ตอนที่32 สุนทรพจน์อันยิ่งใหญ่นี้ในยามสงบสุข 1
ในช่วงบ่ายของมหาวิทยาลัยบี ดูมีชีวิตชีวาราวกับว่ามีงานเฉลิมฉลองวันครบรอบ ด้านนอกหอประชุมเต็มไปด้วยผู้คนหลากหลายประเภทและในนั้นมีเหล่านักศึกษาอยู่เป็นจำนวนมากรวมทั้งบุคคลสาธารณะ นักวิชาการ อาจารย์ผมขาวและแน่นอนว่าต้องมีนักธุรกิจจำนวนไม่น้อยมาร่วมงานนี้ด้วย ดูเหมือนว่าทุกคนจะตั้งหน้าตั้งตารอนักวิชาการ จิน เซิงผิง ขึ้นพูดในครั้งนี้
แม้ว่า ลู่ เจียเอ๋อร์ จะมีส่วนร่วมในการต้อนรับแต่จริงๆแล้วเธอมาเป็นคนคอยดูแลบริเวณรอบข้างของงาน ขณะนี้เธอกำลังช่วยจัดวางแท่นในหอประชุมกับเพื่อนร่วมงานอีกหลายคนแต่จู่ๆโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น ลู่ เจียเอ๋อร์ หยิบมันออกมาดูและเห็นว่าสายที่โทรเข้ามาเป็นของ ซู หาน เธอจึงรีบเดินออกจากประตูไปแล้วรับสาย
"สุนทรพจน์ของนักวิชาการ จิน เซิงผิง จะเริ่มตอนบ่าย 2.30 ใช่ไหม?" เธอได้ยินเสียงที่ดูกังวลจาก ซู หาน
"ใช่ เธอไม่มีตั๋วเหรอ? เวลาก็เขียนไว้อยู่บนนั้นนะ!" ลู่ เจียเอ๋อร์ ตอบกลับ
"ยังมีเวลาอีกตั้งหนึ่งชั่วโมงก่อนที่จะเริ่มงาน ฉันควรจะไปทันแต่ถ้าฉันสายแล้วเข้าไปในหอประชุมไม่ทันเธอต้องออกมารับฉันด้วยนะ!" เมื่อ ซู หาน ได้ยินคำตอบของ ลู่ เจียเอ๋อร์ เธอก็ใจเย็นลง
"เพิ่งตื่นเหรอ?" ลู่ เจียเอ๋อร์ ถาม
"ฉันนอนเพลินไปหน่อย! เอ้ยไม่ไม่ไม่ ฉันกำลังไปแล้วอย่างด่วนเหมือนจรวด!" ซู หาน วางสาย
ลู่ เจียเอ๋อร์ มองไปที่หน้าจอของโทรศัพท์มือถือและได้แต่ส่ายหัว ในฐานะนักเขียน ซู หาน มักจะอยู่บ้านตลอดทั้งปี เวลาที่เธอมีงานเขียนที่ต้องทำให้เสร็จเมื่อใกล้ถึงกำหนดส่ง เธอมักจะทำงานตลอด 24 ชั่วโมงและเธอก็ขี้เกียจมาก ยกเว้นว่าจะมีความกระตือรือร้นในการเขียนและการอ่านของเธอ เธอขาดความเพียรเพื่อสิ่งอื่น หากไม่ได้ ลู่ เจียเอ๋อร์ มาคอยการกระตุ้นเธอเป็นครั้งคราว เธอก็คงจะพูดไม่ออกเลยล่ะ
เมื่อใส่โทรศัพท์กลับเข้าไปในกระเป๋าของเธอ ลู่ เจียเอ๋อร์ ก็เหลือบมองออกไปบริเวณด้านนอกที่เต็มไปด้วยผู้คนหลากหลาย เธออดไม่ได้ที่ตะขมวดคิ้ว จากสถานการณ์ในตอนนี้ ซู หาน จะเข้ามาไม่ได้ต่อให้เธอจะมาทันก็ตาม
ลู่ เจียเอ๋อร์ ไปหาเพื่อนร่วมงานของเธอเพื่อเช็คอินเข้างานที่กำลังจะเริ่มในอีกไม่ช้า
ภายในเวลาไม่ถึงสามสิบนาที หอประชุมซึ่งจุคนได้ 4,000 คน เต็มไปด้วยผู้ชมที่พลุกพล่าน ห้องโถงของหอประชุมอัดแน่นไปด้วยผู้คน ทุกคนจับจ้องไปที่หน้าจอขนาดใหญ่ด้านบนโดยตรง สุนทรพจน์จะออกอากาศสดทางหน้าจออิเล็กทรอนิกส์ขนาดใหญ่หลายจอในมหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นการจัดที่เป็นมิตรกับผู้ชมซึ่งจัดทำขึ้นโดยมหาวิทยาลัย ดังนั้นแม้แต่นักเรียนที่ไม่สามารถเข้าไปในหอประชุมก็จะยังไม่พลาดคำกล่าวสุนทรพจน์อันยิ่งใหญ่นี้ในยามสงบสุขและรุ่งเรือง
แต่ดวงอาทิตย์ในฤดูร้อนก็ทำให้อากาศร้อนจัด แม้ว่าหลายคนจะถือร่มกันแดดกันก็ตาม แต่โรคลมแดดก็ยังมีโอกาสเกิดขึ้นได้เสมอ
เมื่อ ซู หาน มาถึง ก็เหลือเวลาอีกตั้ง10นาทีกว่านักวิชา จิน เซิงผิงจะปรากฏตัว ซู หาน ใช้ข้อศอกของเธอดันคนเพื่อผ่านฝูงชนและพยายามไปที่ทางเข้า
ลู่ เจียเอ๋อร์ ยืนอยู่ตรงทางเข้า กล่าวทักทายเธอและยื่นกระดาษทิชชูให้เพราะเห็นเธอมีเหงื่อหยด "เข้าไปสิ!"
ซู หาน พยักหน้าอย่างรวดเร็วและสาบานว่าจะไม่มาสายอีก แต่ดูเหมือนว่า ลู่ เจียเอ๋อร์ จะไม่เชื่อคำแก้ปัญหาของคนที่ผัดวันประกันพรุ่งอย่างไม่หยุดยั้งของเธอ
ไม่กี่นาทีต่อมา ศาสตราจารย์ เหอ หมิง ผู้ที่มีชื่อเสียงแห่งมหาวิทยาลัยบี ก็ปรากฏตัวบนแท่นกล่าวสุนทรพจน์ เนื่องจากวันนี้เขาเป็นพิธีกร
ลู่ เจียเอ๋อร์ นั่งอยู่แถวสามมองขึ้นไปบนแท่นด้วยความกังวลใจ หากนักวิชาการ จิน เซิงผิง ขึ้นไปกล่าวสุนทรพจน์ทั้งๆ ที่ยังมีปลอกคอ คงจะมีคนจำนวนมากไม่น้อยเลยที่จะสาปแช่งเธอ ที่เป็นสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุนี้
หลังจากกล่าวแนะนำตัวของศาสตราจารย์ เหอ หมิง เกี่ยวกับ จิน เซิงผิง ผู้ชมต่างต้อนรับนักวิชาการ จิน เซิงผิง ด้วยการปรบมืออย่างอบอุ่น
เมื่อ จิน เซิงผิง ปรากฏตัว ดวงตาของ ลู่ เจียเอ๋อร์ ก็ส่องประกายเต็มไปด้วยความประหลาดใจ เข้าฟื้นตัวเร็วมากๆ!