ตอนที่ 15 ภายในห้องพัก(อ่านฟรี)
ตอนที่ 15 ภายในห้องพัก
หลังจากที่ได้ฟังเรื่องทั้งหมดที่แอนเดรียและเฟรดคุยกับลูอิสก็เปิดประตูแง้มดูแอนเดรียที่นั่งอยู่เพียงคนเดียวในห้องนั่งเล่น
‘การสูญเสียบ้านเกิดไปไม่รู้ว่าจะเป็นความรู้สึกเดียวกับฉันหรือเปล่า ที่รู้ว่าตัวเองมาเกิดใหม่ต่างโลกแบบนี้และไม่รู้ว่าจะกลับไปโลกเดิมได้หรือไม่...’
‘คงต้องไปปลอบใจเธอสักหน่อย’
ทารกน้อยลูอิสเปิดประตูและคลานออกมา เขาคลานตรงมาหาแอนเดรียอย่างรวดเร็ว
“เอ๊ะ! ลูอิสลูกออกมาทำอะไร” แอนเดรียรีบเช็ดขอบตา ก่อนจะก้มตัวลงไปอุ้มลูอิสขึ้นมา
‘เธอร้องไห้อย่างนั้นเหรอ’ เขาเอื้อมมือไปจับใบหน้าของแอนเดรีย
‘แม่ไม่เป็นไรแล้ว ขอบใจมากนะ’ แอนเดรียก้มไปจูบหน้าผากลูอิสเบา ๆ ในตอนนี้เธอรู้ว่าตนยังมีลูกชายอยู่ ดังนั้นจึงยิ่งต้องเข้มแข็ง
...
เช้าวันต่อมาทุกชีวิตยังดำเนินต่อไปในดินแดนหลังวันสิ้นโลกแห่งนี้ แอนเดรียนั้นวางแผนจะหาเงิน เพราะพวกเขามีเงินเหลือพ่อให้ใช้แค่สองเดือนเท่านั้นและก็ไม่อาจเอาแต่พึ่งพาเพียงพ่อบ้านชราเฟรดได้
หลังจากแอนเดรียไตร่ตรองถึงความสามารถที่ตัวเองมีแล้ว เธอก็คิดว่ามีสิ่งที่เธอสามารถทำได้อยู่นั้นก็คือการตัดเย็บเสื้อผ้า ซึ่งฝีมือของแอนเดรียนั้นถือว่าเป็นระดับสูงอย่างแท้จริง
แม้เมื่อก่อนตอนอยู่ที่ปราสาทตระกูลแกริค หญิงสาวจะไม่ได้ลงมือเย็บผ้าเองบ่อยนัก แต่ก็เป็นผู้ออกแบบเสื้อผ้าให้กับขุนนางและนายหญิงหลายคนที่รู้จัก ในบางครั้งเธอยังตัดเย็บเสื้อผ้าด้วยตนเองเพื่อใส่ไปงานเลี้ยงของชนชั้นสูงหรือไม่ก็เป็นของขวัญอยู่เช่นกัน
แอนเดรียบอกกับตัวเองว่าตอนนี้เธอต้องปรับตัวเพื่อให้มีชีวิตอยู่ต่อไป เธอไม่อาจจะยึดติดกับสถานะนายหญิงแห่งตระกูลแกริคได้อีกต่อไป
เป้าหมายของแอนเดรียคือการออกไปร้านตัดเย็บที่อยู่ภายในเมืองเอลดิลแต่เช้าเพื่อหางานทำ ที่จริงด้วยทรัพย์สินที่แอนเดรียมีเธอพอจะเปิดร้านค้าได้ แต่ติดตรงที่ว่าในตอนนี้สถานะของเธอคือผู้อพยพ จึงไม่อาจจะเปิดร้านในเมืองได้ ซึ่งทำได้เพียงเป็นลูกจ้างเท่านั้น
และการจะเป็นพลเมืองในเวลานี้ที่ยังไม่รู้สถานการณ์แน่นอนนั้นก็เสี่ยงจะโดนเปิดเผยตัวตนจนเกินไป
ลูอิสมองแอนเดรียที่แต่งตัวใหม่ด้วยชุดที่ดูเรียบง่ายสีขาวบางเบา ก่อนจะสวมเสื้อคลุมสีเทาเพื่อปกปิดใบหน้าตัวเองเนื่องจากหลังล้างเนื้อล้างตัวแล้วความงามที่ถูกปิดซ่อนของเธอก็เผยออกมาอีกครั้ง ถ้าเธอออกไปทั้งอย่างนั้นจะเด่นจนเกินไป
