STBI : ตอนที่ 35 ตัวตลกเพียงคนเดียว
เช้าวันรุ่งขึ้น.
ไป๋ตงหลิน ตื่นแต่เช้า และ เดินไปที่ประตูเมืองพร้อมกับแมงป่องทะเลทราย
แมงป่องทะเลทรายนี้ มีรูปร่างเหมือนกับแมงป่องยักษ์ ทั่วทั้งตัวปกคลุมไปด้วยเกล็ดสีขาว และ มีขนปุยอยู่ระหว่างช่องว่างของเกล็ด
หลังจากมาถึงประตูเมืองแล้ว เขาก็พบ หญิงสาวในชุดดำที่มาถึงเป็นคนแรก ไป๋ตงหลิน คิดว่าตัวเองมาถึงเร็วแล้ว เขาก็เดินเข้าไปทักทาย เพียงแต่ หญิงสาวชุดดำ เพียงแค่พยักหน้าอย่างเย็นชาโดยที่ไม่ได้พูดอะไร
ซึ่ง ไป๋ตงหลิน ก็ยิ้มตอบกลับและไม่สนใจ หลังจากดื่มชารอ ไม่นาน ฝาแฝด ก็มาถึง จากนั้นชายชราก็ปรากฏตัวขึ้นทีหลัง
เพียงแต่ ชายชรา ไม่ได้มาตัวคนเดียว เขามากับหญิงสาวในชุดขาวที่ดูสง่างาม
เพียงแต่หญิงสาวคนนี้ได้สวมผ้าคลุมหน้าเอาไว้
ไม่รู้ว่าเพราะกลัวโดนแดด? สวยเกินไปกลัวจะสร้างปัญหา? น่าเกลียดเกินไปจนทำให้ผู้คนหวาดกลัว? หรือว่ามีความลับอะไรแอบแฝงกันแน่?
ทันทีที่ทั้ง 6 คนมาถึง ชายชราก็กล่าวทักทาย แต่เขาไม่ได้แนะนำหญิงสาวในชุดขาวที่อยู่ด้านข้าง ซึ่งคนอื่น ๆ ก็ไม่ได้กล่าวถามอะไร ทุกคนต่างเหยียบลงบนแมงป่องทะเลทรายและเริ่มวิ่งไปบนทะเลทรายโม่หยาน
เดิมทีเมืองนี้เป็นเมืองที่ใกล้ที่สุดกับทะเลทรายอันยิ่งใหญ่ ดังนั้น กลุ่มคนทั้ง 6 คนจึงมาถึงขอบทะเลทรายโดยใช้เวลาไม่นานนัก
เบื้องหน้าของพวกเขาคือดินแดนทะเลทรายที่เต็มไปด้วยทรายสีเหลืองทอดยาวไปไกลหลายพันลี้
ทั้งอดีตและปัจจุบัน นี่เป็นครั้งแรกที่ ไป๋ตงหลิน เห็นทะเลทราย ที่นี่เป็นเนินทรายสีเหลืองไร้สิ้นสุดที่เชื่อมต่อกับท้องฟ้าสีครามในระยะไกลและไม่มีพื้นที่สีเขียวหลงเหลืออยู่
อีก 5 คน ดูคุ้นเคยกับสถานที่แห่งนี้มาก เห็นได้ชัดว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขาเข้าสู่ดินแดนทะเลทรายโม่หยาน
“ไปกันเถอะ!”
ชายชราได้กล่าวพูดขึ้น จากนั้นทั้งหกคนก็ควบแมงป่องทะเลทรายไปบนพื้นทะเลทรายในทันที แมงป่องทะเลทรายตัวนี้ คล้ายกับว่ามันจะได้กลับบ้าน ดังนั้นความเร็วของมันจึงได้เพิ่มขึ้นในทันที
ตามคำกล่าวของชายชรา ขอบทะเลทรายได้ถูกพลิกกลับด้านอย่างบ้าคลั่งโดยเหล่านักล่าสมบัติ ดังนั้นในช่วง 2-3 วันแรกก่อนเข้าสู่ทะเลทราย จึงเป็นช่วงเวลาที่ง่ายดายที่สุด เพราะ อันตรายต่าง ๆ มักจะถูกถอดถอนไปแล้ว
…
5 วันต่อมา
กลุ่มของ ไป๋ตงหลิน ได้ข้ามเขตปลอดภัยมาแล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงได้ชะลอตัว และ เริ่มระมัดระวังตัวมากยิ่งขึ้น
ตอนนี้เป็นเวลาเที่ยงวัน ดวงอาทิตย์ที่แผดเผาทะเลทรายค่อนข้างร้อนระอุ สิ่งนี้ทำให้อากาศดูบิดเบี้ยวเล็กน้อย ราวกับว่ามันกำลังลุกไหม้
ในเวลานี้ อุณหภูมิบนพื้นดินสูงถึง 2-3 ร้อยองศา และ อากาศก็สูงเกือบ 200 องศาเช่นเดียวกัน
หากเป็นคนธรรมดาพวกเขาจะถูกเผาเป็นศพใน 1-3 ชั่วโมง
สำหรับผู้บ่มเพาะพลังทั้ง 5 ทุกคนล้วนมียันต์ติดอยู่ที่ร่างกายเพื่อช่วยลดอุณหภูมิ แต่ ไป๋ตงหลิน ไม่ต้องทำอะไรเลย อุณหภูมิเพียงเท่านี้ ไม่แม้แต่จะทำให้เขาเหงื่อออกด้วยซ้ำ ดังนั้นเขาจึงไม่ต้องใช้ความพยายามมาก
ในขณะนี้ พื้นผิวของทะเลทรายได้สั่นเล็กน้อย และ หนอนทะเลทรายขนาดใหญ่ก็มุดออกมาจากทะเลทรายสีเหลืองและโจมตีใส่ฝาแฝดทั้งสองคน
พี่ชายฝาแฝดมีนามว่า ซานเหวิ่น ส่วน น้องชายมีนามว่า ซานอู๋ ในเวลานี้พี่ชายฝาแฝดได้ควบกระบี่บินและโจมตีหนอนทะเลทรายในทันที
หนอนทะเลทรายมีพละกำลังที่มากล้น อีกทั้งศีรษะของมันยังบิดเบี้ยวอย่างบ้าคลั่ง แม้ว่าจะถูกกระบี่บินโจมตีอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังไม่สามารถหยุดมันได้ ดังนั้น น้องชายฝาแฝดซานอู๋ จึงได้ชักดาบเล่มใหญ่ออกมาและฟันออกไปด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว แสงดาบได้ฟันไปไกลหลายสิบเมตรและแยกร่างของหนอนทะเลทรายออกเป็นสองส่วน ทำให้ของเปลวหนืดสีเขียวได้พ่นกระจายไปทั่วพื้นที่
“เจ้าสิ่งน่าขยะแขยงนี้ดูกี่ครั้งก็ยังน่าเกลียดไม่เปลี่ยน!”ไป๋ตงหลิน กล่าวพูดด้วยความรังเกียจเล็กน้อย หนอนทะเลทรายทำให้เขานึกถึงสิ่งที่เลวร้ายบางอย่าง หากคิดจะให้เขาทุบสิ่งนี้ด้วยกำปั้นของเขา ต้องพูดเลยว่า ไม่มีทาง
ดังนั้น หนอนทะเลทรายที่พบในช่วง 2 วันที่ผ่านมานี้ เขาจึงมอบให้ฝาแฝดจัดการ ซึ่ง สถานการณ์ก็ผ่านไปได้ด้วยดี
ทั้งหกคนยังคงเดินทางต่อไป ในช่วงเวลานั้น พวกเขาได้พบกับสัตว์ประหลาด 2-3 ตัว อีกทั้งยังพบกับทีมล่าสมบัติอีก 2-3 ทีม แต่ทว่าทีมของพวกเขาแข็งแกร่งมากจนไม่มีใครกล้ายั่วยุพวกเขา
พอตกกลางคืน ก็มีคน 2-3 คนตั้งค่ายพักแรมและเตรียมพักผ่อน อุณหภูมิในทะเลทรายตอนกลางคืนค่อนข้างต่ำมาก และ แมงป่องทะเลทรายก็กลัวความหนาว ดังนั้น พวกเขาจึงไม่ได้เดินทางกันตอนกลางคืน
ไป๋ตงหลิน ได้ดึงเต็นท์ออกมาจากแหวนมิติอย่างชำนาญและเริ่มตั้งเต็นท์ ส่วนแมงป่องทะเลทรายของเขาก็เริ่มขุดหลุมตรงจุดนั้นและฝังตัวเองลงไปในทรายลึกเพื่อทำให้อากาศอบอุ่น
หลังจากตั้งเต็นท์แล้ว เขาก็เข้าไปในนอนในผ้าห่ม ไป๋ตงหลิน ได้ลืมตาอย่างครุ่นคิด ดูเหมือนว่า ในทีมนี้ จะมีเขาคนเดียวที่ต้องการไปที่อาณาเขตเล่ยเจ๋อจริง ๆ
เขามักจะรู้สึกว่าคนอื่นกำลังปิดบังอะไรบางอย่างอยู่ และ การเดินทางครั้งนี้อาจจะไม่ได้ราบรื่นมากนัก
ภายในเต็นท์ของชายชรา มีการจัดวางข่ายอาคมเพื่อความปลอดภัยและเป็นส่วนตัว
ในเวลานี้ หญิงสาวได้ถอดผ้าคลุมหน้าออก จนเผยให้เห็นใบหน้าที่มีเสน่ห์ เพียงแต่ดวงตาของนางกลับฉายแสงไปด้วยความเย็นชา
ชายชราที่ยืนอยู่ข้างหลังได้กล่าวพูดด้วยความเคารพ :
“คุณหนู ตอนนี้ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี ปลาได้ติดตะขอแล้ว อีกทั้ง แห ก็เตรียมพร้อมแล้ว!”
