553 - การฟื้นคืนชีพของราชันย์ศักดิ์สิทธิ์ผู้ยิ่งใหญ่
553 - การฟื้นคืนชีพของราชันย์ศักดิ์สิทธิ์ผู้ยิ่งใหญ่
กฎของดินแดนศักดิ์สิทธิ์นั้นไม่อนุญาตให้สตรีศักดิ์สิทธิ์แต่งงานกับบุคคลภายนอก เทพธิดาเมฆชมพูถูกกีดกันไม่ให้แต่งงานกับเจียงไท่ซู
ราชันย์ศักดิ์สิทธิ์เจียงบุกเข้าไปในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ต้นกำเนิดเพื่อพาหญิงสาวที่เขารักออกมา แต่ในที่สุดเทพธิดาเมฆชมพูก็ยืนกรานที่จะอยู่ในสำนักของนางด้วยความกตัญญู
ถึงจะเป็นอย่างนั้นนางก็ไม่เคยสมรสกับบุตรศักดิ์สิทธิ์มาตลอดชีวิต นางอยู่คนเดียวในถ้ำโบราณและไม่เคยมีผู้ใดพบเห็นนางอีกเลย แม้แต่ผู้คนจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์ต้นกำเนิดก็ยังไม่มีใครรู้
ปัง!
กฎแห่งสวรรค์และปฐพีของเทพธิดาเมฆชมพูแข็งแกร่งอย่างยิ่ง เมื่อสี่พันปีก่อนนางก็ถือเป็นหนึ่งในผู้บ่มเพาะที่แข็งแกร่งที่สุดในรุ่นเดียวกัน
และวันนี้นางสามารถต่อต้านสามผู้ยิ่งใหญ่ในอดีตโดยไม่แสดงท่าทีอ่อนด้อยกว่า
ตัวตนระดับราชันย์ศักดิ์สิทธิ์จำนวนมากอยู่ห่างไกลออกไป พวกเขารู้สึกหวาดกลัวอย่างถึงที่สุดกับสิ่งที่ยอดฝีมือทั้งสี่ใช้ในการประหัตประหารกัน
จนกระทั่งบัดนี้พวกเขาถึงรู้ว่าตลอดชีวิตของพวกเขานั้นอยู่มาอย่างไร้ประโยชน์อย่างยิ่ง พวกเขาเข้าใจว่าตัวเองเป็นยอดฝีมือลำดับต้นๆของดินแดนรกร้างตะวันออก
แต่สุดท้ายการควบคุมกฎแห่งสวรรค์และปฐพีของเทพธิดาเมฆชมพู รวมไปถึงวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของปีศาจเฒ่าทั้งสามนั้นทำให้พวกเขาสิ้นหวังและตระหนักได้ว่าตัวเองนั้นอ่อนแอมากแค่ไหน
"แปรง'
เมื่อแสงวาบ เทพธิดาเมฆชมพูก็หลีกเลี่ยงการโจมตีของชายชราทั้งสามก่อนจปิดผนึกพวกเขาไว้ในอุโมงค์มิติที่ถูกสร้างขึ้น
หลังจากนั้นนางก็ปรากฏตัวที่ด้านหน้าของสระแปลงมังกรพร้อมกับยื่นมือเข้าหาชายคนรักที่หายสาบสูญไปกว่าสี่พันปี
“... เจ้าต้องมีชีวิตขึ้นมา.. .”
น้ำตาของนางตกลงมาราวกับสายฝน เมื่อเห็นสภาพของเจียงไท่ซูที่มีเพียงผิวหนังหุ้มกระดูกนางก็รู้สึกทนไม่ได้
ในทันใดนั้นนางได้ฉีดพลังชีวิตของตัวเองเข้าไปในไข่มุกมังกรเพื่อเร่งการย่อยสลายทำให้เกิดแสงสว่างเจิดจ้า
“ผู้อาวุโสเมฆชมพูไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้น หากบรรพบุรุษตื่นขึ้นแล้วพบว่าท่านทำแบบนี้เขาจะรู้สึกเสียใจมากๆ”
“พลังชีวิตของข้ากำลังจะหมดแล้วข้าไม่สามารถอยู่ได้ถึงพรุ่งนี้ด้วยซ้ำ เจ้าไม่ต้องพูดอะไรอีก”
เทพธิดาเมฆชมพูระเบิดพลังของตัวเองออกมาและทำให้น้ำในสระแปลงมังกรกระเพื่อมออกมาด้านนอก
"เมื่อสี่พันปีก่อนเจ้าสง่างามมากแค่ไหนข้ารู้ดีที่สุด”
เทพธิดาเมฆชมพูหลั่งน้ำตาออกมามากมาย
"ตอนนี้เจ้ากลับมาในสภาพที่ย่ำแย่แต่ก็ยังมีใครบางคนคิดจะฆ่าเจ้า จะให้ข้าทนเรื่องนี้ได้อย่างไร"
“ผู้อาวุโสอย่าทำแบบนี้อีกเลย บรรพบุรุษจะต้องไม่พอใจมากแน่ๆ” เจียงอวิ๋นเกลี้ยกล่อมอีกครั้ง
"ข้าได้รับบาดเจ็บจากอาวุธเต๋าสุดขั้วอยู่ก่อนแล้ว เมื่อพี่ไท่ซูตื่นขึ้นขอให้เขาล้างแค้นให้ข้าด้วย”
ใบหน้าของเจียงอวิ๋นบิดเบี้ยวอย่างรุนแรง เกิดอะไรขึ้นก่อนหน้านี้?