ส่วนสีของชุดนั้นส่วนใหญ่แล้วชาวเมืองธรรมดานั้นจะใส่สีที่ไม่ฉูดฉาดหรือสดใจจนเกินไป ไม่ใช่เพราะว่าพวกเขาไม่สามารถใส่ได้หรือมีกฎข้อห้าม เพียงแต่เสื้อผ้าสีสันสดใสนั้นมีราคาแพงมาก ทำให้คนทั่วไปซื้อไม่ไหว พวกเขาจึงซื้อได้เพียงเสื้อผ้าสีพื้น ๆ เท่านั้น เช่น ขาว ดำ เทา
“เจียน่าฝากดูแลลูอิสด้วยนะ เดี๋ยวเที่ยงฉันจะกลับมา” แอนเดรียกล่าวกำชับกับเจียน่า
“ค่ะนายหญิงแอนเดรีย” เจียน่ากล่าวรับด้วยรอยยิ้ม อย่างน้อยตัวเธอก็มีประโยชน์สามารถช่วยแอนเดรียได้ อีกอย่างเจียน่ายินดีมากที่อยู่เป็นเพื่อนลูอิส เพราะเธอรู้ว่าลูอิสนั้นไม่ใช่เด็กธรรมดา
หลังจากแอนเดรียออกไปแล้ว ทารกน้อยลูอิสที่แกล้งหลับก็ลืมตาตื่นขึ้นมา และไปนั่งคุยกับเจียน่า
“ท่านลูอิส” เจียน่ายิ้มและกล่าวทักทาย ที่จริงแล้ว ก่อนหน้านั้นเจียน่าจะเรียกลูอิสว่านายน้อย แต่เขาไม่ชอบจึงให้เธอเรียกชื่อเขาแทน
ลูอิสตั้งท่าย่อตัวลง ก่อนจะออกแรงกระโดดไปนั่งบนโซฟา จัดท่าทางให้เข้าที่จากนั้นกูพูดกับเด็กสาว “เจียน่า เธอว่าการจะใช้ชีวิตที่ดีในเมืองนี้สิ่งสำคัญคืออะไร”
เจียน่าเอียงคอแปลกใจกับคำถาม ถึงอย่างนั้นก็ยังตอบออกไป อย่างไม่มั่นใจนัก
“อาหาร?”
“ไม่ใช่แต่เป็นเงินต่างหาก” ทารกน้อยลูอิสแบมือให้เห็นเหรียญเบล เงินของโลกใบนี้ที่แอบเอาออกมาจากห้องนอน
“ท่านลูอิสพูดเหมือนพ่อของฉันเลย แต่พ่อบอกว่าการจะหาเงินได้รวดเร็วต้องเป็นขุนนางหรือไม่ก็นักล่า ถึงจะทำเงินได้สูงมาก แต่ตอนนี้พวกเรายังเด็กอยู่ดังนั้นการหาเงินจึงยากเข้าไปอีก”
“อืมนั้นก็จริง”
‘ตอนนี้ฉันยังเป็นทารกน้อยอยู่เลย เฮ้อ...’ ทารกน้อยลูอิสก้อมหน้ามองตัวเองพร้อมกับถอนหายใจอย่างเซ็ง ๆ ก่อนจะทิ้งตัวลงนอนบนโซฟาอย่างขี้เกียจ เขากลิ้งไปมาพร้อมกับคิดอะไรไปด้วย
ส่วนเจียน่านั้นก็เอาแต่จิ้มแก้มนิ่ม ๆ ของเขาและอมยิ้มไปด้วย
‘เฮ้อ ถ้าเรายังอยู่ที่ปราสาทบารอนคงจะง่ายกว่านี้มาก ไม่อย่างนั้นฉันคงเกิดมาบนกองเงินกองทองจริง ๆ แล้ว’
‘ตอนนี้นอกจะหาเงินสิ่งที่สำคัญคือต้องหาวิธีเก็บเกี่ยวพลังงานศรัทธาให้ได้มาก ๆ โดยเร็ว’
‘ถ้าโลกนี้มีองค์กรเก็บสถิติ ฉันเป็นเจ้าของสถิติทารกน้อยแรกเกิดที่มีงานทำเยอะที่สุดในโลกแน่นอนเลย...’
...
