ตอนที่ 335 ความมั่นใจของเบรนด้า(ฟรี)
ตอนนี้ กลุ่มคนเริ่มเข้าบึงวิญญาณ
คำกล่าวของเบรนด้าเกี่ยวกับบึงวิญญาณไม่ผิด บึงวิญญาณถือว่าปลอดภัยสุดเพราะมันไม่ได้รับผลกระทบโดยหมอกหรือสิ่งมีชีวิตอื่น
มันไม่ใช่ภัยคุกคามใหญ่ ตราบเท่าที่ไม่เข้าพื้นที่อันตราย โดยทั่วไปจะไม่มีปัญหาใด
แน่นอน นี่ไม่ได้หมายความว่าบึงวิญญาณจะผ่านได้ง่ายๆ
ตรงกันข้าม บึงวิญญาณเต็มไปด้วยบึงไกลสุดลูกตา นอกจากนี้ มันยังมีหมอกแปลกๆรอบมัน ทำให้มันเป็นไปไม่ได้ที่จะขึ้นฟ้าเพื่อสอดแนม
ดังนั้น มันจึงง่ายมากที่จะหลงทาง
สำหรับการทิ้งร่องรอยไว้หรืออะไรทำนองนั้น ไม่จำเป็นต้องพูดถึง เนื่องจากความพิเศษของบึง รอยปกติจะจมหายไปในบึง แถมบริเวณโดยรอบยังเต็มไปด้วยหมอกกัดกร่อน
เครื่องหมายธรรมดาจะไม่ทิ้งไว้
นี่ทำให้ผู้ทดสอบน้อยคนที่จะมายังบึงแม้มันจะอันตรายน้อยสุด
หลังการค้นคว้า สมุนไพรจะถูกทำให้แห้งและบดเป็นผง เนื่องจากลักษณะพิเศษของสมุนไพร สมุนไพรจึงไม่จมลงก้นบึง นอกจากนี้ สิ่งมีชีวิตที่อยู่ใต้บึงดูเหมือนจะไม่สนใจผง
ผงยังไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า แม้แต่ราชาเทพขั้นสามที่ไม่คุ้นเคยกับสมุนไพรก็จะไม่เห็นผง
เฉพาะพวกที่ศึกษาสมุนไพรถึงพบความพิเศษของสมุนไพรและใช้พวกมันได้
นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมพวกเขาถึงเลือกบึงวิญญาณนี้ แต่ทว่า ตอนพวกเขากำลังจะพบทางออกของบึงวิญญาณนี้ครั้งก่อน บางสิ่งที่ไม่คาดคิดดันเกิดขึ้น
เขาควรคิดว่าต่อให้อันตรายของบึงจะต่ำแค่ไหน มันก็ยังเป็นเขาวงกตชั้นสอง พวกมันจะผ่านง่ายๆได้ไง?
ตามคาด ตอนพวกเขาเข้าใกล้ทางออก พวกเขาตกอยู่ในวิกฤตใหญ่สุดนับตั้งแต่เข้าบึง กลุ่มคนแทบโดนกวาดล้าง แม้กระทั่งคนรักของเขายังบาดเจ็บสาหัสและหมดสติ
ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขายังไม่ตื่นจนถึงตอนนี้ เขาคิดหาวิธีการนับไม่ถ้วน แต่ก็เปล่าประโยชน์
เดิมที เขาคิดว่าพอพลังของเขาไปถึงระดับราชาเทพขั้นสาม เขาจะไม่แก่ตาย และสามารถมีชีวิตนิรันดร์
แต่ตอนนี้พอเข่คิดถึงมัน ความคิดตอนนั้นช่างไร้สาระ
อันตรายในยุคแห่งอาณาจักรกับสนามทดสอบนั้นเทียบกันไม่ได้เลย
เหมือนกับพลังวิญญาณในยุคแห่งอาณาจักรที่ไร้ประโยชน์ต่อราชาเทพ และไม่มีสิ่งมีชีวิตใดที่คุกคามราชาเทพได้
แต่ทว่า สนามทดสอบนั้นแตกต่าง พลังวิญญาณที่นี่สามารถเพิ่มพลังของราชาเทพได้ สิ่งมีชีวิตที่เติบโตจากพลังงานนั้นน่าจะเป็นอันตรายต่อราชาเทพ
ภรรยาของเขาโดนเถาวัลย์แปลกๆบาด และพิษก็เข้าตัวนาง
ราชาเทพติดพิษ?นี่คือสิ่งที่แม้กระทั่งยุคแห่งอาณาจักรก็ไม่กล้าจินตนาการ แต่มันกลับมีทั่วในสนามทดสอบ
แม้กระทั่งหมอกหนาในบึงก็สามารถส่งผลต่อราชาเทพได้ เบรนด้ารู้ว่าเหนือหมอก มีชั้นหมอกหลากสีสูงในบึง
ของแบบนั้นอันตรายกว่าหมอกเทามาก ถ้าหมอกเทาไม่มีพลังกัดกร่อนที่กัดกร่อนพลังเทพได้ งั้นหมอกหลากสีด้านบนก็เป็นพิษมากกว่านับสิบเท่า
เขาได้เห็นลูกน้องคนหนึ่งของเขา ผู้เป็นจุดสูงสุดของราชาเทพขั้นสามพยายามบินขึ้นฟ้าเพื่อตรวจสอบเส้นทางกับตา สุดท้าย เขาก็โดนหมอกหลากสีปกคลุม และในเวลาไม่ถึงวินาที ลูกน้องของเขาก็หายไป
มันราวกับเขาโดนหมอกละลาย โดยไร้เสียงร้องหรือขอความช่วยเหลือ
นอกจากนี้ เบรนด้ายังพบบางสิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่า ครั้งนั้น ตอนลูกน้องของเขาฝืนฝ่าหมอกเทาและบินขึ้นฟ้าเพื่อตรวจสอบสถานการณ์ ยังมีสิ่งมีชีวิตเคลื่อนที่ไปมาในหมอกหลากสี
หมอกที่สามารถทำให้ราชาเทพขั้นสามตายได้ทันที แล้วสิ่งมีชีวิตนั้นต้องน่ากลัวแค่ไหนถึงอยู่ในหมอกได้
จากนั้นมา ไม่ว่าบึงวิญญาณจะน่าขยะแขยงแค่ไหน เขาก็ไม่คิดจะไปตรวจสอบเส้นทางบนฟ้า
เขารู้ว่าเหนือหัวเขาร้อยเมตร นอกจากหมอกพิษ ยังมีสิ่งมีชีวิตน่ากลัว
เบรนด้าเรียกหมอกหลากสีว่าหมอกเจ็ดสี
พอเบรนด้าเดินลึก ฟองในบึงรอบตัวก็เริ่มหนาแน่น ทีละหนึ่ง ฟองขยายใหญ่ขึ้นและตอนถึงขีดจำกัด พวกมันก็ระเบิด และก๊าซสีเทาอ่อนก็ค่อยๆลอยไปในอากาศ
มันรวมเข้ากับชั้นหมอกในอากาศ
เบรนด้าหยุดและเงยหน้ามองชั้นหมอกหนาเหนือหัว สิ่งที่เข้าสู่สายตาเขาคือหมอกเทา และก็ไม่อาจเห็นสีอื่นได้ พูดตามหลักแล้ว หมอกเจ็ดสีนั้นควรจะสว่างกว่า
**ตอนนี้อธิบายไรไม่รู้ น้ำล้วน ฟรีเลยละกัน**
ด้วยระดับของหมอกเทา ไม่มีทางที่จะบดบังมันได้ จากด้านล่าง คนควรเห็นหมอกเจ็ดสีได้ แต่ทว่า ความเป็นจริงช่างโหดร้าย มันไม่มีร่องรอยของหมอกเจ็ดสีสักนิด
มันสามารถเห็นท้องฟ้าไกลผ่านหมอกเทาได้ วินาทีที่คิดว่าหมอกเทานั้นบางและอยากทะลุไป พวกเขาจะโดนหมอกเจ็ดสีล้อมแทนและตายทันที
เบรนด้ารู้สึกว่าต่อให้จะเป็นราชาเทพขั้นสี่ก็ยังตายได้ถ้าเจอกับหมอกเจ็ดสีและสิ่งมีชีวิตที่อาศัยในนั้น
นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงไม่สนใจว่าพวกเจอร์รี่จะค้นพบความลับของเขา ต่อให้พบ เขาก็เป็นแค่คนเดียวที่รู้เรื่องบึงวิญญาณมากสุด