ตอนที่ 24 ข่าวจากพยาบาลสาว(อ่านฟรี)
ตอนที่ 24 ข่าวจากพยาบาลสาว
เช้าวันต่อมาแอนเดรียและพ่อบ้านเฟรดต่างก็ออกเดินทางไปพร้อมกับกระเป๋าเป้หนังคนละหนึ่งใบ โดยพวกเขามีเสื้อคลุมสวมสีเทาปิดบังตัวตนสวมทับไปด้วย
ขณะที่หน้าต่างของชั้นบนอาคารที่พักอาศัยลูอิสและเจียน่ากำลังมองพวกเขาเดินไปท่ามกลางกลุ่มคนอพยพ
“ฝากด้วยนะ” เจียน่ากระซิบกับเจ้าอีกกาดำ ก่อนจะสั่งให้มันจับตาดูแอนเดรียและพ่อบ้านเฟรด ซึ่งถ้าเกิดอะไรขึ้นมันจะแจ้งผ่านเจียน่าได้โดยตรง
‘เอาละตอนนี้ทุกคนออกไปด้านนอกแล้ว ฉันก็ต้องไปทำงานบ้างเช่นกัน’ ลูอิสกลับมาสนใจการฟาร์มแต้มพลังงานศรัทธาของตัวเองต่อ
...
เวลาประมาณกินอาหารเช้าของทุกคนลูอิสและเจียน่าก็พากันไปที่บ้านของอาร์มันโด้แล้ว วันนี้เขามียาอีกหนึ่งลังต้องไปให้อาร์มันโด้และที่สำคัญเขายังมีทักษะคำรามที่ต้องให้กับอาร์มันโด้ด้วย
แต่ก่อนหน้านั้นเขาต้องปล่อยให้ทุกคนกินอาหารเช้ากันก่อน วันนี้อาหารในบ้านของอาร์มันโด้และเบลล่านั้นมีเต็มโต๊ะ ซึ่งมาจากคนป่วยที่จำอาร์มันโด้ได้และเอาของกินมาขอบคุณเขา
แม้ผู้อพยพจะมีคนเลวร้าย ทั้งคนที่มาจากสันดานและสถานการณ์มันบีบบังคับพวกเขาให้ต้องทำ แต่ในกลุ่มผู้อพยพก็มีคนดี ๆ อยู่มาก ซึ่งอาร์มันโด้เลือกช่วยคนพวกนี้เป็นหลักในตอนที่เขาต้องคอยไปตามรักษาคนป่วยก่อนหน้านั้น และพวกนี้ก็คือคนที่เอาอาหารมาตอบแทนอาร์มันโด้
ลูอิสไม่ได้กินกับทุกคน เพราะเขายังเด็กอยู่ จึงมีแต่เจียน่าที่นั่งกันกับอาร์มันโด้และเบลล่า โดยมีลูอิสนั่งกินนมที่ชงใส่ขวดแก้วและเก็บไว้ในช่องเก็บของผู้เล่น
เขาเอานมออกมาดื่มย้อมใจ ก่อนสัญญากับตัวเองว่าพออายุ 1 ขวบเขาจะลิ้มรสอาหารที่แอบจดไว้ให้หมดทุกเมนูเลย แต่ตอนนี้ต้องกินนมไปก่อน
ผ่านไปราวครึ่งชั่วโมง ทุกคนก็รับประทานอาหารของตัวเองเสร็จ เบลล่าและเจียน่าไปช่วยกันจัดการเก็บจานและของอื่น ๆ
ขณะที่ลูอิสนั้นได้เอาทักษะคำรามของสายอาชีพคนเถื่อนออกมามอบให้กับอาร์มันโด้
“นี่คือ?” อาร์มันโด้ที่นั่งอยู่ด้านหน้ากล่องเหล็กกำลังมองผลึกสีสวยงามที่อยู่ในมือของตนด้วยความสงสัย
“ของขวัญสำหรับการทำงานหนักของนาย แต่รอเดี๋ยวนะ” ลูอิสที่ยืนอยู่บนกล่องเหล็กพูดขึ้นมา ก่อนจะทำการเปิดหน้าจออินเตอร์เฟสของอาร์มันโด้ขึ้น ซึ่งเขาไม่จำเป็นต้องทำการโจมตีอาร์มันโด้แล้วถึงจะดูข้อมูลได้ เพราะทันทีที่อาร์มันโด้สัมผัสกับผลึกทักษะ หน้าจอก็จะปรากฏออกมาเอง
“อาร์มันโด้”