เจ็ดวันแล้วตั้งแต่ที่พวกเขามาอยู่ที่เมืองเอลดิลแห่งนี้ เวลาส่วนใหญ่ลูอิสจะอยู่แต่ในห้องไม่ค่อยได้ออกไปไหน ส่วนแอนเดรียนั้นเธอได้งานที่ร้านซื้อผ้าชื่อดังที่จ้างเธอด้วยเงิน 150 เบลต่อสัปดาห์ เธอจะออกไปทำงานทุกเช้าและกลับมาช่วงสายเพื่อให้นมลูอิส ก่อนจะออกไปใหม่อีกครั้ง
นอกจากจุดประสงค์ในการทำงานที่ร้านตัดเย็บแล้ว แอนเดรียยังแอบฟังการสนทนาของหญิงสาวพวกนั้น ซึ่งพวกเธอนั้นเป็นชนชั้นกลางและสูงของเมืองทำให้มีข่าวซุบซิบมากมาย แน่นอนว่ารวมถึงเรื่องการล่มสลายของอาณาจักรเวียเรเดียด้วย
ส่วนพ่อบ้านเฟรดนั้นจะออกไปกับทีมนักล่าทุกวัน ทำให้ลูอิสมีเวลาไม่นานในการเก็บพลังงานศรัทธาจากชายแก่
ใน 7 วันที่ผ่านมานี้ลูอิสเก็บค่าพลังงานศรัทธาจากทั้งแอนเดรีย พ่อบ้านเฟรดและเจียน่าได้เพียงพอที่จะอัพเลเวลอีกครั้ง
“ติ้ง!”
“ผู้เล่นเลเวลอัพเป็น lv.4”
“+5 แต้มสถานะ, +3 แต้มศักยภาพ , +10 พลังงาน , +4 พลังชีวิต”
หลังจากนั้นเขาก็จัดการแต้มที่ได้มาใหม่ลงไปที่ +3 พละกำลัง +2 ความทนทาน ทันที
หลังจากนั้นลูอิสก็เลือกเรียนหนึ่งในทักษะโจมตีที่มีประโยชน์ของพาราดิน
“[ดาบยุติธรรม lv.1] ฟันต่อเนื่องอย่างรวดเร็ว แม่นยำและรุนแรง มากสุด 7 ครั้งต่อการใช้ทักษะหนึ่งครั้ง ใช้พลังงาน 6 หน่วย ใช้ 4 ศักยภาพในการเรียนรู้ ใช้ 8 แต้มศักยภาพในการพัฒนาเป็น lv. 2”
เขาใช้แต้มศักยภาพที่มีอยู่ 4 แต้มเรียนทันที
“ลูอิส แกริค”
“มนุษย์ (ทารก)”
“อาชีพหลัก : พาราดิน”
“เลเวล : 4” (lv.5 ต้องการ แต้มพลังงานศรัทธา 1,500)
“เกรด 0.4 ดาว”
“ค่าสถานะ : พละกำลัง 13 ,ความชำนาญ 4 ,ความทนทาน 6,สติปัญญา 10,โชค 1”
“พลังชีวิต : 11” (อ่อนแออยู่)
“พลังงาน : 40”
“แต้มสถานะ : 0”
“แต้มศักยภาพ : 0”
“พลังงานศรัทธา : 1,390”
“ทักษะสายอาชีพพาราดิน : คำอธิษฐาน lv.1, ประกายแสงแห่งโชคดี lv.1,พลังโทสะของผู้ศรัทธา lv.1, พุ่งชน lv.1,ดาบยุติธรรม lv.1”
“อุปกรณ์ที่สวมใส่ : ไม่มี”
...
