550 - สี่พันปีแห่งความแค้น
550 - สี่พันปีแห่งความแค้น
"ชื่อของราชันย์ศักดิ์สิทธิ์เจียงไม่ได้ไร้ประโยชน์ แม้ว่าจะเป็นร่างกายที่กำลังจะตายแต่ก็มีพรสวรรค์อันน่าทึ่ง น่าเสียดายที่เวลาไม่สามารถหวนกลับได้ ในที่สุดยุคสมัยของเจ้าก็จบลง!"
“แม้ว่าเครื่องหมายของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ชิ้นนี้จะซับซ้อนและลึกซึ้งมาก แต่มันก็สามารถหยุดยั้งพวกเราเพียงชั่วคราวเท่านั้น เมื่อพลังชีวิตของเจ้าหมดลง มันจะถึงเวลาตายของลูกหลานเจ้าเช่นกัน”
ตัวตนระดับราชันย์ศักดิ์สิทธิ์ทั้งสิบคนที่เหลือบินกลับเข้ามาอีกครั้ง ดวงตาของพวกเขาสว่างสดใสในขณะที่จ้องมองไปยังราชันย์ศักดิ์สิทธิ์ผู้เฒ่าที่กำลังจะตาย
"จะทำอย่างไรดี?"
ยอดฝีมือตระกูลเจียงทุกคนแสดงความกังวล พวกเขาเป็นทายาทของราชันย์ศักดิ์สิทธิ์ผู้เฒ่า และโดยธรรมชาติแล้วพวกเขาไม่สามารถทนต่อการตายของบรรพบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ได้
“ข้าต้องการเวลาหนึ่งวันเต็ม ไม่ว่าจะอย่างไรพวกท่านต้องปกป้องผู้อาวุโสเจียงให้ได้!”
ในช่วงเวลาที่ทุกคนสิ้นหวังถึงขีดสุด เย่ฟ่านได้ก้าวไปข้างหน้าและมาถึงบ่อแปลงมังกรพร้อมกับหม้อหยกสีขาวในมือ
ในทันทีที่เขาเปิดฝาหม้อออก กลิ่นหอมที่น่าอัศจรรย์ก็ปรากฏออกมา เกือบทุกคนอดไม่ได้ที่จะสูดลมหายใจเข้าลึกๆ สิ่งนี้คือยาอะไรกันแน่ เหตุไฉนพลังชีวิตของมันจึงมากมายมหาศาลกว่ายาเซียนมังกรซะอีก
“ยาเซียนชนิดใด?!” ผู้สูงสุดตระกูลเจียงตกใจ
“ในโลกนี้จะมียาเซียนมากมายแบบนี้ได้อย่างไร!” ตัวตนระดับราชันย์ศักดิ์สิทธิ์ทั้งสิบคนที่เหลือตกใจเป็นอย่างมาก
“เรื่องนี้ปล่อยให้เกิดขึ้นไม่ได้ ในกรณีที่เจียงไท่ซูฟื้นคืนชีพจริงๆ เขาสามารถใช้เตาเทพสุริยันเพื่อปิดผนึกเมืองศักดิ์สิทธิ์และฆ่าเราทีละคน! พวกเราต้องฆ่าปีศาจเฒ่าเดี๋ยวนี้ อย่าให้โอกาสเขาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง!”
ตัวตนระดับราชันย์ศักดิ์สิทธิ์ที่เหลือไม่สามารถสงบลงได้ อารมณ์ของพวกเขาถูกปลุกเร้าขึ้นมาอีกครั้ง พวกเขาทั้งหมดพยายามอย่างเต็มที่เพื่อจะสังหารเจียงไท่ซู
"ยาเซียน.. .ดีมาก! ในตอนแรกชายชราคนนี้ตั้งใจว่าจะลากเจียงไท่ซูให้ลงนรกไปด้วยกัน ไม่คิดว่าสุดท้ายจะยังมียาเซียนที่ยิ่งใหญ่แบบนี้เหลืออยู่ในโลก "
จู่ๆก็มีเสียงที่แก่ชราดังออกมาจากความว่างเปล่า
ราชันย์ศักดิ์สิทธิ์ทั้งสิบคนร่างกายสั่นสะท้านด้วยความกลัวเมื่อมองเห็นชายชราที่ผอมแห้งยืนอยู่ข้างๆพวกเขา
ไม่มีใครรู้ว่าชายชราคนนี้ปรากฏตัวขึ้นในวังใต้ดินตั้งแต่เมื่อไหร่
“เจียงไท่ซู สี่พันปีแล้ว ข้าคิดถึงเจ้ามาก… ฮ่าๆๆ…” แม้ว่าเขาจะหัวเราะอย่างมีความสุขแต่หลังจากนั้นเขาก็เริ่มส่งเสียไอด้วยความทุกข์ทรมาน
“ยาเซียนชิ้นนี้ต่อให้มอบแก่เจียงไท่ซูก็ไม่มีประโยชน์อีกต่อไป มันเป็นเรื่องที่ดีแล้วที่เจ้าจะมอบมันให้ข้า”
บุคคลผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสิบร่างกายแข็งทื่อ และทุกคนอดไม่ได้ที่จะถอยหนี ชายชราคนนี้ปรากฏตัวขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่!
จากคำพูดของเขาเห็นได้ชัดว่าเคยรู้จักเจียงไท่ซูตั้งแต่เมื่อสี่พันปีก่อน... คำพูดนี้ทำให้แผ่นหลังของทุกคนเปียกชุ่มด้วยความกลัว!
อย่าบอกนะว่าผู้เฒ่าคนนี้มีอายุมากกว่าสี่พันปี นั่นคือยุคเดียวกันกับเจียงไท่ซู
ฟังอย่างไรก็หมายความตามนั้นแน่นอน นี่เป็นบุคคลชั่วร้ายที่ท้าทายสวรรค์มากแค่ไหน
เขาเป็นคนรุ่นเดียวกับราชันย์ศักดิ์สิทธิ์เจียง แต่ดูเหมือนว่าแก่นแท้แห่งชีวิตของเขาจะยังห่างไกลจากความตายอีกมาก!
ภายใต้สถานการณ์ปกติ ตัวตนระดับราชันย์ศักดิ์สิทธิ์ที่แข็งแกร่งที่สุดก็มีอายุไม่เกิน 2,000 ปีเท่านั้น ต่อให้เป็นเผ่าพันธุ์อสูรเช่นนักพรตมังกรแดงก็เป็นไปไม่ได้ที่จะมีอายุถึง 4,000 ปี
นี่มันช่างน่าตกใจและน่ากลัวจริงๆ ชายชราคนนี้เป็นใครกันแน่แน่นอนว่าด้วยความยิ่งใหญ่ของเขามันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะเป็นคนไร้ชื่อเสียง
แต่ดินแดนรกร้างตะวันออกเคยมีผู้ยิ่งใหญ่แบบนี้ด้วยหรือ?
"ท่านคือใคร?" ผู้อาวุโสของตระกูลเจียงถามด้วยความกลัว
พวกเขาทั้งหมดรู้สึกปวดหัวอย่างกะทันหัน บุคคลรุ่นเดียวกันกับบรรพบุรุษของพวกเขาเข้าสู่โลก เมื่อไม่สามารถใช้งานเตาเทพสุริยันได้ความหวังที่จะปกป้องบรรพบุรุษของพวกเขาก็ริบหรี่เหลือเกิน
“ชายชราคนนี้คือวิญญาณใต้คมกระบี่ของเจียงไท่ซู(รอดชีวิตแม้จะพ่ายแพ้) ข้าหวังว่าเขาจะมีโอกาสตื่นขึ้นมาเพื่อพิสูจน์ผลแพ้ชนะกันอีกครั้ง แต่น่าเสียดายที่ยาเซียนมีเพียงชิ้นเดียว ดังนั้นเขาควรจะหลับไปตลอดกาล”
ชายชราเดินโซเซและเดินไปข้างหน้า แม้ว่าสภาพของเขาจะพร้อมที่จะตายได้ตลอดเวลา แต่กลับไม่มีผู้ใดกล้าขัดขวางการกระทำของชายชราคนนี้
แม้แต่ราชันย์ศักดิ์สิทธิ์ทั้งสิบคนที่เหลือก็ยังถอยห่างเปิดเป็นเส้นทางเล็กๆให้เขาอย่างรวดเร็ว
ในเวลานี้ผู้คนสังเกตเห็นว่าทุกก้าวที่เขาเดินไปจะมีหมอกสีดำที่มีกลิ่นอายของความตายไหลออกมาจากร่างกายของเขาตลอดเวลา
“นี่คือ……”
ทุกคนประหลาดใจมาก สีหน้าของพวกเขาบิดเบี้ยวอย่างถึงที่สุด ผู้ที่มีกลิ่นอายเช่นนี้เท่าที่พวกเขารู้จัก ไม่มีคนเป็นแม้แต่คนเดียว!
