STBI : ตอนที่ 19 ทหารของประเทศหรงกั๋ว
ชายชุดดำสองคน ได้พา ไป๋ตงหลิน ไปเจอกับกลุ่มคนอีก 5 คน ที่ลานเล็ก ๆ
“หัวหน้า พวกเราจะทำอย่างไรกันต่อดี?”ชายชุดดำคนนึงได้ก้มศีรษะและกล่าวถาม
“แผนการของพวกเราประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว พวกเราจะรีบออกจากเมืองทันทีและรีบไปพบกับท่านผู้นำ เมื่อตระกูลไป๋ตอบสนองพวกเขาจะปิดประตูเมือง ซึ่งทำให้พวกเราออกจากเมืองได้ยากขึ้น”
ไป๋ตงหลิน ที่พบว่ายังมีผู้นำซ่อนอยู่เบื้องหลังอยู่ เขาได้แกล้งทำเป็นหมดสติต่อไป และ รอให้ทุกคนมารวมตัวกันให้ครบจากนั้นค่อยจับพวกมันทั้งหมด
เขาเขาปล่อยให้ตัวเองถูกมัดมือปิดปากและถูกยัดลงไปในกล่องไม้ที่มีสองชั้น
เขาถูกบรรทุกขึ้นบนรถม้า โดยมีหลายคนปลอมตัวและขับเกวียนออกจากเมือง
ไป๋ตงหลิน ได้ใช้ลิ้นดันผ้าออกจากปาก เขารู้สึกว่าการเดินทางคงจะค่อนข้างไกลพอสมควร ดังนั้นเขาจึงได้หลับตาลง เตรียมที่จะนอน เพราะหลังจากฝึกฝนการบ่มเพาะพลังมาทั้งวัน เขาก็รู้สึกเหนื่อยเป็นอย่างมาก
ฟุ่บ!
เสียงเปิดกล่องไม้ ได้ปลุก ไป๋ตงหลิน ชายร่างใหญ่ได้ดึงเขาออกมา และ หัวเราะทันที เมื่อเห็นดวงตาของ ไป๋ตงหลิน เปิดขึ้น
“ฮ่าฮ่า เด็กน้อยของเราตื่นแล้ว ได้เวลาพบกับท่านผู้นำของเราพอดีเลย!”
หลังจากอุ้มเขาแล้ว เขาก็เดินไปที่กระท่อมด้านหน้า และ คนอื่น ๆ ก็เดินติดตามมาอย่างใกล้ชิด
กองกำลังต่างแดน? รังโจร?
ในไม่ช้าเขาก็ถูกพาตัวไปที่ห้องโถงโดยไม่รอให้เขาได้คิด ที่นี่มีคนหลายสิบคนนั่งอยู่ในห้องโถงอย่างงุ่มงาม และ ทุกคนกำลังกินและดื่มกันอย่างสนุกสนาน
ในเวลานี้ มีคนสองสามคนเดินเข้ามาในห้องโถงอย่างรวดเร็ว อีกฝ่าย ได้โยน ไป๋ตงหลิน ลงไปกับพื้น พร้อมกับคุกเข่าและป้องหมัด
“หัวหน้า ข้าน้อยบรรลุภารกิจและจับบุตรชายของไป๋หลี่มาได้สำเร็จ!”
“เยี่ยมมาก!”
ชายร่างสูงที่นั่งอยู่ในที่แรกที่กำลังดื่มเหล้า ได้โยนแก้วทิ้งลงกับพื้น พร้อมกับ เดินมาที่ เบื้องหน้าของ ไป๋ตงหลิน ที่นอนอยู่บนพื้น เวลานี้
“เป็นบุตรชายของตาเฒ่าไป๋หลี่ไม่ผิดแน่! เจ้าทำได้ดีมากในครั้งนี้ ข้าจะตบรางวัลให้อย่างงาม!”
“ขอบคุณหัวหน้า!”