เมื่อจัดการในส่วนของการอัพเลเวลและค่าพลังงานศรัทธาแล้ว ลูอิสก็ไปที่การสุ่มฟรีประจำวันของร้านค้าระบบทันที ซึ่งหลังจากสุ่มก็ทำเอาลูอิสแปลกใจ เนื่องจากในครั้งนี้เขาได้
“+5 แต้มพลังงาน”
“ไอเทมทั้งหมดถูกเก็บไว้ในช่องเก็บของผู้เล่นอัตโนมัติ”
ลูอิสเอาแต้มพลังงานออกมา ลักษณะของมันนั้นเหมือนผลึกแต้มสถานะ เขามองมันอย่างสนใจ ก่อนจะส่งให้เจียน่าที่อยู่ข้าง ๆ ทดสอบดูว่าจะเธอจะใช้มันได้เหมือนกับผลึกสถานะหรือเปล่า
“สวยมาก นี่คือหินพละกำลังอีกแบบเหรอ”
“มันคือหินพลังงาน แต่อย่าพึ่งกินนะ” ลูอิสรีบห้ามเจียน่า ก่อนจะกล่าวต่อว่า “ฉันขอทำการทดสอบหน่อยได้หรือเปล่า”
“อืม” เจียน่าพยักหน้าตกลงในทันที เธอเชื่อใจลูอิสเป็นอย่างมาก จนตอนนี้ค่าพลังงานศรัทธาของเธอนั้นสูงถึง 90 แต้มมากกว่าพ่อบ้านเฟรดซะอีก
หลังจากที่เจียน่าตอบตกลง ลูอิสก็กระโดดลงจากโซฟาและวิ่งกลับไปที่ห้องของตน กระโดดไปบิดลูกบิดอีกตามเคย เนื่องจากตัวของเขานั้นเตี้ยเกินไป
หายไปไม่ถึง 10 วินาทีลูอิสก็กลับออกมานั่งที่เดิมพร้อมกับเข็มเย็บผ้าของแอนเดรีย
“ยื่นมือมาหน่อยสิ”
เด็กสาวยื่นมือไปให้ ลูอิสจับมือของเจียน่าด้วยมือน้อย ๆ ก่อนจะใช้มืออีกข้างค่อย ๆ ใช้เข็มจิ้มลงไป ทันทีที่เข็มจิ่มลงไปที่หลังมือของเจียน่า
ทันใดนั้นก็มีหน้าจออินเตอร์เฟสปรากฏขึ้นมา หน้าจอนี้แสดงข้อมูลของเจียน่า ลูอิสค้นพบเรื่องนี้ตอนโจมตีชายอพยพคนนั้นจนตาย ถ้าเขาโจมตีใครก็จะมีข้อมูลของคนผู้นั้นปรากฏออกมา แต่มันไม่ได้บอกรายละเอียดมากนัก นอกจากข้อมูลกายภาพทั่ว ๆ
“เจียน่า”
“มนุษย์ (เด็ก)”
“เกรด 0.1 ดาว”
“ค่าสถานะ : พละกำลัง 11 ,ความชำนาญ 5 ,ความทนทาน 8,สติปัญญา 9,โชค 10”
“พลังชีวิต : 16” (อ่อนแอมาก)
“พลังงาน : 5”
“แต้มศักยภาพ : 7”
...
‘เจียน่ามีพลังงานอยู่ด้วย เอ๊ะ! เธอมีแต้มศักยภาพถึง 7 แต้มเลยอย่างนั้นเหรอ พอมาลองคิดดูแล้วฉันกลับไม่มีทั้งค่าพลังงานและแต้มศักยภาพเลย อาจจะเพราะพึ่งเกิดด้วยหรือเปล่าจึงไม่มีมัน บางทีแต้มพวกนี้จะสะสมหลังจากใช้ชีวิตไปสักพักในโลกใบนี้หรือไม่ก็เพราะฉันก็เป็นกรณียกเว้น’
‘ถ้าอย่างนั้นก็ควรจะคิดว่าทุกคนในโลกใบนี้มีพลังงานในร่างกาย แต่ไม่ใช่ทุกคนจะดึงมาใช้ได้ ของฉันใช้ผ่านทักษะจากสายอาชีพ และพวกพิเศษที่เจียน่าพูดถึงก็คงมีวิธีใช้พลังในร่างกายตัวเองผ่านหินพลังสินะ’
‘ถ้าลองให้เจียน่าสามารถมีสายอาชีพละก็...’ เขามองไปที่ราคาของสายอาชีพ มันราคาถึง 5000 แต้มศรัทธา ซึ่งเขายังมีไม่พอ
‘คงต้องให้เธอรอไปก่อน แต่ถ้าเอาเฉพาะทักษะก็พอเป็นไปได้ ราคาทักษะโดยรวมอยู่ที่1000 แต้มศรัทธาเท่านั้น ถึงอย่างนั้นก็มีความเป็นไปได้ว่าเธอจะต้องใช้แต้มศักยภาพในการเรียนรู้มันด้วย’
‘เอาเป็นว่าไว้รอมีพลังงานศรัทธามากกว่านี้ก่อนค่อยตัดสินใจอีกทีก็แล้วกัน แต่ตอนนี้ในระหว่างนี้...’ ทารกน้อยลูอิสลุกขึ้นนั่งเอามือจับขาตัวเองเพื่อทรงตัวตามความเคยชิน
เขายิ้มและพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่ชัดเล็กน้อย
“เราไปข้างนอกกันเถอะไปสำรวจเมืองกัน”