ตอนที่ 657+658 เรื่องที่ฉันจะบอก
ตอนที่ 657 เรื่องที่ฉันจะบอก
เจียงเล่ยรู้ว่าเจียงเหยามีโทรศัพท์มือถือ แต่เขาไม่ได้โทรหาเธอบ่อย เพราะเขากลัวว่าจะส่งผลต่อการเรียนของเธอ เมื่อเขาได้รับโทรศัพท์จากเจียงเหยา เขาคิดว่าเจียงเหยาคงมีเรื่องสำคัญ ถึงได้โทรมา
“เพื่อนร่วมงานบอกฉันว่าเธอโทรหาฉันเมื่อตอนเที่ยงเหรอ? มีอะไรหรือเปล่า?” เจียงเล่ยกังวลเล็กน้อยเมื่อเขาถาม “ไม่ชินที่ต้องอยู่หนานเจียงคนเดียวหรือเปล่า?”
“เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า?” เจียงเหยายิ้มอย่างอ่อนโยน “ฉันอยู่ที่เมืองหนานเจียงค่อนข้างดีทีเดียว แต่ก็ยังไม่ชินเท่าไหร่ เพื่อน ๆ ดีกับฉันมาก”
เจียงเล่ยตอบ “โอ้” แล้วพูดโดยไม่รู้ตัว “เงินค่าขนมพอใช้ไหม?”
ก่อนที่เจียงเหยาจะแต่งงาน เจียงเล่ยและเจียงเจียจะให้ค่าขนมแก่เธอหลังจากที่พวกเขาต่างก็ทำงานกันแล้ว พวกเขาจะให้เงินเธอไว้ซื้อของที่เธอชอบตอนเรียนมัธยม บางครั้งเวลาที่เข้าไปในเมือง เห็นเสื้อผ้าสวย ๆ พวกเขาก็มักจะซื้อติดมือมาฝากเธอด้วย
ตอนที่พี่น้องทั้งสามเรียนอยู่ เจียงเจียและเจียงเล่ยเอาใจใส่น้องสาวของพวกเขา ปกติพวกเขาจะหักเงินค่าขนมที่ได้จากพ่อแม่เก็บไว้ เขาจะใช้เงินอย่างระมัดระวัง และเกิดไว้สำหรับซื้อของขวัญสำหรับงานวันเกิดของเจียงเหยา
อาจเป็นเพราะพวกเขาเคยชินกับการให้เงินค่าขนมกับน้องสาว ทำให้เจียงเหยารู้สึกว่าน้องสาวของเขาอาจจะมีเงินค่าขนมไม่พอใช้ระหว่างที่เรียนมหาวิทยาลัยก็ได้
หลังจากที่เขาถมเสร็จ เขาก็เพิ่งคิดได้ว่าน้องสาวของเขาแต่งงานแล้ว
“ตลกอะไรขนาดนั้น? ไม่ต้องอายหรอกนะ ถ้าจะขอเงินฉัน ถึงแม้เธอจะแต่งงานแล้วก็ตาม แม้ว่าเธอจะอายุ 70 หรือ 80 ปี เธอก็คือน้องสาวของฉัน ถ้าฉันให้ได้ ฉันจะยังคงให้เธอเสมอ” เจียงเล่ยอธิบาย “ถ้าเธออายที่จะขอเงินจากตระกูลลู่ ก็บอกฉัน ฉันเพิ่งเปลี่ยนงาน ได้เงินเดือนเพิ่มค่อนข้างมาก”
“เจียงเหยา ตอนนี้ พี่เป็นพี่ชายที่พิเศษมากสำหรับฉัน” เจียงเหยาล้อเล่นก่อนจะอธิบายว่า
“ไม่ใช่ว่าฉันขาดเงิน ทุกอย่างของลู่ชิงสีต่างก็อยู่ในมือฉันทั้งหมด ถ้าพี่รองขาดเงินก็บอกฉันได้เลย ที่ผ่านมาพี่กับพี่ใหญ่ดูแลฉันมามากพอแล้ว ตอนนี้ถึงตาฉันแล้วที่ต้องตอบแทนบุญคุณของพี่ทั้งสอง”
หลังจากพูดคุยกับเจียงเล่ยมาสักพักหนึ่ง เจียงเหยาก็วกเข้าประเด็นหลัก “วันนี้เสี่ยวเซียวโทรหาฉัน บอกว่าพี่มักจะรังแกเธออยู่ตลอดเลย เจียงเล่ย พี่เป็นผู้ชายนะ ทำไมพี่ถึงรังแกเด็กสาวเล่า? พี่ช่วยผ่อนปรนให้เธอหน่อยไม่ได้หรือ เธอบอกว่าถ้าพี่รังแกเธอต่อไป เธอพร้อมที่จะพังพินาศไปพร้อมกับพี่”
“อะไรกัน? ลู่เสี่ยวเซียวน่ะเหรอเด็กสาว? ถ้าฉันจำไม่ผิด หล่อนอายุมากกว่าเธอไม่ใช่หรือ แล้วทำตัวยังกับเด็กที่ไม่หย่านม นี่หล่อนโทรมาบ่นกับเธอเหรอ? ถ้าเธอแน่จริงก็มาเลย ฉันจะสอนบทเรียนให้เธอเอง!”
