เกิดใหม่เป็นทารกขั้นเทพ ตอนที่ 97
ตอนที่ 97
ความปั่นป่วนโกลาหลก่อตัวขึ้นทุกทิศทาง ผืนป่าของแดนรกร้างกำลังสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง และความเร็วของเจ็ดก้าวสวรรค์กลับกลายก็เพิ่มขึ้นทีละระดับอย่างไม่น่าเชื่อ ทุกทิศที่หลินซวนเคลื่อนผ่านจะก่อเกิดความวินาศสันตะโรขึ้นจากกระแทกของความเร็วที่พุ่งผ่านอากาศของเขาอย่างช่วยมิได้
อสูรมากมายได้ยินเสียงดังสนั่นที่เกิดขึ้น พวกมันเงยหน้าขึ้นเพื่อดูว่ากำลังเกิดสิ่งใดกันแน่ ทว่า ก่อนที่จะได้มองอย่างชัดเจนก็ถูกกระแทกจนปลิวไปเสียแล้ว!
ป่าของแดนรกร้างบัดนี้พื้นดินแตกระแหง เศษดินและหินกระเด็นไปทั่วทุกทาง ไม่ว่าหลินซวนจะผ่านบริเวณใด ที่แห่งนั้นจะจบลงด้วยสภาพน่าอนาถ!
สำหรับอสูรที่อ่อนแอพวกมันต่างก็กระเด็นหัวหกก้นขวิดไปมา ก่อนที่ท้ายที่สุดดวงตาจะเต็มไปด้วยความสับสนทั้งน้ำลายยังฟูมปากอย่างน่าสงสาร!
ส่วนทางด้านอสูรที่ยังพอแข็งแกร่งอยู่บ้าง ก็ถูกแรงกระแทกจากอากาศจนกระเด็นออกจากจุดเดิม พวกมันทำได้เพียงกรีดร้องอย่างบ้าคลั่ง ทว่ามิอาจรับรู้ได้ถึงต้นเหตุของสถานการณ์นี้ อีกทั้งไม่รู้ว่าความจะสาปแช่งผู้ใดกันแน่
ท้ายที่สุด ดูเหมือนว่าทิศที่หลินซวนกำลังพุ่งไปนั้นคือทางเดียวกับสถานที่ซึ่งจ้าวห้วงเหวอาศัยอยู่!
หากแต่ เนื่องด้วยความเร็วที่มากเกินไปของหลินซวน จ้างหุบเหวจึงมิอาจรับรู้ได้ถึงการมาของอีกฝ่าย หลินซวนยังคงมุ่งหน้าต่อไปและผ่านเข้าไปในส่วนลึกของแดนรกร้าง!
สิ่งนี้ทำให้เจ้าห้วงเหวมิได้ตระหนักถึงสิ่งที่เกิดขึ้น เขาเต็มไปด้วยความสับสนและเพียงคิดว่ามีสมบัติบางอย่างบินผ่านตนไปเท่านั้น
บัดนี้ หลินซวนมุ่งเข้าสู่ส่วนลึกที่สุดของแดนรกร้างแล้ว
……………
ยามราตรีปรากฏขึ้น ความมืดมิดครอบคลุมไปทุกที่ ในป่าดงของแดนรกร้าง อสูรที่แสนดุร้ายกำลังเคลื่อนไหวอย่างเงียบงัน
พวกมันคืออสูรที่น่าเกรงขาม บางส่วนเป็นตัวตนที่มีมาตั้งแต่บรรพกาล ที่แห่งนี้สามารถได้ยินเสียงคำรามของอสูรมากมายอยู่ตลอดเวลาราวกับต้องการจะฉีกใต้หล้าให้ขาดออกจากกัน
ในสถานที่ซึ่งสิ่งมีชีวิตภายนอกมิอาจจะมาถึงได้ภายในชั่วชีวิตทั้งหมดของพวกมัน เป็นดินแดนที่โหดร้ายทารุณที่สุดของแดนรกร้าง
มองเข้าไปในส่วนลึกที่สุดของเทือกเขา จะสามารถเห็นกลุ่มก้อนแสงปรากฏอยู่ ณ ที่นั้น แสงอันอ่อนโยนกำลังกะพริบไหวไปมา
หากมีใครสักคนเข้าใกล้มากพอย่อมสามารถบอกได้ว่ากลุ่มก้อนแสงนั้นเป็นหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ด้านหน้าทางเข้าหุบเขา และในหุบเขานั้นก็เต็มไปด้วยแท่นบูชาห้าสี
ใจกลางหุบเขาแห่งนั้นปรากฏต้นหลิวที่ลำต้นและกิ่งก้านทั้งหมดมีสีเขียวโปร่งใสคล้ายกับหยกจักรพรรดิตั้งอยู่ กิ่งก้านนับพันพลิ้วไหวไปมา พลังชีวิตและวิญญาณอันอ่อนโยนกระจายไปทั่วบริเวณ ก่อนที่มันจะกลายเป็นแสงบางอย่างล้อมรอบหมู่บ้านด้านนอก
ในหมู่บ้านแห่งนั้น มีดวงไฟกำลังถูกจุดขึ้น เป็นคบเพลิงจำนวนหนึ่ง
ภายใต้แสงไฟ ปรากฏร่างของชายกำยำจำนวนหนึ่ง กายของพวกเขาแข็งแกร่งราวกับจะฉีกพยัคฆ์กระชากมังกรออกเป็นชิ้นๆได้ ล้วนนุ่งห่มหนังสัตว์แทนเสื้อผ้า ผิวของพวกเขาเป็นสีเข้มราวกับทองแดง บนบ่ามีดาบและกระบองที่ทำจากกระดูกของสัตว์พาดอยู่
“ท่านหัวหน้าหมู่บ้าน พวกเราไม่ไปมิได้หรือ? อสูรเหล่านั้นที่พวกเราจับมาได้อย่างยากลำบาก ท้ายที่สุดกลับถูกพวกสุนัขจากหมู่บ้านหลางขัดขวางเสียได้!”
“พวกมันต้องการจะยึดครองเขตล่าสัตว์ของพวกเรา!”
“หลังจากผ่านมายาวนานถึงเพียงนี้ อาณาเขตและผืนป่าของพวกเราถูกพวกมันขโมยไปมากมายนัก!”
คนที่พูดประโยคนั้นออกมาคือชายร่างยักษ์ที่ถือกระดูกขาของสัตว์บางชนิดไว้ในมือ เขาทุบพื้นเบื้องหน้าด้วยกระดูกนั้น ใบหน้าเกรี้ยวกราดปรากฏออกมา
ชายชราที่อยู่ด้านหน้าเพียงส่ายศีรษะออกมาเล็กน้อย
“สิ่งนั้นไร้ความหมายกับพวกเราแล้ว อีกไม่นานพวกเราจะย้ายออกจากที่นี่ นานที่สุดก็ย่อมไม่เกินครึ่งเดือน”
“ทว่าชี่เปากำลังบาดเจ็บอยู่นะขอรับท่านหัวหน้าหมู่บ้าน!” ชายร่างยักษ์เอ่ยอย่างกระวนกระวาย กล้ามเนื้อของเขาหนาเตอะราวกับหมี
“ใช่แล้ว ท่านหัวหน้า พวกเรายังมีเวลาครึ่งเดือนก่อนจะจากไป แม้มิใช่ที่นี่ แต่พวกเด็กยังจำเป็นต้องเติบโต พวกเราจะทำเช่นใดดี?” ชายชราผมขาวที่อยู่ท้ายกลุ่มเอ่ยถาม
หัวหน้าหมู่บ้านชราที่เดินนำอยู่ด้านหน้าได้เองก็อดมิได้ที่จะรู้สึกลังเลอยู่บ้าง
ทว่าท้ายที่สุดแล้ว เขาก็เพียงพยักหน้าเห็นด้วย ก่อนจะตัดสินใจส่งนักรบที่แข็งแกร่งที่สุดของหมู่บ้านออกไปเพื่อนำเอาป่าไม้และพื้นที่ของตนกลับมา
“ในเมื่อพวกเจ้าต้องการจะโจมตี ก็มิจำเป็นต้องยั้งมือ ในการต่อสู้ครานี้ จงสั่งสอนบทเรียนแก่พวกมัน และทำสมบัติของหมู่บ้านติดตัวไปด้วย!” หัวหน้าหมู่บ้านเอ่ยบอก
ชายร่างกำยำทั้งหลายต่างพยักหน้ารับคำและเริ่มตระเตรียมสิ่งของให้พร้อม พวกเขาค่อนข้างกังวลอยู่บ้างที่จะผลักดันพวกหมู่บ้านหลางให้ออกไปจากที่นี่อย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ความขัดแย้งที่มีมาเนิ่นนานนี้ทำให้พวกเขาเข้าใจดีถึงความยากลำบากที่กำลังรออยู่
ภายในไม่นาน กลุ่มคนราวสามสิบชีวิตก็เตรียมอาวุธและชุดเกราะของตนเรียบร้อย พวกเขาชูคบเพลิงขึ้นและเดินออกจากหมู่บ้านไป
ทั้งสามสิบคนวิ่งเข้าสู่ป่าเบื้องหน้า
แม้ว่ารูปร่างที่ใหญ่โตนั้นจะดูเทอะทะเพียงใด ทว่าพวกเขากลับรวดเร็วยิ่งนัก ในป่าของแดนรกร้างที่แสนอันตรายแห่งนี้ ความเร็วของพวกเขามิต่างกับเดินอยู่บนพื้นถนนราบเรียบแม้แต่น้อย และใช้เวลาไม่นานการเดินทางผ่านระยะหลายลี้และภูเขาบางลูกก็สิ้นสุดลง
ทว่า ในตอนนั้นเอง ผู้นำของกลุ่มนักรบกลุ่มนี้ก็หยุดกะทันหัน
ผู้คนที่ตามเขามาอดมิได้ที่จะสับสนเล็กน้อย มีบางคนเอ่ยถามออกมา
“เกิดอันใดขึ้น?”
ผู้นำของพวกเขามิได้ตอบสิ่งใด เพียงวางตะกร้าที่สะพายหลังลง ในนั้นเต็มไปด้วยสมุนไพรรักษาและหนังอสูรจำนวนหนึ่งซึ่งเอาไว้ต่างผ้าพันแผล
ตะกร้าใบนั้นสูงราวครึ่งหนึ่งของชายหนุ่มที่โตเต็มวัย ก่อนที่ชายผู้แบกตะกร้าจะขมวดคิ้วและรื้อค้นของในนั้น ครู่ต่อมาก็มีเสียงน่ารักดังออกมาจากในตะกร้าใบนั้น
“ฮี่ๆๆๆ หยุดเกาข้าได้แล้วท่านลุง มันจั๊กจี้ยิ่งนัก!”
ได้ยินเสียงนี้ สีหน้าของเหล่าชายหนุ่มโดยรอบเปลี่ยนแปลงไปทันที
เด็กน้อยผู้หนึ่งคลานออกมาจากในตะกร้าบนหลังของชี่หู่
“คารวะท่านลุง!”
เจ้าหนูคนนี้ถูกหิ้วด้วยมือข้างเดียวของชี่หู่ ขาชี้ฟ้าศีรษะชี้พื้นดิน ใบหน้าแดงก่ำ เขามองไปยังชายหนุ่มรอบตัวก่อนจะยิ้มเจิดจ้าออกมา
หวงหาว? เหตุใดเป็นเจ้าเด็กนี่อีกแล้ว? เมื่อหวงหาวถูกดึงออกมา เหล่าคนโดยรอบตามเต็มไปด้วยโทสะ
“เจ้าตัวน้อย เหตุใดจึงตามพวกข้ามา? ไม่รู้หรือว่าเวลานี้อันตรายยิ่งนัก? พวกเรามิได้มาเพื่อล่าสัตว์ แต่เพื่อทำสงคราม!”
“ข้ารู้!” เด็กน้อยคนนั้นแม้จะยังคงห้อยหัวอยู่แต่ก็กางแขนของตนออกมา ในหน้าเล็กๆ ของเขาแสดงออกถึงความจริงจัง
“เพราะเหตุนี้ข้าจึงมาด้วยอย่างไรเล่า!”
เจ้าหนูน้อยถูกชี่หู่หิ้วเอาไว้ ร่างของเด็กผู้นั้นเล็กกว่าแขนของชี่หู่เสียด้วยซ้ำ ช่างตัวเล็กนุ่มนิ่มยิ่งนัก
เขากางมือเล็กๆ ของตนออกมาและแสดงสีหน้าจริงจัง
“ยิ่งกว่านั้น ข้าเองก็เรียนรู้วิธีบ่มเพาะมากแล้วจากท่านปู่หัวหน้าหมู่บ้าน!”
“ข้ามิได้อ่อนแอ และแข็งแกร่งมากๆ ข้าเรียนรู้ทักษะลับของท่านป้าฉิงหลินมาแล้วด้วย!”
“ข้าอยากจะไปกับพวกท่านเพื่อล้างแค้นในท่านลุงชี่เปา!”
ทว่าชี่หู่มิได้รับฟังหวงหาวแต่อย่างใด เขาเพียงยื่นเจ้าเด็กคนนั้นให้ชายสักคนและเอ่ยออกมาด้วยใบหน้าเย็นชา
“พาเขากลับไป และอย่าให้เขาออกมาได้อีก”
ชายคนนั้นพยักหน้าและเตรียมจะจับหวงหาวออกมา
สีหน้าของเจ้าตัวเล็กเปลี่ยนไปทันที และเขาก็เริ่มแสดงความกระวนกระวายออกมา เขาพยายามจะสลัดตัวให้เป็นอิสระจากอุ้งมือที่จับเขาไว้และกระโดดลงบนพื้นพลางตะโกนออกมา
“ไม่ ไม่! ข้าไปด้วยได้! ข้าน่ะแข็งแกร่งมากนะ!”