542 - ภัยพิบัติของเพื่อนร่วมชั้น
542 - ภัยพิบัติของเพื่อนร่วมชั้น
กลางคืนลำแสงสีฟ้าเป็นเหมือนน้ำที่ไหลลงมาทีละเส้น ปราณที่ไหลผ่านสวรรค์และปัฐพีเป็นเหมือนมังกรที่ลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า
“ข้าจะมีความแข็งแกร่งแบบนั้นได้หรือไม่นะ?” เย่ฟ่านพึมพำกับตัวเองขณะเดินไปตามถนน
หลี่เหอซุยถอนหายใจและกล่าวว่า
“นี่คือกลุ่มของคนป่าเถื่อน ข้าแน่ใจว่าอย่างน้อยสองหรือสามคนในนั้นคือราชันย์ศักดิ์สิทธิ์ ไม่อย่างนั้นไม่มีทางที่พวกเขาจะกล้าลงมือฆ่าเจียงไท่ซู”
"ด้วยความทุ่มเทพยายามของผู้พิทักษ์เต๋าและเตาเทพสุริยันราชันย์ศักดิ์สิทธิ์ผู้เฒ่าจึงปลอดภัย แต่ข้ารู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ" เย่ฟ่านขมวดคิ้ว
“เป็นไปได้ไหมว่าคนเหล่านั้นกำลังจะใช้อาวุธเต๋าสุดขั้ว?” หลี่เหอซุยตกใจ หากเป็นกรณีนี้เมืองศักดิ์สิทธิ์อาจถูกกวาดล้างจนหมดสิ้นไป
เย่ฟ่านส่ายหัวและกล่าวว่า
“ไม่มีใครกล้าลงมือโดยใช้อาวุธเต๋าสุดขั้วเพราะถ้าไม่สำเร็จจะเป็นการตอแยศัตรูที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก หลายวันมานี้เมืองศักสิทธิ์มีการเปลี่ยนแปลงที่น่าตกใจข้าไม่เชื่อว่าความโกลาหลจะจบลงเช่นนี้”
ไม่นานหลังจากที่พวกเขาออกมา พวกเขารีบขึ้นไปในอากาศและมุ่งหน้าไปยังหมู่บ้านแม่น้ำแสงจันทร์เพราะกลัวว่าจะถูกพบ
องค์ชายของเซี่ยเป็นเจ้าภาพในวันนี้ ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะปฏิเสธเขา ในการเผชิญกับปัญหาของหนานกงจี้ ทั้งเซี่ยอี้หมิงและเหยาเย่คงมีส่วนช่วยเหลือพวกเขามากมาย
หมู่บ้านแสงจันทร์แขวนอยู่บนท้องฟ้ายามราตรี ทิวทัศน์งดงาม แต่ค่อนข้างแตกต่างจากที่อื่น ไม่มีวังหยกประดับด้วยเพชรพลอย ที่นี่เป็นเพียงป่าไม้เล็กๆที่เต็มไปด้วยความงดงาม
ตำหนักสราญรมย์พี่อยู่ด้านข้างเป็นหนึ่งในสามสถานที่งดงามในเมืองเมืองศักสิทธิ์ แม้ว่ามันจะเต็มไปด้วยชื่อเสียงเหลวแหลกแต่ภายในสวนนั้นกลับเงียบสงบแตกต่างจากสิ่งที่ผู้คนเล่าลือ
“งานเลี้ยงวันนี้คิดว่าจะเป็นการดื่มสุราและร่ายกวีหรือไม่?”
หลี่เหอซุยมีสีหน้าเคลิบเคลิ้มเมื่อเห็นทัศนียภาพโดยรอบ
“จะเป็นไปได้ยังไง อย่าพูดไร้สาระไปหน่อยเลย” เย่ฟ่านยิ้ม
“จะว่าไปแล้วแม่ชีชุดขาวตัวเล็กๆคนนั้นช่างเหนียวแน่นจริงๆ นางติดตามพี่ชายของนางทั้งวัน ความสัมพันธ์ระหว่างสองพี่น้องนั้นค่อนข้างดี”
เย่ฟ่านหัวเราะและพูดว่า “แม่ชีน้อยคนนั้นสละเพศบรรพชิตแล้ว เจ้าไม่สังเกตหรือว่าเส้นผมของนางได้งอกกลับขึ้นมาอีกครั้ง”
พวกเขาเข้าไปในป่าของภูเขาและถูกนำไปยังอาคารไม้โดยผู้คนจากหมู่บ้านแม่น้ำแสงจันทร์ของตำหนักสราญรมย์
หัวใจของเย่ฟ่านเต้นแรงและเขาเกือบจะจากไปทันทีที่เห็นราชันย์ศักดิ์สิทธิ์รุ่นเยาว์ของตระกูลจี้อยู่ที่นี่
นอกจากนี้ยังมีจี้จื่อเยว่ แม่ชีตัวน้อย, องค์ชายเซี่ยและเหยาเยว่กงพวกเขาไม่ได้อยู่ในอาคารไม้ แต่อยู่บนแท่นยกสูงดื่มสุราชมดวงจันทร์ไปด้วย
“เจ้ามาช้าต้องโดนลงโทษ” เหยาเยว่กงหัวเราะและชูจอกสุราขึ้น
"ปรับสามจอกก็แล้วกัน"
เย่ฟ่านและหลี่เหอซุยเดินขึ้นไปบนแท่นและดื่มเหล้าสามจอกติดต่อกัน
"สามจอกจะเพียงพอได้อย่างไร เจ้าควรจะดื่มเพิ่มกว่านี้อีกซัก 10 เท่า" องค์ชายเซี่ยหัวเราะ
“ไว้ชีวิตเราสองคนด้วย”
ในระยะไกล เสียงเครื่องดนตรีดังแผ่วเบาและหญิงสาวหลายคนร่ายรำบนท้องฟ้า พวกนางงดงามเหมือนเทพธิดาฉางเอ๋อ ทำให้บรรยากาศในวันนี้ค่อนข้างรื่นรมย์และเป็นกันเอง
“เป็นการยากที่จะเชิญพี่กู่ได้ ข้าไม่ได้เจอเจ้ามาสองสามวันแล้ว”
จี้ฮ่าวเยว่ยิ้ม คิ้วและดวงดาวของเขางดงามราวกับถูกแกะสลักออกมาเป็นอย่างดี นี่เป็นบุคคลอันโดดเด่นยากที่จะหาใครทัดเทียมจริงๆ
“เริ่มจากผลกระทบของเมล็ดยาศักดิ์สิทธิ์ ทำให้ข้าไม่กล้าออกไปไหน”
เย่ฟ่านอธิบายและในขณะเดียวกันก็ถามว่าดินแดนศักดิ์สิทธิ์ได้อะไรหลังจากภูเขาสีม่วง
“มีคนค้นพบร่างของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ปราศจากจุดเริ่มต้นพบจริงๆ?” หลี่เหอซุยก็ถามเช่นกัน
“ไม่มีใครรู้ว่านั่นคือร่างของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ปราศจากจุดเริ่มต้นหรือไม่ แต่ด้วยสายตาของปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์เหล่านั้นคงยากที่จะผิดไปได้”
จี้ฮ่าวเยว่ส่ายหัวและกล่าวว่า
"แม้ว่าตระกูลจี้ของข้าจะโจมตีภูเขาสีม่วงด้วย ข้าก็ไม่รู้สถานการณ์จริง แต่ว่ากันว่าพวกเขาพบความลับบางอย่างของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่,
ใบหน้าของเย่ฟ่านเคลื่อนไหวอย่างกะทันหันและกล่าวว่า
“บางคนบอกว่าจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่นั่งบนแท่นบูชาเต๋าเหมือนจะยังมีชีวิตอยู่ พวกเจ้าคิดว่าเป็นไปได้หรือเปล่า?”
