546 - สังหารราชา
546 - สังหารราชา
เย่ฟ่านที่ได้ยินแบบนั้นก็ตกตะลึงเป็นอย่างมาก เมื่อมาถึงจุดนี้ การเผชิญหน้าระหว่างอาวุธเต๋าสุดขั้วคงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
“ดินแดนศักดิ์สิทธิ์อยู่ในภาวะสงคราม ผ่านไปกี่หมื่นปีแล้วตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ใหญ่เช่นนี้ครั้งสุดท้าย พวกเขาต้องการทำให้แม่น้ำโลหิตปรากฏขึ้นอีกครั้งหรือ?”
“พวกเขาไม่ต้องการให้ราชันย์ศักดิ์สิทธิ์บรรพบุรุษของพวกเราฟื้นคืนชีพ ดังนั้นพวกเขาจึงตัดไฟตั้งแต่ต้นลม!”
ผู้เฒ่าของตระกูลเจียงหวาดกลัวอย่างหนัก ทุกคนแสดงท่าทางเคร่งขรึมอย่างยิ่ง
“หนึ่งสำหรับเก้าญาณวิเศษลึกลับ และอีกอย่างคือบางคนอาจต้องการก่อสงครามอันยิ่งใหญ่ระหว่างดินแดนศักดิ์สิทธิ์ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว”
เจียงอวิ๋นขมวดคิ้ว ผู้ที่ลงมือทำไม่จำเป็นต้องเป็นมหาอำนาจสูงสุดของดินแดนรกร้างตะวันออกเสมอไป บางทีพวกเขาอาจจะเป็นผู้ยิ่งใหญ่จากทะเลทรายตะวันตกและภาคกลางก็เป็นได้
ค่ำคืนนั้นตึงเครียดอย่างยิ่ง ความแข็งแกร่งของศัตรูก็เกินคาด ถ้ามีคนมากับอาวุธเต๋าสุดขั้วและเกิดสงครามครั้งใหญ่เมืองศักสิทธิ์อาจจะตกอยู่ในความโกลาหล!
เมื่อรุ่งสางใกล้จะมาถึง การบีบบังคับที่น่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่งในที่สุดก็ปรากฏขึ้น ผู้คนในตระกูลเจียงหน้าเปลี่ยนสี พวกเขาคุ้นเคยกับกลิ่นอายที่น่ากลัวแบบนี้ มันคืออาวุธเต๋าสุดขั้วนั่นเอง!
“เร็วเข้าปลุกเตาเทพสุริยัน!” เจียงอวิ๋นตะโกนออกมา
“พวกเขาบ้าไปแล้ว พวกเขากล้าใช้อาวุธเต๋าสุดขั้วเพื่อต่อสู้จริงๆ พวกเขาเคยคิดถึงผลที่จะตามมาหรือไม่!” ชายชราของเจียงตระกูลหวาดกลัวอย่างถึงที่สุด
“ปัง!”
ความว่างเปล่าสั่นสะเทือนก่อนที่ประตูมิติขนาดใหญ่จะเปิดเข้าหาวังที่อยู่ใต้ดินโดยตรง
เตาเทพสุริยันซึ่งสร้างจากทองคำโลหิตหงส์ก็ตื่นขึ้นมาเช่นเดียวกัน ภาพธรรมของหงส์เพลิงศักดิ์สิทธิ์บินขึ้นไปบนท้องฟ้า เสียงร้องของหงส์เพลิงเขย่าทั้งเก้าสวรรค์
"นี่เป็นอาวุธเต๋าสุดขั้วชิ้นใด!" เหล่าผู้อาวุโสของตระกูลเจียงตกใจ
เหนือพระราชวังใต้ดิน อาวุธศักดิ์สิทธิ์กำลังฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว และพลังศักดิ์สิทธิ์อันสูงส่งก็พลุ่งพล่าน ทำให้สระแปลงมังกรสั่นสะเทือน และน้ำในสระสีขาวก็กระเซ็นขึ้นสูง
"พวกมันคิดจะทำร้ายบรรพบุรุษ! พวกมันไม่เกรงกลัวสงครามระหว่างดินแดนศักดิ์สิทธิ์อีกต่อไป!"