ก่อนที่เทพธิดาเมฆชมพูจะข้ามความว่างเปล่าเข้าสู่เมืองศักดิ์สิทธิ์นางได้ถูกใครบางคนลอบโจมตีจนได้รับบาดเจ็บสาหัส
จากคำพูดของนางเห็นได้ชัดว่าคนที่ลงมือคือราชันย์ศักดิ์สิทธิ์ผู้ยิ่งใหญ่ของดินแดนรกร้างตะวันออกที่ครอบครองอาวุธเต๋าสุดขั้ว!
"ใครเป็นคนทำเรื่องนี้?"
แม้แต่เจียงอวิ๋นก็ยังสิ้นหวังอย่างถึงที่สุด เจตนาของฝ่ายตรงข้ามนั้นชัดเจน พวกเขาหมายปองเตาเทพสุริยันของตระกูลเจียงอย่างแน่นอน
และคนที่ลงมือทำสิ่งนี้หากไม่ใช่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงก็ต้องเป็นตระกูลจี้อย่างไม่ต้องสงสัย!
' บูม'
แรงระเบิดอันยิ่งใหญ่ดังขึ้นชายชราสามคนหัวเราะซ้ำแล้วซ้ำอีกเพราะพวกเขาสามารถจัดการกับกฎสวรรค์ที่ขังพวกเขาไว้ในประตูมิติ
แต่แล้วเสียงหัวเราะของพวกเขาก็ชะงักลงเมื่อพวกเขาเห็นการกระทำของเทพธิดาเมฆชมพู!
“ส่งพวกมันสามีภรรยาให้เดินทางร่วมกันเถอะ”
“เทพธิดาเมฆชมพูไม่คิดว่าเจ้าจะมีแผนการณ์เช่นนี้”
ฝ่ามือขนาดใหญ่ของชายชราคนหนึ่งกดเข้าหาเทพธิดาเมฆชมพูด้วยพลังทั้งหมดที่เขามี
'พัฟ'
รูเลือดสี่หรือห้ารูปรากฏในร่างของเทพธิดาเมฆชมพูซึ่งได้รับบาดเจ็บอยู่ก่อนแล้ว ด้วยพลังระดับครึ่งเซียนที่โจมตีมา ต่อให้นางแข็งแกร่งมากกว่านี้อีกสองเท่าก็ไม่สามารถต้านทานได้
"บูม"'
ในเวลาเดียวกัน ตัวตนระดับราชันย์ศักดิ์สิทธิ์ทั้งสิบสามคนก็ถูกคลื่นกระแทกซักออกไปด้านนอก แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่ใบหน้าของพวกเขาบิดเบี้ยวอย่างถึงที่สุด
เหตุไฉนยอดฝีมือในยุคโบราณถึงได้แข็งแกร่งขนาดนี้?
'บูม'
เทพธิดาเมฆชมพูใช้แผ่นหลังของตัวเองตั้งรับการโจมตีของชายชราทั้งสามโดยที่นางยังคงพยายามเผาผลาญลูกแก้วมังกรที่อยู่ในร่างกายของเจียงไท่ซูต่อไป
“พี่ไท่ซูเมื่อเจ้าตื่นขึ้นอย่าได้ปล่อยให้พวกมันรอดชีวิตแม้แต่คนเดียว”
“ท่านบรรพบุรุษ ข้าเจียงอี้มาช่วยท่านแล้ว”
ทันใดนั้นคลื่นเสียงก็โหมกระหน่ำไปทั่วทั้งเมืองศักดิ์สิทธิ์ ภาพธรรมของสัตว์อสูรแปดตัวที่มีขนาดใหญ่ทัดเทียมท้องฟ้าได้กลายเป็นเงาดำที่ปกคลุมทุกสิ่งทุกอย่างให้อยู่ในความมืด
หลังจากนั้นคลื่นพลังแปลกๆก็แทรกซึมเข้าสู่เมืองศักดิ์สิทธิ์ทำให้ผู้คนหนาวสั่นด้วยความกลัว
“หม้ออสูรกลืนสวรรค์โบราณ? ''
ราชันย์ศักดิ์สิทธิ์ทั้งสิบคนที่เหลือใบหน้าซีดเผือด พวกเขารู้ดีว่าโจรผู้ยิ่งใหญ่ได้ปรากฏตัวขึ้นแล้ว
'บูม''
หม้อดินขนาดใหญ่กดลงมาจากท้องฟ้า ชายชราที่ร่างกายแห้งเหี่ยวทั้งสามไม่สามารถหลบหนีการจู่โจมครั้งนี้ได้ พวกเขาได้แต่ใช้พลังของตัวเองเพื่อต่อต้านมันตรงๆ
“พวกเจ้าบังอาจ!”
