577 - กวาดล้างทุกทิศทาง
577 - กวาดล้างทุกทิศทาง
หลายคนในเด็กรุ่นเยาว์ต่างก็แก่งแย่งชิงดีที่จะเป็นคนแรกในการปราบปรามร่างศักดิ์สิทธิ์เซียนโบราณผู้ที่ได้ชื่อว่าแข็งแกร่งไม่มีผู้ใดในรุ่นเดียวกันเทียบได้
ร่างเซียนความสำเร็จเบื้องต้นยังไม่เสถียร หลายคนได้เห็นสิ่งนี้ แล้ว หากปล่อยให้เวลาล่วงเลยไปเกรงว่าจะไม่มีผู้ใดสามารถทอนความแหลมคมของเขาลงได้เป็นผลสำเร็จ
ดวงจันทร์ที่เจิดจ้าราวกับแผ่นเงินขนาดใหญ่ที่แขวนอยู่บนท้องฟ้ายามราตรี มีแสงส่องลงมาอย่างนุ่มนวล และเมืองศักดิ์สิทธิ์ดูเหมือนจะถูกปกคลุมไปด้วยหมอกสีทอง
เย่ฟ่านกำลังยืนอยู่ในความว่างเปล่า เขาไม่รู้จักยอดฝีมือรุ่นเยาว์หลายคนที่อยู่ข้างหน้า นอกจากราชาเผิงน้อยปีกทองและเซี่ยจี้โหยว คนอื่นก็ไม่อยู่ในสายตาของเขาเลย
ทั้งสองเป็นยอดฝีมือผู้ยิ่งใหญ่ที่อายุน้อย พวกเขายังมีอนาคตที่สดใส หากเกิดการต่อสู้กันในตอนนี้ เย่ฟ่านเชื่อว่ามันจะเป็นมหาสงครามที่ยากจะกำหนดผลแพ้ชนะได้
เย่ฟ่านรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยที่บุตรศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงไม่ได้ก้าวออกมาข้างหน้า เขายังคงยืนอยู่ตรงนั้นด้วยท่าทางสงบและไม่มีทีท่าว่าจะลงมือแม้แต่น้อย
“นายน้อยอย่าเพิ่งไป!”
ชายชราสองคนในชุดสีเทาจับแขนของเซี่ยจี้โหยวไว้แน่น
ในอีกด้านหนึ่ง ราชันเผิงสวรรค์ก็ปรากฏตัวขึ้นโดยเอามือแตะไหล่ของราชาเผิงน้อยปีกทอง ทำให้เขาเคลื่อนไหวได้ยาก
"ข้าจะสู้กับเจ้า!"
ในตอนนี้มีชายหนุ่มชุดเหลืองคนหนึ่งกระโดดออกมาด้านหน้า
"เจ้าคือใคร?" เย่ฟ่านถาม
“ข้าไม่มีอะไรจะพูดกับเจ้า ขอข้าดูหน่อยเถอะว่าร่างเซียนของเจ้าแข็งแกร่งเพียงใด ระวังไว้ด้วย บางทีเจ้าอาจจะถูกฆ่าตายโดยไม่มีโอกาสเสพสุขกับช่วงเวลาอันยิ่งใหญ่นี้!”
ชายชุดเหลืองพูดด้วยท่าทีเยาะเย้ยค่อนข้างไม่สุภาพ แต่ลักษณะท่าทางของเขากลับเต็มไปด้วยความระมัดระวัง และเขายืนอยู่ห่างจากเย่ฟ่านไกลพอสมควร
ไม่นานมานี้เย่ฟ่านมีความสามารถในการต่อต้านทัณฑ์สายฟ้าแห่งสวรรค์ที่ใครๆก็รู้ดีถึงความน่ากลัว ความแข็งแกร่งของเขาจะเป็นสิ่งที่ผู้คนสามารถประมาทได้อย่างไร
เย่ฟ่านไม่พูดอะไรอีก เขาก้าวทีละก้าวและโจมตีออกไปด้วยท่าทางไม่แยแส
เด็กหนุ่มชุดเหลืองไม่กล้าที่จะให้เย่ฟ่านเข้ามาใกล้ เขาตัดสินใจอย่างเด็ดขาดที่จะบินขึ้นสู่ท้องฟ้าด้วยแสงศักดิ์สิทธิ์ที่ส่องสว่างอย่างงดงาม
แน่นอนสิ่งที่น่าตกใจยิ่งกว่านั้นคือพลังงานที่ผันผวนออกมาจากร่างกายของเขา เห็นได้ชัดว่าการต่อสู้ครั้งนี้เขาได้รับ “สิ่งประดิษฐ์ต้องห้าม” บางอย่างมาด้วย
ในโลกนี้มีสิ่งที่เรียกว่าสิ่งประดิษฐ์ต้องห้ามมากมาย ซึ่งส่วนใหญ่สามารถใช้ได้เพียงไม่กี่ครั้งและจะถูกทำลาย พวกมันทั้งหมดเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่ใช้โจมอย่างรุนแรงและถูกห้ามไม่ให้ใช้ในการต่อสู้ตัวต่อตัว
ชายชุดเหลืองสำนึกตัวเองดีว่ามีความแข็งแกร่งมากแค่ไหน แน่นอนว่าเขาไม่ได้มาดวลกันจริงๆ เขาเพียงต้องการพึ่งพาสิ่งประดิษฐ์ต้องห้ามเพื่อกำจัดเย่ฟ่านทำให้ผู้อาวุโสที่สนับสนุนอยู่ด้านหลังเกิดความพอใจ
"การใช้สิ่งประดิษฐ์ต้องห้ามในการต่อสู้ตัวต่อตัวถือเป็นเรื่องที่ผิดกฎ"
"สิ่งประดิษฐ์ต้องห้ามพวกนี้ไม่ใช่ว่าจะสร้างขึ้นมาง่ายๆ มีใครบางคนอยู่เบื้องหลังเขา!"
หลายคนเริ่มมองดูการต่อสู้ด้วยความตื่นเต้น แม้ว่าพวกเขาจะรู้ว่าสิ่งนี้ผิดกติกา แต่ในเมื่อราชันย์ศักดิ์สิทธิ์ผู้เฒ่าไม่ได้เอ่ยปากทุกคนต่างก็แกล้งทำเป็นมองไม่เห็น
“ชัว”
เย่ฟ่านหายตัวไปจากที่เดิมก่อนจะปรากฏขึ้นต่อหน้าชายชุดเหลืองด้วยท่าทางสงบ
“เจ้า...”
ชายหนุ่มชุดเหลืองตกใจ ไม่มีใครคิดว่าเย่ฟ่านจะเคลื่อนที่ได้รวดเร็วถึงขนาดนี้ อย่างไรก็ตามในตอนนี้เย่ฟ่านไม่เปิดโอกาสให้ฝ่ายตรงข้ามยอมแพ้อย่างแน่นอน
“ปากา!”
แสงทุกชนิดส่องประกาย อาวุธศักดิ์สิทธิ์ของชายหนุ่มชุดเหลืองพุ่งออกมาข้างหน้าแต่ก็ถูกกำปั้นของเย่ฟ่านทำลายลงในเสี้ยวลมหายใจนั้น
“พัฟ”
นิ้วสีทองของเย่ฟ่านแทงทะลุศีรษะของเด็กหนุ่มชุดเหลือง มันสมองและเลือดของเขาสาดกระจายไปทั่ว การลงมือเพียงกระบวนท่าเดียวก็ปรากฏผลแพ้ชนะ
ผู้คนมากมายสูดลมหายใจเย็นยะเยือก แม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้ว่าชายหนุ่มชุดเหลืองคนนี้เป็นใคร แต่ทุกคนต่างก็รู้ดีว่าเขาต้องเป็นหนึ่งในบุตรศักดิ์สิทธิ์สำรองของมหาอำนาจสักแห่งในดินแดนรกร้างตะวันออกอย่างไม่ต้องสงสัย
เสื้อผ้าของเย่ฟ่านไม่ได้เปื้อนเลือด เขาไม่แม้แต่จะหันหลังกลับ ดวงตาของเขาเฉียบแหลมและกวาดไปยังเด็กหนุ่มรุ่นเยาว์หลายคนที่อยู่ด้านล่าง
“ใครจะมาอีก!”
หลายคนในเด็กรุ่นเยาว์หน้าเปลี่ยนสี พวกเขาเกิดความลังเลอย่างหนัก แต่สุดท้ายภายใต้การหว่านล้อมของผู้อาวุโสที่อยู่ด้านหลัง ในที่สุดก็มีเด็กหนุ่มคนหนึ่งก้าวออกมาข้างหน้า
"ข้าจะเป็นคนฆ่าเจ้าเอง!"
ชายหนุ่มคนนั้นมีอายุประมาณ 30 ปี เขาคือยอดฝีมืออาณาจักรสี่สุดขั้วที่เตรียมจะทะลวงอาณาจักรต่อไปในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้เท่านั้น
“ครืน!!”
ร่างกายของเขาเปล่งแสงอันวิจิตรงดงาม และชุดสีเงินอันเยือกเย็นก็ปรากฏขึ้น มันปกป้องร่างกายของเขาอย่างแน่นหนา แสงสีเงินส่องประกายวิบวับ นี่คืออาวุธศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในระดับเริ่มต้น!
"นี่คือ... ชุดเกราะระดับราชันย์ศักดิ์สิทธิ์!"
หลายคนประหลาดใจที่ชุดเกราะสีเงินผสานกฎสวรรค์และปฐพีเข้าด้วยกันด้วยเสน่ห์ของสุดยอดเต๋า แต่ในขณะเดียวกันเด็กหนุ่มคนนี้ก็มีตัวตนลึกลับมาก ไม่มีผู้ใดรู้ว่าเขาคือใคร
“คนผู้นี้เป็นใคร เขามีชุดเกราะระดับราชันย์ศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างไร”
“คนผู้นี้มาจากแคว้นภาคกลาง ข้าเห็นเขายืนอยู่กับผู้อาวุโสคนหนึ่งที่สังกัดร้อยสำนักภาคกลาง!”
