ตอนที่แล้ว528 - กฎของกองทัพเก้าสวรรค์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป530 - ผู้อมตะของภูเขาห้าใบหน้า 

529 - โลหิตเซียน 


1839 - โลหิตเซียน

“บรรพบุรุษที่มีคุณธรรม? ผลงานการรบอันยิ่งใหญ่?” สือฮ่าวดูเหมือนจะไม่ได้รับผลกระทบใดๆเลยแต่เขากลับหัวเราะออกมาแทน

น้ำเสียงของเขามีความผิดหวังและหงุดหงิดเล็กน้อย

“ ผู้ที่สร้างคุณูปการมากมายเสียชีวิตไปแล้วบางคนเสียชีวิตในยุคเซียนโบราณ บางคนถูกฆ่าตายในยุคที่ยิ่งใหญ่นี้กระดูกของพวกเขาฝังอยู่ในชายแดนรกร้าง!

สำหรับคนขี้ขลาดอย่างบรรพบุรุษของเจ้าที่ไม่เคยเข้าร่วมสงครามมีเหตุผลอะไรที่ทำให้ข้าต้องแสดงความเคารพ!”

“เจ้ารู้ตัวไหมว่ากำลังพูดอะไรออกมา?”ผู้สูงสุดของตำหนักเซียนฉีกยิ้มดวงตาเหมือนสายฟ้าเย็นชาและเยือกเย็น เขาต้องการสังหารสือฮ่าวที่นี่เดี๋ยวนี้

"ข้ารู้อยู่แล้วว่ากำลังพูดอะไรอยู่. หรือสิ่งที่ข้าพูดออกมาไม่ใช่ความจริง?”

สือฮ่าวไม่รู้สึกหวาดกลัวเขาเงยหน้าขึ้นและพูดว่า

“ถ้าเขากล้าต่อสู้ในสงครามกับศัตรูต่างมิติชื่อเสียงของมันจะต้องเลื่องลือมานับล้านปี โดยไม่ต้องทำตัวหลบๆซ่อนๆใช้ชีวิตไปวันๆแบบนี้!”

“ ก่อนหน้าข้าเคยได้ยินมาว่าคุนเผิงได้รับบาดเจ็บอย่างหนักต้องทนทุกข์ทรมานจากการถูกแทงข้าง หลังคนลงมือจะเป็นใครได้อีกนอกเสียจากบรรพบุรุษที่ขี้ขลาดตาขาวของเจ้า

บางทีสาเหตุที่เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสวนเวียนอยู่หน้าประตูแห่งความตายก็อาจเป็นเพราะคุนเผิง!” สือฮ่าวกล่าวออกมาตรงๆแม้ว่าจะเผชิญหน้ากับสิ่งมีชีวิตอมตะเขาก็ไม่หวาดกลัว

ด้านล่างใบหน้าของหลายคนซีดลง พวกเขาคุกเข่าบนพื้นไม่กล้าขยับ นี่เป็นเพียงเด็กหนุ่มคนหนึ่งแต่เขากล้าที่จะสะกิดบาดแผลของผู้อมตะที่แท้จริง

“ปกป้องโลกนี้? ข้าได้ยินมาว่าบรรพบุรุษของเจ้าก่อนหน้านี้ได้ตัดสินลงโทษลูกหลานของผู้ที่มีคุณูปการต่อเก้าสวรรค์สิบพิภพด้วยความโหดเหี้ยมอำมหิต ตอนนี้ราชาทั้งหลายได้ล่วงลับไปแล้วนั่นจึงทำให้มันรู้สึกว่าตัวเองสามารถครองโลกได้หรือ?”

“ คนประเภทนี้เป็นคนที่สมควรได้รับความเคารพ? ระหว่างการต่อสู้ที่ชายแดนรกร้างข้าไม่เห็นว่าใครจากตำหนักเซียนจะปรากฏตัวที่นั่น? แม้แต่คนเดียวก็ไม่มี!

