ตอนที่แล้วSTBI : ตอนที่ 32 หนึ่งดัชนีทลายสวรรค์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปSTBI : ตอนที่ 34 ดินแดนทะเลทรายโม่หยาน

STBI : ตอนที่ 33 มณฑลเอ้อฉี,ท่าเรือซือเป่ย


เรือฉางเหลียน.

ไป๋ตงหลินได้แอบปีนขึ้นไปบนดาดฟ้า และ มองเห็นทุกคนกำลังคุกเข่าอยู่บนพื้นพร้อมกับโค้กคำนับและบูชา ผู้คนจำนวนมากรู้สึกตื่นเต้นจนเผลอร้องไห้ออกมา

“เซียนปรากฏตัวแล้ว!”

“ขอบคุณท่านเซียนสำหรับความช่วยเหลือ!”

“ขอบคุณท่านเซียนที่ช่วยพวกเราฆ่าปีศาจ!”

เมื่อ ไป๋ตงหลิน เห็นฉากนี้ เขาก็ตกอยู่ในความสงสัย สิ่งนี้น่าจะเกี่ยวข้องกับหลุมขนาดใหญ่ที่ปรากฏขึ้น แต่เขาขี้เกียจเกินกว่าจะคิดเรื่องนี้ ดังนั้น จึงต้องการขอให้ หลิวต้าฟู่ ชี้แจงให้ฟัง

“พี่หลิว เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”

ทันทีที่ ไป๋ตงหลิน เข้ามาในห้องกัปตัน เขาก็เห็นหลิวต้าฟู่ หน้าซีดเผือกและทรุดตัวลงกับพื้น

“พี่ไป๋ ท่านไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่?”

“พี่ใหญ่ไป๋!”

หลิวต้าฟู่ และ จื่อเสี่ยวหลิง ดูประหลาดใจ เพราะพลังของปีศาจตัวนั้นน่าสะพรึงกลัวมาก แม้แต่ หวังลู่เฟย ก็ยังหมดสติ เหล่านักพรตเต๋าคนอื่น ๆ ก็เกือบถูกตายจนหมด

ความแข็งแกร่งของ ไป๋ตงหลิน นั้นช่างเหนือเกินกว่าจินตนาการอย่างแท้จริง เขาไม่แม้กระทั่งได้รับบาดเจ็บจากการเผชิญหน้ากับปีสาจตนนั้น

“ข้าไม่เป็นไร เพียงแต่กล่องทองแดงนั่นยากที่จะถูกทำลาย ข้าเลยนำมันโยนทิ้งที่ใต้น้ำลึกแล้วรีบกลับมา”

หลิวต้าฟู่ ดูประหลาดใจเล็กน้อยก่อนที่จะตอบกลับ :

“เจ้ากล่องทองแดงนั่นไม่รู้ว่ามันไปทำอะไร ถึงไปกระตุ้นการโจมตีที่ทรงพลังและถูกฆ่าตายเพียงนิ้วเดียว!”

“อย่างน้อยผู้ที่สำแดงพลังนี้จะต้องอยู่ดินแดนหวนคืนสู่จุดเริ่มต้น! มันยากมากที่จะปลดปล่อยการโจมตีที่ทรงพลังเช่นนี้จากระยะไกล ยามเห็นการโจมตีนั้นทั่วร่างกายของข้ากลับไม่สามารถขยับได้ตามต้องการเลย!”

การแสดงออกของ ไป๋ตงหลิน ได้เปลี่ยนไป แม้ว่าเขาจะไม่ทราบสิ่งที่เกิดขึ้นภายหลัง แต่เขาก็ไม่ได้คิดขอคำอธิบายเพิ่มเติม

เพียงแต่ดินแดนหวนคืนสู่จุดเริ่มต้นเป็นดินแดนพลังขั้นใด?ความแข็งแกร่งของอีกฝ่ายถึงน่าสะพรึงกลัวขนาดนั้น

กัปตันหวังลู่เฟย ก็รอดตายมาเช่นเดียวกัน แม้ว่าต้นกำเนิดพลังของเขาจะได้รับความเสียหาย แต่เขาก็ยังรอดชีวิตกลับมา ที่นี่ มีเหล่านักพรตเต๋ากว่า 200 คนเสียชีวิต และ มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่รอดชีวิตออกมา พวกเขาได้กระโดดโลดเต้นอย่างมีความสุข