หญิงสาวคนนี้ได้พยักหน้าและกลับมาถาม :
“มีอะไรเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อมูลของเจ้าเด็ก ไป๋ตงหลิน นั่นหรือไม่?”
“ข้าพบว่ามันเป็นเรื่องน่าสนใจมากที่ได้พบกับการฝึกฝนร่างกายที่ยอดเยี่ยมในดินแดนอันห่างไกลเช่นนี้”
ชายชรารู้สึกลังเลและสั่นศีรษะ“เจ้าเด็กสกุลไป๋นี้ดูไม่ธรรมดา เขายืนกรานว่าจะไปที่อาณาเขตเล่ยเจ๋อ ซึ่งไม่รู้ว่าจะจริงหรือไม่ ? คุณหนู เพื่อหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุ ท่านอยากจะกำจัดเขาก่อนหรือไม่?”
“ไม่จำเป็น ไม่ว่าภูมิหลังของเขาจะเป็นอย่างไร ตราบใดที่เขาย่างกรายเข้ามาที่นี่ มันก็ช่วยไม่ได้ ถ้าจะตำหนิ ก็ต้องตำหนิในความโลภของเขาเอง”
หญิงสาวในชุดสีขาวได้หยิบแผ่นดินเหนียวออกมาจากแหวนมิติ ดูเหมือนว่าแผ่นดินเหนียวนี้จะทำมาจากโคลนสีเหลือง และ มีกลิ่นอายแบบโบราณ ราวกับว่ามันถือกำเนิดขึ้นบนโลกเมื่อนานมาแล้ว
แผ่นดินเหนียวสีเหลืองนี้ปกคลุมไปด้วยลายเส้นหยาบ ๆ คล้ายกับลวดลายลึกลับที่ดูคลุมเครือ
หญิงสาวคนนี้ได้ลูบแผ่นดินเหนียวสีเหลือง ทันใดนั้น ดวงตาของนางก็แสดงความคลั่งไคล้ออกมา ส่วน ชายชรา ที่ยืนอยู่ด้านหลัง ก็พลันตื่นเต้นเช่นเดียวกัน
ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง!
นับตั้งแต่ที่ได้รับแผ่นดินเหนียวสีเหลืองนี้มา นางก็ได้ใช้จ่ายไปด้วยราคามหาศาลในการค้นหาบทบาทของแผ่นดินเหนียวสีเหลืองนี้ อีกทั้งยังใช้เวลาหลายปีในการข้ามพรมแดนหลายร้อยแห่ง และ เหน็ดเหนื่อยจากความยากลำบากทั้งหมด เพื่อมาถึงดินแดนทะเลทรายโม่หยาน
เพื่อที่จะหาหมากที่นางสามารถใช้ได้ นางก็จงใจเปิดเผยร่องรอยของข้อมูลลับบางอย่าง เพื่อดึงดูดกลุ่มคนที่โลภมากให้มาติดตามนาง
ในช่วงเวลานี้ นางต้องเผชิญหน้ากับการแสวงหาและเกมต่าง ๆ แต่ทั้งหมดที่นางทำก็คือการเอาชนะพวกมันทั้งหมด และ ตอนนี้นางก็ประสบความสำเร็จไปจนเกือบหมดแล้ว
หญิงสาวในชุดขาวไม่ได้คิดมากอีกต่อไป นางได้วางแผ่นดินเหนียวสีเหลืองลงบนพื้นอย่างรุนแรง และ หยิบมีดสั้นออกมาเพื่อกรีดนิ้วของนาง พร้อมกับทาโลหิตลงไปบนอักษรอักขระพลังที่ซ้อนทับกันอยู่บนแผ่นดินเหนียวสีเหลือง
จนกระทั่งอักษรอักขระพลังบนแผ่นดินเหนียวปกคลุมไปด้วยโลหิตทั้งหมด หญิงสาว จึงได้แสดงสีหน้าที่จริงจังออกมา
อักษรอักขระพลังบนนั้นดูเหมือนจะมีชีวิต มันเริ่มบิดตัวไปมา และ ค่อย ๆ กลับเข้าไปในแผ่นดินเหนียว จนกระทั่งแผ่นดินเหนียวสีเหลืองได้เปลี่ยนเป็นแผ่นดินเหนียวสีแดงในที่สุด
หญิงสาวชุดขาวได้บ่นพึมพัมออกมาอย่างดีใจ
“สำเร็จ! ในที่สุดก็สำเร็จจนได้!”
แม้แต่นางเองก็ไม่คิดว่ามันจะราบรื่นขนาดนี้ ถึงนางจะเตรียมการมานับไม่ถ้วน แต่ก็ยากที่จะเชื่อว่ามันจะประสบความสำเร็จในครั้งแรก
หลังจากเสร็จสิ้นขั้นตอนนี้นางก็หันไปหาชายชราในทันที
“อาวุโสหลิว!”
“ขอรับ! คุณหนู!”
ชายชราได้ขยับยนิ้ว ทันใดนั้น รูปแบบข่ายอาคมที่เขาจัดวางก็แตกเป็นช่องว่างเล็กน้อย
กลิ่นอายพลังจากแผ่นดินเหนียวสีแดงได้ไหลออกมาตามรอยแยก
ภายในเตต็นท์อีกสองหลัง
พี่น้องฝาแฝดที่กำลังนั่งไขว่ห้างและหญิงสาวในชุดสีดำ ได้ลืมตาขึ้นพร้อม ๆ กันขณะที่ กลิ่นอายพลังของแผ่นดินเหนียวสีแดงปรากฏขึ้น สิ่งนี้ ทำให้พวกเขาดูตกใจ
ตำนานได้กลายเป็นจริง!
พวกเขาได้หยุดคิดและในขณะเดียวกันก็หยิบยันต์หยกออกมาและบดขยี้มัน
ในเวลาน้อยกว่าครู่นึง เปลวไฟเคลื่อนย้ายจำนวนมากก็ได้ตัดผ่านท้องฟ้ายามค่ำคืนและตกลงบนที่ตั้งแคมป์ขนาดเล็กแห่งนี้
สิ่งนี้ได้แบ่งออกเป็นทั้งสองฝ่าย มันได้ประกบเต็นท์ของชายชราและหญิงสาวในชุดขาว
ทันใดนั้น ฉากก็กลายเป็นโหมกระหน่ำ มีคนเริ่มร่ายคาถากระตุ้นลมกรรโชกจนลมได้พัดผ่านเข้ามาในพื้นที่อย่างรุนแรง
ไป๋ตงหลิน ในเวลานี้ ได้ตื่นขึ้นมา และ มองดูเต็นท์ที่ลอยออกไปไกล ด้วยท่าทางสับสน
เกิดอะไรขึ้น?
ในเวลานี้ทุกคนในที่เกิดเหตุต่างเพ่งสายตาไปที่แผ่นดินเหนียวสีแดงและไม่ได้มองมาที่เขา
“ไม่คิดเลยว่าแท้จริงแล้วสิ่งที่เจ้าพูดจะกลายเป็นความจริง น่าเสียดายที่เจ้าต้องมาพบเจอกับพวกเรา!”
“มอบแผ่นดินเหนียวมาซะ และ ข้าจะไว้ชีวิตเจ้า!”
ในเวลานี้ ฝาแฝดทั้งสอง ไม่ได้มีกันเพียงแค่สองคนอีกต่อไป คนจำนวนหลายสิบคนได้ปรากฏขึ้น และ ทุกคนก็มีพลังเหนือขอบเขตดินแดนทารกในครรภ์หยวน แม้ว่า ชายชรา เบื้องหน้าจะไม่ธรรมดา แต่อีกฝ่ายก็มีจำนวนที่มากกว่า
ไป๋ตงหลิน มองดูฝูงชนที่สง่างามและเพื่อนร่วมทีมทั้งห้าของเขาที่เข้ากันได้ในตอนกลางวันและกลางคืนก่อนหน้านี้ กลับกลายเป็นว่าพวกเขาไม่ได้คิดจะเดินทางไปที่อาณาเขตเล่ยเจ๋อ แต่กลับ มองหาแผ่นดินเหนียว บางอย่าง!
แล้วตอนแรกที่ทุกคนบอกจะไปอาณาเขตเล่ยเจ๋อล่ะ?
การช่วยเหลือซึ่งกันและกันก่อนหน้านี้ล่ะ?
ฮ่าฮ่า ที่ตลกก็คือมีเขาคิดไปเองอยู่ฝ่ายเดียว
ดังนั้น ไป๋ตงหลิน จึงรู้สึกไม่เต็มใจอยู่เล็กน้อย
หญิงสาวในชุดขาวได้มองไปที่ผู้คนรอบตัวราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น พร้อมกับกล่าวเยาะเย้ยออกมา
“ดูเหมือนว่าพวกเจ้าจะดูมีความมั่นใจมาก ข้าหวังว่าพวกเจ้าจะยังคงเป็นแบบนี้ในอนาคต!”
หลังจากพูดจบ นางก็ตบแผ่นดินเหนียวสีแดงด้วยพลังฝ่ามืออันดุดัน