ตอนที่35 มันคือการฝ่าฝืนที่ไปค้นหาโปรไฟล์สารธารณะของเรื่องอื้อฉาว
ในความคิดของใครหลายๆคน พวกที่มีปัญญาดีด้านไอทีและการวิจัยที่ฉลาดหลักแหลมเหล่านี้ส่วนใหญ่มักมีจิตใจเยือกเย็น ไม่ชอบเข้าสังคม และไม่ชอบการนินทา เพราะโดยปกติแล้วพวกเขาชอบที่จะใช้เวลาเพื่อคิด เจาะลึกแนวคิดและทฤษฎีต่างๆ แต่มันก็ย่อมมีกรณีพิเศษอยู่เสมอ
เจสัน เป็นกรณีพิเศษในทีมวิจัยและพัฒนา เขามีความสามารถระดับเฟิร์สคลาสในการเขียนโปรแกรม เขาเข้ากับคนง่ายและคุ้นเคยกันดี แต่เขาก็ซุบซิบเหมือนกัน แน่นอนว่าเขามีความเหมาะสมกับการนินทาที่สุดแล้ว
จิน เซียงตง ที่ไม่ชอบแสดงตัวต่อสาธารณชน ได้ใช้ทักษะพิเศษของ เจสัน อย่างเต็มที่ เนื่องจาก เจสัน เมื่อมีโอกาสเขามักจะปรากฏตัวในนามของเขาต่อสาธารณะหลายต่อหลายครั้ง เพราะเหตุนี้ เจสัน ถึงถูกเข้าใจว่าเป็นผู้ชายตัวท็อปในBUA
"ยับยั้งความอยากรู้ไว้นะ แล้วรีบจบโปรแกรมสำหรับการพัฒนาระยะที่สี่ด้วย!" จิน เซียนตง เหลือบมองไปที่เขา
"ความปรานีแก่ผู้ที่มาสารภาพความผิดและความรุนแรงต่อผู้ที่ปฏิเสธ!” ทุกคนที่นี่คุ้นเคยกับวิธีการพูดของ จิน เซียงตง เป็นอย่างดี และพวกเขาก็ประสานเสียงกันอย่างมีความหมาย
ไม่ใช่ว่าทุกคนจะชอบนินทา แต่พฤติกรรมที่ จิน เซียนตง แสดงออกมานั้นมันช่างน่าสงสัยเกินไป แม้ว่าทุกคนจะแสดงออกไม่ตรงกันเมื่อพูดถึงโพสต์บางอย่างบนวีแชท แต่ก็หาดูได้ยากจริงๆที่จะได้เห็น จิน เซียงตง นั้นไปไลค์ให้กับทุกคน! ไม่ใช่ว่าเขาหยิ่งหรืออะไรแต่เป็นเพราะเขาไม่ค่อยใช้โซเชียลมีเดียเท่าไหร่ ขณะที่พูดถึง ลู่ เจียเอ๋อร์ เขาก็คลิกเบา ๆ ที่ 'หัวใจดวงเล็ก' ใต้โพสต์โมเม้นบนวีแชทของเธอเป็นครั้งแรก และแน่นอน ไม่มีอะไรจะพูดเกี่ยวกับการคลิกที่ "หัวใจดวงน้อย" เพราะว่าโพสต์ของ ลู่ เจียเอ๋อร์ นั้นเป็นเรื่องเกี่ยวกับพ่อของ จิน เซียงตง ด้วย ซึ่งมันยากที่จะหาหัวข้อซุบซิบที่เกี่ยวข้องกับเขาอยู่ดี ถึงจะเป็นเช่นนั้นพวกเขาก็คงไม่ยอมปล่อยไปง่ายๆแน่
ปกติฉันไม่เห็นนายให้ใจพวกเราสักหน่อย! มีอะไรพิเศษรึเปล่าเนี่ย?” เจสัน ส่งสายตาที่มีความหมายไปที่ จิน เซียงตง
"เอซ ฉันคิดว่านายคงกำลังพยายามปรับสถานการณ์ที่มีแต่ผู้ชายแบบนี้โดยเฉพาะในทีมของเรา ฉันไม่ได้หวังว่านายจะเห็นแก่ตัวหรอกนะ!" เจิ้ง เจี๋ย เป็นคนแรกที่วิจารณ์ จิน เซียนตก
"ถ้าทำเพราะเห็นแก่ตัวจริงๆ งั้นฉันก็ขอท้วง!" หลี่ จาง ในฐานะชายโสดประท้วง
"ฉันด้วย!" อีกคนหนึ่งยังประท้วง
ดวงตาของ จิน เซียงตง กวาดสายตามองดูผู้คนในห้องและพูดด้วยน้ำเสียงสบายๆ ว่า "ฉันไม่ได้เห็นแก่ตัว ฉันทำเพื่อประโยชน์ต่อสาธารณะต่างหาก!"
"สาธารณะเหรอ! นี่นายกำลังประกาศสิทธิ์ของการเป็นเจ้าของอย่างเปิดเผยกับศาสตราจารย์ ลู่ เจียเอ๋อร์ ใช่ไหมล่ะ?" หลี่ จาง พยายามยืนยันเรื่องนี้จากเขา
ทุกคนจับจ้องไปที่ จิน เซียงตง ในขณะที่ จิน เซียงตง ก็ไม่ได้ให้คำตอบที่แน่นอน เขายืนขึ้นและกล่าวว่า "นายสามารถเข้าใจได้ด้วยตัวเอง การประชุมครั้งนี้จบลงแล้ว!" จากนั้นเขาก็ออกจากห้องประชุมพร้อมกับหนีบแล็ปท็อปใต้วงแขน
เพียงเดินไปที่ประตู เขาก็ได้ยินเสียงเล็ดลอดออกมาจากข้างใน "มันจะอุจอาจเกินไปนะถ้าถามเรื่องส่วนตัวในที่สาธารณะแบบนี้!"
"ในที่สุด เอซ ก็กลับมายังโลกนี้ในฐานะมนุษย์สักที เราต้องอดทนและเข้าใจเขาหน่อย!"
เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ เขาก็เงยหน้าขึ้น และมุ่งหน้าไปยังห้องทำงานของเขาด้วยการก้าวขายาวๆ
...
เช้าวันรุ่งขึ้น ลู่ เจียเอ๋อร์ ปรากฏตัวที่ร้านกาแฟใกล้ห้องสมุดมหาวิทยาลัยบี กาแฟที่นี่เป็นที่รู้จักกันดี กาแฟเป็นทางเลือกที่ดีในการกล่าวขอโทษอย่างดี
เมื่อพูดถึงการขอโทษ จิน เซียงตง เรื่องนี้ค่อนข้างที้จะไร้เหตุผล แต่คอของ จิน เซิงผิง ก็ทำให้เกิดความสัมพันธ์ของเขาในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา
สิบห้านาทีต่อมา ลู่ เจียเอ๋อร์ นำกาแฟสิบถ้วยไปที่ศูนย์R&D ทุกคนต้องมีคนละแก้ว เพื่อที่เธอจะไม่ถูกมองว่าห่างเหิน แถมเธอยังสามารถเพิ่มความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนร่วมงานเหล่านี้กับเธอได้อีกด้วย
เพิ่งจะมีการประชุม ดังนั้นทุกคนจึงมารวมกันในห้องประชุมนี้ เมื่อพวกเขาถือกาแฟของ ลู่ เจียเอ๋อร์ พวกเขาต่างก็ขอบคุณเธอ ลู่ เจียเอ๋อร์ ยิ้มรับเบา ๆ
ดร.เจิ้งเจี๋ยถึงกับพูดติดตลกว่า "ในที่สุดฉันก็คิดออกถึงประโยชน์ของการมีผู้หญิงเข้าร่วมทีมสักที"
"ใช่แล้ว ศาสตราจารย์ลู่ เป็นคนช่างคิด เช้านี้ถึงให้เราดื่มกาแฟที่มีรสชาติดีแบบนี้!" เจสัน กล่าวชมหลังจากดื่มมัน
ลู่ เจียเอ๋อร์ ไม่ตอบสนอง เพียงแค่ยิ้มแล้ววางกาแฟถ้วยสุดท้ายไว้ที่แถวหน้าของโต๊ะประชุมโดยไม่ได้ตั้งใจไว้ข้างหน้าที่ จิน เซียงตง นั่ง