ตอนที่ 20 รักษาผู้ป่วย(อ่านฟรี)
ตอนที่ 20 รักษาผู้ป่วย
“ที่บอกว่าให้มาเป็นลูกน้องนั้นก็เพื่อทำงานให้ฉันโดยยังมีค่าจ้างให้ ดังนั้นพวกนายไม่ต้องเป็นห่วง และคุณผู้หญิงก็ด้วย ถึงผมจะเป็นเด็ก แต่ก็รู้ว่าการใช้ชีวิตในโลกนี้ต้องใช้เงิน แน่นอนว่าในช่วงแรก ๆ อาจจะไม่ได้มีเงิน แต่หลังจากนี้จะได้เงินอย่างแน่นอน” ลูอิสพูดด้วยท่าทีจริงจังราวพร้อมประสานมือไว้ตรงหน้าคล้ายกับท่านประธานบริษัทที่กำลังสัมภาษณ์พนักงานและสัญญาเรื่องเงินเดือนอยู่
“จริงอย่างนั้นเหรอ” ทั้งสองถามด้วยความสงสัย
‘สองคนนี้ไม่เชื่อฉันขนาดนั้นเลยหรือไม่ หรือโลกใบนี้คำสัญญาอะไรแบบนี้มันเชื่อไม่ได้กันนะ อืมน่าจะเป็นแบบนั้นแหละมั้ง’ ทารกน้อยลูอิสทำแก้มป่องขณะที่ทำความเข้าใจโลกใบนี้อีกเล็กน้อย ก่อนจะหันกลับมาสนใจเรื่องตรงหน้าต่อ
“เอาเป็นว่าถ้าไม่ชอบในสิ่งที่ฉันสั่ง พวกคุณก็ค่อยเอาเงินค่ายามาจ่ายผมก็แล้วกัน หลังจากนั้นก็ทางใครทางมัน” เขาหาทางออกให้ทั้งสอง ที่จริงแล้วอาร์มันโด้นั้นยอมทำงานให้เขาอยู่แล้ว แต่เบลล่านั้นคงจะพูดยากกว่า เพราะห่วงว่าลูอิสจะหลอกใช้สามีเธอหลังจากช่วยชีวิต
“ว่าแต่ต้องทำอะไรบ้าง” อาร์มันโด้ถาม
ลูอิสเผยรอยยิ้มออกมา ก่อนจะกล่าวขึ้นมาว่า “ช่วยคน”
“ช่วยคน?” อาร์มันโด้และเบลล่าหันไปมองหน้ากันพร้อมกับสงสายตว่าเข้าใจไหม ซึ่งก็แน่นอนว่าไม่เข้าใจคำพูดของลูอิส
“อาร์มันโด้เอายาจากฉันไปรักษาคนป่วย ผู้บาดเจ็บหรืออะไรก็ตามที่สถานพยาบาลชมชุนผู้อพยพและจะไม่คิดเงินคนไข้ โดยนายต้องเป็นคนออกหน้าว่ายาเหล่านี้ได้มาจากหมอลึกลับแทน” ลูอิสจ้องมองไปที่อาร์มันโด้ที่ตอนนี้ยังไม่เข้าใจการกระทำของเด็กปริศนาตรงหน้า
“แต่ว่าผมไม่ใช่หมอ การจะไปรักษาคนที่นั่นอาจจะทำไมได้แน่นอน เพราะหมอเทรย์เวอร์คงไม่อนุญาต”
‘จริงสิ ฉันลืมคิดเรื่องนี้เลย สถานพยาบาลมีหมอเทรย์เวอร์อยู่ คงเดินเข้าไปแล้วให้คนไข้ดื่มยาโดยตรงไม่ได้ หรือจะไปหาหมอเทรย์เวอร์ให้เขาช่วยเองเลย ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาและก็ไม่รู้ว่าแบบนี้พลังงานศรัทธาจะตรงมาที่ฉันหรือหมอเทรย์เวอร์กัน ระบบจะนับด้วยหรือเปล่า’ ลูอิสที่พึ่งฉุกคิดได้ขมวดคิ้วชนกันทันที
“ที่จริงแล้วคนป่วยไม่ได้มีแค่ในสถานพยาบาล” เบลล่าพูดขึ้นมา ทุกคนในที่นี้ต่างก็หันไปมองเธอเป็นสายตาเดียวกัน เบลล่าพูดต่อทันทีว่า “สถานพยาบาลนั้นรับคนป่วยได้จำกัด ดังนั้นจึงยังมีผู้อพยพอีกมากที่ไม่สามารถไปที่นั่นได้ มีคนจำนวนมากนอนป่วยอยู่ตามท้องถนนและซอยมืด ๆ ในที่ต่าง ๆ หรือไม่ก็ตามบ้านและในห้องเก่า ๆ ก็มี อาจจะมีคนป่วยมากกว่าสถานพยาบาลด้วยซ้ำ”
พอเบลล่าพูดมาถึงตรงนี้ทุกคนก็คิดขึ้นมาได้ในทันที
‘สงสัยคงต้องเปลี่ยนแผน การรักษานอกพื้นที่สถานพยาบาลแบบนี้ก็คงจะดีเหมือนกัน ทำให้ไม่เป็นจุดเด่นเกินไป แต่แลกมากับการเสียเวลาเดินทางไปมาอยู่บ้าง ถึงอย่างนั่นนี่ก็แค่ปัญหาเล็ก ๆ ดีละตัดสินใจแล้ว’
“เอาเป็นว่าเริ่มจากรักษาคนป่วยนอกสถานพยาบาลก่อนก็แล้วกัน ถ้าอย่างนั้นมาเริ่มงานกันเลย” ทารกน้อยลูอิสพูดอย่างกระตือรือร้น ก่อนที่เขา เจียน่าและอาร์มันโด้จะพากันเดินออกไปจากบ้าน
...