พวกเขาประเมินความน่ากลัวของหมอกสีเทาต่ำเกินไป

หวังลู่เฟย ที่ฟื้นความแข็งแกร่งกลับมาเล็กน้อย เขาได้สั่งให้เหล่าเจ้าหน้าที่ทำความสะอาดและจัดตั้งกฏระเบียบใหม่ พร้อมกับ เปลี่ยนแกนพลังงาน เขาต้องการออกจากสถานที่อับโชคแห่งนี้โดยเร็วที่สุด

3 วันต่อมา

เรือฉางเหลียน ยังคงแล่นมุ่งหน้าไปยัง ภูมิภาคเอ้อฉี ท่าเรือซือเป่ย

เรือฉางเหลียน ได้กลับมาสงบสุขอีกครั้ง

ไป๋ตงหลิน ได้กลับมาทำกิจวัตรประจำวันตามปกติ และ ฝึก หมัดเจ็ดหนองน้ำทุกเช้า

ในช่วง 3 วันที่ผ่านมา ระหว่างการเปลี่ยนแกนพลัง เขาได้ย่องลงไปที่ก้นแม่น้ำเพื่อใช้แรงดันใต้น้ำในการฝึกฝนจนกระทั่งมันไม่มีประโยชน์อีกต่อไป

ร่างกายของเขาได้รับการปรับปรุงอย่างมากและความแข็งแกร่งของแขนเพียงข้างเดียวของเขาก็มีพละกำลังมากกว่า 89,000 จิน อีกทั้ง จิตวิญญาณของเขายังแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นอีกด้วย

หลังจากที่จิตวิญญาณแข็งแกร่งขึ้น เขาก็ได้รับผลประโยชน์มากมาย ที่ชัดเจนที่สุดก็คือ ตอนนี้เขาสามารถปลดปล่อย หมัดเจ็ดหนองน้ำออกมาได้ 3 ครั้งต่อวัน โดยที่ไม่รู้สึกเหนื่อยล้าทางจิตใจ

สมองของเขามีความยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น ความคิดของเขาได้กลายเป็นชัดเจน และ ประสาทสัมผัสก็เฉียบแหลม และ มีความว่องไวต่อสัมผัสพลังปราณฟ้าดิน

เพียงแต่น่าเสียดายที่เขาไม่มีทักษะบ่มเพาะจิตวิญญาณ และ ยังไม่สามารถมองหาวิธีการฝึกจิตวิญญาณต่อไปได้

สิ่งที่เขาทำได้ในตอนนี้ก็คือการเฝ้ารอปัญหาในอนาคต ที่จะทำให้ การพลิกฟื้นที่แข็งแกร่งของเขาทำงานกับจิตวิญญาณของตนเอง

ไป๋ตงหลิน ไม่ได้รีบร้อน ตราบใดที่เขาเข้าไปที่ดินแดนรกร้างมองหานิกายที่บ่มเพาะร่างกาย ปัญหาเหล่านี้ก็จะได้รับการแก้ไข สิ่งสำคัญตอนนี้ก็คือการสร้างรากฐานและวางรากฐานที่ดีเพื่อผลประโยชน์ในอนาคต

โดยเขาได้ตั้งเป้าหมายเล็ก ๆ ไว้ก่อน นั่นก็คือพละกำลัง 100,000 จิน ต่อแขนหนึ่งข้าง!

หลังจากการออกกำลังกายช่วงเช้าจบลง ไป๋ตงหลิน ก็ไปหา หลิวต้าฟู่ อีกครั้ง ทั้งสองได้พูดถึงความเป็นไปได้ในการพัฒนาการบ่มเพาะพลังและการวางรากฐานที่ดี

ความคิดของ ไป๋ตงหลิน ช่างยอดเยี่ยม ด้วยคำแนะนำที่กล้าหาญของเขา มันได้สร้างความประทับใจให้กับ หลิวต้าฟู่

ความคิดของ ไป๋ตงหลิน นั้นเรียบง่ายมาก เขาต้องการใช้งานโลกอินเทอร์เน็ตเหมือนเมื่อก่อน เส้นทางการบ่มเพาะพลังในยุคนี้ค่อนข้างลำบากแสนเข็ญ การบ่มเพาะไปตัวคนเดียวโดยไม่สามารถคุยโม้และโอ้อวดอะไรได้เลย สิ่งนี้คงเป็นเรื่องที่น่าเบื่อเป็นอย่างมาก

หลิวต้าฟู่ ที่เห็น ไป๋ตงหลิน มาหาเขา อีกฝ่ายได้ทักทายอย่างกระตือรือร้น และ เสิร์ฟชา นี่ไม่ใช่เพราะเขาเคารพความแข็งแกร่งของ ไป๋ตงหลิน เพียงเท่านั้น

