ตอนที่ 635+636 เรื่องไร้สาระ
ตอนที่ 635 เรื่องไร้สาระ
ถ้านั่นคือจุดประสงค์ของจูเฉียวหลาน ก็คงจะทำให้เจียงเหยารู้สึกงง ผู้หญิงสมัยนี้คิดแบบนี้กันเหรอ?
ในความคิดเห็นของเจียงเหยา ผู้หญิงที่ฉลาดที่พบว่าตัวเองอยู่ในสถานการณ์ของจูเฉียวหลาน จะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อป้องกันไม่ให้คู่ต่อสู้ทางความรักของเธอหย่ากับสามีคนปัจจุบันของเธอ
การกระทำของจูเฉียวหลานนั้นช่างแปลกประหลาดมาก
“คุณพูดเรื่องไร้สาระอะไร” ลู่ชิงสีเคาะศีรษะของเจียงเหยา ทว่าเป็นการโจมตีที่อ่อนโยน ทว่าน้ำเสียงของเขาดูไม่มีความสุขเขาเสียเลย เมื่อเขาได้ยินเจียงเหยาพูดว่า ‘หย่าร้าง’
เจียงเหยาถูกลู่ชิงสีโจมตีโดยไม่ได้ตั้งตัว เจียงเหยาหันมาสนใจเขาและสังเกตเห็นการแสดงออกที่บูดเบี้ยวบนใบหน้าของเขา จึงรีบอธิบาย “ก็แค่ข้อสันนิษฐาน เราจะหย่ากันได้ยังไง? เรื่องนี้จะไม่เกิดขึ้น นับตั้งแต่เราสาบานในวันแต่งงาน! อีกอย่างฉันอยากมีลูก เป็นกองทัพเลย!”
เจียงเหยารู้สึกถึงความสำคัญของการบรรเทาอารมณ์ของเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนอย่างสามีของเธอ
ไม่น่าแปลกใจที่คำพูดของเจียงเหยาจะทำให้ใบหน้าของลู่ชิงสีสดใสขึ้น
“ก็ใช่น่ะสิ” เป็นเรื่องดีที่เจียงเหยาเข้าใจความรู้สึกของเขา แม้ว่าเขาจะอดไม่ได้ที่จะยืนยันจุดยืนของเขาอีกครั้ง
เมื่อพวกเขาแต่งงานกัน ชื่อของพวกเขาได้รวมอยู่ในเอกสารแผ่นเดียวกัน ไม่มีโอกาสแม้แต่น้อยที่เธอจะทิ้งเขาไป หากไม่ใช่ความตายมาพรากไป
จูเฉียวหลานยืนตะลึง เห็นได้ชัดว่าเธอกำลังวิเคราะห์สิ่งที่เจียงเหยาเพิ่งพูด ในทางกลับกัน เจียงเหยาไม่ได้ตั้งใจจะเสียเวลากับผู้หญิงโง่ ๆ คนนี้
“ไปกันเถอะค่ะ” เธอคว้ามือใหญ่ของลู่ชิงสีแล้วเดินจากไป ต่อหน้าจูเฉียวหลาน ราวกับว่าเธอไม่มีตัวตนอยู่ตรงนั้น
จูเฉียวหลานรู้สึกท้อแท้เมื่อได้ฟังคำตอบของเจียงเหยา ใช่แล้ว นั่นมันทำให้เธอดูเหมือนคนโง่โดยสมบูรณ์แบบ
เธอตกใจยิ่งกว่าเดิมที่สามีของเจียงเหยาไม่สงสัยอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว แม้ว่าจะได้ฟังข้อกล่าวหา
ไกลจากจูเฉียวหลาน ลู่ชิงสีมองไปที่เจียงเหยาและถามด้วยน้ำเสียงรังเกียจ “คนงี่เง่านั่นใคร?”
ถ้าเธอมีสติดี ดูก็รู้อยู่แล้วว่าหวงเฉิงจิ้งชอบใคร
แม้แต่เขาก็ยังมองออกในทันทีเลยว่าหวงเฉิงจิ้งชอบพี่สาวของเขา แล้วผู้หญิงคนนี้ยังจะยืนยันว่าเธอชอบเขา
คนคนหนึ่งสามารถมองอีกฝ่ายได้ว่าเขาสนใจอะไร เช่นเดียวกับเขา เขาสามารถเข้าใจสิ่งที่เจียงเหยาคิดได้จากที่ที่เธอจ้องมอง นี่เป็นความเข้าใจระหว่างคนที่รักกันและจะสังเกตภาษากายของคู่รักตนเองเพื่อพยายามเข้าใจความคิดของอีกฝ่ายอย่างเต็มที่
“คนที่คลั่งไคล้หวงเฉิงจิ้งค่ะ” เจียงเหยายักไหล่ “เราพบกันที่งานแสดงหินที่จัดโดยตระกูลจู ฉันไปร่วมงานพร้อมกับหวงเฉิงจิ้ง เธอเป็นลูกสาวของตระกูลจู และเป็นผู้รับผิดชอบธุรกิจในเมืองหนานเจียง”
“หืม คุณเข้าสู่วงการหินด้วยเหรอ?” ลู่ชิงสีเปลี่ยนความสนใจไปที่การเดิมพันหิน
__
ตอนที่ 636 เด็กกำพร้า
“ฉันสนใจนิดหน่อยค่ะ” เจียงเหยาตอบ “ดูเหมือนว่ามันจะเป็นวิธีหาเงินที่เร็วที่สุด...”
