ระบบเส้นทางแห่งสวรรค์ บทที่ 120 แผนการ (ฟรี)
"ให้บอกอะไรหรอ?" เสียงของเด็กดูสับสน
'คนคนนี้มันโง่หรือบ้าหรือเป็นคนอะไรยังไง' วาเรี้ยนเอามือกุมขมับ
“ถ้าอะบิซอลจะมาถึงในอีก 5 วันจริงแล้วแผนของแกคืออะไร” เขาถาม
“แผนอะไร?” เมื่อได้ยินเสียงของเด็กตอบเขาแทบอยากจะกรี้ดออกมา
คิ้วของวาเรี้ยนขมวด “จากคำพูดของแก แกอยู่ตรงกลางของเขตแกนกลาง ถ้ำที่มีสัตว์เวทมนตร์ระดับ 4 สูงสุดฉันไม่สามารถเข้าไปได้ฉันยังรับมือกับพวกมันไม่ไหวแล้วจะให้ฉันทำยังไง”
เขตแกนกลางนั้นเล็กกว่าเขตชั้นในและเขตชั้นนอกมาก ซึ่งหมายความว่าทุกที่ที่ดูเหมือนจะเป็นที่หลบซ่อนหรือพักได้จะมีสัตว์เวทมนตร์อยู่ทั้งหมด
เพราะเขตพื้นที่แกนกลางเป็นพื้นที่ที่มีสัตว์เวทมนตร์มารวมตัวกันเพื่อดูดซับออร่ามากที่สุดแล้ว
แม้ว่าเขาจะใช้ระบบซ่อนออร่าของเขา เขาก็ยังไม่สามารถที่จะแอบเข้าไปได้เพราะสัมผัสสายฟ้าของระดับ 4 สูงสุดจะพบเขาได้อย่างง่ายดาย
“ทำอะไรไม่ได้เลยเหรอ” เสียงพึมพำ
“ฉันควรจะเป็นคนพูดแบบนั้น ไม่ใช่แก” วาเรี้ยนเริ่มสงสัยว่าคนที่กำลังคุยกับเขาอยู่ปัญญาอ่อนหรือเปล่า
'การอยู่ที่นี่คนเดียวเป็นเวลานานอาจทำให้มนุษย์เป็นบ้าได้' เขาสะดุ้ง
“เพราะว่าฉันเป็นแบบนี้อยู่ ฉันเลยทำอะไรไม่ได้มาก” เสียงอ่อนโยนและไร้เดียงสาพยายามพูดปกป้องตัวเอง
“งั้นเราสองคนก็ตาย” วาเรี้ยนพูดอย่างเย็นชา
และเขาก็พูดเสริมว่า 'ถ้าแกยังไม่พูดความจริง ฉันจะไม่ร่วมมือกับแก'
“ใช่งั้นพวกเราจะตายกันทั้งคู่ Broo!” เสียงของเด็กชายเริ่มครวญคราง
'...นี่คือเวลาที่พวกระดับสูงติดอยู่ในดันเจี้ยนที่หายสาบสูญเป็นเวลานานชอบทำกันงั้นหรอ?' วาเรี้ยนสงสัย
เขาคิดว่าคนที่กำลังพูดกับเขาอยู่จะต้องเป็นเทเลพาธ แต่ถึงยังงั้นคนคนนี้ก็ยังสามารถเอาชีวิตรอดมาได้ถึงตอนนี้
แล้วเสียงที่เป็นเหมือนเด็กหล่ะ?
ไม่เอาหน่า!
มันก็มีพวกลุงแก่ๆที่ชอบใช้โปรไฟล์มาหลอกเด็กวัยรุ่นอยู่ไม่ใช่หรอ? แม้แต่ใน VR ก็มีหลายครั้งที่ผู้ชายแต่งตัวเป็นผู้หญิงและออกเดทกับวัยรุ่น
คนคนนี้ก็คงใช้วิธีการทำนองนั้นกับฉันนั้นแหละ
แล้วเรื่องที่อะบิซอลกำลังจะมาก็?
วาเรี้ยนไม่เชื่อเรื่องนี้สักเท่าไร อย่างไรก็ตามมันก็ดีกว่าที่จะคิดหาวิธีป้องกันเอาไว้ก่อนที่จะเสียใจภายหลัง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งความรู้สึกที่เป็นลางไม่ดีตอนที่เขาเข้ามาในเขตแกนกลาง จนถึงตอนนี้เขาก็ยังรู้สึกถึงมันอยู่
ที่สำคัญที่สุดเขาไม่เชื่อว่าคนคนนี้จะพาเขาออกไปได้ แต่ถ้าอะบิซอลสามารถเข้ามาในสถานที่แห่งนี้ได้หมายความว่าถ้าเขาฆ่ามันได้เขาก็จะได้รับ 'อุปกรณ์' ที่ทำให้เขาสามารถกลับออกไปได้
วาเรี้ยนจึงต้องตัดสินใจหาทางช่วยเด็กคนนี้
"เอาหล่ะ" วาเรี้ยนพูดด้วยน้ำเสียงของเขา “บอกมาสิว่าแกทำอะไรได้บ้าง”
“ฉันสัมผัสได้ทุกอย่างในเขตแกนกลางได้ ฉันสามารถคุยกับนายได้” เด็กตอบ
“มีอะไรอีกไหม” เขาหวังว่าจะมีอะไรที่มากกว่านี้
"..."
วาเรี้ยนอยากจะทุบภูเขาที่อยู่ตรงหน้าเขาให้แหลกออกเป็นชิ้นๆ แต่เขาก็ยั้งใจเอาไว้
“อาณาเขตของพวกสัตว์เวทมนตร์ในเขตแกนกลางเป็นยังไง?”
“สงบสุข อาณาเขตของพวกมันถูกกำหนดไว้อย่างชัดเจน ไม่มีใครรบกวนใคร พวกมันทั้งหมดแค่กิน ขี้ ปี้ นอน เพื่อรอการก้าวเข้าสู่ระดับ 5”
“หืม” วาเรี้ยนลูบคาง
ตัวแรกที่ก้าวไปสู่ระดับ 5 จะเป็นผู้ชนะ แต่ถ้าหากว่าไปสู้กันมั่วซั่วเดี่ยวฝ่ายที่สู้กันไม่ว่าจะแพ้หรือชนะก็จะตกเป็นเหยื่อของพวกที่กำลังรอโอกาสอยู่ดี
'พวกมันฉลาดกว่าที่ฉันคาดไว้'
“ฉันต้องทำอะไรกับสถานการณ์นี้สักอย่าง” วาเรี้ยนพยักหน้ากับตัวเองและเขาก็พยายามคิดหาวิธี
'แต่ทำยังไงให้พวกสัตว์เวทมนตร์ระดับ 4 สูงสุดพวกนี้วุ่นวายกันละ? ต้องทำให้พวกมันกล้าเสี่ยงชีวิตที่จะเข้ามาสู้?' เขายังคงคิดต่อไป
'อ๊ะ!' เขาดีดนิ้วและพยายามหาข้อมูลบางอย่างในฐานข้อมูลของเขา
“คิดอะไรออกงั้นหรอ” เสียงของเด็กดูกังวลเล็กน้อย
วาเรี้ยนไม่สนใจคำพูดและถามว่า “แกสัมผัสทุกอย่างในเขคแกนกลางได้ใช่ไหม”
"ใช่แล้ว" เด็กตอบด้วยเสียงความภาคภูมิใจในตัวเอง
“ถ้าอย่างนั้น” วาเรี้ยนหรี่ตาและพูดทีละตัวอักษรว่า “แ-อ-ม-โ-บ-ร-เ-ซี-ย”
“โธ่เว้ย! ฉันก็คิดว่านายมีแผน สุดท้ายก็แค่นี้เองหรอ” เสียงของเด็กดูผิดหวัง
วาเรี้ยนไม่สะทกสะท้านกับคำพูดที่โดนพูดใส่
"มีแอมโบรเซียอยู่ในเขตแกนกลางจริงๆแต่มันยังอยู่ในการผลิตอยู่ ผลลัพธ์ที่ออกมาได้ดีที่สุดในตอนนี้คืออาจจะทำให้นายพัฒนาไปได้ในทุกเส้นทางเล็กน้อย ฉันหาที่อยู่ของแอมโบรเซียได้งั้นเดียวฉันจะบอกนายแล้วให้นายไปขโมยมาก็ได้" เด็กพูด
วาเรี้ยนส่ายหัวและตอบว่า “ฉันจะไม่ขโมย ฉันจะทำมันอย่างโจ่งแจ้งบอกให้พวกมันที่อยู่ที่นี่ทุกตัวรู้ว่าฉันจะไปเอา”
“แล้วนายจะทำแบบนั้นทำไม นายบ้าหรือเปล่า! เขตแกนกลางจะเต็มไปด้วยความโกลาหลนะ!”
"ใช่ ความโกลาหลนั้นแหละที่ฉันต้องการ! มันจะเป็นโอกาสที่สมบูรณ์แบบเพื่อที่ฉันจะได้เข้าไปในจุดศูนย์กลางในเขตแกนกลางได้" วาเรี้ยนยิ้มออกมา
“แต่..แต่..”
"ไม่หุบปาก" วาเรี้ยนตัดจบ “ถ้าแกต้องการให้ฉันไปช่วยแกทำตามที่ฉันบอกซะ”
"นั้นสินะ" เสียงของเด็กถอนหายใจอย่างแรง
“ฉันต้องใช้เวลาพอสมควรกว่าจะเจอที่อยู่ของแอมโบรเซียมันอยู่ใต้ดินเลยอาจจะนานหน่อย” เด็กอธิบาย
"นานแค่ไหน?"
"สามวัน"
“...นั้นเร็วที่สุดที่แกจะทำได้แล้วหรอ”
"ฉัน... ฉันไม่ได้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์นี่หน่า"
วาเรี้ยนยักไหล่ “ไม่เป็นไรขอแค่ฉันเข้าไปที่จุดศูนย์กลางได้ก่อนที่พวกอะบิซอลจะมาก็พอ”
'ฉันจะไม่พลาดโอกาสที่จะใช้อุปกรณ์หรือเทคโลโลยีหรือไม่ว่าอะไรก็ตามที่พาพวกมันมาพาฉันกลับบ้าน'
"แน่นอนอยู่แล้วว่านายต้องทำแบบนั้น"
วาเรี้ยนเช็คข้อมูลของแอมโบรเซียในฐานข้อมูลของเขา
{แอมโบรเซีย
ใช้เวลาหลายร้อยปีในการผลิต ยิ่งมันถูกทิ้งไว้นานเท่าไรออร่าที่จะให้ก็จะมากเท่านั้น หลังจากผลิตเสร็จแล้วจะทำให้กลิ่นอันหอมหวานกระจายไปหลายร้อยกิโลเมตร
การเกิดขึ้นของแอมโบรเซียแต่ละครั้งจะตามมาด้วยการนองเลือด
มนุษย์แทบทุกคนต้องการที่จะได้แอมโบรเซีย แม้แต่สัตว์เวทมนตร์ก็เช่นกัน
หากคุณอ่อนแอก็อยู่ห่างๆมันเอาไว้จะดีกว่า}
"แผนนี้น่าจะได้ผล" วาเรี้ยนเหยียดแขนขาของเขาและอยากทำให้ร่างกายคุ้นชินกับพลังในตอนนี้
ผู้ปลุกพลังร่างกายสายเสริมแกร่ง
บูม!
บูม!
เขาต่อยหมัดขึ้นไปในอากาศ
สิ่งที่ตามมาคือเสียงระเบิดดังสนั่นของอากาศ
สุดยอดไปเลย!
ความเร็วของวาเรี้ยนเป็นอย่างมาก เพียงแค่เสี้ยววินาทีเขาก็สามารถไปได้ไกลหลายสิบเมตร
บูม!
เขาพุ่งใส่ก้อนหินและเอาตัวกระแทกกับก้อนหิน
ก้อนหินแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยในขณะที่เขาได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย
ในขณะที่เขาทดสอบพลังไปเรื่อยๆ ร่างกายของเขาก็เริ่มชินกับพลังที่เขาได้มาใหม่ฃ
เด็กคนนั้นไม่พูดอะไรกับเขามาสามวันหมายความว่าเขาผิดนัด แต่หลังจากผ่านวันที่สามมาสักพักเขาก็มาบอกว่าขอเวลาเพิ่ม
วาเรี้ยนอยากเข้าในจุดศูนย์กลางทันทีตั้งแต่ตอนนั้น แต่เขาก็ห้ามใจเอาไว้
และวันที่สี่เด็กคนนั้นก็พูดกับเขาพร้อมกับข่าวดี
“เจอแอมโบรเซียแล้ว!”