"ข้าหวังว่ามันจะเป็นจริง แต่มันคงเป็นไปไม่ได้ ไม่มีใครสามารถอยู่ได้นานขนาดนี้” จี้ฮ่าวเยว่ส่ายหัว
“ปรมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์น้อย อย่าบอกนะว่าวันนี้เจ้ามามือเปล่า ต่อให้เจ้าไม่มีของขวัญมาให้เราเจ้าก็ควรมอบให้เสี่ยวไฉสักนิดก็ยังดี”
จี้จื่อเยว่ยิ้มอย่างอ่อนหวาน และแสงจันทร์ก็สะท้อนแก้มของนางอย่างสดใส
อีกด้านหนึ่งบนไหล่ของแม่ชีตัวน้อย เจ้าอสูรน้อยสีทองกำลังจ้องมองที่เย่ฟ่าน
เย่ฟ่านก็หัวเราะและพูดว่า
“เจ้าตัวเล็กนี่พยาบาทเกินไปแล้ว”
“แน่นอนว่ามันย่อมไม่ลืมเจ้า” แม่ชีชุดขาวตัวน้อยพึมพำเบาๆ
เย่ฟ่านหยิบถั่วต้นกำเนิดสวรรค์ออกมาหนึ่งโหลแล้ววางลงในฝ่ามือของเขา หนอนไหมสวรรค์ไม่สามารถนั่งนิ่งๆได้และกำลังจะรับมันไป แต่มันดูไม่พอใจเล็กน้อยและยังคงจ้องมองเย่ฟ่านด้วยความโกรธ
“ข้าให้ของขวัญแก่เจ้าเจ้าไม่กตัญญูยังพอว่า แต่มองข้าแบบนี้หมายความว่าอย่างไร หรือเจ้าต้องการให้ข้าเอามันคืน” เย่ฟ่านล้อเล่น
ทันใดนั้นแสงสีทองก็สว่างวาบ หนอนไหมสวรรค์กวาดเอาต้นกำเนิดในมือของเย่ฟ่านก่อนจะกลับไปซ่อนตัวที่ด้านหลังของแม่ชีน้อยในเวลาเพียงเสี้ยวลมหายใจ
ทุกคนรู้สึกประหลาดใจมากแม้แต่จี้ฮ่าวเยว่ก็ยังกล่าวว่า
"ถ้าเราสามารถมีทักษะการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วเช่นนี้มันคงมีประโยชน์ไม่น้อย”
"โลกของเราปรากฏโจรน้อยขึ้นอีกตัวแล้ว" เย่ฟ่านหัวเราะ
ในไม่ช้าทุกคนก็หันหัวข้อไปที่เจียงไท่ซูโดยไม่พยายามวิเคราะห์ถึงคนที่คิดจะฆ่าเขา เพราะว่านี่คือหัวข้อที่อ่อนไหวมากเกินไป
พวกเขากำลังพูดถึงความทรงพลังของเก้าญาณวิเศษลึกลับ, ความมหัศจรรย์ของทักษะมังกรแปลง และเอกลักษณ์ของราชันย์ศักดิ์สิทธิ์เจียง
องค์ชายเซี่ยและจี้ฮ่าวเยว่ต่างก็ต้องการเมล็ดพันธุ์ของยาศักดิ์สิทธิ์ในมือของเย่ฟ่าน และกล่าวถึงมันอย่างแนบเนียนเพื่อสืบหาราคาที่เย่ฟ่านต้องการ
เย่ฟ่านไม่สามารถสัญญาอะไรได้ เขาแค่พูดถึงความยากลำบากในการครอบครองสมบัติชิ้นนี้จนจำเป็นต้องส่งไปยังบ้านประมูลของหอสมบัติอสูรสวรรค์
จี้ฮ่าวเยว่มองขึ้นไปที่ทะเลแห่งดวงดาวและพูดว่า
"ทุกคน ปลายอีกด้านไกลจากโลกของเราแค่ไหน? มีผู้ฝึกฝนด้วยหรือไม่"
“ทำไมพี่ฮ่าวเยว่ถึงพูดถึงเรื่องนี้?” องค์ชายวังอสูรสวรรค์ถามอย่างงุนงง
“เป็นเพียงความรู้สึกชั่วขณะเท่านั้น” จี้ฮ่าวเยว่ส่ายหัว
หัวใจของเย่ฟ่านสั่นไหว เขาคิดว่ามันอาจเป็นปัญหากับเพื่อนร่วมชั้นของเขาที่มายังโลกนี้ ใครบางคนในภาคใต้น่าจะเปิดเผยความลับแล้ว
"จากการศึกษาตำราโบราณของข้า มีคำกล่าวที่ว่าเมื่อหลายพันปีก่อนเคยมีใครบางคนจากโลกอื่นมาเยือนโลกของเรา" องค์ชายเซี่ยพยักหน้า
"โอ้ พี่เซี่ยช่วยเล่าให้ข้าฟังที" เย่ฟ่านอยากรู้
องค์ชายเซี่ยส่ายหัวและพูดว่า “ข้าได้ยินอาจารย์พูดถึงเป็นครั้งคราวเท่านั้น”
“ข้าได้ยินมาว่าร่างเซียนโบราณคนนั้นมาจากต่างแดนเช่นกัน เจ้าคิดว่าเขาจะสามารถทำลายคำสาปได้หรือไม่?” จี้ฮ่าวเยว่พูดอีกครั้ง
หัวใจของเย่ฟ่านเต้นแรงแต่สงบลงอย่างรวดเร็ว ไม่มีความผันผวนอีกต่อไป เขาไม่ต้องการเปิดเผยข้อบกพร่องแม้ว่าจะรู้สึกแย่แค่ไหนก็ตาม
ในเมื่อฝ่ายตรงข้ามได้รับข้อมูลที่แน่ชัดแบบนี้ก็แสดงว่าความปลอดภัยของเพื่อนๆที่อยู่ภาคใต้ของเขามีปัญหาใหญ่หลวงแล้ว