ไป๋ตงหลิน ได้มองไปรอบ ๆ และ ยืนยันว่าที่นี่ควรจะเป็นรังลับของพวกมัน ในเวลานี้ เขาไม่มีความคิดที่จะโอนเอียง และ เตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้
“พวกเจ้าเป็นใคร จับข้ามาทำไม ในเมื่อรู้ว่าท่านพ่อของข้าเป็นใคร ไม่กลัวตายกันหรือไง?”
ไป๋ตงหลิน ได้เปล่งเสียงออกมาในเวลานี้
ทุกคนในห้องโถงต่างมองมาที่เขา ดูเหมือนว่า นายน้อยสิบสาม ของตระกูลไป๋ กำลังอวดบารมีพ่อต่อหน้าของพวกเขา
“ฮ่าฮ่าฮ่า พ่อของเจ้าเป็นหนึ่งในผู้แข็งแกร่งของประเทศหนานหยาง แต่เขาก็เป็นโจรที่ปล้นชาติบ้านเมืองและทำลายประเทศหรงกั๋วของพวกเรา!”
“เห็นอย่างนี้เจ้าคิดว่าพวกเราจะรู้สึกอย่างไร?”
“หึ่ม เจ้าเด็กบ้านี่ช่างตลกดีแท้!”
“ข้าคิดว่าเจ้านี่คงกลัวจนฉี่ราดกางเกงแล้วมั้ง!”
เมื่อได้ยิน ไป๋ตงหลิน ข่มขู่พวกตนเองโดยอ้างชื่อพ่อ ทุกคนต่างก็พากันหัวเราะ และ ในห้องโถงต่างก็เต็มไปด้วยความสุข
ทันทีที่เขาได้ยินชื่อ ‘ประเทศหรงกั๋ว’ ไป๋ตงหลิน ก็เข้าใจสาเหตุและเหตุผล ประเทศหรงกั๋ว ตั้งอยู่ทางใต้ และ เป็น 1 ในประเทศ ที่ ไป๋หลี่ คอยป้องกันการรุกรานอยู่ เท่านี้เหตุผลที่คนเหล่านี้ต้องการจับเขามาก็ชัดเจน
อีกฝ่ายไม่ได้ต้องการอะไรมากไปกว่าการใช้เขาเพื่อข่มขู่ ไป๋หลี่ หาก ไม่มี ไป๋หลี่ คอยเฝ้าระวังอยู่แดนใต้ พวกสุนัขของประเทศหรงกั๋ว ก็จะสามารถยกทัพบุกตีเมืองได้
น่าเสียดาย ที่พวกเขาประเมิน ไป๋หลี่ ต่ำเกินไป และ ประเมินตระกูลไป๋ ต่ำไป ถึงแม้ว่าพวกเขาจะประสบความสำเร็จในแผนการ พวกเขาก็ไม่มีทางที่จะข้ามพรมแดนเข้ามาได้
ที่น่าสงสารไปกว่านั้นก็คือพวกเขาประเมินตัวเองไว้สูง จับใครไม่จับ มาจับเขา นี่ไม่ใช่การแขวนคอตัวเองหรอกเหรอ?
“หัวเราะกันเข้าไป มาดูกันว่าหลังจากข้าทุบตีพวกเจ้า พวกเจ้าจะยังหัวเราะได้อีกรึไม่”
หลังจาก ไป๋ตงหลิน พูดจบ เขาก็ใช้แรงเล็กน้อยในการดึงเชือกให้ขาด
หัวหน้าของกลุ่ม ได้เหล่ตา เขาเกือบลืมไปว่า ตระกูลไป๋ เป็นตระกูลทหาร เขาได้สั่งการผู้พิทักษ์ซ้ายขวาในทันที :
“หักแขนขาของเจ้าเด็กนี่ซะ แต่อย่าปล่อยให้มันตายซะล่ะ!”
“ขอรับ!”
คนทั้งสองคนได้ชักมีดออกมา คนนึงได้พุ่งออกไปเฉือนแขน ส่วนอีกคนได้ฟันน่อง ไป๋ตงหลิน ได้ยืนนิ่ง โดยปล่อยให้พวกเขาฟันตัวเอง
แกร๊ง!
ทว่าคนที่ถูกฟันกลับไม่ได้รับบาดเจ็บ แม้แต่ คนที่ฟันทั้งสองคนก็ยังตกตะลึง ราวกับว่าพวกเขาได้ฟันไปโดนเหล็กแข็งและไม่สามารถฟันเข้าได้
ดังนั้น สีหน้าของ ผู้คนในปัจจุบันนี้ จึงเปลี่ยนไปอย่างมาก ราวกับว่าพวกเขาได้เห็นผี
“มีแรงแค่นี้?”
ไป๋ตงหลิน ยิ้มเล็กน้อย จากนั้นเขาก็ก้าวท้าวและร่างของเขาก็หายไป
“ไม่ดีแล้ว!”
หัวหน้าได้ตะโกนออกมาและต้องการกลับไปหยิบอาวุธ แต่ ไป๋ตงหลิน ก็ปรากฏตัวต่อหน้าเขาทันที และ เสียงที่เย็นชาของเขาก็ดังขึ้น
“หากชีวิตหน้ามีจริงก็อย่าได้คิดชั่วทำชั่วอีก”
เขาได้ใช้ฝ่ามือตบออกไปที่ศีรษะของอีกฝ่าย ทันใดนั้น ศีรษะของอีกฝ่ายก็ระเบิดกลายเป็นก้อนแป้งอย่างรวดเร็ว
สำหรับ ไป๋ตงหลิน ความแตกต่างระหว่าง ผู้ฝึกยุทธ์ดินแดนปราณแท้จริง และ ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นปรับแต่งร่างกาย ล้วนไม่มีผลกับเขา
ร่างของเขาได้เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว และ ใช้ฝ่ามือตบไปที่ศีรษะของทุกคน
ด้วยความแข็งแกร่งของ ไป๋ตงหลิน ในปัจจุบัน เขาสามารถทำลายสมองของคนเหล่านี้ได้อย่างง่ายดาย
หลังจากได้ฟังเรื่องราวมากมายมาจากพี่รองของเขา เขาก็รู้ว่าความเมตตานั้นไม่สมควรมีให้กับศัตรู
ดังนั้นเขาจึงได้ฆ่าศัตรูเหล่านี้โดยไม่ได้รู้สึกผิดเลกแม้แต่น้อย
ฟวั่บ!
เพียงใช้เวลา 10 ลมหายใจ เหล่าทหารของประเทศหรงกั๋ว ก็เสียชีวิตทั้งหมด
ไป๋ตงหลิน ได้ล้างมือและเดินไปรอบ ๆ หมู่บ้าน เขาพบว่ามันเป็นถ้ำโจรอย่างแท้จริง โจรทั้งหมดได้ถูกเขาฆ่าตาย
รังโจรขนาดเล็กนี้มันง่ายที่จะทำลายเป็นอย่างมาก ไป๋ตงหลิน ไม่ได้สนใจที่จะมองหาเครื่องประดับและของมีค่า
เขาได้พบน้ำมันสองถังและเทมันลงไปที่กระท่อมต่าง ๆ พร้อมกับจุดไฟ
จากนั้นเขาก็มองดูเปลวเพลิงที่โหมกระหน่ำอยู่เบื้องหน้า พร้อมกับสายลมอ่อน ๆ ที่พัดผ่านร่างกายของเขา
ด้วยเชื้อเพลิงจากน้ำมันและแรงลมอ่อน ๆ ทำให้ไฟไหม้รุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ
ด้วยอุณหภูมิการเผาไหม้ที่สูงกว่า 600 องศา แม้แต่คนธรรมดายังถูกเผาไหม้จนตาย นับประสาอะไรกับคนเหล่านี้
ในระหว่างที่จ้องมองดูในใจของเขาก็เกิดความคิดบางอย่าง
“ฉันยังไม่เคยเดินลงไปเล่นในทะเลเพลิงมาก่อนเลย ด้วยร่างกายในปัจจุบันของฉัน ไม่รู้ว่าฉันจะมีความทนทานต่อไฟเหล่านี้หรือไม่?”
