บทที่ 9 : ขณะที่ก้มลงมอง มือของหานจงหลี....

บทที่ 9 : ขณะที่ก้มลงมอง มือของหานจงหลี....

หลังจากเขาทราบว่าหานจงหลีพักอยู่ห้องข้างๆ ผู้กำกับได้มาหาเขาเพื่อทักทายช่วงกลางวัน ลู่ม่านช็อคกับคำถามของเขา ทำไมอยู่ๆเขาถึงพูดเรื่องนี้ขึ้นมา?

“ลู่ฉีอยากเป็นนางเอกในหนังเรื่องใหม่ของผู้กำกับ เธอเลยตกลงไปพบกับเขาในห้อง แม้จะรู้อยู่เต็มอกว่าผู้กำกับต้องการอะไรจากเธอ แต่ก็นะ พออะไรๆเริ่มจะเลยเถิด เธอจะให้ฉันรับช่วงต่อแทน แต่ฉันไม่อยากทำ เราเลยทะเลาะกัน แล้วเธอก็ใช้โคมไฟตีฉัน แล้วดันเผลอทำร้ายผู้กำกับไปด้วย” ลู่ม่านสรุป

“อ๋อ อย่างนี้เอง” หานจงหลีพยักหน้า

ลู่ม่านตกตะลึง เขาไม่มีข้อสงสัยอะไรเลยหลังจากได้ยินเธออธิบาย เขาเชื่อเธอ

“คุณเชื่อที่ฉันพูดหรอ?” ลู่ม่านถาม

“ทำไมต้องไม่เชื่อคุณ?” หานจงหลีรู้สึกว่าคำถามของเธอตลกมาก

“ทำไม” ชั่วขณะนี้ ลู่ม่านลืมแม้กระทั่งว่าตัวเองยังอยู่ในอ้อมกอดของเขา

พวกเขาเป็นคนแปลกหน้าที่พึ่งพบกันวันนี้ ละเขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เธอกำลังเผชิญอยู่เลย แต่เขาก็ยังเชื่อเธอ กลับกัน พ่อแท้ๆของเธอกลับไม่เชื่อ

แต่ผู้ชายคนนี้ หานจงหลี คนที่พึ่งเจอกันครั้งแรก กลับเชื่อเธอโดยไม่มีข้อสงสัยใดๆ!

“ไม่เห็นต้องถามว่าทำไม ฉันแค่รู้ว่าเธอพูดความจริง” หานจงหลีตอบ

ไม่มีทางที่เขาจะอธิบายได้ มันเป็นเพราะพลังของเขาในฐานะผู้นำตระกูล

หัวหน้าตระกูลแห่งตระกูลใหญ่ทั้งแปดต่างมีพลังลึกลับ ทายาทจะถูกเลือกก็ต่อเมื่อพวกเขาสามารถปลุกพลังที่หัวหน้าตระกูลครอบครองได้เท่านั้น ในทุกรุ่น จะมีเพียงคนเดียวที่สามารถปลุกพลังเหล่านี้ขึ้นมาได้ ดังนั้น ตราบใดที่พวกเขาสามารถปลุกพลังได้ พวกเขาจะได้เป็นหัวหน้าตระกูลคนต่อไป

สำหรับตระกูลหาน เขาสามารถบอกได้ว่าใครกำลังโกหก

ดังนั้น ถ้ามีคนมาพูดต่อหน้าเขา เขาก็สามารถระบุได้โดยสัญชาตญาณว่า คนนั้นกำลังพูดความจริงหรือโกหกอยู่ มันไม่ใช่การอ่านใจพวกเขาได้ แต่แค่สามารถบอกได้ว่า คนๆนั้นกำลังโกหกอยู่หรือเปล่า

น้อยคนนักที่จะรู้ว่าหัวหน้าตระกูลใหญ่ทั้งแปดมีอำนาจเช่นนี้ เฉพาะคนที่หัวหน้าตระกูลไว้ใจเท่านั้นที่จะรู้ และพวกเขาไม่มีวันแพร่งพรายออกไป มิฉะนั้นนี่อาจกลายเป็นจุดอ่อนร้ายแรงได้ ผู้อื่นอาจกดดันให้หัวหน้าตระกูลใช้อำนาจเพื่อประโยชน์ส่วนตัว หรือ อาจหาวิธีหยุดยั้งจากการใช้พลังเหล่านี้

ดวงตาของลู่ม่านรู้สึกเปียกชื้น ในช่วงชีวิตทั้งสองของเธอ นอกจากแม่แล้ว ไม่มีใครเชื่อเธอมากเท่านี้ ตั้งแต่ที่พ่อกับแม่ของเธอหย่ากัน และเซี่ยชิงหยางเข้ามาในตระกูลลู่ ลู่ฉีหยวนไม่เคยเชื่อคำพูดของเธอ แต่เขากลับเชื่อทุกอย่างที่เซี่ยชิงหยางและลู่ฉีพูด

ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นคนที่ถูกวางแผนใส่ร้าย ลู่ฉีหยวนก็ไม่เคยเชื่อเธอซ้ำยังดุด่าและลงโทษเธอ บอกให้เธอไปเรียนรู้จากลู่ฉี และให้ความเคารพเซี่ยชิงหยางในฐานะแม่เลี้ยง

นานแค่ไหนแล้วที่เธอไม่ได้ยินคนพูดว่าเชื่อใจเธอ?

หานจงหลี คนที่เธอไม่มีความสัมพันธ์ใดๆด้วยเลย กลับเป็นคนที่บอกว่าเชื่อใจเธอ

น่าขำซะจริง

คนแปลกหน้ายังเชื่อในสิ่งที่เธอพูด กลับกันครอบครัวของเธอเองดันไม่เคยเชื่อเลย แม้แต่แฟนที่คบกันมาตั้งแต่สมัยเด็ก เขายังช่วยคนร้ายใส่ความเธอเลย

เธอเป็นขี้แพ้อย่างแท้จริงในชาติก่อน

ความเชื่อใจของหานจงหลีที่มีต่อเธอ ทำให้เธอรู้สึกใจพองโต ความรู้สึกแปลกๆเกิดขึ้นในใจเธอ ทุกจุดที่ถูกเขาสัมผัสนั้นร้อนผ่าว หัวใจเต้นเร็วจนรู้สึกเหมือนจะขาดใจ

ทันใดนั้น จู่ๆเสียงโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น กระชากเธออกจากห้วงอารมณ์และความคิดแปลกๆ

“จะไม่รับหรอ?” หานจงหลีถาม

เมื่อกี้ ลู่ม่านจมอยู่ในความคิดของตัวเองมากจนไม่ทันได้รู้สึกอะไร แต่ในตอนนี้ ขณะที่เธอก้มลงมอง เธอพึ่งสังเกตว่า มือของหานจงหลีนั้น อยู่ที่หน้าอกของเธอ