บทส่งท้าย อวสาน
บทส่งท้าย อวสาน
ทุกๆคนต่างก็เริ่มหลงลืมกันไป ท้ายที่สุดแล้วพวกเขาลืมว่ามู่อี้เป็นใครและนักบุญองค์ที่ 3 แห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์เป็นใครกันแน่
เดิมทีก่อนหน้านี้ผู้คนในโลกหลังความตายต่างก็มีภาพเหมือนของนักบุญองค์ที่ 3 เพื่อเอาไว้สักการะบูชา แต่ในตอนนี้ทุกๆคนได้หลงลืมไปแล้ว แม้แต่ตัวตนระดับนักบุญก็ไม่มีความทรงจำที่เกี่ยวข้องกับมู่อี้หลงเหลืออยู่เลย
กำปั้นที่เขาปลดปล่อยออกไปในตอนนี้มีชื่อว่า 3 ชาติ 3 ชีวิต นี่คือกำปั้นที่จะสังหารศัตรูและยังเป็นกำปั้นที่ได้ก้าวข้ามขีดจำกัดของเขาอีกด้วย
สีหน้าของผู้เป็นอมตะเทียมหยุดนิ่งไปในทันใดและสายตาของเขาก็แสดงความไม่อยากจะเชื่อออกมา ถึงแม้ว่าเขาอยากจะหนีไปจากที่นี่มันก็สายไปแล้ว
กำปั้นของมู่อี้ทะลวงเข้าไปในร่างกายของอีกฝ่ายและในขณะเดียวกันก็ทำลายล้างสายธารแห่งกาลเวลาที่ทอดยาวอยู่รอบข้าง
หนึ่งกำปั้นทำลายทุกๆอย่าง!
ห่างออกไปภายในสายธารแห่งกาลเวลาจักรพรรดิแห่งโลกหลังความตายและคนอื่นต่างก็ตกตะลึงเมื่อได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า แต่ในเวลานี้สายธารแห่งกาลเวลาดูเหมือนจะพังทลายลงไปหลายส่วนแล้วและแม้ว่าพวกเขาเพิ่งจะก้าวเข้ามาในที่แห่งนี้ แต่ก็เหมือนมีพลังที่รุนแรงขับไล่ให้พวกเขาออกไป
ถึงแม้ว่าเขาจะโจมตีผู้เป็นอมตะเทียมได้แต่สีหน้าของมู่อี้ไม่ได้แสดงความยินดีเลยสักนิด เขาเงยหน้าขึ้นมาและจ้องมองผ่านสายธารแห่งกาลเวลา ผ่านความมืดอันไร้ที่สิ้นสุดออกไป ท้ายที่สุดแล้วแสงสว่างก็ปรากฏขึ้นในดวงตาของเขา ดูเหมือนว่ายังมีสถานที่หนึ่งที่เป็นดินแดนต้นกำเนิดอย่างแท้จริง
"ในชีวิตนี้ของข้า ข้าอยากเป็นอมตะ!"
น้ำเสียงของเขาดังกึกก้องไปทั่วโลกหลังความตายและโลกมนุษย์ ดังกึกก้องไปทั่วความมืดอันไร้ที่สิ้นสุด และดังกึกก้องในหูของสิ่งมีชีวิตทุกๆคน
ในเวลานี้สิ่งมีชีวิตนับไม่ถ้วนเงยหน้าขึ้นมาแล้วจ้องมองมายังทิศทางเดียวกัน ถึงแม้ว่าพวกมันจะมองไม่เห็นอะไรเลยแต่พวกมันก็ทำไปตามสัญชาตญาณ รวมไปถึงจักรพรรดิแห่งโลกหลังความตายและคนอื่นๆด้วยเช่นกัน
หลังจากนั้นเมื่อมู่อี้ตะโกนออกมาเช่นนี้เขาก็กระโดดออกไปจากสายธารแห่งกาลเวลาและหายเข้าไปในความมืดอันไร้ที่สิ้นสุด
แต่ในตอนนั้นเองแผ่นหินโบราณขนาดใหญ่ก็ได้พังทลายลงมาจากเบื้องบนและบนแผ่นหินนี้ก็จารึกเอาไว้ว่าหนทางสู่ความเป็นอมตะ
"เป็นท่านนี่เอง"
เมื่อเสียงสุดท้ายดังขึ้นมาความโกลาหลก็เกิดขึ้นอย่างรุนแรงและสายธารแห่งกาลเวลาก็เหมือนจะไหลย้อนกลับไป สิ่งมีชีวิตทั้งหมดต่างก็เกิดความโศกเศร้าอย่างรุนแรงภายในจิตใจ
• ···············
100 ปีต่อมาทุกสิ่งทุกอย่างมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว!
