ต่างโลกกับเทพบริหาร ตอนที่ 232 ชักใย
ตอนที่ 232 ชักใย
ณ ห้องอาหาร
หลังจากที่เวโรนิก้าเดินทางออกไปเพื่อเจรจาเรื่องอาหาร ผมก็ต้องมานั่งกินอาหารคนเดียวในห้อง แล้วถึงตอนนี้มันจะเหงาแต่ก็รู้สึกสบายใจกว่าเยอะที่มียัยนั่นอยู่ด้วย
งับ! ผมตักข้าวเข้าปากด้วยความรู้สึกมีความสุข เพราะอาหารฝีมือแสนอร่อยของพ่อครัวของคฤหาสน์แห่งนี้มันอร่อยมากดีกว่าบนรถไฟเยอะเลย แถมเนื้อก็ยังมีเยอะด้วย
ระหว่างกำลังนั่งกินอยู่หนึ่งในเมดรับใช้มุมห้องก็เดินเข้ามา เมื่อหยุดที่ด้านหน้าของผมเธอก็เริ่มพูดออกมาว่า
“ท่านไมล์เมื่อครู่ท่านเมคัสมีคำสั่งมาคะ”
“อะไร?”
“ตอนนี้ท่านเมคัสกำลังรอท่านอยู่ที่ค่ายทหาร เห็นบอกว่ามีเรื่องเร่งด่วนที่ให้ท่านไปจัดการคะ”
“เข้าใจแล้ว”
หลังผมตอบไปเมดก็ก้มหน้าเล็กน้อยแล้วเดินกลับไปที่เดิมของเธอ แต่ไม่เข้าใจเลยเมคัสมันไปทำอะไรที่นั่น? แล้วที่นั่นมีปัญหาอะไรอีก?
ถึงตอนนี้จะไม่เข้าใจผมก็ไม่สงสัยอะไรมากและเริ่มกินอาหารบนโต๊ะต่อ เพราะถึงจะยังสงสัยแต่มันเอามาเทียบความสุขเวลากินตอนนี้ไม่ได้หรอก หุหุ!
…
….
…..
เมื่ออิ่มแล้วผมก็ลุกออกจากเก้าอี้ แต่ก็พรางคิดเสียดายกับอาหารด้านหน้าอยู่เหมือนกันเพราะมันเหลือจำนวนไม่ใช่น้อย ถึงแม้ว่าพวกคนใช้ภายในคฤหาสน์จะเอาไปกินกันต่อก็เถอะ
มองได้สักพักก็รู้ว่าทำอะไรไม่ได้ผมจึงหันไปทางเมดคนเมื่อครู่ แล้วกวักมือเรียกเธอเข้ามา
ทันทีที่เธอเดินเข้ามาใกล้ผมก็ถามไป
“ตอนนี้เมคัสอยู่ที่ค่ายใช่ไหม?”
“ค่ะ ตอนนี้ค่ายก็มีค่ายเดียว”
เรื่องนั้นฉันรู้แล้วไม่ต้องย้ำหรอก ก็คนที่ทำลายค่ายจนเหลือแค่ค่ายกลางเมืองค่ายเดียวมันฉันเอง เฮ้อ~
“เตรียมรถม้าเอาไว้ให้ข้าด้วย อีกสิบนาทีข้าจะเดินทางไป”
“ค่ะ!”
คุยจบเธอก็หันหลังไป แต่ระหว่างนั้นผมก็คิดอะไรออกแล้วอุทานขึ้น “จริงสิ!!!” เมดที่กำลังเดินไปก็หันกลับมาหาผมทันที ก่อนที่จะถามต่ออีกว่า
“มีอะไรคะ???”
“ไม่ต้องใช้รถม้าดีกว่า ข้าอยากตรวจสอบสภาพเมืองด้วยเตรียมทหารเอาไว้ให้สักสิบคนก็พอ”
“เรื่องนั้น….”
เมดแสดงใบหน้าเป็นกังวลอย่างหนักใจ แต่ก็นั่นแหละการเดินไปแถมเอาคนไปแค่นั้นมันไม่ค่อยปลอดภัยเพราะถึงจะจัดการทหารของตระกูลโอโบนอดไปหมดแล้วก็จริง แต่ก็มีชาวเมืองบางส่วนไม่พอใจในตัวผมอยู่
ดีไม่ดีอาจเป็นเรื่องนี้ก็ดีที่เมคัสเรียกผมออกไปหา เฮ้อ~
ถ้าเป็นแบบที่คิดจริงๆ ไล่ออกเมืองให้หมดเลยดีไหมนะ?
“เรื่องเดินไม่ต้องห่วงงั้นก็เพิ่มทหารเป็น 50 คน ก็แล้วกัน”
“ค่ะ ถ้าเอาทหารไปขนาดนั้นก็ไม่มีปัญหาเพราะองค์... ไม่สิ! ไม่มีอะไรคะ!”
ปัญหาอะไรนี่เธอกล้ามีปัญหากับฉันด้วยเหรอ เหอะๆ แล้วคำว่าองค์หญิงเกือบหลุดออกมาชัดๆ ต้องเป็นเวโรนิก้าสั่งอะไรกับเธอไว้แน่ถ้าไม่อย่างงั้นเมดไม่กล้าพูดแบบนี้กับผมหรอก
ถึงจะสงสัยกับคำพูดของเธอนิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้พูดออกไป แล้วเธอก็เดินออกจากห้องเพื่อไปทำตามผมสั่ง ส่วนผมก็เดินกลับห้องเพื่อเอาแผนผลิตอาวุธที่คิดเอาไว้เพื่อไปคุยกับราชาคนแคระต่อ จะได้ไม่ต้องเดินทางไปกลับหลายรอบ
##############
ณ ค่ายทหารกลางเมือง
เมื่อเดินทางผมถึงก็พบกับเมคัสที่กำลังยืนอยู่ด้วยสีหน้าเป็นกังวลมองมาทางผม และด้านหลังของเมคัสก็เป็นกำแพงไม้ที่สร้างขึ้นมาแบบแล้วเสร็จตั้งเอาไว้อยู่ พร้อมกับเสียงที่ดังมากหลังกำแพงไม้อีกด้าน ทันทีที่ได้ฟังผมก็รู้ได้เลยว่ามันเป็นเสียงของกลุ่มประท้วงไม่ผิดแน่!
แบบที่คิดเอาไว้จริงๆ
หลังจากที่เดินถึงด้านหน้าของเมคัสผมก็ถามไปว่า
“ด้านนอกเป็นกลุ่มคนรวมตัวประท้วงกันใช่ไหม?”
“ครับ… ข้าบอกไปแล้วว่าตอนนี่ไม่ใช่เวลา แต่พวกนั้นก็ไม่ยอมไปกันเลยเหมือนกับว่าชาวบ้านกำลังโดนใครบางคนชักใยอยู่”
เรื่องปกติอยู่แล้วที่กลุ่มประท้วงแบบนี้จะมีคนอยู่เบื้องหลัง แต่ไม่คิดเลยว่าพวกชาวบ้านจะไร้สมองแล้วทำตามมันขนาดนี้ เฮ้อ~
“งั้นก็ไปกันเถอะ”
ผมเริ่มออกเดินไปที่หน้าประตูค่ายหลังพูดไป ระหว่างกำลังเดินไปเมคัสก็ถามออกมาด้วยเสียงสงสัย
“ท่านกำลังจะไปไหนครับ???”
“ก็ไปจัดการกับพวกชาวบ้านนะสิ ถ้าปล่อยเอาไว้แบบนี้มันจะกลายเป็นปัญหาใหญ่ในอนาคตแน่ๆ เพราะงั้นต้องรีบตัดไฟสะตั้งแต่ต้นลมสะ”
“ครับ…”
เมื่อสามารถคุยเข้าใจเรียบร้อยผมกับเมคัสก็ตรงไปที่ประตูหน้าค่ายทันที โดยมีทหารทั้ง 50 คน ของผมตามออกมาด้วย
ตอนแรกก็อยากไปคุยโดยไม่เอาทหารออกไปด้วยอยู่หรอก แต่ถ้าไม่ให้ทหารออกมามันเสี่ยงเกินไป เพราะโลกใบนี้ยังไม่พัฒนาเท่าโลกที่ผมจากมาที่การประท้วงห้ามใช้ความรุนแรงก็เลยต้องปลอดภัยเอาไว้ก่อน ถ้าชาวบ้านใช้กำลังพวกทหารจะได้เข้าหยุดทัน
เฮ้อ~ ทำไมเราต้องมาเสียเวลากับเรื่องแบบนี้ด้วยเนี่ย ?