“มนุษย์”
“เกรด 0.5 ดาว”
“ค่าสถานะ : พละกำลัง 19 ,ความชำนาญ 10 ,ความทนทาน 16,สติปัญญา 7,โชค 8”
“พลังชีวิต : 25”
“พลังงาน : 10”
“แต้มศักยภาพ : 6”
…
‘ในเรื่องของค่าสถานะ อาร์มันโด้นั้นสมกับเป็นนักล่าระดับครึ่งดาว ซึ่งพลังงานในร่างของเขานั้นมากกว่าเจียน่าก่อนจะได้พลังงานเพิ่มจากฉันถึง 5 แต้ม แต่ศักยภาพของเขาน้อยกว่าของเจียน่าอยู่ 1 แต้มอาจจะเพราะอายุที่เยอะกว่าหรือไม่ก็เพราะความต่างของแต่ละบุคคล’
‘แต่ศักยภาพแค่ 6 แต้มก็เพียงพอเรียนทักษะคำรามแล้ว’ ลูอิสจัดการใช้แต้มศักยภาพของอาร์มันโด้ในทันที
“นี่มัน” อาร์มันโดตกใจที่อยู่ ๆ ผลึกในมือก็แปลงแสงออกมาจากนั้นก็สลายหายไปในเวลาพริบตา แต่ก่อนที่เขาจะได้คิดอะไรก็มีข้อมูลของทักษะคำรามพุ่งเข้ามาในหัวทำให้อาร์มันโด้เข้าใจแล้วว่าของขวัญที่ลูอิสบอกก่อนหน้านั้นคือสิ่งใด
“ความสามารถพิเศษ!!!” อาร์มันโด้คำรามออกมา ทำให้บ้านทั้งหลังสั่นสะเทือนเพราะอาร์มันโด้เผลอใช้ทักษะออกมาด้วยความตื่นเต้นโดยไม่รู้ตัว
ยังดีที่คนในระยะนั้นคือลูอิสและเขาไม่ใช่เป้าหมาย บวกกับความต่างของพลังทำให้ลูอิสนั้นแทบไม่ได้รับผลกระทบใด ๆ นอกจากหูอื้อไม่กี่วินาทีเท่านั้น แต่ผู้อพยพรอบบ้านนั้นพากันแตกตื่นเพราะคิดว่าเสียงคำรามเมื่อครู่คือเสียงฟ้าผ่า ทำให้หลายคนวิ่งหาที่หลบกันอย่างวุ่นวายด้วยความกลัวว่าจะโดนฟ้าผ่าตายกลางวันแสก ๆ
ภายในบ้านหลังเสีงคำรามหายไป ฝุ่นจากบ้านหลังเก่า ๆ ฟุ้งกระจายไปทั่วบ้าน เบลล่าที่ตอนนี้ตั้งสติได้เดินเข้ามาด้านหลังของอาร์มันโด้ก่อนจะตบเข้ากระบาลอาร์มันโดไปหนึ่งทีและดุด่าว่า “จะตะโกนเสียงดังทำไม ถ้าบ้านพังขึ้นมาจะทำยังไง ฉันต้องมาจัดการฝุ่นที่ตกลงมาอีกแล้วนะ”
อาร์มันโด้ได้แต่เงียบไม่กล้าพูดเพราะในครั้งนี้เขานั้นทำผิดจริง
ทารกน้อยลูอิสนั้นก็แอบชื่นชมเบลล่าอยู่ในใจว่า ‘สมควรโดนแล้ว หมอนี่มันสมองทึบจริง ๆ ด้วย เกือบทำให้วุ่นวายแล้วไหมล่ะ ยังดีที่มีเบลล่าคอยดูแล ไม่อย่างนั้นเจ้านี่อาจจะทำตัวเองตายก็ได้’
เจียน่าเองก็แอบยกนิ้วโป้งให้เบลล่าด้วย พร้อมมือที่ปิดหูอยู่อีกข้าง
แต่ในขณะที่ทุกคนกำลังดูอาร์มันโด้โดนเบลล่าดุไปเมื่อครู่ ก็มีเสียงเคาะประตูอย่างเร่งรีบดังขึ้น
ปัง ๆ ๆ ๆ
"ใครกัน!" อาร์มันโด้รีบไปเปิดประตู
ก่อนจะแปลกใจที่เห็นพยาบาลสาวที่มีสีหน้าตื่นตระหนก พร้อมกับพูดออกมาด้วยความร้อนใจ
"แย่แล้ว คุณลุง...หมอเทรย์เวอร์โดนคนจับตัวไป"
“อะไรนะ!”
“หมอเทรย์เวอร์โดนคนจับตัวไป!!!”
ทุกคนอุทานออกมาพร้อมกัน แม้แต่ลูอิสก็ด้วย โชคยังดีที่อาร์มันโด้ตัวใหญ่จึงบังคนด้านหลังไว้มิด ทำให้พยาบาลสาวไม่ทันเห็นตัวของพวกเขา
“ใครจับตัวไป!”
“แล้วจับไว้ที่ไหน!”
อาร์มันโด้ถามเข้าตรงประเด็นในทันที
“เป็นพวกนักเลงใต้ดินของเมือง พวกมันรู้เรื่องของยาน้ำตาเทพ เพราะเมื่อสองวันก่อนมีคนของพวกมันที่บาดเจ็บมาที่สถานพยาบาล ในตอนแรกพวกเราก็ไม่รู้ว่าพวกมันคือพวกใต้ดินของเมืองเอลดิล พอชายคนนั้นหาย วันต่อมาก็พากันอีกหลายคนในตอนเย็นและพยายามพูดจาข่มขู่กับคุณลุงเทรย์เวอร์ถึงที่มาของยา แต่เขาไม่ยอมบอก พวกมันจึงกลับไป ตอนแรกก็คิดว่ามันจะยอมแพ้ แต่ก็ไม่...ไม่คิดเลยว่าในตอนเช้าพวกมันก็บุกเข้ามาจับตัวเขาไป ส่วนสถานที่นั่นฉันตามพวกมันไปจนถึงโกดังร้างทางใต้ของชุมชนผู้อพยพที่นั่นเป็นแหล่งมั่วสุมของพวก แต่ก็ไม่กล้าเข้าไปมากกว่านี้เพราะกลัวจะโดนจับได้” พยาบาลสาวเล่าออกมาด้วยความร้อนใจ ก่อนจะรีบขอร้องอาร์มันโด้ต่อในทันที
“นายเป็นนักล่าใช่ไหม ช่วยไปจัดการพวกมันและช่วยคุณลุงเทรย์เวอร์ออกมาได้หรือไม่ ขอร้องแหละ คุณลุงเทรย์เวอร์เป็นคนดี เขาไม่ควรจะโดนแบบนี้เลย...” พยาบาลสาวพยายามตั้งสติไม่ให้ร้องออกมา เพราะรู้ว่าการร้องไห้นั้นไม่ได้ช่วยอะไร มีแต่จะทำให้พูดไม่รู้เรื่องเท่านั้นในตอนที่โดนถามข้อมูล
“ตกลง เธอกลับไปรอที่สถานพยาบาลก่อนคอยดูไว้เผื่อพวกมันกลับมา” อาร์มันโด้ตอบตกลงในทันทีตามนิสัยของเขา
“แต่ว่าฉันอยากจะไปช่วย...” พยาบาลสาวกล่าว แต่ก็โดนอาร์มันโด้พูดขัดขึ้น
“ถ้าสู้ขึ้นมา ฉันไม่สามารถมาคอยปกป้องเธอได้หรอกนะ” ความหมายของอาร์มันโด้นั้นชัดเจน ถ้าเธอไปก็มีแต่จะเป็นตัวถ่วง
“ได้...ฉันจะกลับไปรอที่สถานพยาบาล” พยาบาลสาวกัดริมฝีปากอย่างฝืนทน ก่อนจะพยักหน้าตกลง
หลังพยาบาลสาวจากไปอาร์มันโด้ก็เหมือนจะนึกขึ้นมาได้จึงหันมาพูดกับลูอิสว่า “ท่านลูอิสผมจะไปช่วยหมอเทรย์เวอร์เพราะปัญหานี้มาจากยาน้ำตาเทพที่ให้เขาไป ถ้าเกิดว่าผมเป็นอะไรท่านลูอิสช่วยดูแล...เบลล่าด้วย”
อาร์มันโด้หันมาขอร้องลูอิส เพราะรู้ว่าลูอิสนั้นไม่ธรรมดา เขาต้องดูแลภรรยาของตนได้แน่ แต่อาร์มันโด้ก็ต้องงุนงง เนื่องจากลูอิสไม่สนใจคำพูดของเขาเลย
“ไปจัดการพวกปลายแถวพวกนั้นกันเถอะ” ลูอิสหันไปบอกกับเจียน่าก่อนจะเดินผ่านอาร์มันโด้ไป
“อืม” เจียน่าพยักหน้ารับรีบตามลูอิสไป
ปล่อยให้อาร์มันโด้งงกับการกระทำของทั้งสอง พอนึกถึงคำพูดเมื่อกี้ของลูอิสได้ อาร์มันโด้ก็รีบวิ่งตามไปเพราะกลัวว่าจะเกิดอันตรายกับลูอิสและเจียน่าได้
“เจ้าบ้านั้น...” ส่วนเบลล่ากำลังกำมือแน่นมองไปที่แผ่นหลังของอาร์มันโด้ด้วยหน้ามุ่ยกับการตัดสินใจของอาร์มันโด้ที่ห่วงแต่เรื่องของคนอื่น ถึงอย่างนั้นเธอก็ได้แต่ถอนหายใจและตะโกนเสียงดังไล่หลังอาร์มันโด้ว่า “เพราะเป็นแบบนี้ฉันจึงรักนาย เจ้าบื้อเอ๊ย”
“ฉันก็เหมือนกันนนน...” อาร์มันโด้ตะโกนเสียงดังตอบกลับทำเอาทุกคนในละแวกนี้ได้ยินกันหมด
เบลล่าใบหน้าแดงขึ้นมาทันที ก่อนจะกระทืบเท้าหันกลับไปจัดการฝุ่นในบ้านด้วยรอยยิ้ม
...
“ที่นี่อย่างนั้นเหรอ” ทารกน้อยลูอิสที่ตอนนี้อยู่ในอ้อมกอดของเจียน่ากำลังมองดูโกดังรกร้างด้านหน้า มันเป็นโกดังผุ ๆ หลายสิบหลังกระจายกันออกไปเป็นวงกว้าง มีรั้วกั้นรอบขอบชิด แต่ประตูรั้วนั้นกับพังหักจนไม่สามารถปิดได้
ด้านหน้าประตูมีชาย 3 คนกำลังเล่นไพ่และพูดนั่งคุยกันและสูบบุหรี่ไปด้วย
“บุหรี่ถือว่าเป็นของฟุ่มเฟือยที่มีราคาพอควร ดังนั้นคนทั่วไปจึงไม่สามารถซื้อมาสูบได้ นักเลงพวกนี้กลับสามารถสูบพวกมันได้ ดูแล้วคงมีนายใหญ่หนุนหลังสินะ” อาร์มันโด้วิเคราะห์
ลูอิสและเจียน่าทั้งสองหันไปมองอาร์มันโด้เป็นสายตาเดียวกันอย่างไม่น่าเชื่อว่า
‘แกเป็นใครกัน คายอาร์มันโด้ออกมานะ’ ลูอิสอยากจะยิงมุกนี้ออกไป แต่ก็ไม่ได้ทำเพราะมันไม่ใช่สถานการณ์จะมาเล่นมุก
“แต่ก็ยังเป็นแค่คนธรรมดา ผมจะเข้าไปจัดการพวกมันเอง” อาร์มันโด้กล่าวจบก็วิ่งตรงเข้าหาชายเฝ้าประตูทั้ง 3 คน
“เขาจะไหวใช่ไหมคะ” เจียน่าถามลูอิส
“อาร์มันโด้เป็นระดับครึ่งดาว คนธรรมดาสามคนคงไม่เกินมือเขาหรอก แต่ถ้าเข้าไปข้างในแล้ว เขาเอาไม่อยู่เธอก็ช่วยเขาหน่อยละกัน” ลูอิสน้อยพูดอย่างไม่สนใจมากนัก
“ค่ะ” เจียน่าพยักหน้ารับ ก่อนจะพาลูอิสตามอาร์มันโด้ไป