ตอนที่ 655+656 คุณทำได้
“ก็ตามใจคุณ!” ลู่ชิงสียอมจำนน “ขึ้นไปเถอะ”
เจียงเหยายิ้มอยากพอใจ ฉันก็จะดูว่าเขาจะทำได้แค่ไหน ในเมื่อเขาบอกว่าตามใจฉัน!
“ฉันถามคุณอะไรสำคัญกว่ากัน ระหว่างตัวฉันกับทะเบียนสมรส? คุณถึงกับบอกว่าจะทุบฉันเพียงแค่ทะเบียนสมรสนี่นะ?” หลังจากที่เจียงเหยากล่าว เธอก็มองไปที่ใบหน้าของลู่ชิงสี แล้วพูดต่อ “คิดให้รอบคอบก่อนที่จะตอบฉัน”
“ทั้งสองอย่างมีความสำคัญกับผม” ลู่ชิงสีตอบอย่างช่วยไม่ได้ เขารู้ว่าคำถามที่เธอกำลังจะถามนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะตอบ
ถ้าเขาบอกว่าเธอสำคัญ สิ่งที่รออยู่ก็คงจะเป็นทะเบียนสมรสที่อยู่ในกระเป๋าตกไปอยู่ในมือของเธอ
หลังจากตอบ ลู่ชิงสีก็เอนหลังและปลดเข็มขัดนิรภัยของเธอ เขายกมือขึ้นและตบศีรษะของเธอ “ผมแค่พยายามทำให้คุณกลัว ผมจะเอาชนะคุณได้ยังไง?”
“ฉันแค่พูดจาไร้สาระก็เท่านั้น” เจียงเหยาพึมพำ
เธอไม่ได้จะเอาจริงเอาจัง เธอไม่ต้องการให้เขาเลือกระหว่างสองคำถาม เธอเพิ่งเห็นว่าทะเบียนสมรสของลู่ชิงสีมีค่าเพียงใดและคิดว่ามันตลก เธอจึงอยากจะแกล้งเขา
เธอรู้อย่างชัดเจนในใจว่าทะเบียนสมรสมีความสำคัญต่อลู่ชิงสีเพราะภรรยาในทะเบียนสมรสคือเธอ เพราะคนที่แต่งงานกับเขาคือเธอ
ทัศนคติของเขาที่มีต่อทะเบียนสมรสไม่มีอะไรมากไปกว่าทัศนคติของเขาที่มีต่อเธอ
ในความเป็นจริง เจียงเหยาตกใจมากเมื่อเธอเอาทะเบียนสมรสออกจากกระเป๋าเงินของเขา เมื่อสังเกตเห็นทัศนคติของเขาที่มีต่อทะเบียนสมรส หัวใจของเธอก็ปั่นป่วนยิ่งขึ้นไปอีก
ลู่อี้ชิงพูดถึง อันที่จริง เธอไม่เข้าใจความรักของลู่ชิงสีที่มีต่อเธออย่างถ่องแท้
ลู่ชิงสีเฝ้าดูเจียงเหยาขึ้นไปชั้นบนจากก่อนที่เขาจะขับรถออกจากมหาวิทยาลัย เขาแวะไปเยี่ยมอู๋จงและเฉินจื่อบิ่น ก่อนที่จะแวะไปหาผู้กำกับเยว่
เขาแวะไปหาผู้กำกับก็เพราะเรื่องของจูเฉียนหลาน สำหรับเขามองว่าจูเฉียนหลานเป็นคนโง่ ทว่าน้องชายของเธอ จูเฉียนเหลียงไม่ใช่อย่างนั้น ด้วยความช่วยเหลือของจูเฉียนเหลียง บางทีจูเฉียนหลานอาจจะไม่ต้องออกจากเมืองหนานเจียงก็เป็นได้
แต่กระนั้น ภรรยาของเขาเกลียดจูเฉียนหลาน ดังนั้นจูเฉียนหลานจึงไม่ควรอยู่ในเมืองหนานเจียงต่อ จะได้ไม่ขัดหูขัดตาภรรยาของเขา
“นายท่านลู่ แวะมาหาผมถึงที่ มีอะไรพิเศษหรือเปล่าครับ?” หลังจากลู่ชิงสีอธิบายจุดประสงค์ในการมาของเขาเสร็จแล้ว ผู้กำกับเยว่ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เขากลัวว่ามันจะเป็นเหมือนครั้งที่แล้วจริง ๆ เขาไม่รู้ว่าใครตาถั่วไปยั่วยุลู่ชิงสีให้เรื่องมาถึงเขาได้
“ทำได้หรือเปล่า?” ลู่ชิงสีถามอย่างแผ่วเบา
“เรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ทำได้อยู่แล้วครับ” ผู้กำกับพยักหน้า “เรื่องแค่นี้ หากผมทำไม่ได้ ตำแหน่งของผมคงจะไร้ค่า”
“หากจูเฉียนหลานและจูเฉียนเหลียงยังไม่รู้ตัวอีก ให้บอกกับทางบริษัทของตระกูลจู ให้ออกจากเมืองหนานเจียงซะ ฉัน ลู่ชิงสีถือว่าติดค้างบุญคุณในเรื่องนี้” ลู่ชิงสีจากไปหลังจากทิ้งคำพูดเหล่านี้ไว้
สิ่งที่ลู่ชิงสีต้องการคือให้จูเฉียนหลานออกจากเมืองหนานเจียง เพื่อให้จูเฉียนเหลียงไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้และให้การช่วยเหลือจูเฉียนหลาน แม้ว่าผู้กำกับจะไม่เข้าใจว่าจูเฉียนหลานได้ยั่วยุอะไรนายท่านลู่ถึงให้เขาจัดการกับเธอเป็นการส่วนตัว แต่เพราะผู้หญิงคนนี้ได้ทำให้ใครคนหนึ่งขุ่นเคืองใจ วิธีเดียวคือการให้เธอออกไปจากเมืองหนานเจียงซะ
เมื่อลู่ชิงสีออกจากสถานีตำรวจ ผู้กำกับเยว่ได้จัดให้คนไปที่ศูนย์ซื้อขายหินหยาบของตระกูลจู จากนั้นเขาก็ส่งอีกทีมไปที่บริษัทเครื่องประดับของตระกูลจูในเมืองหนานเจียงและอยู่ที่นั่นถึงครึ่งค่อนวัน
__
ตอนที่ 656 เขารุกรานใครกันแน่?
ใครก็ตามที่มีสายตาที่เฉียบแหลมจะรู้ว่านี่เป็นปัญหาของตระกูลจู มีคนพยายามยุ่งกับตระกูลจูอยู่ลับ ๆ
ตลอดช่วงบ่ายจูเฉียนเหลียงและจูเฉียนหลานเหนื่อยล้ากับการรับมือกับสถานการณ์ หลังจากที่พวกเขาส่งคนเหล่านี้กลับออกไป จูเฉียนเหลียงก็เรียกจูเฉียนหลานไปคุยกันส่วนตัวในห้องทำงาน
“ก่อนหน้านี้ พ่อบอกว่าพี่ไปทำให้ใครสักคนในเมืองหนานเจียงไม่พอใจ นั่นคงเป็นสาเหตุที่มีปัญหากับธุรกิจหินหยาบในครั้งนี้ ตอนนี้บริษัทได้เข้ามาตรวจสอบเรื่องนี้ จูเฉียนหลานคิดให้ดี ว่าเธอไปทำร้ายใครกันแน่?”
ด้วยความโกรธ จูเฉียนเหลียงไม่ได้เรียกเธอว่าพี่สาวด้วยซ้ำ แต่เขาเรียกเธอด้วยชื่อจริง “ตอนอยู่ที่บ้าน พ่อกับแม่ก็บอกแล้วใช่ไหมว่าถ้าเธอควบคุมอารมณ์ไม่ได้ เธอจะไม่สามารถทำงานใหญ่ให้สำเร็จได้ บอกฉันมาจูเฉียนหลาน เธอจะให้พ่อแม่และฉัน น้องชายของเธอ ช่วยเธอไหม?”
“ฉันจะไปรู้ได้ยังไงว่าฉันไปรุกรานใคร?” หัวใจของจูเฉียนหลานเต็มไปด้วยความโกรธและเธอไม่รู้ว่าจะระบายกับใคร “ฉันอยู่ที่เมืองหนานเจียงมาก็นานหลายปี อารมณ์ฉันก็เป็นแบบนี้มาตลอด ฉันปกติดีมาตลอด แต่ใครจะไปคิดว่าช่วงนี้ฉันจะโชคร้าย! ทั้งหมดเป็นเพราะเจียงเหยานั่นแหละ! ตั้งแต่เธอปรากฏตัว ก็ไม่มีเรื่องดีเกิดขึ้นเลย! ยัยตัวซวย!”
จูเฉียนหลานกัดฟันและสาปแช่ง โทษความไม่พอใจทั้งหมดของเธอไปที่เจียงเหยา ตั้งแต่ที่เธอปรากฏตัวก็ไม่มีอะไรราบรื่นสำหรับอีกฝ่ายเลย!
จูเฉียนเหลียงพบประเด็นสำคัญในการสาปแช่งของจูเฉียนหลาน “นี่เธอกำลังจะบอกว่าเรื่องพวกนี้เกิดขึ้นหลังจากเธอกับเจียงเหยามีเรื่องบาดหมางกัน?”
“พี่ พี่กับเจียงเหยารู้จักกันตั้งแต่เมื่อไหร่?”
“พี่ไปทำอะไรให้เธอไม่พอใจ? เมื่อไหร่พี่จะฉลาดขึ้นเสียบ้าง?”
“สามีของเจียงเหยา เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่คนธรรมดา พี่พูดมาได้ยังไงว่าเขาเป็นทหารจน ๆ ที่เกาะผู้หญิงกิน?”
จูเฉียนเหลียงสงสัยว่าจูเฉียนหลานนั้นโชคร้ายจริง ๆ เพราะเธอทำให้เจียงเหยาขุ่นเคือง หากตัวตนของสามีของเจียงเหยาไม่ใช่เรื่องง่าย มันจะง่ายมากสำหรับเขาที่จะจัดการกับคนไร้สมอง อย่างจูเฉียนหลาน
ยิ่งไปกว่านั้น มันเป็นเรื่องบังเอิญด้วย พวกเขามีการพูดคุยที่ไม่น่าพอใจในร้านอาหารตอนกลางวัน และในช่วงบ่ายก็เกิดปัญหาขึ้นที่บริษัท
มันเป็นเรื่องบังเอิญเกินไปจริง ๆ ที่จะเรียกว่าเป็นความบังเอิญ
“ฉันคิดว่าสามีของทหารจน ๆ ! นายไม่เห็นเขาตอนใส่เครื่องแบบทหารเป็นยังไง หนวดเครารุงรัง ดูยังกับคนจน!” จูเฉียนหลานก็ไม่มั่นใจเช่นกัน “นายไม่ได้ขอให้ใครสักคนไปตรวจสอบตัวตนของเจียงเหยากับสามีของเธอหรอกเหรอ?”
“นี่มันก็บ่ายแล้ว ยังไม่ได้เรื่องอะไรเลย การตรวจสอบอาจไม่ใช่เรื่องง่าย” จูเฉียนเหลียงกล่าว “หากสามีของเจียงเหยาเป็นทหารระดับสูงจริง ๆ คนของเราอาจจะไม่สามารถค้นหาตัวตนของเขาได้”
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ จูเฉียนเหลียงจึงตัดสินใจไม่นั่งเฉย ๆ และรอความตาย
หากเป็นเช่นนี้ต่อไป บริษัทของตระกูลจูจะต้องเสียชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือในเมืองหนานเจียง
“ฉันจะไปด้วยตัวเอง” หลังจากที่จูเฉียนเหลียงกล่าวจบ เขาก็หยิบกุญแจรถขึ้นมาจากบนโต๊ะและคิดกับตัวเองว่า คนที่ไปสถานที่ขายหินหยาบในวันนี้คือคนจากสำนักความมั่นคงสาธารณะ พวกเขาเข้าไปตรวจสอบด้วยข้อกล่าวหาเรื่องการสร้างปัญหาและการพนัน ช่วงบ่ายก็มีสำนักภาษี.. สำนักงานอุตสาหกรรมและการค้า กับแผนกดับเพลิงเข้ามาตรวจสอบ เขาจึงตัดสินใจไปหาข้อมูลที่สำนักงานอุตสาหกรรมและสำนักงานพาณิชย์เป็นอย่างแรก
...
เจียงเหยากลับไปที่หอพักของเธอ เด็กสาวในหอกำลังนั่งพัก คุยกันเรื่องอาหารเย็น
หลังจากที่เจียงเหยาเข้ามา เธอทักทายเพื่อนทั้งสาม ก่อนที่เธอจะถูกสาว ๆ หยอกล้อ ในหัวก็แวบคิดถึงเจียงเล่ยขึ้นมา
เจียงเหยากดโทรหาเจียงเล่ย เพราะเขาไม่มีโทรศัพท์มือถือ ดังนั้นเธอจึงโทรไปที่ทำงานของเขา และขอให้คนที่รับสายบอกให้เขาโทรกลับเมื่อเขาว่าง