เกิดใหม่เป็นทารกขั้นเทพ ตอนที่ 95
ตอนที่ 95
เปลวไฟสีแดงทองนั้นลุกลามจนกลายเป็นทะเลเพลิง! ราวกับว่าจิตวิญญาณแห่งธาตุไฟนั้นกำเนิดมาจากที่แห่งนี้!
เจ็ดก้าวสวรรค์กลับกลาย ก้าวที่ห้า ระเบิด!
ทันใดนั้น เปลวเพลิงสีแดงและทองนับไม่ถ้วนก็แตกระเบิดออกมาพร้อมกับก้าวที่หลินซวนเหยียบลงไป!
ราวกับว่าเพลิงสวรรค์ร่วงหล่นลงมายังผืนปฐพี คล้ายภูเขาไฟลูกยักษ์ปะทุขึ้น และพลังงานที่แสนรุนแรงกำลังก่อตัวเป็นหายนะ!
แสงสีทองและแดงสดนับอนันต์เจิดจ้าทั่วใต้หล้า เหมือนว่าดวงอาทิตย์กำลังขึ้นมาแตะขอบฟ้า สีสันมากมายแต่งแต้มท้องนภา ก่อนที่อักขระจะกระจายออกมาเพื่อทำลายล้างสรรพสิ่ง!
เจ็ดก้าวสวรรค์กลับกลาย ก้าวที่หก ทำลาย!
จากก้าวที่หกนี้ ความปั่นป่วนอันน่าหวาดหวั่นก่อตัวขึ้นทั่วทั้งฟ้าดิน ห้วงมิติล่มสลาย แสงสีแดงและทองอันงดงามพลันสูญสลายไป และทุกสิ่งโดยรอบกลับกลายเป็นสภาวะสุญญากาศ!
เจ็ดก้าวสวรรค์กลับกลาย ก้าวที่เจ็ด พิชิต!
กระแสลมแห่งห้วงเวลาปัดเป่าอดีตให้จากไป ก่อนที่โลกทั้งใบจะกลับมาชัดเจนอีกครั้ง!
เจ็ดก้าวสวรรค์กลับกลาย เหยียบย่าง,กด,แตกหัก,สั่นสะเทือน,ระเบิด,ทำลาย,พิชิต
แสงสวรรค์ในดวงตาของหลินซวนแลดูล้ำลึก เขาลอยตัวอยู่กลางอากาศโดยที่เท้ายังคงก้าวออกไปอย่างต่อเนื่อง และเขาเองก็ยังใช้ทักษะเจ็ดก้าวสวรรค์กลับกลายไม่หยุดหย่อน ร่างเขาราวกับเป็นดาวตกที่กำลังพุ่งตรงจากผืนฟ้าสู่แผ่นดิน ประกายแสงสาดส่อง กลิ่นอายยิ่งใหญ่ปรากฏขึ้นจากตัวของเขา!
เพียงเจ็ดก้าว ความเจ็ดของหลินซวนก็ทบทวีขึ้นอย่างมิหยุดหย่อน!
เพียบครู่เดียวก็อยู่เหนือกว่าความสามารถในการมองเห็นของศิษย์ตระกูลหลินบางคนเสียแล้ว นี่ทำให้พวกเขาสัมผัสได้เพียงเส้นแสงที่เคลื่อนไปมาบนท้องฟ้าเท่านั้น!
บัดนี้ คนทั้งหลายต่างก็ตกตะลึงจนไม่อาจจะเชื่อในสายตาของตนได้ ความเร็วนี่มันช่างน่าหวาดผวาเกินไปแล้ว!
ทารกน้อยที่ผมเส้นแรกยังมิทันได้หลุดออกจากศีรษะกลับมีความเร็วอันน่าสะพรึงถึงเพียงนี้ในทันทีที่เขาเดินได้ นี่นับว่ารวดเร็วกว่าพวกเขาหลายคนที่เร่งฝีเท้าจนสุดกำลังเสียด้วยซ้ำ!
ในสายตาของพวกเขา ท่าเท้านี้ดูเหมือนว่าจะเป็นทักษะโจมตีอันทรงพลังยิ่ง!
นี่มันอยู่เหนือสามัญสำนึกเกินไป! พวกเขามิอาจทำสิ่งใดได้นอกจากคร่ำครวญกับตัวเองในใจเท่านั้น
วูบ!
เสียงหนึ่งปรากฏขึ้นจากความว่างเปล่า เป็นบรรพชนหลินที่ปรากฏกายออกมา
สายตาของเขาทอดมองไปยังหลินซวนที่ดูคล้ายลำแสงบนฟากฟ้า เขาพยักหน้าด้วยความพึงพอใจพลางเอามือไขว้หลัง ดวงตาแฝงด้วยความชื่นชมและสุขใจ!
“เซียนน้อยตระกูลหลินของข้าช่างน่ามหัศจรรย์!
มุมปากของเขายกขึ้นเป็นรอยยิ้ม ด้านหลังมีอาวุโสสกุลหลินบางส่วนยืนอยู่ พวกเขากำลังเฝ้ามองปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยแววตายินดี
ในเวลาเช่นนี้ พวกเขาก็อดมิได้อยากจะทำตัวหน้าหนาสักเล็กน้อยจึงนั่งลงและเริ่มบ่มเพาะทันที แม้ว่าบรรพชนแซ่หลินของพวกเขาจะยังคงยืนอยู่และลูบเคราของตัวเองไปเรื่อยๆ
“เขาคือผู้ทรงพลังอย่างแท้จริง!”
“เขาเพิ่งจะเดินได้เท่านั้นกลับสามารถปลดปล่อยกลิ่นอายแข็งแกร่งออกมาได้ ยิ่งกว่านั้น เขายังเป็นเพียงชนชั้นปรับปรุงปราณแต่ยังสามารถรวดเร็วได้ถึงขนาดนี้ สมเป็นลูกหลานของข้า!”
“บัดซบ หากตระกูลซวนของเรามีอัจฉริยะเช่นนี้ได้บ้าง! ทว่า อย่างไรเสียซวนเอ๋อร์เองก็เป็นสายเลือดตระกูลซวนของเราครึ่งหนึ่ง! ข้าคิดว่าในอนาคตเมื่อเขาแต่งงานและมีบุตรชายหลายๆ คน ข้าอาจจะขอให้หนึ่งนั้นใช้แซ่ซวนได้!”
ทางด้านตาแก่สกุลหลินบางส่วนกำลังคำนวณบางสิ่งอยู่ในความคิดของตน ในเวลาเดียวกันก็จ้องเขม็งไปยังอักขระใต้เท้าของหลินซวนด้วยต้องการที่จะบรรลุทักษะบางอย่างที่แฝงอยู่ในนั้น
เมื่อบรรพชนตระกูลหลินได้ยินความคิดของคนแซ่ซวน เขาเพียงแค่นเสียงเยาะเย้ยเล็กน้อยและเอ่ยออกมา
“ในความฝันเจ้าก็คงเป็นได้เช่นนั้น”
จากนั้น พวกเขาก็ได้ยินเสียงบางอย่างดังขึ้น ซึ่งเสียงนั้นส่งผลให้ความว่างเปล่ารอบด้านสั่นสะเทือน หลินซวนใช้ออกซึ่งเจ็ดก้าวสวรรค์กลับกลายกำลังต่อต้านกฎเกณฑ์เพื่อต้องการที่จะเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระในโลกแห่งนี้ ก่อนที่จะบรรลุถึงความลึกล้ำทั้งหมดของมันในที่สุด!
เพราะว่าความเร็วของหลินซวนนั้นมากมายยิ่งนัก ฉากเบื้องหน้าของเขาจึงเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ทว่าด้วยนัยน์ตาหยินหยางของเขาแล้ว ต่อให้เขามิได้กระตุ้นการทำงานของมันแต่เขาก็ยังสามารถมองเห็นรอบด้านของตนเองได้อย่างง่ายดาย
“นี่คือความรู้สึกของผู้
บ่มเพาะเวลาพวกเขาก้าวเดิน?” หลินซวนพึมพำกับตัวเองเบาๆ
กล่าวตามตรง ดูเหมือนว่านี่จะเป็นครั้งแรกที่หลินซวนได้สัมผัสกับปรากฏการณ์ที่เราก่อขึ้นอย่างแท้จริง ส่วนปรากฏการณ์อื่นๆ นั้นเป็นเพียงร่างกายเขาปลดปล่อยออกมายามได้ทำบางสิ่งเป็นครั้งแรกเท่านั้น มิได้สามารถใช้มันอย่างต่อเนื่องเหมือนตอนนี้ ไม่ว่าจะเป็นดัชนีกักสวรรค์ขังปฐพี นัยน์ตาหยินหยาง ทักษะกลืนกินดวงดารา ทั้งหมดนี้เป็นเขาใช้มันได้เพียงในคราแรกที่ได้รับมาเท่านั้น
หากเขาต้องการจะปลดปล่อยพลังในระดับเดียวกับที่เขาใช้ออกมาในคราวแรกที่ได้รับทักษะมานั้น เขาจำเป็นต้องบ่มเพาะปราณและค่อยๆ ซึมซับความรู้ความเข้าใจในทักษะเหล่านั้นอย่างช้าๆ และหากระดับแดนปราณของเขาไม่สูงส่งมากพอ ย่อมมิสามารถใช่พวกมันออกมาอย่างเต็มที่ได้
แตกต่างกับเจ็ดก้าวสวรรค์กลับกลายในวันนี้ที่เขากำลังใช้ออกด้วยขีดจำกัดขั้นสูงของมันอย่างต่อเนื่องไปพร้อมกับปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น และดูเหมือนว่าเขาจะได้รับผลประโยชน์มากมายในคราวนี้
หลินซวนยังคงเคลื่อนไหวต่อไปไม่หยุดหย่อน ไม่เพียงเพื่อทำความเข้าใจทักษะเท่านั้น เขายังใช้เก้าอักขระลับ “จู่โจม” ออกมาอีกด้วย ดูเหมือนว่าอักขระลับนี้จะเกี่ยวข้องกับความเร็วอยู่ไม่น้อย เขาเปรียบเทียบทักษะทั้งสองไปพร้อมกับซึมซับความรู้ของเจ็ดก้าวสวรรค์กลับกลาย ในระหว่างที่เท้าใช้ออกซึ่งเจ็ดก้าวสวรรค์กลับกลาย ในห้วงสำนึกก็ขบคิดเกี่ยวกับอักขระ “จู่โจม” ในเวลาเดียวกัน ก่อนที่เริ่มผสมผสานและเชื่อมโยงทั้งสองทักษะเข้าด้วยกัน....
ด้วยวิธีนี้ หลินซวนกำลังตระหนักรู้ได้ถึงบางอย่างที่แฝงอยู่ในทักษะเจ็ดก้าวสวรรค์กลับกลายของตน….
แรกเริ่มเดิมที หลินซวนเพียงบินไปมาเหนือบริเวณตระกูลหลินเท่านั้น ทว่า เมื่อเขาเริ่มชำนาญมากขึ้น ความเร็วของเขาก็เพิ่มขึ้นและเพิ่มขึ้น หลินซวนมิได้จำกัดตัวเองเพียงแค่ในตระกูลหลินอีกต่อไป บัดนี้เขากำลังท่องไปทั่วทั้งเมืองต้าหยาน
สิ่งนี้เรียกความสนใจจากผู้บ่มเพาะจำนวนมากในต้าหยาน พวกเขาต่างเงยหน้าขึ้นและมองไปยังลำแสงสีแดงทองที่กำลังลุกไหม้บนฟากฟ้า
“นั่นคือสิ่งใด? เป็นผู้ใดกัน? เขากล้าถึงขั้นบินอยู่เหนือต้าหยานเช่นนี้ ไม่กลัวว่าจะถูกผู้คุมกฎจับตัวเองหรือ?”
“แต่ว่า ข้ารู้สึกเหมือนสิ่งนี้จะลอยมาจากทางด้านสกุลหลิน อาจเป็นสมาชิกของพวกเขาบางคน ช้าก่อน นั่นมัน....เซียนน้อยตระกูลหลินมิใช่หรือ?”
ผู้บ่มเพาะคนหนึ่งเอ่ยถามขึ้น เขาคาดว่าสิ่งนั้นควรจะเป็นคนตระกูลหลินหรือไม่ก็เป็นเซียนน้อยของพวกเขา บางคนที่อยู่ด้านหลังผู้บ่มเพาะคนนั้นกลอกตาไปมาและกล่าวขึ้น
“อย่าได้กล่าววาจาไร้สาระที่นี่ ความเร็วที่น่าหวาดหวั่นเช่นนี้จะเป็นเซียนน้อยคนนั้นไปได้อย่างไร? แม้ว่าเซียนน้อยแซ่หลินจะนับว่าเป็นยอดอัจฉริยะเพียง ทว่าเขายังเป็นเพียงทารกวัยไม่ถึงปีเสียด้วยซ้ำ แค่การจะเดินก็นับว่ายากเย็นแล้ว บางทีนี่อาจจะเป็นคนสำคัญสักคนของตระกูลหลินที่กลับมายังบ้านเกิดและกำลังออกมาดูความเปลี่ยนแปลงในต้าหยานก็เป็นได้!”
“อย่างไรก็ตาม ความเร็วระดับนี้ช่างน่าหวาดผวานัก!”
กล่าวตามตรง นี่ย่อมเป็นครั้งแรกที่หลินซวนใช้ทักษะเจ็ดก้าวสวรรค์กลับกลายออกมา เขาสามารถมาถึงความเร็วระดับนี้ได้ด้วยผลจากปรากฏการณ์ของระบบเท่านั้น ในอนาคตกว่าที่เขาจะได้สัมผัสกับความเร็วเช่นนี้อีกครั้งก็เป็นในตอนนี้ระดับการบ่มเพาะของเขาสูงพอจะใช้ทักษะนี้ออกมาเต็มกำลังเท่านั้น
หลินซวนที่กำลังตระหนักรู้บางสิ่งย่อมไม่รับรู้ว่าทักษะของตัวเองนั้นก่อให้เกิดสิ่งใดขึ้น เขาเพียงเหยียบย่างไปทั่วท้องฟ้าเหนือต้าหยานและครุ่นคิดว่าตกจะออกไปนอกเขตเมืองได้หรือไม่....
ในคราแรก คนแซ่หลินทั้งหลายยังไม่ได้รู้สึกถึงความผิดปกติแต่อย่างใด พวกเขาเพียงมองดูหลินซวนและรูปแบบอักขระที่เท้าของเด็กน้อยอย่างมีสมาธิเท่านั้น
ต่อให้หลินซวนออกไปจากอาณาเขตตระกูลพวกเขาก็มิได้รู้สึกแปลกอันใด อย่างไรเสียเมืองต้าหยานก็เป็นอาณาเขตของพวกเขา บรรพชนกำลังปกป้องและบ่มเพาะอยู่ที่นี่ แล้วจะมีสิ่งใดเกิดขึ้นกับเซียนน้อยของพวกเขาได้?
ทว่าเมื่อความเร็วของหลินซวนพุ่งขึ้นถึงจุดที่ศิษย์บางคนของพวกเขามิอาจมองเห็นได้ รูปแบบอักขระที่พวกเขากำลังสนใจอยู่ก็ไม่อาจเห็นได้อย่างชัดเจนอีกต่อไป ในที่สุดศิษย์บางส่วนก็เริ่มรับรู้ได้ถึงความผิดปกติบางอย่าง