หลังจากพูดเสร็จ เขาก็กระโดดเข้าไปในกองเพลิงและนั่งไขว่ห้าง เขาไม่ได้คิดที่จะป้องกันอะไรเลย และ ปล่อยให้เปลวไฟเหล่านี้เผาไหม้ร่างกายของเขา
เสื้อผ้าและกางเกงล้วนถูกเผาไหม้ จากนั้นก็เส้นผม และ ผิวหนังของเขาที่ถูกแผดเผาอย่างช้า ๆ ทว่าผ่านไปไม่นาน ร่างกายของเขาก็เริ่มฟื้นฟูในทันที วัฏจักรของการพลิกฟื้นที่แข็งแกร่งได้ทำงานอีกครั้ง
ในเวลานี้ ไป๋ตงหลินได้ใช้ ‘กายหยกขาวชำระล้าง’ เพื่อไหลเวียนพลังงานไปทั่วร่างกายของเขา ทักษะฝึกฝนนี้ดีกว่าอันก่อนของเขามาก มันสามารถช่วยประบปรุงสมรรถภาพทางกายของเขาได้อย่างต่อเนื่อง
ทว่า เขาไม่คิดเลยว่า พลังเสริมแกร่งในร่างกายของเขาจะทำงานอย่างรวดเร็ว ความเสียหายที่เกิดจากเปลวไฟ ไม่เพียงพอที่จะทำร้ายเขาได้นานนัก เพราะร่างกายของเขาฟื้นตัวเร็วเกินไป
หลังจากชั้นบาง ๆ ของผิวถูกเผาไหม้ มันก็ถูกฟื้นฟูกลับมาในเสี้ยววินาที ดังนั้น พลังงานที่เขาได้รับหลังจากนี้จึงลดน้อยลงจนน่าสมเพช!
เมื่อเทียบกับพลังงานที่น้อยนิด และ ความเจ็บปวดจากการเผาไหม้ที่รุนแรงแล้ว ช่างไม่คุ้มกันเสียเลย
“แม้จะขาดทุน ก็ไม่เป็นไร!”
ไป๋ตงหลิน ได้ยืนขึ้น และ กระโดดออกจากกองไฟ แผลไฟไหม้ก่อนหน้านี้ ได้ฟื้นคืนกลับมาอย่างสมบูรณ์ กระทั่งผมของเขาก็งอกยาวเหมือนเดิม
อุณหภูมิของที่แห่งนี้ยังคงต่ำเกินไป อย่างน้อยเขาคิดว่าจะต้องเผชิญหน้ากับเปลวไฟที่มีอุณหภูมิอย่างน้อย 2,000 องศา ถึงจะช่วยเหลือในการพลิกฟื้นที่แข็งแกร่งของเขาได้
ไป๋ตงหลิน ได้ทำความสะอาดร่างกายและหยิบเสื้อผ้าชุดใหม่ออกมาจากแหวนมิติของเขา
เขาได้สั่นศีรษะเล็กน้อยก่อนที่จะหันหลังกลับ
หลังออกจากถ้ำโจรแล้ว เขาก็วิ่งไปตามภูเขาอย่างรวดเร็ว และต้องการถามทางจากใครบางคน เขาได้ถูกบรรจุอยู่ในกล่องและโดนขนย้ายมาจนไกล จนไม่รู้ว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน
ไม่นานเขาก็หายตัวไป