ตอนที่ 17 สถานพยาบาลในชุมชนผู้ลี้ภัย(อ่านฟรี)
ตอนที่ 17 สถานพยาบาลในชุมชนผู้ลี้ภัย
สถานพยาบาลในชุมชนผู้ลี้ภัยนั้นเป็นเพียงโรงหมอเล็ก ๆ ที่เป็นพื้นที่เปิดโล่ง ด้านบนมีหลังคาเหล็กผุ ๆ และพื้นปูนยกสูงถูกล้อมด้วยผ้าบาง ๆ สีเทาเก่า ๆ เพื่อกันลมเท่านั้น ข้างกันมีตู้คลายตู้คอนเทนเนอร์เหล็กที่เต็มไปด้วยสนิม ซึ่งใช้เป็นที่เก็บยาและสิ่งของ
ภายในสถานพยาบาลเต็มไปด้วยคนป่วยนอนเรียงรายอยู่กับพื้นจำนวนมาก ชนิดที่ว่าเบียดกันเลยก็ว่าได้ ยังดีที่ด้านในนั้นมีพยาบาลที่เป็นผู้ลี้ภัยคอยช่วยเหรอคนป่วยอยู่ ถึงอย่างนั้นก็ไม่อาจจะดูได้อย่างทั่วถึง
‘มีพยาบาลอยู่สองสามคน โอ้! ชายวัยกลางคนนั้นไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเป็นหมอสินะ’ ลูอิสมองดูชายวัยกลางคนที่ดูท่าทางเหมือนหมอ ซึ่งจากลักษณะนั้นเหมือนจะอายุน้อยกว่าพ่อบ้านเฟรดพอสมควร
หมอและพยาบาลที่นี่นั้นแต่งกายด้วยชุดสีขาว โพกผ้าปิดจมูกและใบหน้าครึ่งหนึ่งไว้
ตอนนี้หมอวัยกลางคนกำลังตรวจคนไข้คนหนึ่งอยู่ แต่สักพักก็ส่ายหัวเบา ๆ ก่อนจะมีคนมาช่วยกันยกร่างของคนไข้ที่ไร้สัญญาณชีพออกไปไว้ทางด้านหลัง ซึ่งจากที่มองดูเหมือนด้านหลังจะมีศพวางอยู่อีกสองสามศพ
‘คนไข้ที่นี่แบ่งได้เป็นพวกที่อดอาหารจนป่วย พวกที่ป่วยและเป็นไข้ตามปกติแต่ไม่มีเงินพอจะซื้อยารักษาและสุดท้ายคือบาดเจ็บจากการต่อสู้’
‘ประเภทหลังน่าจะเป็นพวกที่ออกไปด้านนอกนักล่าสินะ’
ทารกน้อยลูอิสยกมือขึ้นมาจับปลายคางทำสีหน้าครุ่นคิด ขณะที่เจียน่าพาเขาเดินไปรอบ ๆ หมอและพยาบาลไม่ได้สนใจทั้งสามมากนัก เนื่องจากมักจะมีญาติของผู้ป่วยเข้ามาที่นี่อยู่บ่อยครั้ง
แต่ถึงอย่างนั้นก็มีพยาบาลคนหนึ่งเดินเข้ามาถามเขา
“เธอนะ เด็กคนนี้ไม่สบายอย่างนั้นเหรอ” พยาบาลสาวที่ยี่สิบกว่า ๆ เดินเข้ามาทักทายทั้งสองคน
“เปล่า พวกเราแค่มาตามหาญาติเท่านั้น” เจียน่าตอบแบบเลี่ยง ๆ ไป
“อ้อ...ถ้าอย่างนั้นก็ตามสบายเลยนะ” พยาบาลสาวพยักหน้าเหมือนเข้าใจและเดินจากมา แต่ก็ยังหันหลังมองอย่างสงสัย ก่อนจะเลิกสนใจและไปทำหน้าที่ตนเองต่อ
จริง ๆ แล้วพยาบาลที่นี่ไม่ได้เป็นพยาบาลจริง ๆ แต่เป็นเพียงคนที่เข้ามาช่วยเหลือและรับมาฝึกโดยหมอวัยกลางคนเท่านั้น
ด้านเดียวกันลูอิสก็เริ่มคิดแผน
‘คนพวกนี้ที่ป่วยถ้าใช้โพชั่นชีวิต 1 ขวดต่อคนก็คงจะเปลืองเกินไป แบบนี้คงไม่คุ้มค่าและขาดทุนแน่นอน ถ้าอย่างนั้นก็ต้องผสมน้ำ บางทีอาจจะเพิ่มโพชั่นพลังงานไปด้วยจะได้ฟื้นตัวได้ไวขึ้น แบบนี้ก็จะทำให้ร่างกายมีแรงและฟื้นตัวได้ง่ายขึ้นเช่นกัน’
ในครั้งก่อนที่เจียน่าป่วยหลังจากการต่อสู้กับพวกผู้อพยพที่พยายามโจมตีพวกเขา ลูอิสก็ใช้ทั้งโพชั่นชีวิตและโพชั่นพลังงานควบคู่กันไป ทำให้เธอนั้นฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว
‘ดีละ กลับไปต้องผสมโพชั่นให้กลายเป็น แบบนี้ 1 ขวดก็ใช้ได้หลายคนแน่นอน’
ทารกน้อยลูอิสตัดสินใจอย่างเงียบ ๆ คนเดียว
ขณะนั้นเองก็มีชายผู้อพยพสี่คนกำลังแบกร่างของชายคนหนึ่งมาด้วยความรีบร้อย ก่อนจะบอกให้เจียน่านั้นหลบไป เจียน่าเมื่อเห็นว่ามีคนบาดเจ็บมาด้วยก็รีบอุ้มลูอิสหลบออกจากทางเดิน
“ท่านหมอเทรย์เวอร์ชายคนนี้โดนพวกทหารยามเอามาทิ้งไว้ที่หน้าทางเข้าชุมชน เห็นว่าพึ่งรอดชีวิตกลับออกมาจากด้านนอกหลังจากคนอื่น ๆ โดนฝูงโครงกระดูกไล่โจมตี ท่านช่วยรักษาเขาได้หรือไม่ขอรับ”
ชายผู้อพยพบอกที่มาของชายบาดเจ็บ
“เอาเขาวางลง ข้าจะช่วยดูให้” หมอเทรย์เวอร์ชี้ไปยังที่วางมุมหนึ่ง
ชายอพยพทั้งสี่ไม่รอช้ารีบเอาชายบาดเจ็บไปวางลงทันที ก่อนจะถอยออกมาดูอยู่ข้าง ๆ เท่านั้น
หมอเทรย์เวอร์เดินไป ก่อนจะนั่งลงข้าง ๆ ชายบาดเจ็บ เขาเกิดเสื้อออกมาก็ต้องขมวดคิ้วเข้าหากัน เพราะตามร่างมีบาดแผลสาหัสมากกว่า 10 แห่ง แถมบาดแผลยังเขียวค้ำต่างจากแผลปกติทั่วไปอย่างมาก
“เฮ้อ...บาดแผลจากโครงกระดูกพวกนั้นทำให้แผลติดพิษ ยาแก้พิษข้าก็ไม่มีซะด้วย”
“ท่านลุง ไม่มีทางช่วยชีวิตเขาเลยเหรอ” พยาบาลสาวที่เดินเข้ามาถามเจียน่าก่อนหน้านั้นถามขึ้นมา ขณะที่พยายามห้ามเลือดจากบาดแผลอื่น ๆ อยู่
“แค่บาดแผลก็ยากที่จะช่วยได้แล้ว นี่ยังติดพิษมาด้วยคงหมดหวังแล้ว แต่ถ้าได้ยาแก้พิษดี ๆ มาก็อาจจะพอเป็นไปได้”
“นั้นมัน...” พยาบาลสาวเงียบไป เธอรู้ว่ายาแก้พิษนั้นมีราคาแพงมาก และส่วนใหญ่ก็ไม่มีขายทั่วไปด้วย
“ช่างเถอะตอนนี้เขาเสียเลือดมากคงยากจะรอดแล้ว เอาเขาไปไว้ทางด้านหลังแล้วกัน” หมอเทรย์เวอร์กล่าวจบก็ลุกขึ้นและเดินไปตรวจผู้ป่วยคนอื่นต่อ
พยาบาลสาวได้แต่ถอนหายใจด้วยความสงสาร เธอกำลังจะเดินตามหมอเทรย์เวอร์ไป แต่ตอนนั้นเองมือของชายบาดเจ็บก็ขยับ เขาจับข้อเท้าของเด็กสาวไว้แต่ก็หมดแรงไปซะก่อน
เด็กสาวอึ้งอยู่กับที่ ใจหนึ่งก็ยากจะช่วย แต่ก็รู้ว่าเธอเองก็ไม่มีปัญญาจะช่วยเช่นกัน ที่จริงแล้วตั้งแต่หมอเทรย์เวอร์ใช้เงินของตนเองเปิดสถานพยาบาลรักษาผู้อพยพ เธอก็ช่วยลุงทำงานในสถานพยาบาลมาตลอดและตลอดเวลาที่ผ่านมานั้นก็เจอกับผู้บาดเจ็บจากโครงกระดูกมามาก และกว่าครึ่งนั้นแผลจะติดพิษมา
พิษพวกนี้เจอได้จากโครงกระดูกบางตัวเท่านั้น แต่ก็ยากที่จะแยกแยะได้ว่าตัวไหนมีพิษบ้าง ซึ่งที่จริงก็มียารักษา แต่ราคาของยานั้นแพงมากจนชนิดที่ว่าสามารถใช้เงินที่ซื้อยาแก้พิษไปซื้อยามารักษาคนป่วยอื่น ๆ ได้เป็นร้อยเลย
แน่นอนว่าทั้งเธอและหมอเทรย์เวอร์ไม่มีเงินมากขนาดนั้นอยู่แล้ว ทุกวันนี้สถานพยาบาลอยู่รอดได้เพราะหมอเทรย์เวอร์ออกไปรับรักษาคนป่วยนอกสถานที่และเอาเงินส่วนนั้นมาช่วยเหลือผู้ป่วยที่นี่ ไม่อย่างนั้นสถานพยาบาลแห่งนี้คงไม่มีอยู่มาจนถึงทุกวันนี้
“เธอนะอยากจะช่วยเขาไหม” ในตอนนั้นเองเจียน่าที่อุ้มทารกน้อยลูอิสก็เดินเข้ามาพูดกับพยาบาลสาว
“เธอหมายความว่ายังไง” พยาบาลสาวไม่เข้าใจคำถามของเด็กสาว
“เอาน่าถ้าอยากให้เขารอดตายก็ให้คนยกเขาไปที่เงียบ ๆ ที่ไม่มีคน” เจียน่ากล่าวบอก
พยาบาลสาวงุนงง แต่ก็สั่งให้คนที่คอยยกศพผู้ป่วยออกไปวางด้านหลังมาช่วยกันยกชายบาดเจ็บไปยังมุมเงียบ ๆ ทางด้านห้องเก็บของ บริเวณที่นี่ลับตาคน
เจียน่าและลูอิสรออยู่ตรงนั้นก่อนแล้ว พยาบาลสาวให้คนยกศพกลับไปช่วยทางหมอเทรย์เวอร์ ส่วนตนเองนั้นก็ได้แต่มองเด็กสาวอย่างสงสัย
“เธอออกไปด้วยก็ได้ หลังเราจากไปก็ค่อยมาดูเขาเอา”
“แบบนี้มัน...ไม่ได้เด็ดขาด” พยาบาลสาวคัดค้านทันที
“ถ้าปล่อยไว้เขาจะตายเอานะ อีกอย่างเธอจะกลัวอะไรยังไงหมอของเธอก็รักษาเขาไม่ได้อยู่แล้ว” เจียน่าเอียงหัวเล็กน้อยเป็นเชิงถาม
“นั้นมันก็จริง...” พยาบาลสาวลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเดินหนีไป
ถึงอย่างนั้นเธอก็เดินออกมา แต่ก็ย้อนกลับไปอีกครั้ง แต่ในครั้งนี้กลับโดนเจียน่าขวางเอาไว้ ทำให้พยาบาลสาวได้แต่เดินจากไปทั้งอย่างนั้น เพราะกลัวว่าเด็กสาวจะไม่ช่วยชายบาดเจ็บ ต่อให้เธออยู่ก็ช่วยไม่ได้อยู่ดี
และไม่รู้ทำไมเธอถึงรู้สึกว่าเด็กสาวปริศนาคนนี้อาจจะมีทางช่วยชายบาดเจ็บคนนั้นได้
ที่จริงพยาบาลสาวนั้นไม่สังเกตเลยว่าตอนนี้ทารกในอ้อมกอดของเด็กสาวนั้นหายไป
ทารกน้อยลูอิสในตอนนี้กำลังนั่งยอง ๆ อยู่ข้างชายบาดเจ็บตัวโตที่ตามตัวนั้นเต็มไปด้วยบาดแผลสีม่วงคล้ำ ดวงตาปิดสนิทหน้าซีดขาวและกำลังหายใจรวยริน ซึ่งสามารถขาดหายได้ทุกเมื่อ
‘ชายคนนี้เป็นนักล่า แถมยังเป็นถึงระดับครึ่งดาวเลยด้วย ถ้าปล่อยให้ตายก็คงน่าเสียดายแย่ เอาเป็นว่านายนะมาติดตามฉันก็แล้วกัน ถือเป็นค่าตอบแทนโพชั่นที่ใช้ไปก็แล้วกัน’ ลูอิสจ้องมองพลางพยักหน้าทำข้อตกลงที่เขานั้นคิดเองเออเอง
‘ฮึบ...ได้เวลาของหมอน้อยลูอิสแล้วสินะ’ ลูอิสลุกขึ้นยืน แต่เกือบหงายหลังเพราะขาสั้น ๆ ป้อม ๆ ของเขา ยังดีที่แอ่นตัวไปมาสองสามครั้งก็กลับมาทรงตัวได้ตามเดิม
‘ฟู่ การนั่งยอง ๆ ไม่ดีต่อขาเอาซะเลย’
‘เอาละมาเริ่มจากรักษาชีวิตก่อนก็แล้วสักสองขวดก็น่าจะพอ ฉันมีโพชั่นชีวิตอยู่หลายขวดดังนั้นไม่ต้องซื้อเพิ่ม โพชั่นพลังงานก็เช่นกัน’
ลูอ้สเดินมาหยุดอยู่เหนือหัวของชายบาดเจ็บตัวโต ก่อนจะใช้มือเปิดปากของเขาออกมาและเริ่มกรอกโพชั่นชีวิตและโพชั่นพลังงานลงไปอย่างต่อเนื่อง
ทันใดนั้นบาดแผลของชายบาดเจ็บตัวโตก็สมานเข้าหากันและลูอิสที่มองหน้าจออินเตอร์เฟสของชายคนนี้อยู่ ก็เป็นว่าพลังชีวิตที่ลดลงไปที่ละจุดทศนิยมนั้นกำลังเพิ่มขึ้นมาที่ละหลักหน่วย ไม่ใช่ว่ามันไม่ลดลงแล้วอีก แต่เพราะโพชั่นชีวิตทำให้พลังชีวิตเพิ่มอย่างต่อเนื่อง แต่ถึงอย่างนั้นชายบาดเจ็บตัวโต ก็ยังติดสถานะพิษและพลังชีวิตก็เริ่มลดลงไปด้วยพร้อมกับที่เพิ่มขึ้นอยู่
‘เอาแหละ แค่นี้ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะตายแล้ว’ ลูอิสคำนวณดูแล้วเขามีเวลาอีก ครึ่งชั่วโมงก่อนที่พิษจะลดพลังชีวิตของชายบาดเจ็บตัวโตจนเหลือ 0
‘โพชั่นในร้านมีหลายประเภท แต่มีอันหนึ่งเป็น ยาพิษ ถึงอย่างนั้นก็เถอะราคาจะแพงกว่าถึง 3 เท่าเลยทีเดียว’
‘หวังว่าจะคุ้มค่า 450 แต้มพลังศรัทธานะ’
“ติ้ง!”
“ผู้เล่นทำการซื้อ โพชั่นแก้พิษ”
“ของถูกเก็บเข้าช่องเก็บของผู้เล่นอัตโนมัติ”
ลูอิสหยิบโพชั่นแก้พิษออกมาจากช่องเก็บของ ตัวขวดแก้วเป็นลวดลายหมอกเมฆและน้ำด้านในนั้นเป็นสีม่วงสด ลูอิสดึงจุกขวดด้วยมือน้อย ๆ ของตน ก่อนจะกรอกเข้าไปให้ชายบาดเจ็บตัวโตกินอย่างไม่เกรงใจว่าจะสำลักหรือไม่
“แค่ก ๆ” ชายบาดเจ็บตัวโตที่ตอนนี้ใบหน้าไม่ได้ซีดอีกแล้ว ก็สำลักออกมา ลูอิสรีบยื่นมือไปปิดปากในทันที เพราะกลัวยาจะไหลออกปากจนหมด โชคดีที่หลังจากโพชั่นแก้พิษเข้าไปในตัวแล้ว มันก็แสดงผลอย่างรวดเร็ว
บริเวณที่เคยมีบาดแผล ซึ่งในตอนนี้เหลือแต่สีม่วงคล้ำที่ก่อนหน้านี้กระจายตัวอย่างรวดเร็ว ตอนนี้มันกลับค่อย ๆ สลายหายไปอย่างน่าอัศจรรย์
‘ฟู่...ค่อยยังชั่วที่โพชั่นแก้พิษใช้ได้ผล ต่อไปก็โพชั่นพลังงาน ช่วยให้มีแรงขึ้นมา’
ลูอิสจัดการกรอกยาลงไปอีกครั้ง ในครั้งนี้ชายบาดเจ็บตัวโตเหมือนจะค่อย ๆ ได้สติมาบ้างจึงพอจะควบคุมตัวเองให้กลืนลงไปได้
‘เอาละ แค่นี้ก็ไม่น่าเป็นอะไรแล้ว’ หมอน้อยลูอิสพยักหน้ากับผลการรักษาของตัวเอง
“นายเป็นเด็กทารกนี่” ชายตัวโตลืมตาขึ้นมาอย่างตกใจ