ภายในโลกหลังความตายเวลา 100 ปีได้ผ่านไปในพริบตา ตลอด 100 ปีที่ผ่านมานี้เผ่าพันธุ์มนุษย์ก็ยังคงพัฒนาต่อไป ในทุกวันนี้เผ่าพันธุ์มนุษย์มีนักบุญถึง 9 องค์แล้วแต่ไม่มีใครรู้ว่าเพราะเหตุใดตำแหน่งนักบุญองค์ที่ 3 จึงถูกเว้นว่างเอาไว้ และแม้แต่ชื่อของนักบุญองค์ที่ 3 ในอดีตก็ไม่มีบันทึกเอาไว้
ถึงแม้ว่าเผ่าพันธุ์มนุษย์จะไม่มีตัวตนระดับจักรพรรดิที่ถือกำเนิดขึ้นมาใหม่แต่ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดจักรพรรดิองค์อื่นๆก็ไม่มีผู้ใดกล้าล่วงเกินเผ่าพันธุ์มนุษย์ ที่ทำให้เผ่าพันธุ์มนุษย์พัฒนาขึ้นได้อย่างรวดเร็วและในตอนนี้พวกเขาก็ได้กลายเป็นผู้ปกครองโลกหลังความตายอย่างแท้จริงแล้ว
ณสถานที่แห่งหนึ่งในโลกหลังความตาย มีเด็กสาวคนหนึ่งเดินด้วยเท้าเปล่า ด้านหลังของนางตามมาด้วยชายร่างสูงใหญ่คนหนึ่ง ถึงแม้ว่าชายร่างสูงใหญ่ผู้นี้จะดูธรรมดาแต่เขาก็มีชื่อเสียงโด่งดังอย่างยิ่งในเผ่าพันธุ์มนุษย์ เพราะเขาคือนักบุญองค์ที่ 9 แห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์ ท่านนักบุญต้าหนิว ถึงแม้ว่าชื่อเขาจะฟังดูแปลกประหลาดแต่ก็ไม่มีใครกล้าสงสัยเรื่องนี้
ท่านนักบุญต้าหนิวผู้ยิ่งใหญ่กำลังเดินตามหลังเด็กสาวคนหนึ่ง ไม่มีใครรู้ว่านางแข็งแกร่งมากเพียงใดและเด็กสาวผู้นี้ก็ออกเดินเท้าไปทั่วโลกหลังความตายนับตั้งแต่นางมาถึงที่นี่ ทุกๆครั้งที่นางเดินทางไปพบเจอกับผู้คนนางก็จะถามคนเหล่านั้นอย่างจริงจังว่า "ท่านรู้หรือไม่ว่าพี่ชายของข้าอยู่ที่ใด?"
ปล. ขอบคุณที่ติดตามผลงานแปลของเรานะครับ ถึงแม้ว่าเราจะทำได้ไม่ดีสักเท่าไหร่ ทั้งในเรื่องคุณภาพงานและความสม่ำเสมอ แต่ผมก็อยากขอขอบคุณทุกๆคนที่ติดตามกันมาจนจบนะครับ ผลงานแปลครั้งนี้เริ่มต้นขึ้นเพราะเราอยากจะแปลนิยายสักเรื่องหนึ่งให้มันเป็นผลงานของเราเองแต่สุดท้ายแล้วการแปลนิยายก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนที่เราคิดเอาไว้ ขอบคุณจริงๆที่ติดตามกันมาครับ ไม่มีอะไรจะตอบแทนให้ได้นอกจากคำว่าขอบคุณครับ