ตอนที่ 95 มองรอยกระบี่และตระหนักถึงเจตจำนงแห่งกระบี่
ตอนที่ 95 มองรอยกระบี่และตระหนักถึงเจตจำนงแห่งกระบี่
ด้วยฉากที่น่าเหลือเชื่อนี้ ไม่เพียงแต่เหมิงตงซิงเท่านั้นที่ตกตะลึงถึงขีดสุด
นักเรียนที่มองดูอยู่เองก็ต่างพากันตกใจจนตาแทบถลน!
ห้านาที!
ด้วยเวลาไม่ถึงห้านาที ชายผู้นี้กลับพิชิตหอคอยหลิงหยุนได้แล้ว !
นี่เป็นการทำลายสถิติอย่างแท้จริง มันคือการบดขยี้สติถิของฉือชิงซือที่สร้างขึ้นในปีนั้นอย่างสมบูรณ์ !
“บ้าไปแล้ว! สามารถผ่านพิชิตหอคอยหลิงหยุนได้ในเวลาไม่เกินห้านาที ชายคนนั้นทำได้ยังไงกัน ?”
"ข้าตาฝาดไปแล้วแน่ๆ นี่มัน... นี่มันเรื่องโกหก!
“ต้องมีบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้นกับหอคอยหลิงหยุนแน่นอน ไม่เช่นหอคอยหลิงหยุนจะไร้วึ่งปฏิกิริยาตอบสนองเช่นนี้ได้ยังไง !”
ทุกคนกลับมามีสติอีกครั้ง พวกเขามองไปที่เจียงเฉินด้วยท่าทางไม่เชื่อ
แต่ในตอนนี้เอง หอคอบหลิงหยุนที่นิ่งสงบอยู่ก็สั่นสะท้านในทันที
แสงระยิบระยับที่ผิดปกติก็พุ่งวูงขึ้นไปบนท้องฟ้าเหนือคฤหาสน์หลิงหยุน
ทันที ชื่อสีทองของเจียงเฉินก็ปรากฏขึ้นที่ด้านบนสุดของศิลาจัดอันดับของหอคอยหลิงหยุน
ชื่อของเขาเบียดชื่อของฉือชิงซือที่แต่เดิมอยู่อันดับแรกให้ล่วงหล่วนมาหนึ่งขั้นจนอยู่ในอันดับสอง !
สิ่งที่เศร้าที่สุดคือเหมิงตงชิง
เขาที่เพิ่งมีชื่ออยู่บนศิลาจัดอันดับได้ไม่กี่นาทีเท่านั้นก็ถูกชื่อของเจียงเฉินผลักตกไป
ถูกทำลายแล้ว!
นี่เป็นเรื่องจริง!
ฉือชิงซือ ชื่อที่ถูกบันถึกอยู่อันดับแรกของหอคอยหลิงหยุนถูกเจียงเฉินก้าวข้ามอย่างสมบูรณ์ !
เมื่อมองไปที่คำว่าเจียงเฉินที่แปะอยู่บนอันดับสูงสุดของรายชื่อ ดวงตาของทุกคนก็เบิกกว้างอย่างเหลือเชื่อและก็ต้องใช้เวลาอยู่นานกว่าพวกเขาจะฟื้นจากความตกใจ
อย่างไรก็ตาม……
เจียงเฉินไม่สนใจเรื่องทั้งหมดนี้เลย
หลังจากที่เขาได้รับตราสัญลักษณ์ของนักเรียนชั้นในมาแล้ว เขาก็ออกจากหอหลิงหยุนท่ามกลางสายตาตกตะลึงและเหลือเชื่อของผู้คน
เขากลับไปที่บ้านของนักเรียนระดับทอง
เจียงเฉินใช้เวลาทำความสะอาดที่แห่งนี้เวลาสั้นๆ จากนั้นก็พาเหมิงชิงซูพร้อมกับสัตว์อสูรเพลิงเข้าไปในคฤหาสน์ชั้นในของหลิงหยุนวู่ฟู่
หลังจากได้รับชุดเครื่องแบบของนักเรียนวังชั้นในแล้ว เจียงเฉินก็แทบรอไม่ไหวที่จะให้เหมิงชิงซูพาเข้าไปดูหอคอยสัญลักษ์กระบี่หลังจากที่เข้ามาในวังชั้นใน
หอคอยสัญลักษ์กระบี่เป็นหนึ่งในอาคารหลักของวังชั้นในของหลิงหยุนวู่ฟู่
ว่ากันว่าในหอคอยสัญลักษ์กระบี่นั้นมีรอยกระบี่ที่บรรพบุรุษของหลิงหยุนวู่ฟู่ทิ้งไว้สามรอย
ในรอยกระบี่ทั้งสามนี้แต่ละอันล้วนแต่เต็มไปด้วจเจตจำนงแห่งกระบี่ของท่านบรรพบุรุษคนนั้น !
เจตจำนงคือแก่นแท้และความหมายที่แท้จริงของวิชาต่อสู้ ผู้ที่ตระหนักถึงมันได้จะเป็นผู้ที่แตกฉานในวิชานั้นอย่างแท้จริง
แต่เพียงว่า แก่นแท้และความหมายที่แท้จริงของวิชานั้นล้วนแต่ยากจะเข้าใจ แม้แต่ในประวัติศาสตร์หลายร้อยปีของหลิงหยุนวู่ฟู่ก็มีอัจฉริยะเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่เข้าใจความหมายที่แท้จริงของวิชาต่อสู้
ความหมายที่แท้จริงของวิชาต่อสู้นั้นคือเจตจำนงที่ทรงพลังอย่างมาก
เมื่อนักรบคนหนึ่งสามารถเข้าถึงมันได้ เขาก็จะกลายเป็นตัวตนที่ไร้เทียมทานท่ามกลางผู้คนที่มีระดับการบ่มเพาะเดียวกัน !
และต่อให้มีระดับการบ่มเพาะที่เหนือกว่าก็ยังเป็นการยากที่จะฆ่าศัตรูเช่นนี้ได้ !
สิบนาทีต่อมาเหมิงชิงซูก็พาเจียงเฉินมาถึงประตูของหอคอยสัญลักษ์กระบี่
ในหลิงหยุนวู่ฟู่ ตราบใดที่เป็นนักเรียนในวังชั้นใน พวกเขาก็มีสิทธิ์มาที่หอคอยสัญลักษ์กระบี่เพื่อทำความเข้าใจเจตจำนงกระบี่
เจ้าเพียงแค่จ่าย คะแนนนักเรียน 10,000 คะแนนเท่านั้นก็สามารถเข้าสู่หอคอยสัญลักษ์กระบี่ได้แล้ว
โดยทั่วไปแล้ว นอกเหนือจากอัจฉริยะในรายชื่ออันดับหลิงหยุนแล้ว มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่เต็มใจใช้คะแนนนักเรียน 10,000 คะแนนเพื่อทำความเข้าใจเจตจำนงนี้
หลังจากที่เหมิงชิงซูได้จ่ายได้จ่ายคะแนนนักเรียน 10,000 คะแนนให้กับเจียงเฉินแล้ว เขาก็เดินเข้าไปในหอคอยสัญลักษ์กระบี่
หอคอยสัญลักษ์กระบี่นั้นมีขนาดไม่ใหญ่มากนัก นอกจากห้องสี่เหลี่ยมที่ถูกสร้างขึ้นจากหินแล้ว ก็ไม่มีอะไรอื่นอีกเลย
เจียงเฉิน สังเกตไปที่กำแพงหินและก็พบกับรอยกระบี่สามอันบนหิน
ทุกร่องรอยนั้นดูเฉียบคมอย่างมาก ราวกับว่าร่องรอยเหล่านั้นเกิดจากอาวุธที่คมกริบ !
"ติ๊ง! ท่านสังเกตสัญลักษณ์กระบี่บนแผ่นหินได้รับค่าประสบการณ์ 100x100!"
“ติ๊ง! คุณประสบความสำเร็จในการเข้าถึงเจตจำนงแห่งกระบี่!”