แต่ตอนนี้เมื่อโลกสงบสุขเจ้ากล้าที่จะออกมาข่มเหงผู้อื่น ศักดิ์ศรีของเจ้าคู่ควรกับการเป็นสิ่งมีชีวิตอมตะของเก้าสวรรค์อย่างนั้นหรือ!

บรรพบุรุษของเจ้าไม่เคยเข้าร่วมสงครามในชายแดนรกร้าง พวกเจ้ากล้าตามกฎของกองทัพเพื่อตัดสินความผิดของข้า ใบหน้าของพวกเจ้าหนาเกินไปแล้ว!”

สือฮ่าวปลดปล่อยคำวิจารณ์อย่างไม่ลดละพูดความในใจออกไปทั้งหมด ทำให้ทุกคนหวั่นไหวด้วยความกลัว

ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่รู้ว่าฮวงกล้าหาญ แต่เขาถึงกับกล้าเย้ยหยันผู้อมตะที่แท้จริงต่อหน้าต่อตาทำให้ทุกคนตกตะลึงอ้าปากค้าง ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ต้องการมีชีวิตอีกต่อไป!

"หุบปาก!"

ผู้อาวุโสของตำหนักเซียนตวาดออกมาเสียงดังกลัวว่าเขาจะเปิดเผยความอัปยศของบรรพบุรุษของเขามากไปกว่านี้ แค่เพียงคำพูดเหล่านั้นก็ทำให้ใบหน้าของเขาซีดเซียวอยู่แล้ว

อย่างไรก็ตามสิ่งมีชีวิตในรถม้าสีเงินนั้นสงบนิ่งมากไม่แสดงความโกรธ ไม่มีความผันผวนทางอารมณ์แม้แต่น้อยที่จะปรากฏออกมาให้เห็น

“ เจ้าหนูเจ้าจะเข้าใจอะไร? ผู้อมตะที่แท้จริงสามารถมองข้ามอายุขัยที่ไม่มีที่สิ้นสุด สิ่งที่เขากำลังพิจารณาคือสถานการณ์ใหญ่

ความคิดของเขาจะเป็นสิ่งที่ตัวตนที่เล็กกระจ้อยร่อยอย่างเจ้าจะเข้าใจได้อย่างไร? อย่าพยายามเดาจิตใจของผู้อมตะด้วยตัวตนของเจ้าเลย!”

ผู้สูงสุดตำหนักเซียนรู้สึกปวดหัวมากเขาต้องการทำให้สถานการณ์ตอนนี้จบลงไปให้เร็วที่สุด เพราะเขากลัวว่าบรรพบุรุษโบราณของเขาจะอับอายไปมากกว่านี้

“ไม่จำเป็นต้องพูดเรื่องไร้สาระ” ภายในรถม้าศึกสีเงินสิ่งมีชีวิตตัวนั้นพูดออกมา  จากนั้นเขาก็ส่งเสียงไปยังสือฮ่าวโดยพูดว่า

“มาพบข้า”

น้ำเสียงสงบอย่างยิ่งแต่ก็มีศักดิ์ศรีที่ไม่อาจปฏิเสธได้ นี่เป็นความกดดันประเภทหนึ่งที่ทำให้จิตใจสั่นคลอนทำให้ทุกคนก้มศีรษะแม้แต่เทพเจ้าก็ไม่กล้าที่จะต่อต้านเขา

สือฮ่าวรู้สึกราวกับว่าเขาถูกสายฟ้าฟาด แม้ว่าเขาจะไม่ได้ถูกโจมตี แต่ก็ยังรู้สึกราวกับว่าวิญญาณของเขากำลังจะระเบิด

นี่คือการข่มขู่ของสิ่งมีชีวิตอมตะ รัศมีอันทรงพลังรั่วไหลออกมา หากเขากล้าที่จะต่อต้านมันมันจะบดขยี้เขาให้ตายในทันที!