“แถวนี้แล้วกัน”
ทั้งสามมาหยุดอยู่ที่ซอยแคบ ๆ แห่งหนึ่งที่เต็มไปด้วยผู้อพยพไร้บ้าน ซึ่งนอนป่วยกันอยู่เป็นจำนวนมาก
“ผมต้องทำยังไงบ้าง” อาร์มันโด้หันไปถามลูอิสที่เจียน่าอุ้มอยู่
“เจียน่าพาฉันไปนั่งตรงนั้นหน่อย เธอกับเขาจะช่วยกันรักษาคนป่วย แน่นอนว่าต้องบอกชื่อยาด้วยว่ามันคือน้ำตาเทพว่าคือยาที่รักษาพวกเขา ทำให้พวกเขาเชื่อว่านี่คือยาวิเศษ”
เจียน่าพยักหน้ารับอย่างไม่คิดอะไรมาก เพราะเชื่อว่าลูอิสนั้นคือเด็กอัจฉริยะ เธอคงไม่อาจจะทำความเข้าใจความคิดของเขาได้ ส่วนอาร์มันโด้ก็ตกลงทำตาม แม้จะไม่เข้าใจเงื่อนไขแปลก ๆ ของทารกน้อยลูอิสตรงหน้าก็ตาม
ทารกน้อยลูอิสนั่งอยู่บนถังขยะ ก่อนจะเอาขวดน้ำตาเทพที่เก็บไว้ในช่องเก็บของผู้เล่นออกมา
อาร์มันโด้เห็นก็ตกใจ แต่สำหรับเจียน่านั้นเธอเริ่มชินแล้วหลังจากเห็นของหายไปและปรากฏออกมาใหม่ได้หลายครั้ง
“นี่นะเหรอน้ำตาเทพ” อาร์มันโด้มองไปที่ขวดแก้ว ซึ่งภายในบรรจุน้ำที่ใส่มากจนแทบจะมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า
หลังมองอยู่สักพัก ชายตัวโตก็ไม่รอช้ารีบเดินไปหาหนึ่งในคนป่วยที่ขานั้นมีแผลขนาดใหญ่จากการติดเชื้อ ตอนนี้เขานอนซมจนแทบขยับตัวไม่ได้แล้ว แต่ถึงอย่างนั้นชายอพยพไร้บ้านก็ยังรู้สึกตัวอยู่
“ดื่มนี่ซะ” อาร์มันโด้ไม่พูดมาก จัดการกรอกสิ่งที่เรียกว่าน้ำตาเทพให้ชายคนนั้นทันที
หลังจากรออยู่สักพัก ก็เห็นว่าแผลที่ขานั้นหายเองอย่างน่าเหลือเชื่อ ตรงที่เป็นเนื้อเขียว ๆ ก็กลับมาเป็นปกติ แม้แผลจะไม่หายทั้งหมด แต่กลับทำให้ชายที่นอนป่วยนั้นดีขึ้นมากและก็มีแรงขึ้นอย่างน่าแปลกใจ
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับฉันกัน” ชายอพยพที่เหมือนจะมีแรงขึ้นมา จับไปที่ขาของตัวเอง ตอนนี้แผลที่ขาหายไปกว่าครั้ง การติดเชื้อและอาการไข้ก็หายไปจนหมด ตอนนั้นเองชายอพยพเหมือนจะนึกขึ้นได้ว่าเรื่องทั้งหมดนี้เป็นเพราะชายตัวโตนั้นให้ตนดื่มอะไรบางอย่างไป
“ท่านเป็นหมออย่างนั้นเหรอ ขอบคุณมาก ขอบคุณมาก” ชายอพยพรีบคุกเข่าโขกศีรษะขอบคุณในทันที แม้ว่าแผลที่ขาจะยังไม่หายดีก็ตาม
“เปล่า ฉันไม่ใช่หรอก ถ้าจะขอบคุณก็ขอบคุณนายท่านที่เอายาน้ำตาเทพมาให้รักษานายเถอะ”
“นายท่านอย่างนั้นเหรอ ได้โปรดพาผมไปขอบคุณนายท่านผู้นั้นด้วยเถอะ”
“คิดว่าอยากจะเจอก็เจอได้อย่างนั้นเหรอ ถ้าอยากขอบคุณก็สำนึกในยาวิเศษที่ดื่มไปเถอะ” กล่าวจบอาร์มันโด้ก็ลุกขึ้นและเดินไปดูคนอื่น ๆ ต่อ
“น้ำตาเทพ ยา...ยาวิเศษ” ชายอพยพพึมพำออกมา ก่อนจะเข้าใจว่าตนนั้นพึ่งได้รับยาที่วิเศษมา เพราะยาธรรมดาจะแสดงผลเช่นนี้ได้อย่างไร
“ขอบคุณ ขอบคุณ” ชายอพยพเงยหน้าขึ้นฟ้า ก่อนจะโข่กหัวให้ท้องฟ้า เพราะคิดว่ามันคือน้ำตาจากเทพเทวาจริง ๆ
...
