ตอนที่แล้วSTBI : ตอนที่ 41 แดนศักดิ์สิทธิ์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปSTBI : ตอนที่ 43 แบทเทิลรอยัล

STBI : ตอนที่ 42 แรงโน้มถ่วง


3 วันต่อมา

หลังจากการเดินทางที่ยาวนาน ไป๋ตงหลิน และ คนจากนิกายกระดูกเหล็กก็เดินทางมาถึงเมืองหลักของดินแดนแห่งนี้

ในดินแดนรกร้างไม่มีราชวงศ์ใดปกครอง เมืองหลักใหญ่ ๆ ทั้งหมด

การปกครองของที่นี่คล้ายกับการปกครองกรีกโบราณในอดีต โดยเมืองหลักเหล่านี้ล้วนอยู่ภายใต้อำนาจของนิกายสูงสุด และ เจ้าเมืองแต่ละเมืองล้วนเป็นศิษย์ของแดนศักดิ์สิทธิ์ ถือได้ว่าพวกเขาคือกองกำลังภายนอกของแดนศักดิ์สิทธิ์

ในดินแดนรกร้างแห่งนี้มีพื้นที่กว้างใหญ่ สำหรับเรื่องที่ว่ามีคนอาศัยอยู่ที่นี่กี่คนและมีเมืองโบราณกี่เมือง แม้แต่คนจากนิกายกระดูกเหล็กก็ไม่ทราบเรื่องนี้

เมื่อมองไปที่เมืองหลักไท่ซาง ที่สง่างามอยู่ตรงหน้า บรรยากาศที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายโบราณก็ลอยมาแตะใบหน้าของ ไป๋ตงหลิน

เมืองนี้มีกำแพงสูงหลายพันฟุต ซึ่งประกอบไปด้วยกองเหล็กหนาสีดำขนาดใหญ่ อีกทั้งพื้นผิวของมันยังปกคลุมไปด้วยอักขระพลัง ซึ่งทำให้มันแข็งแรงและทนทาน จนไม่แม้แต่จะทิ้งร่องรอยของกาลเวลาเอาไว้

เมืองหลักไท่ซางแห่งนี้ มีขนาดใหญ่ จนไม่รู้ว่ากำแพงได้แผ่ยาวออกไปกี่ลี้ หากมองด้วยหางตาจะพบว่าเส้นของกำแพงเมืองนี้ยาวไม่มีที่สิ้นสุด เพราะที่นี่มีประชากรอาศัยอยู่มากกว่า 400 ล้านคน มันสมควรเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่เป็นอย่างมาก

ที่นี่ไม่มีทหารยามคอยเฝ้าประตูเมือง ทุกคนสามารถเดินเข้าออกได้ตามต้องการ เมื่อมีพิธีการใหญ่อย่างพิธีรับสมัครศิษย์ของนิกายศักดิ์สิทธิ์จี้เต๋า

ไป๋ตงหลิน ได้เดินตามกระแสของผู้คนและเดินผ่านถ้ำที่ยาวเกือบ 300 เมตร ความกว้างของกำแพงเมืองนี้ก็น่าทึ่งเช่นเดียวกัน

ที่นี่มีกฏข้อห้ามในการบินข้ามผ่าน ยกเว้นศิษย์อย่างเป็นทางการของนิกายศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น ส่วนที่เหลือ ล้วนไม่ได้รับอนุญาติให้บินได้ ดังนั้น แม้แต่นักพรตเต๋าที่มีพละกำลังสูงส่งก็ยังต้องเดินเท้าอย่างเชื่อฟัง

ในดินแดนรกร้าง ไม่มีใครกล้าฝ่าฝืนกฏของนิกายศักดิ์สิทธิ์ เรียกได้ว่า นิกายศักดิ์สิทธิ์คือผืนนภาที่ปกคลุมดินแดนรกร้างแห่งนี้ และ กฏของนิกายก็คือบัญชาสวรรค์ที่มิอาจฝ่าฝืน

เพียงแค่เดินเข้าไปภายในเมืองก็มีเสียงตะโกนโดยรอบดังขึ้น :

“ผู้ที่ต้องการจะเข้าร่วมการทดสอบขอให้มารวมตัวกันและไปที่สถานที่ประเมินผ่านข่ายอาคมเคลื่อนย้าย!”

ไป๋ตงหลิน ได้หันศีรษะและมองไปโดยรอบ เป็นไปตามที่คาดไว้ ข่ายอาคมเคลื่อนย้ายได้ถูกสร้างขึ้นในพื้นที่เปิด ซึ่งเต็มไปด้วยเหล่าคนหนุ่มสาวที่ต้องการเข้ารับการประเมิน

ไป๋ตงหลิน และ คนหนุ่มสาว 2-3 คน จากนิกายกระดูกเหล็กที่ต้องการเข้าร่วมการประเมิน ได้กล่าวอำลากับทุกคน และ เดินไปที่ ข่ายอาคมเคลื่อนย้ายพร้อมกัน

เดิมที ไป๋ตงหลิน ไม่มีสิทธิ์เข้าร่วมการประเมิน แต่ นิกายกระดูกเหล็กนี้มีโควค้าเข้าร่วม 5 ที่ น่าเสียดายที่ศิษย์คนหนึ่งได้เสียชีวิตไปจากการโจมตีของสัตว์ร้าย ทำให้ โควต้าเข้าร่วมนี้ ได้ถูกส่งมอบให้กับ ไป๋ตงหลิน เป็นรางวัลในการช่วยชีวิตพวกเขา

กล่าวให้ถูกก็คือ ผู้คนที่มาที่เมืองหลักแห่งนี้เพื่อเข้าร่วมการประเมินได้ จะต้องผ่านการคัดเลือกไม่รู้ตั้งกี่รอบต่อกี่รอบ แต่ ไป๋ตงหลิน ได้ใช้สิทธิ์นี้ในการเข้าร่วมการประเมินในครั้งนี้ในทันที

หลังจากรอเหล่าเจ้าหน้าที่ที่ยืนอยู่นอกวงกลมยืนยันตัวตน ไป๋ตงหลิน ก็ก้าวเข้าสู่ข่ายอาคมเคลื่อนย้ายอย่างราบรื่น

เมื่องไท่ซาง แห่งนี้ช่างร่ำรายและทรงพลังอย่างแท้จริง พวกเขาสามารถจัดตั้งข่ายอาคมเคลื่อนย้ายขนาดใหญ่บนพื้นที่ท้องถนน โดยไม่สนใจทรัพยากรที่ต้องเสียไป ดูเหมือนว่าพวกเขาจะค่อนข้างระมัดระวังอย่างมากเพราะเรื่องนี้เกี่ยวพันถึงนิกายศักดิ์สิทธิ์

ก่อนที่จะก้าวเข้าสู่ข่ายอาคม ไป๋ตงหลิน รู้สึกได้ถึงความผันผวนที่กำลังสแกนร่างกายของเขา ตามข้อมูลที่ได้รับมาจากคนของนิกายกระดูกเหล็ก นี่เป็นการทดสอบเบื้องต้นว่าผู้เข้าร่วมทดสอบมีอายุต่ำกว่า 20 ปีจริงหรือไม่

พิธีรับสมัครศิษย์ของนิกายศักดิ์สิทธิ์จี้เต๋า จะจัดขึ้นทุก ๆ 20 ปี และ มีเพียงคนที่อายุต่ำกว่า 20 ปีเท่านั้นที่สามารถเข้าร่วมได้

ไป๋ตงหลิน มีอายุ 14 ปีในปีนี้ ดังนั้น เขาจึงไม่ได้กังวลอะไร สำหรับ เรื่องจิตวิญญาณของเขา โดยพื้นฐานแล้ว นี่เป็นจิตวิญญาณที่กลับชาติมาเกิด ดังนั้น เขาจึงไม่เกรงกลัวที่จะถูกค้นพบในเรื่องนี้

หลังจากเข้าไปในข่ายอาคมแล้ว แสงจำนวนมากก็ได้หมุนวนรอบร่างกายของเขา หลังจากแสงสีขาววาบปรากฏขึ้น ไป๋ตงหลิน และ คนอื่น ๆ ก็ปรากฏตัวขึ้นในลานจัตุรัสขนาดใหญ่

ลานจัตุรัสแห่งนี้เต็มไปด้วยผู้คนที่หนาแน่น แต่มันกลับเงียบเชียบมาก และ ไม่มีใครกล้าส่งเสียงดังออกมา

ในที่แห่งนี้ มีหญิงสาวในเครื่องแบบ ที่ดึงดูดความสนใจของ ไป๋ตงหลิน หญิงสาวเหล่านี้แต่ละคนล้วนกำลังอุ้มเด็กอยู่ในมือของพวกนาง เด็กแต่ละคนในนั้นมีขนาดแตกต่างกันออกไป ตั้งแต่ทารกแรกเกิดไปจนถึงอายุหลายเดือน

ไป๋ตงหลิน คิดอยู่ครู่นึง ก่อนที่จะเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น หากเด็กเหล่านี้รอพิธีเปิดรับสมัครศิษย์ครั้งหน้าในอีก 20 ปี ต่อมา อายุของพวกเขาก็จะเกิน ดังนั้นพวกเขาจึงได้ส่งเด็กเหล่านี้มาเข้าร่วมประเมิน

ดูเหมือนว่า ภูมิหลังของเด็กเหล่านี้ไม่ใช่ธรรมดา หากเป็นคนธรรมย่อมไม่มีทางได้รับโอกาสแบบนี้ และ แทบจะไม่มีความจำเป็น เพราะพวกเขาไม่มีโอกาสในการผ่านการประเมิน

สำหรับเหล่าเด็กที่สามารถเข้าร่วมการประเมินได้นั้นแสดงให้เห็นว่าสายเลือดของพวกเขาค่อนข้างพิเศษ บรรพบุรุษของพวกเขาอาจจะเป็นผู้บ่มเพาะพลังที่แข็งแกร่ง ทำให้พวกเขามีโอกาสที่จะปลุกร่างกายที่พิเศษขึ้นมา

ตราบใดที่มีร่างกายที่พิเศษ คนผู้นั้นก็จะสามารถผ่านการทดสอบได้โดยตรง ดังนั้น แม้แต่เด็กแรกเกิดก็สามารถลองเสี่ยงโชคดูได้

เมื่อข่ายอาคมสว่างขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า ลานจัตุรัสแห่งนี้ ก็ค่อย ๆ เต็มไปด้วยผู้คนจำนวนมาก ไป๋ตงหลิน คาดการณ์ว่ามีคนจำนวนกว่า 100,000 คนอยู่ที่นี่

ในขณะนั้นเอง ก็มีชายหนุ่มปรากฏตัวขึ้นที่พื้นที่ด้านหน้า เขามีลักษณะที่หล่อเหลาและบนใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม

ชายหนุ่มคนนี้ได้เหลือบมองไปที่ลานจัตุรัสที่เต็มแล้ว พร้อมกับ พยักหน้าอย่างพึงพอใจพร้อมกับกล่าวออกมา :

“ข้าคือหนึ่งในผู้ประเมินที่ถูกส่งมาที่เมืองไท่ซางภายใต้บัญชาของนิกายศักดิ์สิทธิ์จี้เต๋า ข้ามีหน้าที่รับผิดชอบในการประเมินพื้นที่ทดสอบที่ 25 ของเมืองหลักไท่ซาง ดังนั้น โปรดปฏิบัติตามกฏอย่างเคร่งครัด หากมีผู้ใดฝ่าฝืน จะถูกเพิกถอนสิทธิ์ และ ไล่ออกในทันที”

“การประเมินได้เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว! เปิดข่ายอาคมเหนี่ยวนำร่างกายและโลหิต!”

ทันทีที่ เสียงของงชายคนนี้ดังขึ้น พื้นที่ขนาดใหญ่ก็ปกคลุมไปด้วยพลังงานึกลับในทันที

อักขระพลังสีทองจำนวนมากได้พุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า และ สาดแสงสีทองลงมาใส่ทุกคน

ไป๋ตงหลิน รู้สึกว่าแส่งสีทองเหล่านี้ ได้ไหลผ่านแขนขาของเขา กระทั่ง อนุภาคเซลล์ทั้งหมด ก็ได้ถูกตรวจสอบโดยแสงสีทอง หลังจากตรวจสอบไม่พบอะไร มันก็ค่อย ๆ ถอนตัวออกจากร่างกายของเขา

ไป๋ตงหลิน ได้ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก เขาเชื่อว่าการพลิกฟื้นที่แข็งแกร่งของเขา เป็นความสามารถที่ท้าทายกฏของสวรรค์มากเกินไป และ มันเป็นบางสิ่งที่ล้ำหน้ากว่าซึ่งอยู่เหนือมิติทางความคิด

ดังนั้น การตรวจสอบไม่พบ คือสิ่งที่เขาคาดหวัง เขาไม่ต้องการเปิดเผยความลับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขา เพียงเพื่อผลประโยชน์ในการประเมินเล็กน้อย เพราะเขาสามารถผ่านการประเมินได้อย่างง่ายดาย ด้วยความแข็งแกร่งของเขา

ในเวลานี้ มีการเปลี่ยนแปลงขึ้นในลานจัตุรัส และ มันก็ปรากฏขึ้นเป็นระยะ นี่คือร่างกายพิเศษที่ถูกปลุกให้ตื่นขึ้น

ระยะเวลาการปรากฏค่อนข้างแตกต่างกัน และ ไป๋ตงหลิน ก็ไม่มีความรู้ด้านนี้ ดังนั้นเขาจึงไม่รู้ว่าคนเหล่านี้มีร่างกายแบบไหน

หลังจากนั้นไม่นาน ข่าวอาคมก็หยุดทำงานอย่างช้า ๆ แสงสีทองได้มาบรรจบกัน และ การประเมินรอบแรกได้สิ้นสุดลง มีคนทั้งหมด 7 คน ที่มีร่างกายพิเศษ และ 4 ในนั้นก็มาจากทารกแรกเกิดที่มีอายุเพียงไม่กี่เดือน

ทุกคนในลานจัตุรัสมองไปที่คนเหล่านั้นด้วยใบหน้าที่อิจฉา คนเหล่านี้สามารถทะยานสู่สวรรค์ได้ในขั้นตอนเดียวซึ่งมันล้ำหน้าเหนือพวกเขาไปแล้ว

ไป๋ตงหลิน ได้พยักหน้าอย่างลับ ๆ สิ่งที่เรียกว่าร่างกายพิเศษเหล่านี้คือสายเลือดที่สืบทอดมาจากรุ่นสู่รุ่น

และมันยากยิ่งสำหรับคนธรรมดา ที่จะมีร่างกายที่พิเศษที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงของตนเอง

คนทั้ง 7 คน ได้ถูกนำตัวออกไปจากที่นี่ พวกเขาไม่ต้องรับการประเมินครั้งต่อไป เพราะพวกเขาได้เป็นศิษย์ของนิกายศักดิ์สิทธิ์อยู่แล้ว โดยพื้นฐาน อัจฉริยะมักได้รับการดูแลเป็นพิเศษในทุกพื้นที่

เด็กและทารกจำนวนมากบนลานจัตุรัส ก็ได้ออกจากพื้นที่ไปเช่นเดียวกัน เนื่องจากพวกเขาไม่มีร่างกายพิเศษ ดังนั้น พวกเขาจึงไม่มีโอกาสผ่านการประเมินขั้นต่อไปได้

ชายหนุ่มบนอัฒจันทร์ได้พยักหน้าอย่างพึงพอใจ คราวนี้มีคนที่มีคุณสมบัติร่างกายพิเศษถึง 7 คน ซึ่งถือเป็นสัดส่วนที่สูงมาก ดังนั้นเขาจึงได้กล่าวออกมา :

“นิกายศักดิ์สิทธิ์จี้เต๋า จะรับเฉพาะอัจฉริยะที่แท้จริงเพียงเท่านั้น แต่เนื่องจากพวกเจ้ามีด้วยกันจำนวนมาก และ นิกายศักดิ์สิทธิ์จี้เต๋าก็ไม่ได้ต้องการรับคนมากเกินไป ดังนั้น…”

“พวกเราจะเข้าสู่บททดสอบอันต่อไป และ มีเพียง 100 คนสุดท้ายที่เหลือรอดเท่านั้นที่จะผ่านการประเมิน!”

“การทดสอบที่สองเริ่มต้นขึ้นได้!”

“เปิดใช้งานข่ายอาคมศิลาถ่วง!”

หึ่ง—

ทันใดนั้น ก็มีรูปแบบขนาดใหญ่สองรูปแบบ ปรากฏขึ้น หนึ่งเทาและหนึ่งแดง หลังจากเปิดใช้งาน มันก็ครอบคลุมผู้คนมากกว่า 90,000 คนในลานจัตุรัส

ไป๋ตงหลิน รู้สึกว่าร่างกายของเขากำลังถูกกดทับอย่างรุนแรง ราวกับว่าแรงโน้มถ่วงภายในพื้นที่กำลังเพิ่มขึ้น เขาสัมผัสได้ถึงความกดดันทางจิตวิญญาณ แต่แรงกดดันเพียงเท่านี้ มันก็เป็นเพียงแค่ลมพัดผ่านบนใบหน้าของเขาเพียงเท่านั้น

เมื่อเวลาผ่านไป วงแหวนอาคมก็ดูเหมือนจะขยายใหญ่มากขึ้นเรื่อย ๆ แรงโน้มถ่วงได้เพิ่มขึ้น 10 เท่า 50 เท่า จนกระทั่ง 100 เท่า

บางคนเริ่มไม่สามารถทนได้อีกต่อไป แรงโน้มถ่วง 100 เท่านี้ เทียบเท่ากับแรงกดทับนับ 10 ตัน และมันยังส่งผลกระทบกับทุกเซลล์อวัยวะภายในร่างกาย

ควบคู่ไปกับการบีบรัดทางจิตใจ คนเหล่านี้ที่สามารถยืนหยัดได้จนถึงปัจจุบัน ล้วนแล้วแต่เป็นอัจฉริยะที่มีคุณสมบัติในการประเมิน

เมื่อข่ายอาคมแข็งแกร่งขึ้นอีกครั้ง ก็มี คนมากกว่าครึ่งล้มลง สำหรับ ทุกคนที่ล้มเหลวพวกเขาได้ถูกวงแหวนเคลื่อนย้ายพาตัวออกไป

จากนั้น ข่ายอาคมก็เพิ่มแรงโน้มถ่วงขึ้นเป็น 200 เท่า จนทำให้เหลือคนเพียงแค่ 10,000 กว่าคน

พอขึ้น 300 เท่า ก็เหลือ แค่ 1,000 คน

หลังจาก 500 เท่า ก็เหลือเพียงแค่ 300 คนเท่านั้น

คนที่เหลือกว่า 300 คนนี้ล้วนแล้วแต่เป็นผู้มีพรสวรรค์ทางร่างกาย

น่าเสียดายที่บททดสอบในด่านนี้รับเพียงแค่ 100 คนเท่านั้น ดังนั้น พลังของข่ายอาคมจึงยังเพิ่มขึ้นต่อไป ซึ่งแรงโน้มถ่วงเหล่านี้ ได้ส่งผลกระทบต่อเซลล์ภายในร่างกาย โชคดีที่พลังความแข็งแกร่งของ ไป๋ตงหลิน ทำให้ทุกส่วนภายในร่างกายของเขาแข็งแกร่งขึ้น ทำให้เขาไม่มีข้อบกพร่องและช่องโหว่ใด ๆ

การประเมินเช่นนี้ ถือว่าเขาได้เปรียบเป็นอย่างมาก แม้ว่าผู้ฝึกฝนคนอื่น ๆ จะมีพื้นฐานร่างกายที่ดี แต่มันก็เป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะเสริมแกร่งให้กับเซลล์ภายในร่างกายของพวกเขาไปด้วย

อีกทั้ง จิตวิญญาณของเขาก็ถูกปรับให้แข็งแกร่งขึ้นเป็นอย่างมาก เรียกได้ว่าเจตจำนงค์ของเขาแข็งแกร่งยิ่งกว่าร่างกายในปัจจุบันเสียอีก

ไป๋ตงหลิน ประเมินว่าเขาสามารถอดทนต่อแรงโน้มถ่วงได้พันเท่า หลังจากพันเท่า แรงกดดันหลายร้อยตันจะเริ่มส่งผลต่อร่างกายของเขา

เมื่อแรงโน้มถ่วงเพิ่มขึ้นเป็น 660 เท่า ในที่สุด หลายคนก็เริ่มล้มตัวลง

ในเวลาเดียวกัน ข่ายอาคมก็ได้หยุดทำงาน การประเมินรอบที่สองสิ้นสุดลง และ มีเพียง 100 คนเท่านั้นที่ผ่านการประเมิน

ในการประเมินรอบสองนี้ เป็นบททดสอบสำคัญ สำหรับผู้บ่มเพาะพลังกาย

นั่นก็คือ ร่างกายและจิตใจ!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด