เกิดใหม่เป็นทารกขั้นเทพ ตอนที่ 96
ตอนที่ 96
“นี่...มิใช่ว่าความเร็วของเสี่ยวซวน...มากเกินไปหรือ?”
เมื่อมาถึงจุดนี้ ศิษย์ตระกูลหลินแม้ว่าจะรับรู้ได้ถึงความผิดปกติบางอย่าง แต่พวกเขามิอาจระบุได้แน่ชัดว่าเป็นสิ่งใด อย่างไรเสีย ในทุกคราที่ปรากฏการณ์ของหลินซวนเกิดขึ้น ความรู้สึกตื่นตะลึงก็ตามมาทุกครั้ง ความเร็วในคราวนี้อาจมิใช่สิ่งที่ต้องกล่าวถึงเสียด้วยซ้ำไป
ทว่า หลังจากหลินซวนพุ่งออกจากเมืองต้าหยานไป เขาก็พุ่งไปทุกทิศทาง ยิ่งกว่านั้นความเร็วของเขาก็เพิ่มขึ้นอีกครั้ง บัดนี้แม้กระทั่งผู้อาวุโสแดนแก่นทองคำบางส่วนก็เริ่มตื่นตระหนกแล้วเช่นกัน สมาชิกสกุลหลินทุกคนรับรู้ได้ถึงความผิดปกติที่กำลังเกิดขึ้น!
อาวุโสคนหนึ่งมองขึ้นไปพลางขมวดคิ้วอย่างสับสน
“ความเร็วของซวนเอ๋อร์เริ่มจะน่าหวาดหวั่นไปแล้ว เหตุใดข้าจึงรู้สึกว่าต่อให้ตนเองเร่งจนสุดฝีเท้าก็ยังไม่อาจเทียบความเร็วกับเขาในตอนนี้ได้?”
“นั่นก็เป็นเรื่องสามัญมิใช่หรือ เขาเป็นถึงเซียนน้อยของสกุลหลินเรา จะใช้เพียงสามัญสำนึกในการคาดเดาได้เช่นไร?”
“บางที ซวนเอ๋อร์อาจจะกำลังเข้าสู่สภาวะบ่มเพาะก็เป็นได้ เหมือนว่าเขากำลังซึมซับบางอย่างอยู่!”
“อาจเป็นเพราะ ปรากฏการณ์นี้กำลังยกระดับขึ้นก็เป็นได้ อย่างไรเสีย นี่ก็เป็นคราแรกที่เขาใช้ทักษะเช่นนี้”
ส่วนทางด้านตาแก่เปา บัดนี้กำลังขมวดคิ้วพลางหรี่ตามองหลินซวนที่จะกลายเป็นเพียงเส้นแสงสีแดงทองบนท้องฟ้าเข้าไปทุกที
“ความเร็วของเขาในตอนนี้เหมือนว่าจะเร็วกว่าพวกเราอยู่เล็กน้อยเสียแล้ว อีกทั้ง ความสูงจากพื้นดินของเขาก็มากขึ้นทุกขณะ....”
ในตอนนี้ หลินเปาเองกำลังตื่นตกใจมิน้อย ไม่ต่างกับบรรดาตาแก่สกุลหลินทั้งหลาย
หรือว่าเขากำลังบรรลุทักษะบางอย่าง? ระยะทางระหว่างเขากับพื้นดินเองก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ นี่มิใช่ว่าซวนเอ๋อร์ในตอนนี้ไม่สามารถจะควบคุมตัวเองได้เช่นนั้นหรือ?
อาวุโสสกุลหลินทั้งหมดเงยหน้าขึ้นและรู้สึกกระวนกระวายอีกครั้งยังต้องการจะช่วยหลินซวนหยุดการบินขึ้นไปเรื่อยๆ ของเขาในครานี้
ทว่า สิ่งที่น่าสะพรึงที่สุดคือหลินซวนในขณะที่ใช้ออกซึ่งเจ็ดก้าวสวรรค์กลับกลายนี้มีความเร็วถึงจุดที่น่าหวาดหวั่นเป็นอย่างยิ่ง!
ด้วยระดับการบ่มเพาะของพวกเขาในยามนี้ ย่อมมิสามารถจะตามทารกน้อยได้ทันอย่างแน่นอน!
ปรากฏการณ์ครั้งนี้มันดูจะยิ่งใหญ่มากเกินไปแล้ว!
แต่อย่างเสีย ก็มิได้หมายความว่าพวกเขาไม่ได้มีสิ่งที่สามารถจะใช้หยุดหลินซวนได้ หากพวกเขาเข้าจู่โจมย่อมสามารถจะกระแทกหลินซวนลงมาได้ด้วยกำปั้นเดียว
ทว่า ผู้ใดจะกล้าโจมตีหลินซวนเล่า? เขาคือสมบัติล้ำค่าของสกุลหลิน เป็นเซียนน้อยเพียงคนเดียวของทั้งตระกูล! อย่าได้กล่าวถึงว่าพวกเขายังมิได้ต้องการหยุดหลินซวนในเวลานี้ ทั้งตระกูลหลินเองก็จับตาเขาอยู่เช่นกัน!
“บรรพบุรุษ! ดูเหมือนซวนเอ๋อร์จะไม่สามารถควบคุมความเร็วของตัวเองได้ขอรับ!” ในตอนนี้ หลินเปาหันกลับไปพร้อมตะโกนออกมาเพื่อเรียกบรรพชนของคน หลินฉิงเทียนผู้นั้น
เมื่อบรรพชนตระกูลหลินได้ยินประโยคของตาแก่เปา เขาก็ชะงักไปชั่วครู่ จากนั้นก็เพ่งมองหลินซวนที่กำลังฉวัดเฉวียนไปมา ก่อนจะเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น
‘ซวนเอ๋อร์กำลังเข้าสู่สภาวะหยั่งรู้!’ บรรพชนหลินมองพลางครุ่นคิด
“นี่เป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยเท่านั้น ฮ่าๆ อีกทั้งยังเป็นไปได้ยากที่ซวนเอ๋อร์จะเกิดการผิดพลาดขึ้นมาในระหว่างใช้ออกซึ่งทักษะนั้น รอให้เขาตื่นขึ้นจากสภาวะหยั่งรู้เสียก่อน ข้าจะสอนบทเรียนดีๆ ให้แก่เขา” บรรพบุรุษสกุลหลินเอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้มบางเบา
จากนั้นบรรพชนแซ่หลินก็พยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะก้าวข้ามผ่านระยะทางระหว่างตนเองกับหลินซวนด้วยระยะเวลาเพียงชั่วพริบตา เขายื่นมือออกมาอย่างมั่นใจ ปรากฏเป็นแสงจากปราณวิญญาณที่ก่อตัวขึ้นและพุ่งเข้าใส่หลินซวนเพื่อที่จะหยุดเขา
ทว่า เมื่อฝ่ามือปราณวิญญาณนั้นกำลังจะสัมผัสถูกร่างกายของหลินซวน อยู่ๆ ย่างก้าวของเขาก็แปรเปลี่ยนไปก่อนจะหลบฝ่ามือของบรรพชนหลินไปได้อย่างมิน่าเชื่อ
บรรพชนสกุลหลินชะงักไปชั่วขณะ ซวนเอ๋อร์หลบฝ่ามือของเขาได้?
จากนั้นชายชราก็ยิ้มออกมาเล็กน้อย
“เซียนน้อยของข้าไม่ธรรมดาเสียจริง เขาทรงพลังถึงเพียงนี้ ทั้งยังสามารถเพิ่มความรวดเร็วของตนในชั่วพริบตาโดยอาศัยปรากฏการณ์ของตนเองหนุนเสริม”
ในระหว่างที่เอ่ยออกมา บรรพบุรุษตระกูลหลินเองก็เร่งความเร็วของเขาให้มากขึ้น เขาก้าวไปข้างหน้าอีกสองก้าวและใช้ฝ่ามือปราณวิญญาณออกมาอีกครั้ง
จากนั้น.....ประวัติศาสตร์ก็ย้อนรอย หลินซวนกับท่าเท้าเจ็ดก้าวสวรรค์กลับกลายของเขาพาตัวเองหลบเลี่ยงการจับกุมของบรรพชนทั้งที่ไม่ควรจะสามารถหลบหนีได้!
ในตอนนี้ สีหน้าของหลินฉิงเทียนเริ่มจะเคร่งเครียดขึ้นมาเล็กน้อย
ก่อนที่เขาจะจู่โจมอีกครั้งอย่างต่อเนื่อง จนได้ยินเสียงแหวกอากาศตามมามากมาย
ทางด้านศิษย์ตระกูลหลินเบื้องล่าง ในระหว่างที่มองฉากเบื้องบนใบหน้าของพวกเขากลายเป็นโง่งมยิ่งนัก พวกเขาเหม่อมองร่างทั้งสองบนฟากฟ้าที่กำลังไล่จับกันด้วยความรู้สึกตื่นตระหนก
บรรพบุรุษหลินมิอาจจะจับตัวซวนเอ๋อร์ได้? นี่มันเกิดสิ่งใดขึ้น? ต่อให้พวกเขารับรู้ว่าชายชรามิได้ต้องการจะจู่โจมหลินเพราะเกรงว่าจะทำให้อีกฝ่ายบาดเจ็บ ทว่าเหตุการณ์ในตอนนี้ก็พอที่จะบอกได้ว่าความรวดเร็วของหลินซวนนั้นมากมายถึงเพียงใด
หลินซวนที่อาศัยการหนุนเสริมจากปรากฏการณ์ของตนนั้นระเบิดความเร็วในระดับที่เท่าเทียมกับบรรพชนหลินออกมา!
ต้องรู้ก่อนว่าบรรพชนสกุลหลินนั้นก้าวเข้าสู่ชนชั้นแดนปราณก่อตั้งจิตในตำนานแล้ว!
“คุณพระช่วย นี่ข้ากำลังมองอะไรผิดไปหรือ?” ศิษย์รุ่นเยาว์ของตระกูลหลินตบหน้าตัวเองอย่างแรง ดวงตาของเขาแทบจะถลนออกมาจากเบ้าด้วยความมิอยากจะเชื่อถือในสิ่งที่เห็น
บัดนี้ บรรพชนแซ่หลินที่กำลังไล่จับหลินซวนไปทั่วทุกที่เริ่มสัมผัสได้ถึงความผิดปกติบางอย่างที่ก่อตัวขึ้น
เหตุใดความเร็วของซวนเอ๋อร์จึงยังเพิ่มขึ้นกว่าเดิมได้อีก? หากความเร็วของเขายังเพิ่มขึ้น นี่ย่อมต้องมิใช่เรื่องที่ดีอีกต่อไป!
บรรพบุรุษสกุลหลินหายใจเข้าลึกยาว จากนั้นดวงตาของเขาก็เปล่งประกายแสงเจิดจ้า แขนเสื้อสะบัดไหว และหมอกอมตะก็ปรากฏขึ้นที่ระหว่างจมูกและปากของชายชรา เขาเตรียมจะใช้ออกซึ่งพลังกำลังทั้งหมดของตน หวังจะก่อร่างปราณเป็นกรงขังที่จะดักจับหลินซวนโดยที่มิให้ทารกน้อยต้องบาดเจ็บ
ทว่า ก่อนที่หลินฉิงเทียนจะก่อร่างปราณวิญญาณของตนได้ให้สมบูรณ์ หลินซวนที่คราแรกกำลังพุ่งไปทั่วทุกทิศทางก็หยุดตัวเองลงอย่างกะทันหัน ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังทิศของแดนรกร้างทันที!
กรงขังที่กำลังสร้างขึ้นจากปราณของชายชรามิสามารถจะจับสิ่งใดได้ทั้งนั้น!
บรรพชนหลินอดมิได้ที่จะรู้สึกอับอายเล็กน้อย เขาหันกลับพลางยกมือขึ้นกระแอมไอ ใบหน้าปรากฏร่องรอยเคร่งขรึมขึ้น
‘นี่ นี่มันเรื่องบัดซบอันใดกัน! ซวน...ซวนเอ๋อร์?!’ บรรพชนหลินอดมิได้ที่จะสบถอยู่ในใจ และไม่รู้ว่าควรจะตำหนิผู้ใดดี ก่อนที่เขาจะระเบิดความเร็วของตนออกมาถึงขีดสุด และเหาะไปในทิศเดียวกับที่หลินซวนกำลังพุ่งไปในขณะนี้!
แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าบรรพบุรุษแซ่หลินจะรวดเร็วเพียงใด เขาก็มิสามารถจับจับตัวหลินซวนได้ที่กำลังใช้ทักษะเจ็ดก้าวสวรรค์กลับกลายและเร่งความเร็วของตัวมาเป็นเวลานานได้!
อย่างไรเสีย หลินซวนในบัดนี้กำลังซึมซับพลังศักดิ์สิทธิ์บางประการอยู่ เขาย่อมไม่รู้ตัวว่ากำลังก่อให้เกิดสิ่งใดขึ้นมาบ้าง ในระหว่างที่เขากำลังพุ่งตัวออกไปยังแดนรกร้างเขาก็ได้ทิ้งประกายสายฟ้าเป็นทางพร้อมกับบรรพชนหลินไว้เบื้องหลัง!
ทางด้านหลินฉิงเทียนที่กำลังไล่ตามหลินซวน ก่อนที่เขาจะได้แตะขอบเขตของแดนรกร้าง ทารกน้อยก็หายไปจากสายตาของเขาเสียแล้ว!
เหม่อมองความว่างเปล่าด้านหน้าของตน บรรพบุรุษตระกูลหลินก็ชะงักค้างไปชั่วครู่
ปรากฏการณ์ครานี้ของซวนเอ๋อร์น่าหวาดหวั่นเกินไปแล้ว! หลังจากผ่านไปครู่ใหญ่ เขาก็อดจะสั่นสะท้านออกมามิได้ จากนั้นก็เร่งฝีเท้ามุ่งหน้ากลับตระกูลหลินด้วยความเร็วที่มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เพื่อออกคำสั่ง
“พวกเจ้าผู้อาวุโสทั้งหมดของสกุลหลิน จงออกไปยังแดนรกร้างทันที พวกเราต้องไปช่วยกันค้นหาตัวซวนเอ๋อร์!”
บัดนี้ หลินซวนที่กำลังมุ่งหน้าไปยังทิศหนึ่งในแดนรกร้างพร้อมประกายสายฟ้าที่ปรากฏขึ้นด้านหลังของตน
เหตุการณ์นี้เกิดจากการที่เขาเข้าสู่สภาวะอันน่าพิศวงของการบ่มเพาะเสียแล้ว เขาใช้ออกซึ่งเจ็ดก้าวสวรรค์กลับกลายโดยที่ไม่มีความรู้สึกว่าต้องการจะหยุดมัน และร่างกายของเขาก็ยังมุ่งหน้าต่อไปเรื่อยๆ!
และนี่คือขั้นสูงของทักษะเจ็ดก้าวสวรรค์กลับกลาย แน่นอนว่าความเร็วของหลินซวนย่อมต้องมากถึงจุดที่น่าหวาดผวาเป็นอย่างยิ่ง นับเฉพาะในตอนที่เขาได้แตะเข้าสู่ขอบเขตของแดนรกร้าง ความเร็วของเขาก็ราวกับกลายเป็นดาวตกไปเสียแล้ว!