ทารกน้อยลูอิที่นั่งอยู่บนฝาถังขยะกำลังมองภาพตรงหน้าอย่างเฝ้ารอ
‘หวังว่าระยะแค่นี้จะไม่ไกลเกินไปหรอกนะ โอ๊ะ! มาแล้ว...’
“ติ้ง! ระบบตรวจพบพลังงานศรัทธา เริ่มทำการเก็บเกี่ยวหรือไม่?”
‘ตกลงเก็บเกี่ยวเลย’ ลูอิสรีบตอบ
“เริ่มเก็บเกี่ยวพลังงานศรัทธา...ใช้เวลา 1 วินาที”
“เก็บเกี่ยวเสร็จสิ้น...”
“ได้พลังงานศรัทธา 45 หน่วย (กดเพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติม)”
ลูอิสมองดูตัวเลข 45 ด้วยความยินดี เพราะเขาคิดถูก แม้จะไม่เอ่ยชื่อออกไปตรง ๆ แต่ขอเป็นสิ่งของที่เขาเป็นผู้เกี่ยวข้องโดยตรง เมื่อมีใครสักคนศรัทธาต่อมันและเขาเข้าใกล้พอจะสามารถเก็บเกี่ยวพลังงานศรัทธาเหล่านั้นได้
“ติ้ง! ระบบตรวจพบพลังงานศรัทธา เริ่มทำการเก็บเกี่ยวหรือไม่?”
“ติ้ง! ระบบตรวจพบพลังงานศรัทธา เริ่มทำการเก็บเกี่ยวหรือไม่?”
“ติ้ง! ระบบตรวจพบพลังงานศรัทธา เริ่มทำการเก็บเกี่ยวหรือไม่?”
เสียงระบบแจ้งเตือนดังขึ้นอีกหลายครั้งตามความเร็วที่เจียน่าและอาร์มันโด้ให้ผู้ป่วยและคนบาดเจ็บดื่มน้ำตาเทพเข้าไป มีเสียงพึมพำถึงน้ำตาเทพว่าเป็นยาวิเศษเรื่อย ๆ
หลังจากวันนี้ซอยเล็ก ๆ แห่งนี้จะได้รับการเล่าขานว่าเป็นสถานที่ปรากฏยาวิเศษน้ำตาเทพครั้งแรก
ใช้เวลาไปราวครึ่งชั่วโมงในที่สุดคนที่ 20 ก็ได้รับการรักษา แต่ตอนนี้ยังเหลือเวลาอีก 3 ชั่วโมงกว่าจะเที่ยงและแอนเดรียจะกลับ ดังนั้นลูอิสจึงไปที่อื่นต่อ เริ่มจากการไปรักษาตามบ้านที่มีข่าวว่ามีป่วยหรือบาดเจ็บ
แม้จะใช้เวลาไปไม่ถึงเที่ยงเพราะน้ำตาเทพทั้ง 29 ขวดหมดก่อน จึงรักษาคนได้แค่ 58 คนเท่านั้น
‘ฮี่ ๆ ตอนนี้ฉันได้พลังงานศรัทธามาถึง 2000 แต้มเลยโดยใช้เวลาไปแค่ครึ่งวันเท่านั้น สุดยอดไปเลย’ ทารกน้อยลูอิสยิ้มหน้าบานเป็นกระด้ง
“วันนี้คงต้องกลับแล้ว” ลูอิสบอกกับเจียน่า ก่อนจะหันไปหาอาร์มันโด้และกล่าวต่อว่า “พรุ่งนี้นายเก็บขวดแก้วแบบนี้ที่ทิ้งตามถนนมาเยอะ ๆ ไม่ต้องล้างก็ได้เดี๋ยวฉันการเอง แล้วไว้พรุ่งนี้ค่อยเจอกันใหม่”
“ครับท่านลูอิส” อาร์มันโด้ในตอนนี้เชื่อสนิทใจเลยว่า เด็กน้อยนี่ไม่ใช่คนธรรมดา เพียงแค่การเอาของออกจากแลเกให้หายได้ก็น่าเหลือเชื่อมากแล้ว แถมยังมียารักษาที่พิเศษอีก
‘ท่านลูอิอาจจะเป็นเด็กอัจฉริยะในตำนานหรือไม่ก็ผู้ครองพลัง ผู้เยียวยาก็ได้ ฉันจะต้องรักษาโอกาสในการเกาะขาท่านลูอิสไว้ให้ได้’
อามันโด้ฉายแววตาแห่งความเชื่อมันออกมาอย่างแรงกล้า
“ติ้ง! ระบบตรวจพบพลังงานศรัทธา เริ่มทำการเก็บเกี่ยวหรือไม่?”
‘หืม จริงสิฉันยังไม่ได้เก็บพลังงานศรัทธาของอาร์มันโด้เลย’ ลูอิสตอบตกลงในทันที
“เริ่มเก็บเกี่ยวพลังงานศรัทธา...ใช้เวลา 1 วินาที”
“เก็บเกี่ยวเสร็จสิ้น...”
“ได้พลังงานศรัทธา 80 หน่วย (กดเพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติม)”
‘เหลือเชื่อเพียงแค่สองวันเท่านั้น กลับทำให้ค่าพลังงานศรัทธาเพิ่มมาถึง 80 เลยอย่างนั้นเหรอ หรือหมอนี่เป็นคนเชื่อคนง่ายกัน’
‘แต่แบบนี้หมายความว่าคนติดตามทั้งสองของฉันนั้นก็เชื่อใจฉันสุด ๆ ไปเลยไม่ใช่หรือไง’
ลูอิสมองไปที่อาร์มันโด้ ก่อนจะมองเจียน่าด้วยความพอใจ แม้จะเป็นเพียงคนสองคนที่ติดตามเขา แต่ก็ถือว่าเขามีลูกน้องที่เชื่อใจได้แล้ว
หลังจากกลับมาถึงห้องลูอิสก็ทิ้งตัวลงนอนด้วยความเหนื่อย ก่อนจะเผลอหลับไป ตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็เห็นแอนเดรียที่กำลังให้นมเขาแล้ว
“ลูอิส ลูกโตเร็วมากเลยนะเนี่ย” แอนเดรียยิ้มมองลูอิส ในตอนนี้ลูอิสนั้นเหมือนเด็ก 4 เดือนแล้ว ซึ่งพัฒนาการเติบโตของเขาสูงกว่าเด็กทั่วไปถึง 4 กว่าเท่าทั้งที่เขาพึ่งเกิดมาแค่ 20 วันเท่านั้นตั้งแต่เกิดใหม่ยังโลกใบนี้
แอนเดรียอยู่เล่นกับลูอิสสักพักก่อนจะออกไปจากห้องอีกครั้ง
วันต่อมาทุกอย่างยังคงเหมือนเช่นที่เคยเป็นมา ซึ่งลูอิสก็เตรียมน้ำตาเทพมา 60 ขวด โดยใช้พลังงานศรัทธาที่เก็บได้วันก่อนมาซื้อและผสมโพชั่นใหม่อีกครั้ง และออกไปด้านนอกเพื่อทำการช่วยเหลือคนเหมือนเดิม
ซึ่งในทุก ๆ ครั้งลูอิสจะอยู่ไม่ห่างจากคนที่ได้รับการรักษาด้วยน้ำตาเทพเกินระยะสายตา เพราะต้องให้ระบบทำงานเขาจึงเก็บเกี่ยวได้
หลังจากกลับมาที่ห้องพร้อมกับพลังงานศรัทธาที่ได้มามากถึง 4,000 แต้มในเวลาเพียงแค่สองวันเท่านั้น ลูอิสแบ่ง 900 แต้มออกมาซื้อโพชั่นในปริมาณเท่าเดิมอีกครั้ง เขาไม่ต้องการทำมากขึ้นในตอนนี้ เพราะไม่ต้องการให้เรื่องของคนที่มาคอยรักษาคนป่วยในเขตชุมชนผู้อพยพเป็นที่จับตามองเกินไป อีกอย่างอะไรที่มีมาก ถ้ามีไม่กำลังปกป้องก็จะเป็นภัยได้