“ร่างกายท่านตายไปแล้ว ทำไมท่านถึงยังมีชีวิตอยู่”
หนึ่งในสิบราชันย์ศักดิ์สิทธิ์ถาม พวกเขามีสถานะเป็นราชันย์ศักดิ์สิทธิ์เช่นเดียวกัน แม้ว่าอีกฝ่ายจะมีชีวิตอยู่ถึงสี่พันปี แต่ก็ยากที่จะทำให้พวกเขาหวาดกลัวจนไม่กล้าตั้งคำถาม
“ยกเว้นร่างศักดิ์สิทธิ์เซียนโบราณ จะมีสักกี่คนในโลกนี้ที่อายุยืนกว่า 4,000 ปีได้ ชายชราผู้นี้แม้ว่าแทบจะกลายเป็นสิ่งมีชีวิตอมตะไปแล้ว แต่ก็ไม่อาจที่จะฝ่าฝืนกฎของสวรรค์ได้?”
ชายชราร่างกายสั่นสะท้าน เขาเดินเข้าหาตราประทับของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่นิรันดร์กาลอย่างระมัดระวัง จากนั้นจึงกล่าวต่อไปว่า
"สี่พันปีแห่งความเป็นอมตะ แม้แต่ปราชญ์โบราณที่แข็งแกร่งที่สุดยังกลายเป็นผงธุลี อย่างน้อยข้าก็ไม่เคยเห็นใครมีชีวิตยืนยาวเหมือนชายคนนี้ เขานับว่าเป็นยอดคนที่ทำให้โลกสั่นสะเทือนอย่างแท้จริง”
“ท่าน...” ทุกคนมองเขาอย่างแปลกใจ
“อย่ามองเราผู้เฒ่าผู้นี้เช่นนี้ ข้าไม่มีกำลังพอที่จะท้าสวรรค์ได้ กายเนื้อนี้ตายไปแล้วจริงๆ มีเพียงวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของข้าเท่านั้นที่เป็นอมตะ”
"ท่านทำได้อย่างไร?"
ตัวตนระดับราชันย์ศักดิ์สิทธิ์ทั้งสิบคนถามด้วยความอยากรู้ เพราะบางคนในนั้นมาถึงจุดสิ้นสุดของชีวิตแล้วเช่นกัน
“ในอดีตเจียงไท่ซูครองโลกเรื่องนี้ไม่มีผู้ใดสามารถปฏิเสธได้ ชายชราคนนี้และสหายอีกสองคนถูกเขาไล่ล่าอย่างหนัก พวกเราไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องหนีเข้าไปในภูเขาเซียน
น่าเสียดายที่พวกเราไม่สามารถหลีกเลี่ยงภัยพิบัติครั้งใหญ่ได้ พวกเราไม่ได้รับพรจากสวรรค์ ไม่ได้รับยาเซียนที่ผู้คนร่ำลือ แต่ในช่วงเวลาที่พวกเราท้อแท้มากที่สุดพวกเรากลับได้กินหญ้าหยินใต้พิภพโดยไม่ได้ตั้งใจ..."
"อะไรนะ?!”
ทุกคนตกตะลึง หญ้าหยินใต้พิภพเป็นสิ่งที่เติบโตในน้ำพุเหลืองแห่งยมโลก มันไม่ใช่สิ่งที่จะปรากฏขึ้นในโลกมนุษย์ ในความเป็นจริงไม่มีผู้ใดเคยเห็นมันด้วยซ้ำ
“ข้าต้องบอกว่าภูเขาเซียนเป็นสถานที่แปลกมาก ชาแห่งการรู้แจ้งที่ผู้คนร่ำลืออยู่ที่ไหน พวกเราออกค้นหาจนทั่วกลับไม่พบมัน”
ในสมัยก่อนสามผู้สูงสุดถูกเจียงไท่ซูไล่ล่าไปยังภูเขาเซียน พวกเขารอดชีวิตจากภัยพิบัติและบังเอิญไปเจอบ่อน้ำพุเหลือง และหยิบหญ้าที่กลายพันธุ์มากินเป็นอาหาร
พวกเขาคิดว่ามันเป็นยาจากสวรรค์ ส่งผลให้ร่างกายของพวกเขาเหม็นหืน หลังรับประทานทั้งสามคนกลายเป็นครึ่งมนุษย์ครึ่งผี ร่างกายถูกทำลายอย่างสมบูรณ์
แต่สิ่งที่พวกเขาไม่คาดคิดก็คือวิญญาณของพวกเขากลับกลายเป็นครึ่งเซียนไปได้!
วิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขาได้รับความชุ่มชื้น แต่ร่างกายของพวกเขากลับกลายเป็นซากศพ นี่นับได้ว่าเป็นสถานการณ์ที่แปลกประหลาดอย่างยิ่ง
แน่นอนว่าร่างกายของพวกเขาไม่ได้เน่าเปื่อยโดยสมบูรณ์ ยังมีพลังชีวิตบางอย่างที่คอยค้ำจุนไม่ให้ร่างกายของพวกเขากลายเป็นโครงกระดูกโดยสมบูรณ์
"หญ้าหยินใต้พิภพ...มีพลังยาที่แปลกประหลาดจริงๆ"
ตัวตนระดับราชันย์ศักดิ์สิทธิ์ทั้งสิบคนกล่าวด้วยความปรารถนา หากเป็นช่วงเวลาปกติมันไม่มีทางอยู่แล้วที่พวกเขาจะต้องการหญ้าปีศาจพวกนั้น
แต่ตอนนี้พวกเขาก้าวเข้าสู่ช่วงท้ายของชีวิตแล้ว แม้ว่าพวกเขาจะยิ่งใหญ่มากกว่านี้อย่างมากที่สุดก็อยู่ได้เพียงไม่กี่ร้อยปี
ในตอนนี้พวกไม่สนอะไรทั้งสิ้น ไม่ว่าจะอยู่ในสภาพแบบไหนแค่ขอให้อยู่ในโลกนี้ได้เพิ่มขึ้นอีกสักวันสองวันก็ยังดี
“ดังนั้นเจ้าไม่จำเป็นต้องกังวล ชายชราผู้นี้ไม่สามารถคุกคามชีวิตของพวกเจ้าได้อย่างแน่นอน ข้าเป็นแค่คนตายที่ยังมีชีวิตจิตใจไม่สามารถเทียบได้กับพวกเจ้า”
เขาไอและพูดอย่างยากลำบาก อย่างไรก็ตามกลิ่นอายที่ถูกปลดปล่อยออกมาจากร่างกายของเขานั้นไม่มีผู้ใดกล้าเข้าใกล้อย่างแน่นอน
“รีบไปช่วยราชันย์ศักดิ์สิทธิ์เจียง!”
เย่ฟ่านหัวใจเต้นแรงเขารีบส่งสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ออกไปหายอดฝีมือตระกูลเจียงเพื่อให้พาราชันย์ศักดิ์สิทธิ์เจียงไท่ซู่หนีออกไปที่อื่น
“มันหอมมาก เป็นยาจากสวรรค์จริงๆ บางทีอาจช่วยให้ชายชราคนนี้ฟื้นร่างกายที่เหม็นหืนและฟื้นฟูพลังชีวิตได้” ชายชราผู้ชั่วร้ายเดินเข้ามาด้วยรอยยิ้ม
“นี่คือลูกปัดมังกรแห่งยาเซียนมังกรที่แท้จริงใช่ไหม ไม่คิดว่าเจ้าจะค้นหามันมาได้จริงๆ!”
ผู้คนจากตระกูลเจียงไม่มีทางเลือกอื่นได้แต่ยัดไข่มุกมังกรเข้าไปในปากของเจียงไท่ซู่โดยตรงก่อนจะพยายามพาเขาหนีออกจากที่นี่
“ฮ่าๆๆ น่าเสียดายที่มันต้องใช้เวลามากกว่าหนึ่งวันในการละลายลูกปัดมังกรนี้ เมื่อเป็นเช่นนั้นชายชราคนนี้ก็จะกินเขาเข้าไปด้วยก็แล้วกัน” ชายชราชั่วร้ายเยาะเย้ย