ตอนที่แล้วเกิดใหม่เป็นลิโป้ ตอนที่ 16
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเกิดใหม่เป็นลิโป้ ตอนที่ 18

เกิดใหม่เป็นลิโป้ ตอนที่ 17


เกิดใหม่เป็นลิโป้ ตอนที่ 17

"โกซุ่น ข้าจำเป็นต้องไปที่ลั่วหยาง มีธุระต้องจัดการ เรื่องราวในกองทัพยกให้เจ้าดูแล หากมีเรื่องราวสำคัญ เจ้าก็ร่วมหารือกับแม่ทัพโจ หามีใครถามหาข้า เจ้าก็บอกไปว่าข้าล้มป่วย ไม่ต้อนรับแขก" ลิโป้กล่าวพลางถอดชุดเกราะออก

"ท่านแม่ทัพ ลั่วหยางมีทหารของตั๋งโต๊ะอยู่หนาแน่น ท่านจะพาตัวเข้าไปเสี่ยงอันตรายได้อย่างไร? หากเกิดเรื่องใดขึ้นกับท่านแม่ทัพ แล้วทัพปิงโจวจะทำอย่างไร? ขอท่านแม่ทัพโปรดไตร่ตรองอีกครั้งด้วยเถอะ" โกซุ่นพลันกล่าวขึ้นด้วยความกังวล

"ไม่ใช่ว่าเจ้าไม่รู้สักหน่อยว่าฝีมือของแม่ทัพผู้นี้เป็นอย่างไร นอกจากนี้ การเดินทางไปยังเป็นการไปอย่างลับๆ ข้าจะไปพบปะสหายเก่าผู้หนึ่ง ไม่เกินสามวันห้าวัน ข้าจะกลับมา หากเดาไม่ผิด อีกไม่นานกองทัพพันธมิตรจะสามารถยึดด่านกิสุยก๋วนได้แน่" ลิโป้กล่าวอย่างปลอดโปร่ง เมื่อได้รับจดหมายจากลิซก เขาก็เตรียมตัวจะเดินทางไปยังลั่วหยางทันที ในใจเฝ้าคิดที่จะรับตัวกาเซี่ยงเข้ามาในสังกัดโดยเร็วที่สุด

ไพร่พลหาง่าย แม่ทัพยากเสาะหา ยากยิ่งกว่าคือกุนซือ

"ท่านแม่ทัพ...."

"ไม่ต้องพูดแล้ว ข้าตัดสินใจไปแล้ว ข้าจะไม่เผยตัวในเมืองลั่วหยางก็แล้วกัน" ลิโป้โบกมือ เขาคาดหวังในตัวกาเซี่ยงไว้อย่างสูง ย่อมไม่ต้องการจะพลาดโอกาสไป

เมื่อเห็นว่าลิโป้ตัดสินใจขั้นเด็ดขาดไปแล้ว โกซุ่น โจเส็ง ก็ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องปฏิบัติตาม พวกเขาได้แต่ภาวนาว่าลิโป้จะกลับมาอย่างปลอดภัย และหวังว่าเหล่าเจ้าเมืองจะไม่ระแคะระคายเรื่องนี้

หลังจากผลัดเปลี่ยนเป็นชุดลำลองทั่วไป ลิโป้ก็ออกเดินทางโดยลำพัง เขารู้สึกสบายใจขึ้น อย่างไรเสียเขาก็มีประสบการณ์เป็นหน่วยรบพิเศษมาก่อน การเดินผ่านเขาท่องลำเนาไพรเป็นสิ่งถนัดจัดเจนอยู่แล้ว การจะหาตัวเขาพบนับว่ายากยิ่งกว่ายาก อย่าว่าแต่เมืองลั่วหยางอันกว้างใหญ่เลย ต่อให้ตั๋งโต๊ะมีคนอยู่มากมาย ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะตรวจค้นได้ทุกตารางนิ้วอย่างละเอียด ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ตราบที่เขาได้พบกาเซี่ยงและชักชวนได้สำเร็จ มันก็คุ้มค่าที่จะเสี่ยง

ลิโป้ออกเดินทางมุ่งหน้าไปยังลั่วหยางทั้งวันทั้งคืน ไม่นานก็มาถึง แม้จะเคยเห็นลั่วหยางมาแล้วหลายครั้ง แต่ลิโป้ก็ยังอดถอนใจชมเชยไม่ได้ อย่างไรเสียนี่ก็คือนครหลวงแห่งราชวงศ์ฮั่น ด้วยคูน้ำที่กว้างขวาง กำแพงที่สูงใหญ่ เกรงว่าต่อให้กองทัพพันธมิตรใช้เวลาบุกตีอยู่สามปีห้าปีก็คงจะไม่สำเร็จ

เมื่อกลมกลืนไปในฝูงชน ลิโป้ก็ผ่านเข้าเมืองลั่วหยางได้อย่างง่ายดาย หลังจากปลอมแปลงโฉมแล้ว เขาก็มั่นใจว่าจะไม่มีใครจดจำได้แน่

ในระหว่างทาง ประชาชนที่เขาพบเห็นล้วนแต่อยู่ในสภาพตื่นตระหนก ทหารม้ากลุ่มแล้วกลุ่มเล่าควบม้าตัดผ่านถนนทางเดิน ร้านค้าหลายแห่งถูกทิ้งว่างเปล่า บ้านเรือนดูเงียบเหงาวังเวง หลายหลังมีร่องร่อยของการถูกรื้อค้น รอยเลือดสามารถพบเห็นได้เกลื่อนพื้น

"ท่านย่ามันเถอะ เกิดอะไรขึ้นกัน?" ลิโป้เกิดความสงสัย ตอนที่เขามาลั่วหยางครั้งก่อน บรรยากาศเต็มไปด้วยความสงบสุขเจริญรุ่งเรือง ผ่านไปเพียงไม่กี่เดือน สภาพการณ์กลับกลายเป็นแบบนี้ไปเสียแล้ว ตั๋งโต๊ะช่างมีความสามารถเสียจริงๆ

"น้องชายๆ ยังไม่รีบหนีอีก ตอนนี้พวกทหารกำลังออกปล้นฆ่าไปทั่วเมือง สตรีที่มีชาติตระกูลดีล้วนแต่ถูก...." ชายชราดูเหมือนจะนึกได้ถึงเรื่องเลวร้าย หยาดน้ำตาจึงไหลรินไม่หยุด เขาโบกมือไล่ลิโป้ก่อนที่ตัวเองจะรีบวิ่งหนีไป

ผ่านสายตาของลิโป้ เมืองลั่วหยางอันเฟื่องฟูกำลังตกอยู่ในความตื่นตระหนก ประชาชนทุกคนตกอยู่ในอันตราย สามารถพบเห็นคนถูกกลุ่มทหารฉุดกระชากลากถูได้ทั่วทุกหนทุกแห่ง เสียงร้องไห้ของเด็กๆ ชาวเมืองที่ต่อสู้ขัดขืน ความวุ่นวายโกลาหลเข้าปกคลุมเมืองลั่วหยางแล้ว

"นายท่านทหาร เฉ่าหมิน[1] มีกิจการอยู่ในลั่วหยาง จะเป็นกบฏไปได้อย่างไร? ขอท่านทหารโปรดเมตตาด้วยเถอะ"

[1 เป็นคำที่ชาวบ้านใช้เรียกตัวเองเวลาพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ทางการ]

ทหารนายนั้นพลันยกขาถีบชาวเมืองล้มคว่ำไป แต่ดูเหมือนว่าจะยังไม่สะใจพอ เขาพลันชักดาบออกมาฟันสังหารซ้ำก่อนจะกล่าวอย่างเย็นชา "ข้าบอกว่าเจ้าเป็นกบฏ เจ้าก็เป็นกบฏ!"

"ดูเหมือนลั่วหยางจะวุ่นวายขั้นสุดแล้ว" ลิโป้ถอนหายใจเบาๆ จากนั้นรีบเร้นกายจากไป

ลิซกมีบ้านอยู่ภายในเมืองลั่วหยาง ซึ่งเป็นบ้านที่ตั๋งโต๊ะยกให้เพื่อซื้อใจเหล่าผู้ใต้บังคับบัญชา ขอเพียงมีคนในราชสำนักคัดค้านตั๋งโต๊ะ เขาจะสั่งคนไปยึดบ้านยึดจวนมาทันที

ขณะเดินไปตามเส้นทางอันคดเคี้ยวที่ทอดไปถึงเก๋งหลังหนึ่ง ลิโป้ก็ผงกศีรษะเบาๆ ดูเหมือนชีวิตความเป็นอยู่ภายในเมืองลั่วหยางของลิซกจะไม่เลวทีเดียว

"เฟิ่งเสียน คิดไม่ถึงว่าเจ้าจะมาจริงๆ ที่นี่คือลั่วหยางนะ?" ลิซกประหลาดใจยิ่งเมื่อได้เห็นลิโป้ อย่างไรเสียลิโป้ก็เป็นหนึ่งในผู้นำสิบแปดหัวเมือง คิดไม่ถึงว่าจะเดินทางมาเพื่อพบกาเซี่ยงด้วยตัวเองเช่นนี้ ยังไม่ต้องกล่าวถึงว่ากาเซี่ยงยังไม่ได้รับปากว่าจะแปรพักต์ไปเข้าร่วมกับลิโป้ด้วยซ้ำ ขอเพียงเขานำเรื่องนี้ไปแจ้งต่อตั๋งโต๊ะ ลิโป้ก็จะตกอยู่ในอันตราย กระนั้นเขาก็ยังรู้สึกชื่มชมในความกล้าหาญของลิโป้จริงๆ

"เว่ยกง ไฉนประชาชนในเมืองลั่วหยางจึงตื่นตระหนกเช่นนี้? หรือกำลังจะมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้น?" ลิโป้เอ่ยถาม

ลิซกสาวเท้าไปที่ประตูก่อนจะมองซ้ายมองขวา สุดท้ายจึงค่อยปิดประตูให้สนิท เขากลับมาหาลิโป้ก่อนจะกล่าวเสียงเบา "ไม่ขอปกปิดเฟิ่งเสียน ท่านอุปราชต้องการจะย้ายเมืองหลวงไปยังฉางอัน ตอนนี้พวกทหารกระจายกันออกไปทั่วทั้งเมือง จวนพ่อค้าคหบดีที่มั่งคั่งล้วนถูกเรียกว่าโจรกบฏ ถูกฆ่ายึดทรัพย์จนสิ้น" กล่าวถึงเรื่องนี้ ลิซกก็ดูอึดอัดยิ่ง

"ย้ายเมืองหลวง? ตอนนี้กองทัพพันธมิตรยังยึดด่านกิสุยก๋วนไม่ได้ด้วยซ้ำ กำแพงของเมืองลั่วหยางก็สูงใหญ่มั่นคง ทำไมถึงคิดจะย้ายซะล่ะ?" ลิโป้ประหลาดใจ ในความคิดของเขา โอกาสชนะของตั๋งโต๊ะยังสูงมาก แม้กองทัพพันธมิตรจะมีกำลังคนมากกว่า หากแต่ก็ขาดการฝึกฝน จิตใจไพร่พลไม่หนักแน่น ยากที่จะทำศึกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยิ่งกว่านั้นในทัพยังมีคนขี้ขลาดตาขาวอย่างอ้วนสุดอยู่ ต้องบอกว่ายากจะปราบพิชิตตั๋งโต๊ะลงได้จริงๆ

"เฟิ่งเสียน หากว่าด่านกิสุยก๋วนถูกตีแตก เป้าหมายต่อไปของกองทัพพันธมิตรก็คือด่านเฮาโลก๋วน หากตีแตกอีกครั้งก็จะจ่อประชิดลั่วหยางแล้ว ท่านอุปราชไม่กล้าเสี่ยง ประกอบกับตามตลาดปรากฏเพลงกล่อมเด็ก 'ตะวันออกมีเมืองฮั่น ตะวันตกก็มีเมืองฮั่น เมื่อกวางเข้าสู่ฉางอัน เภทภัยจะหมดสิ้น' นี่ยิ่งทำให้ท่านอุปราชกระตือรือร้นที่จะย้ายเมืองหลวงไปยังฉางอันยิ่งกว่าเดิม" ลิซกอธิบาย

"เป็นว่าตอนนี้โจรเฒ่าตั๋งโต๊ะไม่ได้อยู่ที่ด่านกิสุยก๋วนแล้ว?" ลิโป้ถามขึ้นอย่างประหลาดใจ คิดไม่ถึงว่าตั๋งโต๊ะจะจากมาโดยไม่มีผู้ใดทราบระแคะระคายแม้แต่น้อย ดูเหมือนว่าสายข่าวของกองททัพพันธมิตรจะย่ำแย่ยิ่ง หลังจากล้อมตีอยู่หลายวัน สภาวะก็อ่อนโทรมลง ดังนั้นจึงไม่มีผู้ใดมีใจจะบุกตีพิสูจน์ทราบความจริง

"ใช่ ท่านอุปราชกลับมาลั่วหยางได้สองสามวันแล้ว"

"ตั๋งโต๊ะกระตือรือร้นจะย้ายเมืองหลวงไปฉางอัน บางทีอาจจะไม่ใช่เพราะเพลงกล่อมเด็กเพียงอย่างเดียว?"

"เฟิ่งเสียน เหล่าเจ้าเมืองประกาศกร้าวว่าจะบุกตีลั่วหยาง หากพวกเขายึดครองเมืองด่านรอบๆลั่วหยางได้สำเร็จ ถึงตอนนั้นท่านอุปราชก็จะหนีไปไหนไม่ได้แล้ว" ลิซกถอนหายใจ

"แบบนี้นี่เอง" ลิโป้พยักหน้า ฝ่ายพันธมิตรมีกำลังคนและม้ามากกว่าฝ่ายตั๋งโต๊ะ อีกทั้งเหล่าเจ้าเมืองยังมีความชอบธรรม ไพร่ฟ้าประชาราษฎร์ให้การสนับสนุน หากว่าลั่วหยางถูกปิดล้อมจริงๆ ตั๋งโต๊ะต้องไม่รอดแน่

"เว่ยกง ตอนนี้การกระทำของตั๋งโต๊ะสร้างศัตรูไปทั่วหล้า และแม้ว่าปิงโจวจะแร้นแค้น แต่ก็เป็นบ้านเกิดเมืองนอนของพวกเรา ใยพวกเราไม่มาร่วมมือกันเล่า?" ลิโป้กล่าวเกลี้ยกล่อมอีกครั้ง

"นี่...."จิตใจลิซกปั่นป่วนยุ่งเหยิง ด้านหนึ่งก็ทำงานให้ราชสำนัก อีกด้านหนึ่งก็เป็นสหายเก่า แต่ใจจริงตัวเขาก็ไม่ได้ยึดติดอยู่กับตั๋งโต๊ะสักเท่าใดนัก

นับตั้งแต่กลับจากค่ายของลิโป้ ในใจของเขาก็ปรากฏความชั่ววูบ อยากจะร่วมมือกับลิโป้ สร้างความสำเร็จด้วยกัน

"ปิงโจวยินดีต้อนรับเว่ยกง" ลิโป้จ้องมองลิซก

สัมผัสได้ถึงความจริงใจของลิโป้ ลิซกก้ก้มหน้าลงใช้ความคิดอยู่พักใหญ่ สุดท้ายเขาก็ค้อมตัวคำนับลิโป้และกล่าวว่า "นายท่าน ข้าน้อยจะพยายามสุดความสามารถเพื่ออุดมการณ์อันยิ่งใหญ่ของนายท่าน"

ลิโป้รีบประคองลิซกขึ้น "เว่ยกง ให้เรียกข้าเหมือนปกติเถอะ"

"นายท่าน นี่ไม่ได้ มิฉะนั้นจะผิดจารีต" ลิซกยืนกรานหนักแน่น

"เอาตามเว่ยกงว่าก็ได้" ลิโป้กล่าวด้วรอยยิ้ม "เมื่อมีเว่ยกงคอยช่วยเหลือ กองทัพของข้าก็เปรียบเสมือนเสือติดปีก"