ทุกคนตกใจมากนี่เป็นยอดฝีมือหนุ่มอย่างแน่นอน ไม่คิดว่าทันทีที่ร่างศักดิ์สิทธิ์เซียนโบราณประสบความสำเร็จ จะมีคนที่แข็งแกร่งขนาดนี้ออกมาท้าทายเขา
"สังกัดร้อยสำนักของภาคกลางกู่หมิงเต้า" ชายหนุ่มคนนั้นประกาศชื่อของตัวเอง
เขาไม่ได้ทำตัวหลบๆซ่อนๆเหมือนกับเด็กหนุ่มชุดเหลืองที่เสียชีวิตเมื่อสักครู่นี้ เขาประกาศสำนักของตัวเองโดยหวังว่าจะเอาชนะร่างศักดิ์สิทธิ์เซียนโบราณเพื่อสร้างชื่อในครั้งเดียว
ในมือของเขาถือตะเกียงโบราณและแสงศักดิ์สิทธิ์สีม่วงก็ยิงเข้าหาเย่ฟ่านด้วยพลังอันน่าอัศจรรย์
ตะเกียงโบราณสีม่วงทองนี้ก็ถือได้ว่าเป็นอาวุธระดับราชันย์ศักดิ์สิทธิ์อย่างไม่ต้องสงสัย ภายใต้แสงศักดิ์สิทธิ์ที่มันยิงออกมานั่นแสดงให้เห็นว่ามันมีวิญญาณเป็นของตัวเองอีกด้วย
กู่หมิงเต้าลงมือโดยไม่ได้พูดอะไรมาก เขาเต็มไปด้วยความมั่นใจ เขารู้สึกว่าความแข็งแกร่งของตัวเองไม่เป็นรองบุตรศักดิ์สิทธิ์คนใดในโลก ดังนั้นเขาจึงกล้าที่จะออกมาต่อต้านเย่ฟ่านเพียงลำพัง
เย่ฟ่านถือกระบี่ขนาดเล็กยาวประมาณหนึ่งนิ้วไว้ในมือ ทันทีที่เขาอัดพลังศักดิ์สิทธิ์เข้าไป กระบี่มังกรดำของเขาก็มีขนาดยาวขึ้นหลายสิบจ้างและตัวกระบี่ก็อัดแน่นไปด้วยเจตจำนงแห่งสวรรค์และปฐพี
“ครืน!”
เย่ฟ่านเหวี่ยงกระบี่ขนาดใหญ่ที่มีความยาวสิบจ้างบดขยี้ความว่างเปล่า เขาแสดงความแข็งแกร่งโดยไม่คิดจะหลีกเลี่ยงการปะทะตรงๆกับกู่หมิงเต้า
"ปัง" "ปัง..."
ร่างกายของกู่หมิงเต้าบินถลากลับไปด้านหลัง หากไม่ใช่การปกป้องจากเสื้อเกราะศักดิ์สิทธิ์เกรงว่าเขาคงถูกสังหารด้วยกระบี่มังกรดำไปแล้ว
แต่ตอนนี้วิกฤตของเขายังไม่จบ ทันทีที่เขาถอยหลังออกมาเขาก็กระอักเลือดคำใหญ่ และเย่ฟ่านก็ทำการไล่ล่าเขาอย่างรวดเร็ว
“ร่างศักดิ์สิทธิ์เซียนโบราณ เจ้าแข็งแกร่งมากนักหรือ!”
กู่หมิงเต้าตะโกนด้วยความโกรธ เห็นได้ชัดว่าการปะทะกันเมื่อสักครู่นี้ทำให้เขาได้รับบาดเจ็บไม่น้อย
“ปัง!”
ตะเกียงทองคำม่วงที่อยู่ในมือของกู่หมิงเต้าโบยบินขึ้นไปบนท้องฟ้า หลังจากที่มันพลิกคว่ำเปลวไฟสีม่วงก็ถูกปลดปล่อยออกมาท่วมท้นเย่ฟ่านในทันที
ภาพนี้เป็นสิ่งที่งดงามบาดตาอย่างยิ่ง เปลวไฟสีม่วงโหมกระหน่ำขึ้นสู่ท้องฟ้าราวกับคลื่นยักษ์หลายหมื่นลูกที่พร้อมจะทำลายทั้งสวรรค์ในการโจมตีเพียงครั้งเดียว
เย่ฟ่านยืนอยู่ตรงกลางด้วยท่าทางสงบนิ่ง แม้ว่าเปลวไฟสีม่วงพวกนี้จะมีความรุนแรงที่น่าเหลือเชื่อแต่มันก็ยังเทียบไม่ได้กับเปลวไฟที่เขาเก็บมาจากเขาสุริยันร่วงในดินแดนปิดผนึกชีวิต
“นี่คือยอดฝีมืออาณาจักรสี่สุดขั้วที่ครอบครองอาวุธศักดิ์สิทธิ์ พวกเขาแข็งแกร่งจริงๆ!” หลายคนกลัวจนตัวแข็ง