ส่วนลึกของวังใต้ดินสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง และทุกคนเกือบจะล้มลงกับพื้น น้ำในสระแปลงมังกรพุ่งพล่านและเจียงไท่ซูเกือบจะกระเด็นออกมาด้วย
“บูม!”
เตาเทพสุริยันส่งเสียงคำรามและฉายแสงอย่างเจิดจ้า เทพหงสาสีแดงก็ทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า ในตอนนี้วิญญาณของอาวุธได้ฟื้นคืนชีพกลับขึ้นมาแล้วและมันทำการต่อสู้กับอาวุธเต๋าสุดขั้วอีกชิ้นที่อยู่บนท้องฟ้า
เมื่อเกิดการปะทะกันระหว่างอาวุธเต๋าสุดขั้วสองชิ้นมันก็เพียงพอที่จะทำให้ทั้งเมืองศักดิ์สิทธิ์ลุกเป็นไฟ
ในขณะนี้ผู้คนมากมายตื่นตระหนก ไม่มีใครสามารถจัดการกับสถานการณ์นี้ได้อย่างสงบ และคนส่วนใหญ่ล้มลงกับพื้นโดยไม่อาจสิ้นรน พลังกดดันระดับนี้หากไม่ใช่ผู้สูงสุดจะไม่มีผู้ใดทนได้
“ใครกันแน่ที่กล้าต่อสู้กับเตาหลอมเซียนของตระกูลเจียง?”
“สวรรค์เกิดอะไรขึ้น? อาวุธเต๋าสุดขั้วชิ้นนั้นคืออะไร เหตุไฉนพวกเราจึงไม่เคยได้ยินมาก่อน?”
ในเมืองศักดิ์สิทธิ์ผู้คนมากมายกรีดร้องด้วยความสยดสยอง และผู้คนจำนวนมากก็สวดภาวนาอย่างเงียบๆ หากทั้งสองฝ่ายต่อสู้กันจริงๆ มันก็ยากที่พวกเขาจะรักษาชีวิตไว้ได้
ในเวลานี้ทุกคนต่างตกตะลึงและสงสัย พวกเขาไม่รู้ว่าอาวุธศักดิ์สิทธิ์ของจักรพรรดิองค์ใดที่กำลังเผชิญหน้ากับอาวุธเต๋าสุดขั้วของตระกูลเจียง
เตาหลอมเซียนที่ทำจากทองคำโลหิตหงส์ส่องสว่างทั่วสวรรค์และปัฐพี หงส์เพลิงที่มีขนาดใหญ่หลายหมื่นจ้างส่งเสียงคำรามดังลั่นบนท้องฟ้า
แต่อาวุธศักดิ์สิทธิ์อีกอันกลับเคลื่อนที่ได้เร็วมาก มีเพียงพลังกดดันน่ากลัวเท่านั้นที่ผู้คนสามารถสัมผัสได้แต่ไม่มีผู้ใดมองเห็นร่องรอยของมัน
มันถูกซ่อนไว้โดยเจตนาและไม่ต้องการถูกเปิดเผยต่อโลก แม้แต่ความผันผวนก็คาดเดาไม่ได้และมีเพียงอาวุธเต๋าด้วยกันเท่านั้นที่สามารถสัมผัสถึงการดำรงอยู่ของมันได้
หน้าบ่อแปลงมังกรในส่วนลึกของวังใต้ดินเจียงอวิ๋นและผู้เฒ่าคนอื่นๆต่างขมวดคิ้ว พวกเขารู้สึกจริงจังและทำได้เพียงเฝ้ารอคอยอย่างลุ้นระทึก
เย่ฟ่านไม่มีทางรู้ได้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นข้างนอกเพราะสระแป
งมังกรถูกปิดผนึกอย่างแน่นหนา
“บูม!”