ก่อนที่เธอจะพูดจบประโยค เธอสังเกตเห็นกลุ่มเด็ก ๆ ที่จุดบรรเทาทุกข์ของฉางกังกรุ๊ป โดยมีลู่อี้ชิงยืนอยู่ท่ามกลางพวกเขา กำลังแจกจ่ายน้ำดื่ม ขณะที่ทหารสองนายมองดูจากด้านข้าง
เมื่อเห็นสิ่งนี้ เจียงเหยาก็รีบวิ่งไปหาเด็ก ๆ โดยไม่สนใจลู่ชิงสี
ลู่ชิงสีมองดูมือที่ว่างเปล่าของเขาแล้วยัดมันเข้าไปในกระเป๋าของตนเอง เขารู้สึกรำคาญเล็กน้อยที่เห็นเจียงเหยาก้มลงคุยกับเด็ก ๆ
ดูเหมือนว่าเธอจะมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเด็ก อย่างเช่น หลินเหวยที่กองทัพ เธอใช้เวลาตลอดทั้งบ่ายเล่าเรื่องให้เขาฟัง
ถัดมาคือหวงเฉินเฉิน แม้กระทั่งตอนนี้เจียงเหยาก็ยังพึมพำชื่อของเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ
เธอชอบพวกเขามาก แม้ว่าพวกเขาจะไม่ใช่ลูกของเธอ จะเกิดอะไรขึ้นกับตำแหน่งของเขาในครอบครัว หลังจากที่เธอมีลูกเป็นของตัวเอง?
ทันใดนั้น การที่เจียงเหยาให้กำเนิดลูกของพวกเขาทันที หลังจากเรียนจบ ดูเหมือนจะเป็นความคิดที่ไม่ดีนัก
ไม่ค่อยมีโอกาสที่พวกเขาจะได้ใช้เวลาร่วมกันช่วงที่เธอเรียนที่หนานเจียง หลังจากเรียนจบ เธอควรจะย้ายไปที่อยู่เมืองจิน จะได้มีโอกาสได้ใกล้ชิดกัน เขาไม่อยากจะเผชิญกับความเป็นไปได้ที่ภรรยาของเขาจะละลายเขาและมุ่งความสนใจทั้งหมดของเธอไปที่ลูก ๆ แทน
เมื่อถึงเวลานั้น เขาคงแก่กว่าตอนนี้ กำลังวังชาก็คงไม่เหมือนเดิม จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าเธอไม่ต้องการที่แก่ชราของเขาอีกต่อไป?
ลู่ชิงสีลูบจมูกของเขาและตระหนักว่าเขาน่าจะหยุดคิดมากได้แล้ว
ในทางกลับกัน เจียงเหยาไม่รู้ว่าเพียงแค่ทิ้งเขาไว้ข้างหลังอย่างกะทันหัน เขาจะคิดมากขนาดนี้ เธอมองดูเด็ก ๆ และเห็นพวกเขาสวมเสื้อผ้ามอมแมม บางคนมีความขลาดกลัวอยู่ในแววตาของพวกเขา รองเท้าแตะที่สวมสภาพก็ไม่สู้ดีนัก
“เด็กเหล่านี้มีพื้นเพมาจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าของเมืองรง น้ำท่วมทำลายสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าที่ทรุดโทรมนั้นไปแล้ว นักสังคมสงเคราะห์หลายคนก็ได้รับบาดเจ็บ ไม่มีใครสามารถดูแลเด็กเหล่านี้ได้ ทหารเลยพาพวกเขามาที่นี่”
ลู่อี้ชิงค่อย ๆ ลูบศีรษะของเด็กชายตัวเล็กๆ ที่กำลังอุ้มลูกแมวผอมบางและสกปรกอยู่ในมือ ขณะที่เธอพูดกับเจียงเหยา “ตอนนี้เด็ก ๆ เหล่านี้กำลังนอนหลับอยู่ในเต็นท์ใช่ไหมคะ” เจียงเหยารู้สึกเสียใจต่อเด็กกำพร้า ที่ต้องสูญเสียพ่อแม่ตั้งแต่อายุยังน้อย และตอนนี้ยังสูญเสียสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าที่เป็นเหมือนบ้านจากเหตุการณ์น้ำท่วมไปอีก
“ตอนนี้อะนะ” ทหารพยักหน้า “อีกไม่กี่วัน เด็กเหล่านี้จะถูกแยกกันไปตามสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าต่าง ๆ ทั่วภูมิภาค กว่าเมืองรงจะเข้าสู่สภาวะปกติ และสร้างสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าขึ้นอีกครั้ง ก็ต้องใช้เวลา จากเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งนี้ จำนวนเด็กที่สูญเสียพ่อแม่ก็พุ่งสูงขึ้นด้วย”
“พี่ครับ ผมจะได้แยกจากเพื่อน ๆ เร็ว ๆ นี้เหรอครับ?” เด็กชายตัวเล็ก ๆ กับลูกแมวดึงมือเจียงเหยา บางทีเขาอาจจะกลัวว่าความสกปรกจากตัวเขาจะเปื้อนเสื้อผ้าของเจียงเหยา เขาจึงใช้แค่ปลายนิ้วบีบแขนเสื้อเธอเบา ๆ “เราจะถูกรังแกไหม? เราอยากอยู่ด้วยกัน เราสัญญากันแล้วว่าจะไปโรงเรียนด้วยกัน จะอยู่ด้วยกัน เราอยากจะตอบแทนครูใหญ่ของเราด้วย! แต่ตอนนี้พวกเขาล้วนบาดเจ็บ เราไม่อยากจากไปเลย เราอยากอยู่กับพวกเขา!”