ตอนที่ 1 ราชามาเฟียเป็นชายหนุ่มรูปหล่อขั้นเทพ
“ฉันไปสายอีกแล้ว”
ซ่งหลีหัว ร้องอุทาน
ขณะที่เธอรีบเร่ง สวมรองเท้าพร้อมกับจิบน้ำส้มจากกระป๋องเล็กๆ ซึ่งเป็นอาหารเช้ามื้อเดียวของเธอ แล้วเธอก็รีบก้าวเท้าออกจากบ้าน เธอเกือบจะชนกับป้าจาง เพื่อนข้างบ้านของเธอเอง
“โอ้! ที่รัก ระวัง! เธอเกือบจะทำให้ไข่ของฉันแตก”
“ขอโทษค่ะป้าจาง” หนูตื่นสายอีกแล้ว
“นาฬิกาปลุก ปลุกไม่ตรงเวลาเหรอ”
“ไม่ค่ะ”
“ทำไมล่ะ”
“หนูลืมตั้งนาฬิกาปลุกค่ะป้า”
ป้าจางทำหน้าเบื่อๆเซ็งๆ เธอขี้ลืมอีกแล้วนะ
“วันนี้ดูเหมือนจะเป็นวันสำคัญของเธอ แต่เธอลืมตั้งนาฬิกาปลุกอีกแล้ว เธอนี่มันแย่จริงๆ ในสมองเธอคิดอะไรอยู่เนี่ย ถ้าเธอยังเป็นคนแบบนี้อยู่ ใครเขาจะคบกับเธอได้ น่าเบื่อจริงๆ”
ซ่งหลีหัวรีบมาก “ขอโทษนะคะป้า” หนูต้องไปแล้วค่ะ หนูรีบจะกลับมาให้ป้าดุด่าหนู อย่างเต็มที่เลย ไม่งั้นหนูตายแน่ๆ วันนี้หนูไปมหาวิทยาลัยสายมาก เธอรีบวิ่งเร็วราวกับสายฟ้าแล่บ
“เดี๋ยวก่อน นั่นน้ำส้มเป็นอาหารมื้อเช้าของหนูเหรอ?” ป้าจางถาม แต่เธอไม่สนใจจะตอบ รีบออกไปเลย
ป้าจางถอนหายใจ “โอ้ที่รัก เธอไม่ดูแลตัวเองเลยนะ ฉันหวังว่าสักวัน เธอจะได้พบกับคนที่ดูแลเธอได้ ซงหลีหัว รีบพุ่งไปที่ประตูมหาวิทยาลัย และเมื่อเธอก้าวไปข้างใน เข่าเธอแทบทรุด
“ฮะ…..แฮ่ก..” เธออ้าปากค้างเหนื่อยหอบอย่างหนัก
“ฉันมาแล้ว….ในที่สุดฉันก็มาถึง,,,,,ฉันทำได้” เธอดูนาฬิกา เหลือเวลาอีกห้านาที ก่อนการสัมมนาจะเริ่มขึ้น
“ฮึก! แค่ห้านาที ช่างน่าสมเพชตัวเองจริงๆ ขอพักเหนื่อยสักครู่ได้มั๊ย” เธอบ่น เหนื่อยจังเลย
ซงหลีหัวเริ่มวิ่งอย่างรวดเร็ว ตัวตรงศรีษะตั้ง มุ่งหน้าใจจดจ่อไปที่ห้องสัมมนาอีกครั้งและเธอก็รู้ตัวว่าไปช้าหนึ่งวินาที ทันใดนั้นเธอก็ได้วิ่งไปชนใครบางคนอย่างจัง
แฟ้มเอกสารทั้งหมดที่เธอเตรียมมาด้วย ได้จัดเก็บมาอย่างดีเป็นระเบียบเรียบร้อย หลุดจากมือเธอ ตกหล่นกระจายเกลื่อนกลาดบนพื้น
ซงหลีหัวตกใจ ทำอะไรไม่ถูก “นี่… จะฆ่าฉันหรือไง”
แฟ้มเอกสารนำเสนอวิทยานิพนธ์จำนวนมากของเธอ ตอนนี้ได้หายนะไปแล้ว เธอจะจัดเรียงเอกสารใหม่จำนวนมากนี้ได้อย่างไร เหลือเวลาอีกแค่สี่นาที เวลาไม่เพียงพอ
การสัมมนาในวันนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการหางานของเธอมาก และน่าเสียดายที่เธอเป็นคนแรกในแถว ที่ได้เป็นคนนำเสนอ
ศาสตราจารย์ได้เตือนอย่างเข้มงวดว่า จะไม่มีการยอมให้ใครมาสายและถ้าเธอพลาดโอกาสนี้ไป เธอจะไม่ได้มานำเสนออีก
ซงหลีหัวทำงานดึกเพื่องานสัมมนาในวันนี้ เธอไม่ได้หลับไม่ได้นอนจนลืมตั้งนาฬิกาปลุก และตอนนี้เธอหมดแรง ความฝันของเธอได้พังทลายลง เธอได้ทรุดตัวลง รู้สึกท้อแท้อ่อนแรง กระดาษเอกสารยังคงกระจายเกลื่อนกลาดเต็มพื้น
“โอ้หลีหัวผู้น่าสงสาร” ทำตัวซุ่มซ่ามอีกแล้ว เธอรู้สึกอ่อนล้า ไม่มีการนำเสนอ ไม่มีงานทำ นักเรียนคนอื่นๆที่เดินผ่านไปผ่านมา มุงดูเธอหัวเราะเยาะเย้ยเธอ หลีหัวได้ยินพวกเขาพูดดูถูกเหยียดหยาม แทนที่จะให้กำลังใจ พวกไร้หัวใจ
หลีหัวรู้สึกหดหู่ใจ แต่ทันใดนั้นเธอก็ตบที่แก้มของเธอเพื่อให้กำลังใจตัวเอง “สู้ๆนะหลีหัว เธอจะยอมแพ้ไม่ได้นะ เธอต้องทำได้”
หลีหัวตั้งสติใหม่ เริ่มรวบรวมก้มลงเก็บเอกสารวิทยานิพนธ์ของเธออย่างรวดเร็ว แต่ความตั้งใจของเธอก็หยุดลง มันเป็นงานที่แทบจะทำไม่ได้เลย
ดวงตาของเธอบอบช้ำ น้ำตาคลอเบ้า นึกถึงเรื่องเลวร้ายที่เกิดขึ้น หัวไหล่ของเธอสั่นไหว งานของฉัน….. ทันใดนั้นก็มีคนมาหยิบเอกสารจากมือของเธอ เฮ้! เอาเอกสารของฉันคืนมา แต่คำพูดที่เหลือของเธอได้หยุดลง ไม่ได้ออกจากปากเธอ เมื่อเธอเห็นหน้าของชายหนุ่มรูปหล่อนั่งลงคุกเข่าข้างเธอ เธออ้าปากค้าง ผู้ชายรูปหล่อขั้นเทพคนนี้คือใคร?
เธอคิดว่าผู้ชายหล่อขั้นเทพแบบนี้ มีแค่ในนิยายเท่านั้น แว๊บเดียวที่เจอเขา ก็ทำให้หัวใจของเธอเต้นระรัว
“ตุ๊บ ตุ๊บ ตุ๊บ”
ปากของเธอเปิดๆปิดๆหลายครั้ง แต่เธอก็ไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้ หัวใจของฉันเต้นแรงเร็วอย่างนี้ตลอดเลยเหรอ? ทำไมฉันได้ยินเสียงการเต้นหัวใจของฉันเป็นครั้งแรก?
ดูเหมือนว่าหัวใจเธอหยุดเต้นไปชั่วขณะหนึ่ง ตอนนี้เธออยู่ท่ามกลางฝูงชน แต่เธอทำราวกับว่า มีแค่เราอยู่เพียงลำพังกันสองคนที่นี้
หลีหัวเห็นชายหนุ่มรูปหล่อขั้นเทพหยิบกระดาษด้วยสีหน้าเคร่งขรึม เขากำลังทำในสิ่งที่เหลือเชื่อ ที่พบว่าเธอทำไม่ได้ ซึ่งเธอได้ทำมา เมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้
เขาแค่เหลือบมองเอกสารของเธอหนึ่งครั้ง และทำราวกับเป็นนักมายากล เขาจับกระดาษมาสับไปสับมาในมือของเขา การเคลื่อนไหวของเขา มันรวดเร็วและลื่นไหลมาก จนหลีหัวคิดว่ามันยากมากที่จะตามทัน เพียงไม่กี่วินาที กระดาษเอกสารบางชุดที่เธอถืออยู่ กองเต็มไม่มีหน้าที่เลอะเทอะ และร่วงหล่นกองบนพื้นอีกต่อไป
ผู้ชายคนนั้นจ้องมองมาที่เธอและเธอก็ยืดตัวขึ้น เขาส่งเอกสารคืนให้เธออย่างใจเย็น หลีหัวรับเอกสารจากมือเขาอย่างงุนงง เธอตรวจเช็คเอกสาร แล้วดวงตาของเธอแทบถลนออกมาจากเบ้าตา เธอพลิกหน้าเอกสารหน้าเอกสารอย่างรวดเร็วและตกใจ
วิทยานิพนธ์ของเธอมีทั้งหมดเจ็ดสิบสีหน้า มันเรียงเลขที่หน้าที่ถูกต้องอย่างเป็นระเบียบ อยู่ด้านล่างอีกมุมหนึ่ง
“นี่...นี่...นี่คือปาฏิหารย์” คุณ...คุณทำได้ยังไง? ชายคนนั้นไม่ตอบคำถาม “ช่วยสอนวิทยายุทธนี้ให้ฉันด้วย” เขาไม่ตอบ แค่จ้องมองหน้าเธอ หลีหัวมีความสุขมาก เธอจับมือเขาและเขย่าแรงๆ “ขอบคุณมากค่ะท่าน! วันนี้คุณช่วยงานฉันไว้!”
ชายคนนั้นจ้องมองมือสั่นๆของเธอ ที่จับมือเขาไว้ ใบหน้าของเขาเรียบเฉย หลีหัวทำหน้าสงสัย ทำไมเขาไม่พูดอะไรออกมาเลยสักคำล่ะ? อืม...โอ้! ที่รักทำไม? พระเจ้า ทำไม? ลืมให้เสียงเขามาเหรอ? ช่างโหดร้ายเหลือเกิน หลีหัวเอนตัวเล็กน้อย แล้วตบไหล่เขาเบาๆ อย่ากังวลไปเลยแม้ว่าคุณจะพูดไม่ได้ แต่พระเจ้าก็ตอบแทนคุณด้วยใบหน้าที่หล่อเหลาจากพระเจ้า “ที่นั่น ที่นั่น” เธอปลอบโยนเขา
ชายคนนั้นสีหน้าไม่สะทกสะท้านกับคำพูดของเธอ และยังจ้องมองมาที่เธอด้วยท่าทางที่อ่านไม่ออก เธอรีบลุกขึ้นยืน “ฉันต้องรีบไปแล้ว แต่ขอบคุณอีกครั้งนะ!” “เธอโค้งคำนับ” ถ้าได้พบกันอีก ให้ฉันเลี้ยงข้าวคุณนะ หรือถ้าคุณต้องการความช่วยเหลือจากฉัน ได้โปรดถามฉันได้
หลีหัวรีบวิ่งออกไปอย่างรวดเร็วดั่งสายลม ทำให้ราชามาเฟียผู้ไม่เคยหันมามองใครเลยในชีวิตของเขา กลับหันมามองหลีหัวเป็นครั้งแรก