อาวุธเต๋าสุดขั้วอีกชิ้นนั้นเนื่องจากพยายามปิดบังกลิ่นอายของตัวเองมากเกินไปจึงตกเป็นรองเตาเทพสุริยันอยู่พอสมควร แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นดินแดนศักดิ์สิทธิ์เจ้าของมันกลับไม่ได้แสดงตัวออกมาคล้ายกับว่ายังมีแผนการตามหลังอยู่
"ปลดปล่อยวิญญาณเต๋าอย่างสุดความสามารถ!" เจียงอวิ๋นตะโกนออกมา
“อะไรนะ เจ้าต้องการกระตุ้นเตาเทพสุริยันจริงๆเหรอ?” ผู้เฒ่าของตระกูลเจียงต่างตกตะลึง
“อีกฝ่ายมาเคาะประตูแล้ว เรายังกลัวผลที่จะตามมาอีกหรือ ในวันนี้ต่อให้ต้องทำลายทั้งเมืองศักดิ์สิทธิ์พวกเราก็ไม่อาจปล่อยให้ศัตรูได้เปรียบ” เจียงอวิ๋นมีความมุ่งมั่นอย่างยิ่ง
“มีความกล้าจริงๆ!”
เสียงถอนหายใจยาวดังมาจากสรวงสวรรค์ และทันใดนั้นอาวุธสุดขั้วของศัตรูก็ถอยกลับอย่างรวดเร็ว เพราะฝ่ายตรงข้ามไม่ต้องการที่จะตายไปพร้อมกับตระกูลเจียง
สมาชิกตระกูลเจียงก็ถอนหายใจยาวเช่นกัน การปลดปล่อยพลังทั้งหมดของเตาเทพสุริยันนั้นแน่นอนว่าจะทำลายทุกชีวิตในเมืองศักดิ์สิทธิ์อย่างไม่ต้องสงสัย
ในช่วงเช้าตรู่นี้เย่ฟ่านได้หยิบขวดหยกขาวอีกอันออกมา เมื่อเขาเปิดขวดขึ้นกลิ่นหอมก็กระจัดกระจายไปทั่วบังใต้ดิน
“สหายน้อยนี่คืออะไร” เจียงอวิ๋นถาม
“สมบัติสวรรค์และปัฐพี จงใช้แก่นแท้ของมัน” เย่ฟ่านไม่รู้ว่ามันคืออะไรเขาจึงพูดให้กํากวมไว้ก่อน
เมื่อเขาตัดคลังศักดิ์สิทธิ์ที่ปรมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์ทิ้งไว้เป็นครั้งที่สอง เขาได้ถุงน้ำสีม่วงและของเหลวชิ้นนี้ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นผลไม้อะไรสักอย่าง
เจียงอวิ๋นรับมันมาและสังเกตอย่างระมัดระวังก่อนจะกล่าวว่า
"มีพลังชีวิตที่ไม่มีที่สิ้นสุดยิ่งกว่าน้ำพุศักดิ์สิทธิ์!"
"อะไร?" ผู้เฒ่าที่อยู่ข้างๆต่างก็ตกใจเมื่อได้ยินสิ่งนี้
“นี่เป็นน้ำผลไม้ที่มาจากผลสวรรค์และปัฐพีหรือเปล่า?” ไม่มีผู้ใดรู้จักของเหลวชิ้นนี้อย่างแท้จริง พวกเขาทําได้เพียงเดาสุ่มเท่านั้น
ในอีกสองวันข้างหน้าเมืองศักดิ์สิทธิ์นั้นสงบมาก ไม่มีใครเข้าไปในสระแปลงมังกร และยอดฝีมือที่เคยลงมือพวกนั้นก็ดูเหมือนว่าจะไม่พร้อมแลกชีวิตกับราชันย์ศักดิ์สิทธิ์พี่กำลังจะเข้าโลงคนนึง
ผู้ฝึกตนหลายคนค่อยๆโล่งใจและยังคงติดตามที่อยู่ของเย่ฟ่านอีกครั้ง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งบุตรศักดิ์สิทธิ์และสตรีศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายยิ่งออกไล่ล่าเย่ฟ่านราวกับจะพลิกแผ่นดิน
พวกเขาไม่เคยคิดว่าเย่ฟ่านซ่อนตัวอยู่ในบ่อแปลงมังกรที่มีการป้องกันมากที่สุดในเมือง ในความเป็นจริงต่อให้พวกเขารู้ก็ไม่มีใครกล้าลงมาทวงคนอย่างแน่นอน
หลังจากผ่านไปสองวัน ร่างกายของเจียงไท่ซูก็ยังแห้งมาก แต่สภาพของเขาดูเหมือนจะคงที่มากขึ้นเล็กน้อย และกลิ่นอายแห่งความตายที่รายล้อมร่างกายของเขาอยู่ก็ดูเหมือนจะลดลงเช่นกัน
เมื่อเห็นฉากนี้ทุกคนก็ดีใจมาก ราชันย์ศักดิ์สิทธิ์ผู้เฒ่าอาจจะรอด เมื่อพวกเขามองกลับมาที่เย่ฟ่านสายตาของทุกคนก็เต็มไปด้วยความซาบซึ้งใจ
“ข้าควรไปที่วังอสูรสวรรค์เพื่อรับยากิเลนม่วงด้วยตัวเอง” เจียงอวิ๋นกล่าว
"ทำไม่ได้ ทันทีที่เจ้าปรากฏตัวออกห่างจากเตาเทพสุริยัน คนเหล่านั้นจะลงมือสังหารเจ้าอย่างไม่ต้องสงสัย" ชายชราอีกคนแสดงความกังวล
“ไม่จำเป็นต้องใช้เมล็ดพันธุ์ยาเซียน ข้ามีของดีกว่านั้น”
ทันทีที่เย่ฟ่านหยิบขวดยาสามใบออกมากลิ่นอายความเป็นมงคลก็ตลบอบอวลไปทั่วพระราชวังโบราณ
“นี่มัน...” หลายคนมองพร้อมกัน
“แก่นแท้ของยาเซียนที่แท้จริง!” เย่ฟ่านกล่าวเบาๆ
เขายื่นขวดให้เจียงอวิ๋น และทันทีที่เขาเปิดมัน กลิ่นหอมที่ทำให้มึนเมาได้ปลุกเร้าจิตใจของทุกคน
“ยาเซียนจริงๆ!”
ผู้คนในปัจจุบันมาจากตระกูลขุนนางโบราณ และพวกเขาทั้งหมดมีวิสัยทัศน์ที่ไม่ธรรมดา เพียงกลิ่นอายที่สามารถทำให้ผู้สูงสุดเช่นพวกเขารู้สึกสดชื่นนั้นก็สามารถแสดงถึงสรรพคุณของมันได้แล้ว
ทุกคนตะลึงงันและแทบไม่เชื่อเลย
"นี่คือแก่นโลหิตที่สกัดจากยาเซียนมังกรที่แท้จริง น่าเสียดายที่ข้าไม่สามารถจับร่างกายของมันได้เพราะข้าไม่รู้ว่ามันจะสามารถวิ่งหนีไปได้ด้วยตัวเอง" เย่ฟ่านรู้สึกเสียใจขณะอธิบายให้ผู้คนได้รับรู้
“เจ้าพบยาเซียน.....พวกมันยังไม่สูญพันธ์ไปอีก!” กลุ่มผู้เฒ่าตกตะลึง