แต่ตอนนี้เขารู้สึกว่าเขาและไป๋ตงหลิน เกือบจะคิดเหมือนกัน แผนโลกอินเทอร์เน็ตของไป๋ตงหลิน สอดคล้องกับหัวใจเต๋าของเขา หากเขาไม่สนใจเรื่องพวกนี้ เขาคงไม่ตั้งใจฝึกฝนศาสตร์การใช้อักขระพลังตั้งแต่อายุยังน้อย

“พี่ไป๋ เชิญนั่ง พวกเรามาพูดคุยกันถึงความเป็นไปได้กันเถอะ…”

โลกหากอินเทอร์เน็ตถูกสร้างขึ้นมาจริง ๆ มันก็จะประสบความสำเร็จอย่างมาก

เวลาได้ไหลผ่านไปอย่างรวดเร็ว จนเกือบจะถึงเวลาเทียบท่าเรือซือเป่ยแล้ว

หลิวต้าฟู่ คนนี้ค่อนข้างขยันและกระตือรือร้น อีกทั้งยังเป็นคนฉลาด เขาสามารถทำความเข้าใจความรู้เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตในชีวิตก่อนของไป๋ตงหลินได้ภายใน 10 วัน

ไม่เพียงเท่านั้น เขายังเสนอแนวคิดมากมายตามสถานการณ์ของโลกด้วย

ไป๋ตงหลิน รู้สึกว่า หลิวต้าฟู่ ดูคลั่งไคล้เขามาก เขาไม่รู้ว่าตนเองได้ไปปลูกฝังให้เด็กติดอินเทอร์เน็ตหรือไม่ แต่เขาหวังว่า หลิวต้าฟู่ จะไม่เลิกขยันในการฝึกเพราะสิ่งนี้

วู๊ดด—

เสียงของเรือฉางเหลียน ได้ดังขึ้น ในที่สุด มันก็มาถึงท่าเรือซือเป่ย

ท่าเรือซือเป่ย ตั้งอยู่ในมณฑลเอ้อฉี ประเทศเยว่หลาน ท่าเรือในสถานที่แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นตามลำน้ำที่คล้ายกับการคดเคี้ยวของงู ดังนั้น มันจึงมีชื่อเรียกอีกชื่อว่า ท่าเรืองูสีเงิน

สถานการณ์ของที่นี่คล้ายกับเมืองหลินเจียง มันตกอยู่ภายใต้ขอบเขตอำนาจของนิกายที่ทรงพลังจำนวนมาก

ทุกคนในเรือฉางเหลียน ได้ลงจากเรือทีละคน แต่ละคนดูมีความสุขอย่างมาก เพราะพวกเขาได้รอดพ้นจากภัยพิบัติ หลังจากกลับถึงบ้าน พวกเขาจะเซ่นของบรรณาการให้เหล่าทวยเทพ และ อธิษฐานทั้งวันคืนเพื่อตอบแทนบุญคุณที่ช่วยชีวิตพวกเขาเอาไว้

พวก ไป๋ตงหลิน ทั้งสามคนได้ลงจากเรือและยืนอยู่ที่ท่าเรือซือเป่ย ดูเหมือนว่ามันถึงเวลาแล้วที่พวกเขาต้องจากกัน

“พี่ไป๋ ข้าและศิษย์น้องมาที่มณฑลเอ้อฉีเพื่อเข้าร่วมประชุมงานฟู่หลัว ในการประชุมครั้งนี้ ข้าจะเสนอแผนอินเทอร์เน็ตของท่าน ข้าเชื่อว่าสิ่งนี้จะช่วยดึงดูดเพื่อนร่วมงานมาจำนวนมากอย่างแน่นอน!”

“ไว้คราวหน้าที่พวกเราเจอกัน ข้าจะแสดงให้พี่ไป๋เห็นถึงความก้าวหน้าของอินเทอร์เน็ต!”

เห็นรูปลักษณ์ที่คลั่งไคล้ของ หลิวต้าฟู่ สิ่งนี้ทำให้ ไป๋ตงหลิน รู้สึกเขินอายเล็กน้อย วันนี้ ปรมาจารย์เถียนฟู่ กลับถูกเขาหลอกใช้โดยสมบูรณ์

อีกฝ่ายไร้เดียงสาเกินไป

“พี่ใหญ่ไป๋ ตลอดเวลาที่ข้าอยู่กับท่านมันสนุกมากเลยล่ะ ขอบคุณท่านมาก เสี่ยวหลิง คงคิดถึง…ของอร่อย…ตอนนั้น?”

จื่อเสี่ยวหลิง ได้กัดขนมปังเนยในมือและพูดอย่างคลุมเครือ

ไป๋ตงหลิน ยิ้มออกมาและไม่สนใจ เขาได้หยิบนมแดงกระป๋องใหญ่ออกมาจากแหวนมิติและยื่นให้กับนาง

ดวงตาของ จื่อเสี่ยวหลิง ได้เป็นประกายและรีบรับมันมาอย่างรวดเร็ว

“ขอบคุณพี่ใหญ่ไป๋!”

เขาได้หยิบหนังสือเล่มบาง ๆ ออกมาและยื่นให้กับ หลิวต้าฟู่ ซึ่งมันได้บันทึกแนวคิดและข้อเสนอบางอย่างเกี่ยวกับอินเทอร์เน็ต

จากนั้นเขาก็โบกมือให้ทั้งสองคนและยิ้มออกมา :

“ผืนดินแห่งนี้ช่างกว้างใหญ่ หากมีวาสนาพวกเราคงได้พบกันอีก!”

“พี่ไป๋ โปรดเดินทางโดยสวัสดิภาพ!”

“ล่าก่อนพี่ใหญ่ไป๋!”

ไป๋ตงหลิน ได้พยักหน้าและหายตัวไป

หลิวต้าฟู่ บุรุษหนุ่มที่รู้จักกันในนามของปรมาจารย์เถียนฟู่ มีความระมัดระวังตัว ฉลาด และมากความสามารถ

จื่อเสี่ยวหลิง เด็กน้อยไร้เดียงสาที่มีจิตใจบริสุทธิ์ อีกทั้งยังเป็น มาสคอตเรื่องการกิน

ทุกคนล้วนแล้วแต่เป็นคนที่น่าสนใจ โดยเฉพาะ นักชิม จื่อเสี่ยวหลิง หลังจากที่แข็งแกร่งพัฒนาความแข็งแกร่งมากขึ้น เขาก็ไวต่อกลิ่นโลหิตเป็นอย่างมาก เขาสัมผัสได้ถึงลมหายใจแปลก ๆ ในตัวของ จื่อเสี่ยวหลิง

จื่อเสี่ยวหลิง คนนี้ ไม่ใช่คนที่ไร้เดียงสาอย่างที่เห็น

ไป๋ตงหลิน ได้รวบรวมความคิดของเขา และ เข้าไปในเมืองซือเป่ย เขาพบตลาดม้าที่ใหญ่ที่สุด และ ตัดสินใจซื้อม้าเกล็ดมังกรที่ดีที่สุดมา 2 ตัว

จากนั้นก็มุ่งหน้าไปยังจุดหมายปลายทางต่อไป

หากเขาต้องการข้ามทางลัดและเข้าสู่อาณาเขตเล่ยเจ๋อ เขาจะต้องไปที่ชายแดนตะวันออกสุดของ อาณาเขตเอ้อฉี เสียก่อน

แน่นอนว่า เขายังต้องข้ามพื้นที่อีกจำนวนมาก และ ผ่านหลายประเทศ ซึ่งมันเป็นระยะทางที่ไกลพอสมควร

ไป๋ตงหลิน ได้เรียนรู้มากมายเกี่ยวกับโลกแห่งการบ่มเพาะพลังผ่าน หลิวต้าฟู่ และรู้ว่าการเดินทางในโลกของเหล่าผู้บ่มเพาะพลังแท้จริงแล้วก็ค่อนข้างสะดวกสบาย

ในโลกแห่งการบ่มเพาะพลัง มีประตูมิติสำหรับเคลื่อนย้ายระยะไกล มีเรือบินที่ใช้เดินทางในระยะใกล้ และ หากเป็นนิกายที่มีอำนาจพวกเขาก็จะสามารถสร้างรูปแบบเคลื่อนย้ายขนาดเล็กขึ้นมาได้

เขตชายแดนในปัจจุบัน เป็นสถานที่หนาวเย็นและห่างไกลอย่างแท้จริง อีกทั้งเส้นทางสัญจรยังเต็มไปด้วยความยากลำบากตลอดทาง สิ่งนี้คงหลีกหนีไม่พ้นที่จะทำให้ม้าขาหักหรือตายลงได้

แม้แต่เหล่านักพรตเต๋าธรรมดา ก็ยังเดินทางลำบาก

ในปัจจุบัน เขาอยู่ไม่ไกลจากทางลัดเข้าสู่อาณาเขตเล่ยเจ๋อ

ที่นี่คือโลกแห่งการบ่มเพาะพลังที่แท้จริง

ในเวลานี้ ดวงตาของ ไป๋ตงหลิน ได้ส่องแสงวูบวาบออกมา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด