจจะเป็นสไตล์ของพวกคนเถื่อน แต่ก็ไม่ได้พูดออกไป “แต่ว่าเจียน่าเองก็ทำได้ดีมาก เธอใช้เพียงทักษะเดียวในการต่อสู้ครั้งนี้ได้เป็นอย่างดี” ลูอิสพูดกับเจียน่า
เจียน่าพยักหน้ารับและเผยรอยยิ้มออกมา แม้จะแพ้ แต่เธอก็ต้องยอมรับว่าในเรื่องประสบการณ์ต่อสู้อาร์มันโด้เหนือกว่าเธอจริง
อาร์มันโด้พยักหน้าเห็นด้วย เขาไม่อาจจะปฏิเสธได้จริง ๆ ถ้าเกิดเจียน่าและหมีกริซลี่โจมตีมาพร้อมกัน อาร์มันโด้คิดว่าเขาคงต้านได้ไม่นาน ก่อนจะโดนกระทืบเละโดยทั้งสอง
“นี่ใกล้จะเย็นแล้วพวกเรากลับกันก่อนก็แล้วกัน”
...
คฤหาสน์บารอนเมสัน
“ที่นี่...มัน ห้องฉันอย่างงั้นเหรอ” มาลก้าที่พึ่งฟื้นจากอาการบาดเจ็บพยายามพยุงตัวนั่งเขารู้สึกมึนหัวมาจากการนอนเป็นเวลาหลายวัน
“ท่านมาลก้าฟื้นแล้ว ระวังนะคะ” สาวใช้รีบเข้ามาช่วยมาลก้าลุกขึ้นนั่ง ก่อนจะรินน้ำใส่แห้วและให้มาลก้าดื่ม
“เกิดอะไรขึ้น...” มาลก้าพยายามนึกว่าตัวเองมาอยู่ตรงนี้ได้ยังไง หลังจากรวบรวมสติผ่านไปสักพักนึกออกว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง
มาลก้ากำมือแน่น ก่อนจะทุบไปที่นอนหนึ่งทีเพื่อระบายความโกรธ แต่ตอนนั้นก็รู้สึกตึง ๆ และเจ็บเบา ๆ ที่หน้าแก จึงก้มมองดูก็เห็นรอยแผลที่โดนฟัน ในตอนนี้แม้จะแห้งตกสะเก็ดแล้ว แต่ก็ยังคงไม่หายดีร้อยเปอร์เซ็นต์
คนใช้สาวหลังจากรินน้ำให้มาลก้าแล้วก็รีบออกไปตามบารอนเมสันในทันที เพราะรู้ว่าถ้าอยู่ต่อตัวเองอาจจะเดือดร้อนได้ เนื่องจากมาลก้านั้นขึ้นเรื่องนิสัยที่เอาแต่ใจมากในตระกูลเมสัน
“แกรู้สึกตัวแล้วสินะ บอกมาไอ้ชั่วตัวไหนมันฝากรอยแผลไว้ที่ตัวแก” บารอนเมสันเดินเข้ามา มองมาลก้าด้วยความไม่พอใจ แต่ก็ยังถามหาคนที่ทำร้ายกับลูกชายของตัวเอง
“ท่านพ่อ...” มาลก้าก้มหัวด้วยความรู้สึกผิดและไม่กล้าสู้หน้าพ่อของตัวเอง เพราะรู้ว่าพ่อของตนคงรู้เรื่องที่ทำไว้ในช่วงหลัง ๆ ที่ผ่านมาแล้ว แต่ก็ยังรวบรวมความกล้าบอกออกไป “ท่านพ่อ มันเป็นเด็กทารกคนหนึ่ง มีพลังของผู้ครองพลัง ผมไม่แน่ใจแต่น่าจะเป็นผู้พิทักษ์หรือไม่ก็ผู้แข็งแกร่ง มันเร็วมากและยังไม่กลัวไฟ”
เมื่อได้ยินคำตอบใบหน้าของบารอนเมสันก็บึ้งตึงทันที
“ลุกขึ้นมา” บารอนเมสันพูดด้วยความเย็นชา
มาลก้าตัวสั่นเบา ๆ แต่ก็ลุกขึ้นยืนอย่างอ่อนแรง หลังจากยืนอยู่ตรงหน้าแล้ว บารอนเมสันก็ยกมือขึ้นตบหน้าของมาลก้าด้วยหลังมืออย่างเดือดดาล
“แกคิดว่านี่มันเรื่องตลกอย่างนั้นเหรอ คิดว่าแต่งเรื่องแบบนี้แล้วฉันจะเชื่ออย่างนั้นเหรอ เด็กทารกที่ไหนถึงจะจัดการแกที่เป็นผู้เผาผลาญ 1 ดาวได้ ถ้าฉันไม่แก่เกินไปจนรับพลังของหินพลังไม่ไหวละก็ แกอย่าหวังจะได้หินพลังนั้นไป”
มาลก้าที่ถูกตบด้วยหลังมือจนปากแตก ได้แต่กำมือแน่นอย่างอดทน ในบรรดาพี่น้องในตระกูล มาลก้าคือคนที่มีพรสวรรค์ที่สุด เขาจึงได้ทุกอย่างที่บารอนเมสันหามา เพราะเป็นความหวังในการพาตระกูลไปได้สูงกว่านี้
“นังผู้หญิงที่แกเล็งไว้คนนั้นคือ แอนเดรียสินะ ภรรยาของบารอนไรแลนด์ แกริค”
“ครับ แต่มันน่าจะหนีไปได้ ท่านพ่อไม่ต้องห่วงหลังผมหายดี ผมจะเอาทหารไปด้วยและจับพวกมันมาให้หมด โดยเฉพาะมัน” มาลก้าออกมาด้วยความเกลียดชัง
บารอนเมสันเงียบไป ก่อนจะพูดด้วยสีหน้าจริงจังต่อว่า “ไม่ได้!!! เรื่องแกก่อไว้คิดว่าฉันไม่ได้ไปสืบมาหรือไง แต่ไวเคานต์คาริสเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย คาริสมันสั่งห้ามไม่ให้ฉันไปยุ่งกับผู้หญิงคนนั้น”
“ไวเคานต์คาริส...เป็นไปไม่ได้ ผมสืบมาแล้วเธอไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับไวเคานต์คาริส ไม่อย่างนั้นผมคงไม่กล้าลงมือ” มาลก้าพูดด้วยสีหน้าแปลกใจและไม่ค่อยเชื่อ
“ไวเคานต์คาริสอาจจะเล็งผู้หญิงคนนั้นไว้ เพราะหลายปีก่อนไวเคานต์คาริสเคยไปที่อาณาจักรเวียเรเดียและสนใจเธอ แต่นี่เป็นแค่เหตุผลหนึ่งเท่านั้น อีกเหตุผลคงเป็นผู้ครองพลังที่ทำร้ายแก ไวเคานต์คาริสคงอยากจะดึงมันมาเป็นพวกด้วยอีกคน” บารอนเมสันพูดออกมาด้วยสีหน้ามั่นใจ
‘ไม่ใช่แน่นอน’ มาลก้าปฏิเสธในใจ แต่ก็ไม่กล้าบอกออกไป เพราะรู้ว่าพ่อของตนคงไม่เชื่อแน่นอน
“เรื่องนี้ฉันจัดการเอง” บารอนเมสันกล่าวและหันหลังกลับเพื่อจะเดินออกไปจากห้อง
“ท่านพ่อคิดจะลงมือลับหลังไวเคานต์คาริส” มาลก้าพูด
“แน่นอน แม้คาริสจะเป็นไวเคานต์ แต่เมืองเอลดิลก็ไม่ได้ตกอยู่ใต้อิทธิพลของเขาคนเดียว การจัดการกับพวกนั้นยังช่วยไม่ให้ไวเคานต์คาริสได้ผู้ครองพลังคนนั้นไปด้วย” บารอนเมสันหยุดฝีเท้าก่อนจะกล่าวเพิ่ม “อ้อแล้วก็ท่านลีวิสกำลังเดินทางมาที่เอลดิล อีกไม่นานก็คงจะถึงที่นี่แล้ว เมื่อมีท่านลีวิสที่เลื่อนเป็นผู้ครองพลัง 2 ดาว ทางไวเคานต์คาริสก็คงกดหัวพวกเราอย่างเปิดเผยไม่ได้อีก”
“ท่านอาจารย์ลีวิสเป็นระดับสองดาวแล้ว” มาลก้าพูดออกมาด้วยความตื่นเต้น อาจารย์ลีวิสเป็นอาจารย์สอนเขาในการควบคุมพลังและยังเป็นผู้เผาผลาญเหมือนกับเขาด้วย เมื่อครึ่งปีก่อนมีข่าวเรื่องของหินพลังผู้เผาผลาญระดับสองปรากฏขึ้น ลีวิสจึงออกเดินทางไปเพื่อเอาหินพลังนั้นมาใช้ในการเลื่อนพลัง และดูเหมือนตอนนี้อาจารย์ของเขาจะทำสำเร็จแล้ว
‘แกไม่มีทางหนีผู้ครองพลังระดับ 2 ไปได้แน่’ มาลก้าตาเป็นประกายและเฝ้ารอที่จะได้เห็นเด็กทารกที่ทำร้ายตัวเองโดนเผาทั้งเป็นด้วยฝีมืออาจารย์ลีวิส