“มหาโจรลำดับที่เก้า เจียงอี้อยู่ที่นี่แล้ว”
เขายืมหม้ออสูรกลืนสวรรค์จากตู้เทียนมาช่วยบรรพบุรุษในเมืองศักดิ์สิทธิ์ ในโลกนี้ไม่มีผู้ใดสามารถต่อสู้กับอาวุธเต๋าสุดขั้วได้ไม่ว่าพวกเขาจะแข็งแกร่งแค่ไหนก็ตาม
แม้ว่าหม้ออสูรกลืนสวรรค์จะเป็นเพียงอาวุธเต๋าสุดขั้วที่ไม่สมบูรณ์ แต่มันก็เพียงพอแล้วที่จะบดขยี้ยอดฝีมือทุกคนในโลกที่ยังไม่เข้าสู่อาณาจักรแห่งความเป็นอมตะ
" พวกเจ้าเตรียมตัวตายได้แล้ว " เจียงอี้ตะโกนด้วยความโกรธ
" มาที่สระแปลงมังกร ปกป้องบรรพบุรุษให้ได้นานที่สุดเท่าที่เจ้าจะทำได้"
เจียงอวิ๋นตะโกนออกไป เขาและเจียงอี้เป็นพี่น้องที่คลานตามกันมา แม้ว่าพวกเขาจะมีความเห็นไม่ตรงกันในบางเรื่อง แต่ความสัมพันธ์พี่น้องนั้นยังคงแน่นแฟ้น
'เก็บ!''
เจียงอี้ตะโกน แทบจะในเวลาเดียวกันหม้ออสูรกลืนสวรรค์ที่มีขนาดใหญ่โตมโหฬารก็พลิกคว่ำก่อนจะครอบสระแปลงมังกรอย่างแน่นหนา
“แย่แล้ว!”
ตัวตนระดับราชันย์ศักดิ์สิทธิ์ทั้งสิบคนใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยความกลัว หากเจียงไท่ซูได้รับโอกาสให้ดูดกลืนลูกแก้วมังกรจนหมด ร่างกายของเขาจะต้องฟื้นตัวกลับมาเป็นปกติอย่างแน่นอน
“พี่ไท่ซู่...เจ้ารู้มั้ย? ตลอดสี่พันปีที่ผ่านมา... ข้าคิดถึงเจ้ามากแค่ไหน…”
ภายในสระแปลงร่างมังกรเทพธิดาเมฆชมพูร่างกายแข็งทื่อ ในความเป็นจริงนางได้เสียชีวิตไปแล้ว เสียงที่ดังออกมานั้นมาจากวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ที่กำลังจะสลายของนาง
"ข้าอยากย้อนไปเมื่อสี่พันห้าร้อยปีก่อน...ข้ารู้สึกเสียใจจริงๆที่ไม่ได้ติดตามเจ้าออกไปในตอนนั้น”
เสียงของนางแผ่วเบาเป็นอย่างมาก มันเต็มไปด้วยความคับแค้นและแทบจะไม่มีผู้ใดได้ยินคำสั่งเสียสุดท้าย
เจียงอวิ๋นยื่นใบหน้าเข้าไปก่อนจะกล่าวด้วยความเคารพว่า
"ผู้อาวุโสท่านต้องการพูดอะไร"
หลังจากผ่านไปนานซากศพของหญิงชราก็มีเสียงดังแผ่วเบาออกมาว่า
"หลังจากที่ข้าตาย...คลุมกายข้าด้วยผ้าขาว บอกไท่ซู...อย่าเปิดดูข้า...ข้าไม่อยากให้เขาเห็นสภาพที่น่าเกลียด…ข้าอยากให้เขาจดจำข้า…เหมือนเช่นเมื่อสี่พันปีก่อน”
“ผู้อาวุโส!”
ในตอนนี้หางตาที่แห้งเหี่ยวของเจียงไท่ซูมีหยดน้ำตาปรากฏขึ้น
“ผู้อาวุโสเมฆชมพูจากไปอย่างสงบเถอะ บรรพบุรุษของข้าได้ยินเสียงของท่านแล้ว”
ผู้คนของตระกูลเจียงที่อยู่ในหม้ออสูรกลืนสวรรค์ต่างก็ร้องไห้อย่างเศร้าโศก แต่จุดประสงค์หลักในการช่วยเหลือเจียงไท่ซูของพวกเขายังคงไม่เปลี่ยนแปลง
หลังจากผ่านไปอีกกว่าเจ็ดชั่วยามในที่สุดราชันย์ศักดิ์สิทธิ์เจียงไท่ซูก็ลืมตาตื่นขึ้น มือที่เหี่ยวย่นเหมือนขาไก่ของเขายื่นเข้าหาร่างที่ถูกคลุมด้วยผ้าสีขาวอย่างสั้นสะท้าน