เจียงเล่ยรู้สึกปวดท้องเมื่อได้ยินเจียงเหยาพูดถึงชื่อของผู้หญิงที่เขาไม่ชอบ และยิ่งได้ยินว่าลู่เสี่ยวเซียวโทรมาบ่นกับเจียงเหยา ทำให้เขายิ่งรู้สึกลำบากใจมากขึ้น “เขาไม่ได้ไปบอกเรื่องไร้สาระนี่กับทางตระกูลลู่ใช่ไหม? เขาได้ไปบอกลู่ชิงสีเรื่องนี้หรือเปล่า?”
“เปล่า เสี่ยวเซียวไม่ใช่คนแบบนั้น” เจียงเหยากล่าวอย่างรวดเร็ว “เธอโกรธที่พี่เอาแต่รังแกเธอ เธอเลยมาบอกฉันโดยตรง”
“พี่รอง ถึงแม้ฉันจะเป็นน้อง แต่พี่ก็ฟังฉันหน่อยเถอะ ถึงแม้ว่ามันจะไม่น่าฟังก็ตาม แม้ว่าเสี่ยวเซียวจะเป็นคนโผงผาง แต่เธอไม่ใช่คนที่โกหกอย่างแน่นอน และไม่ใช่คนไม่มีเหตุผล เธอไม่ได้มีความแค้นอะไรกับแฟนของพี่ เพราะงั้นเธอไม่มีเหตุผลที่จะใส่ร้ายแฟนของพี่เลยนะ”
“หล่อนบอกเธอเรื่องนี้ด้วยเหรอ?” เจียงเล่ยโกรธเล็กน้อย
__
ตอนที่ 658 ตัวสำรอง
“เธอพูดไปอย่างนั้น เพราะเธอหวังดี พี่รอง พ่อกับแม่เองก็ไม่ได้พูดหรอกเหรอ กี่ครั้งแล้วที่พ่อกับแม่อยากให้พี่กับเธอลงเอยกันเสียที? เธอตกลงไหมล่ะ? เธอมักจะอ้างว่าเธอยังเด็กอยู่เสมอ”
“เอาตรง ๆ นะพี่ พี่คิดว่าเธอยังเด็กอยู่หรือเปล่า? น้องสาวของพี่อายุน้อยกว่าเธอเสียอีก แต่ฉันแต่งงานมาปีกว่าแล้วนะ! เธอไม่อยากแต่งงานกับพี่และต้องการให้พี่เป็นตัวสำรอง คนแบบนี้ พี่ว่าเป็นผู้หญิงที่ดีไหมล่ะ”
คำพูดของเจียงเหยาไม่สุภาพกับพี่ชายของเธอเลยสักนิด “เธอเอาแต่พูดว่าเธอยังเด็ก หากมีคนรวยอยากจะแต่งงานกับเธอในตอนนี้ ดูสิว่าเธอจะยังปฏิเสธอยู่หรือเปล่า ดูว่าเธอยังอยากจะคบกับพี่ต่อหรือเปล่า!?”
“เจียงเล่ย ฉันไม่พอใจกับเรื่องนี้เท่าไหร่เลยนะ พี่เป็นพี่รองของฉัน ทำไมต้องไปเป็นตัวสำรองให้กับผู้หญิงอย่างเธอด้วย?”
“ทำไมพี่ต้องทุ่มเททั้งใจและกายให้กับเธอ? เธอไม่เห็นจะคิดจริงจังกับพี่ แล้วยังมองหาคนอื่นอยู่อีก?”
ยิ่งเจียงเหยาพูดมากเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งโกรธมากขึ้นเท่านั้น ในที่สุดเธอก็เข้าใจเหตุผลที่ลู่อี้ชิงไม่ชอบเธอในตอนนั้น
“เจียงเล่ย พี่เป็นพี่รองของฉันนะ ในหัวใจของฉัน ในโลกนี้มีผู้ชายไม่มากที่จะเทียบกับพี่ได้! ทำไมพี่ต้องสนับสนุนผู้หญิงที่ไม่จริงจังกับพี่? เธอคู่ควรกับพี่แค่ไหนกัน?”
ผู้หญิงแบบนั้นมีค่าควรแก่การทำร้ายความรู้สึกของเจียงเล่ยหรืออย่างไร?
“เอาล่ะ เอาล่ะ เรื่องของฉันน่า เธอเป็นลูกสาวที่แต่งงานแล้ว เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับเธอ” เจียงเล่ยไม่พอใจที่ได้ยินอย่างนั้น ยังไงอีกฝ่ายก็เป็นแฟนของเขา เมื่อได้ยินน้องสาวพูดถึงเธอแบบนั้น เขาก็ไม่ค่อยมีความสุขเช่นกัน
เขากลัวว่าเจียงเหยาจะพูดอะไรต่ออีก เจียงเล่ยจึงเปลี่ยนเรื่องอย่างรวดเร็ว “เธอนี่รู้จักพูดเสียจริง บอกฉันที ในโลกนี้ใครจะเทียบฉันได้ ตั้งแต่เด็ก ฉันก็ดีกับเธอมาตลอดไม่ใช่เหรอ?”
“ชิงสี พี่ใหญ่ แล้วก็พ่อ ส่วนพี่อะ ตามหลังพวกเขา” เจียงเหยาตอบอย่างซื่อสัตย์มาก
“หึ เป็นลูกสาวที่แต่งงานแล้วก็ไม่ต่างจากน้ำที่สาดออกไปเสียจริง แต่งงานได้เพียงปีกว่า นี่สามีของเธอมีความสำคัญมากกว่าพี่ชายที่เลี้ยงดูเธอมาแล้วหรือ! สาว ๆ นี่น๊าหลงระเริงกับความรักเสียจริง! ลู่ชิงสี กับพ่อ ก็พอรับได้ แต่ทำไมฉันถึงสู้พี่ใหญ่ไม่ได้เล่า ทำไมพี่ใหญ่ถึงนำหน้าฉันด้วย?”
“เพราะพี่ใหญ่ยอมฉันตลอดไง! ทุกครั้งเราทะเลาะกัน พี่ไม่เคยยอมให้ฉัน” เจียงเหยาตอบตามจริง “ระหว่างพี่ใหญ่กับพี่ แน่นอนว่าฉันต้องให้พี่ใหญ่มาก่อนพี่สิ โอ้ใช่ พี่ใหญ่กับพี่หวังเสี้ยนจะแต่งงานกันเมื่อไหร่? ได้คุยเรื่องวันหรือยัง?”
“สองวันก่อน พ่อกับแม่คุยเรื่องนี้กับทางครอบครัวหวังแล้ว กำหนดการก็เป็นช่วงวันหยุดฤดูหนาวที่เธอจะกลับบ้านนั่นล่ะ” หลังจากพูดจบ เจียงเล่ยก็ถอนหายใจ
สองวันก่อน เขาได้ช่วยเจียงเจียเตรียมบางอย่างสำหรับการขอแต่งงานอย่างเป็นทางการ อันที่จริง หัวใจของเจียงเล่ยเต็มไปด้วยความอิจฉา เขาเองก็อยากจะแต่งงานกับแฟนของเขา และสร้างครอบครัวกันโดยเร็วที่สุด แต่น่าเสียดายที่แฟนของเขามีความคิดอะไรต่อมิอะไรเสียมากมายและไม่อ่อนน้อมถ่อมตนเหมือนพี่สะใภ้ใหญ่
“พี่ใหญ่กับพี่สะใภ้ ฉันไม่กังวลหรอก ต่อไปพี่สะใภ้ก็คงเป็นคนที่ดีมาก เข้ามาอยู่ในตระกูลเรา เป็นลูกกตัญญูต่อพ่อแม่อย่างแน่นอน ฉันแค่เป็นห่วงพี่”
"เจียงเล่ย ฉันพนันกับพี่เลยนะ ถ้าพี่แต่งงานกับคนแบบแฟนพี่ได้ในช่วงชีวิตนี้ ฉัน เจียงเหยาจะเขียนชื่อของตัวเองกลับหัวให้พี่ดู!”
“คุณสามี ที่ภรรยามีชู้ ถ้าพี่รักเธอ พี่ก็เดินหน้าต่อเถอะ ตอนนี้เราต่างก็พูดกันอย่างตรงไปตรงมา มันอาจจะรุนแรงเสียหน่อย”
เจียงเหยาต้องการพัก ก่อนที่จะเข้าเรื่องแฟนของเจียงเล่ยอีกครั้ง แต่ตอนนี้เธอไม่สามารถทำอะไรได้ผ่านทางโทรศัพท์
“พี่คิดถึงแฟนโง่ ๆ ของพี่เถอะ ฉันไม่คุยกับพี่แล้ว!”