“เจ้าจะบังคับข้าอย่างนั้นหรือ?”

สือฮ่าวพูดกับตัวเอง เขาจะไม่ยอมเลิกราอย่างแน่นอน เป็นสถานการณ์ตอนนี้ไม่มีที่ว่างสำหรับการประนีประนอม

แม้ว่าเขาจะกรมศีรษะลง แต่มันก็ไม่มีความหมายอะไรในสายตาของผู้อมตะที่แท้จริงเขาอ่อนแอเหมือนเด็กทารก

หากไม่ได้ขึ้นสู่ระดับอมตะในสายตาของสิ่งมีชีวิตเหล่านั้นเขาก็ไม่ได้เป็นอะไรมากไปกว่ามด!

แต่เขาหวาดกลัวหรือไม่?  ไม่มีทางอย่างแน่นอน ของที่ผู้อาวุโสใหญ่ทิ้งไว้ให้เขานั้นสามารถส่งการโจมตีในระดับสิ่งมีชีวิตอมตะขั้นสูงสุดออกมาได้หนึ่งครั้ง!

มันสามารถต้านทานการโจมตีอย่างสุดกำลังของผู้อมตะที่แท้จริงได้ อย่าว่าแต่ผู้อมตะที่เหลือเพียงครึ่งชีวิตเลย

"ลูกของข้า!"

ในระยะไกลฉินอี้หนิงร้องออกมาด้วยน้ำเสียงสะอื้น นางเริ่มตื่นตระหนกกลัวว่าสือฮ่าวจะถูกฆ่าตายต่อหน้าต่อตาของนาง

“ฮ่าวเอ๋อรีบกลับมา!” สือจื่อหลิงตะโกน เขารู้ดีว่าถ้าสือฮ่าวเผชิญหน้ากับผู้เป็นอมตะที่แท้จริง ไม่ว่าลูกชายคนโตของเขาจะน่าเกรงขามแค่ไหนเขาก็ยังห่างไกลจากฝ่ายตรงข้าม

ตอนนี้สิ่งที่พวกเขาหวังได้ก็คือสือฮ่าวจะกลับมา แม้ว่าจะเป็นความตายพวกเขาก็จะตายพร้อมกันทั้งครอบครัว

ขณะนี้พวกเขาอยู่ในตระกูลฉินโดยได้รับการปกป้องอย่างดีจากภูเขาห้าใบหน้าซึ่งปลอดภัยจากพลังอมตะที่อยู่ด้านใน

“เจ้ายังไม่มาคุกเข่าเหรอ!” ผู้สูงสุดตำหนักเซียนตะโกน

“กลั่นแกล้งผู้อื่นมากเกินไป!”

เซียนอมตะฉินเดือดดาลอย่างแท้จริง ในเวลาเดียวกันเขาตบเข้าที่บริเวณหน้าอกของตัวเอง ทันใดนั้นแสงสีแดงฉานก็ปะทุออกมาอย่างหาที่เปรียบมิได้

หืม?

ไม่ต้องกล่าวถึงคนอื่นๆ แม้แต่ผู้อมตะที่แท้จริงในรถศึกสีเงินก็เผยสีหน้าตกใจ

คนอื่นย่อมตกใจยิ่งกว่า!

แสงสีแดงสดเหมือนเพชรปลดปล่อยความสดใสลึกลับเจิดจรัสอย่างหาที่เปรียบมิได้ แม้แสงพวกนี้จะมีไม่มากนักแต่มันย้อมสวรรค์ให้เป็นสีแดงราวกับว่าเปลวไฟอมตะกำลังแผดเผาสวรรค์ให้ไหม้เป็นจุล

เลือดเซียน!

หลายคนสามารถบอกได้ว่านี่ไม่ใช่โลหิตเซียนปกติ แต่มันคือโลหิตเซียนในระดับราชาอมตะ

มันมีพลังเซียนมากมายรวมทั้งพลังอันยิ่งใหญ่พลุ่งพล่านทำให้เกิดการสั่นสะเทือนครั้งใหญ่ในสามพันแคว้น

สิ่งนี้ทำเอาหลายคนตกใจ เซียนอมตะฉินสามารถทำสิ่งนี้ได้อย่างไร? เขามีภูมิหลังแบบไหนกันแน่

ดวงตาของสือฮ่าวหดตัว เขารู้ว่านี่เป็นโลหิตเซียนซึ่งถูกปิดผนึกไว้ในร่างกายของเซียนอมตะฉินเสมอ ตอนนี้เขาปลดปล่อยมันออกมาแล้ว

ย้อนกลับไปตอนนั้นเซียนอมตะฉินได้รับกระดูกอมตะมาหล่อเลี้ยงมันในร่างกายของตัวเองจนกลายเป็นหนึ่งเดียวกับมัน

ทำให้ร่างกายของเขาสร้างโลหิตของผู้อมตะที่แท้จริงขึ้นมาแต่เขาไม่มีทางควบคุมเลือดนี้ได้ ยิ่งไปกว่านั้นเขาจงใจปิดผนึกซ่อนมันไว้ในตัวเสมอ

ตอนนี้เขาปลดปล่อยโลหิตเซียนพวกนี้ออกมาทั้งยังปลดผนึกภูเขาห้าใบหน้าอย่างเต็มกำลัง เตรียมทำการต่อสู้ครั้งสุดท้าย!

สือฮ่าวรู้สึกว่ายังมีความลึกลับอีกมากมายเกี่ยวกับเซียนอมตะฉินที่เขาไม่ได้บอกออกมาทุกอย่าง!

ฮ่อง!

เมื่อโลหิตเซียนกระจัดกระจายบนภูเขาห้าใบหน้าสถานที่แห่งนี้ก็ถูกปกคลุมด้วยพลังงานลึกลับ เสียงร่ำร้องของภูตเทพปรากฏออกมาทุกที่เป็นฉากที่น่าตกใจถึงขีดสุด

มีเทพและปีศาจที่ถูกสังหารมากเกินไปบนภูเขาลูกนี้ พวกเขาทั้งหมดร้องไห้และโหยหวนราวกับว่าพวกเขากำลังเซ่นสังเวยอายุขัยทั้งหมดของตัวเองเพื่อปลดผนึกพลังบางอย่าง

ในทันใดนั้นโดมท้องฟ้าก็แตกออกจากกันสวรรค์และปฐพีถูกโยนเข้าสู่พลังแห่งความโกลาหล!

สิ่งมีชีวิตทั้งหมดที่อยู่ด้านล่างต่างตกใจกลัว วิญญาณของพวกเขาสั่นไหวพวกเขาทุกคนกลัวตัวแข็งค้างไม่กล้าขยับ

เซียนอมตะฉินกำลังทำอะไรอยู่? เหตุใดภูเขาห้าบหน้าจึงน่ากลัวขนาดนี้?

ม้าสวรรค์ทั้งแปดตัวเริ่มตื่นตระหนก ก่อนหน้านี้พวกมันมองลงไปที่สิ่งมีชีวิตด้านล่างด้วยความเฉยชา แต่สถานการณ์ตอนนี้ทำให้พวกมันรู้สึกถึงภัยคุกคามอย่างแท้จริง

ม้าสวรรค์คำรามออกมาราวกับจะทำให้สวรรค์และปฐพีพังทลาย

เมื่อรวมกับเสียงโหยหวนและกรีดร้องของเทพเจ้าและปีศาจนี่จึงเป็นฉากที่น่ากลัวอย่างแท้จริง!

สถานที่แห่งนี้อยู่ในความสับสนวุ่นวายภาพที่สร้างขึ้นโดยภูเขา ห้าใบหน้าทำให้ผู้เชี่ยวชาญทุกคนที่อยู่ที่นี่ขนลุกหวาดกลัวอย่างถึงที่สุด

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด