ตอนที่ 66 ถ้าเขากล้ามา ข้าก็จะส่งเขาไปอยู่กับเจ้า
ตอนที่ 66 ถ้าเขากล้ามา ข้าก็จะส่งเขาไปอยู่กับเจ้า
เสียงอันแผ่วเบาก้องไปทั่วท้องฟ้า
ทันใดนั้น ร่างของเจียงเฉินก็พุ่งลงมาบนหัวของชายชราชุดดำราวกับอุกกาบาต และเหยียบลงบนร่างของชายชราชุดดำ!
เหยียบนภา!
นี่คือวิชาระดับลึกซึ้งขั้นกลางที่เจียงเฉินเพิ่งได้มา !
เมื่อตอนที่เขาอยู่เมืองคังซานเขาได้บรรลุวิชาลึกซึ้งระดับต้น ก้าวภูติแสง
แต่ระหว่างทางจากเมืองคังซานมายังเมืองหินอัศนี วิชาก้าวภูติแสงของเขาก็ได้พัฒนาไปเป็นวิชาระดับลึกซึ้งขั้นกลาง
วิชาระดับลึกซึ้งขั้นกลางนี้ไม่เพียงแต่รวดเร็วกว่าก้าวภูติแสงเท่านั้น
แต่มันยังสามารถทำให้เขาลอยได้อย่างเหลือเชื่ออีกด้วย!
วิชาเหยียบนภานั้นนับได้ว่าเป็นวิชาระดับลึกซึ้งขั้นกลางอย่างแท้จริง !
ชายชราชุดดำทำได้เพียงมองเจียงเฉินที่เหยียบอยู่บนหัวเขาเหมือนกับภูเขาไท่ซาน สีหน้าของเขาตอนนี้เปลี่ยนไปอย่างมาก
เขากระตุ้นพลังทั้งหมดที่มีออกมาอย่างรวดเร็วจนเกิดเป็นเกราะสีดำล้อมรอบร่างกายเขา
สีหน้าของเจียงเฉินยังคงไม่แย่แสและเพียงแค่เขาเหยียบลงมาอีกครั้งชายชราชุดดำก็ถูกปกคลุมไปด้วยพลังสีทองทันที !
บูม!
เสียงดังที่น่าสะพรึงกลัวระเบิดขึ้นที่กลางลาน
พื้นหินแข็งแตกกระจายไปทั่วทุกทิศทางด้วยเสียงระเบิดที่ชัดเจน
ที่ลานบ้าน นอกจากเหมิงชิงซูแล้ว ทุกคนล้วนแต่ต้องสร้างการป้องกันขึ้นมาเพื่อรับมือกับผลกระทบที่เกิดขึ้น
ส่วนหลู่เซียวที่อยู่ใกล้ๆนั้นไม่มีเวลาแม้แต่จะหลบเลี่ยง เขาถูกหินที่ระเบิดออกมากระเด็นเข้าใส่ปลิวออกไปไม่กี่เมตร
หลังจากนั้นไม่นาน เมื่อควันกับฝุ่นที่ปกคลุมอยู่ทั่วลานบ้านหายไปทุกอย่างก็ตกอยู่ในความเงียบงัน
เมื่อทุกคนมองดูสถานการณ์ที่เกิดขึ้นที่ลาน พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะหายใจหนักทันทีและหัวใจของพวกเขาก็กลายเป็นตกตะลึง
พวกเขาเห็นเจียงเฉินยืนอยู่กลางบ้านอย่างมั่นคง
ข้างหน้าเขา มีรูขนาดใหญ่ยาวสามเมตรปรากฏอยู่
และร่างกายของชายชราชุดดำส่วนใหญ่ก็ถูกตอกลงพับพื้นดินในหลุมที่เกิดการระเบิด
ดวงตาของเขาเบิกกว้างและมองไปยังเจียงเฉินด้วยความหวาดกลัว ปากของเขาเปิดกว้างแต่ก็ไม่มีคำพูดใดดังออกมา
ในที่สุดหัวของเขาก็เอียงและไร้ซึ่งการเคลื่อนไหวอีกต่อไป
ตอนนี้เอง
สมาชิกทั้งหมดของกลุ่มน้ำแข็งครามก็มองไปที่เจียงเฉินด้วยดวงตาที่หมองคล้ำและพวกเขาก็ต้องใช้เวลาพอสมควรถึงจะได้สติคืนมา
กลุ่มพยัคฆ์ทมิฬนั้นล้วนแต่เคารพหงเหลายอดนักรบระดับรวมปราณขั้น8
แม้แต่ในกลุ่มนักผจญภัยทั้งหมดในเมืองหินอัศนีด้วยกัน เขาก็นับได้ว่าเป็นคนที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก
แต่บุคคลทรงพลังเช่นเขาที่อยู่ระดับรวมปราณขั้นแปดกลับถูกเจียงเฉินจัดการอย่างง่ายดาย !
แข็งแกร่งยิ่งนัก!
แข็งแกร่งเกินไปแล้ว!
การได้เห็นหงเหลาซึ่งเป็นหนึ่งในสามบุคคลสำคัญของกลุ่มพยัคฆ์ทมิฬถูกเจียงเฉินจัดการไปโดยใช้เวลาไม่กี่ลมหายใจ
ใบหน้าของหลู่เซียวก็ซีดลงทันที
เขาไม่กล้าลังเลแม้แต่วินาทีเดียวและรีบวิ่งหนีออกไปจากลานบ้านทันที
“หนีงั้นรึ ? ข้าบอกให้เจ้าไปได้แล้วรึไง !”
ดวงตาของเจียงเฉินกลายเป็นเย็นชาและจกานั้นก็มีแสงประกายขึ้นข้างๆหลู่เซียว
กรงเล็บอันแหลมคมของเขาจับไหล่ของหลู่เซียวไว้ในทันทีแล้วกระชากกลับมาอย่างรุนแรง
ทันที พวกเขาก็เห็นร่างของหลู่เซียวลอยตีลังกากลับมาไม่กี่เมตรและในที่สุดหน้าของเขาก็ทิ่มลงกับพื้น
“เจ้า... เจ้าคิดจะทำอะไร”
หลู่เซียวรู้สึกหวาดกลัวในใจทันที
เขาจ้องไปที่เจียงเฉินอย่างดุร้าย: "ข้าคึอนายน้อยของกลุ่มพยัคฆ์ทมิฬ ถ้าเจ้าคิดจะทำอะไรข้าหละก็ พ่อของข้าไม่ปล่อยเจ้าไปแน่ !"
ดวงตาของเจียงเฉินยังคงเย็นชาและร่างของเขาก็ปรากฏขึ้นข้างหลู่เซียวอีกครั้งราวกับหายตัว
เขายื่นมือออกไปและคว้าคอของหลู่เซียวไว้ด้วยมือข้างหนึ่ง จากนั้นก็ยกเขาขึ้นจากพื้น
และหลังจากนั้น เสียงที่เย็นชาของเขาก็ส่งผ่านเข้าไปในหูของหลู่เซียวทันที
“อย่าได้คิดจะใช้พ่อของเจ้ามาขู่ข้า!”
“ถ้าเขากล้ามา ข้าก็จะฆ่าเขาด้วยเช่นกัน และหลังจากนั้นข้าก็จะส่งเขาลงไปอยู่ใต้ดินเป็นเพื่อนเจ้า !”