บทที่ 10 : นายน้อยหาน ไม่ใช่คุณควรปล่อยฉันก่อนเหรอ?
บทที่ 10 : นายน้อยหาน ไม่ใช่คุณควรปล่อยฉันก่อนเหรอ?
ลู่ม่านกัดฟันพูด “นายน้อยหาน ไม่ใช่ว่าคุณควรปล่อยฉันก่อนเหรอ?”
ในชาติก่อน เธอพอได้ยินผู้คนพูดมาบ้างว่า หานจงหลีนั้นเป็นดั่งชนชั้นสูงและนิสัยดี สถานะของเขานั้นสูงส่งเกิดกว่าผู้หญิงคนไหนจะเข้าใกล้ได้
บางคนถึงกับรู้สึกว่า การที่ผู้หญิงอยู่ใกล้เขาเหมือนเป็นการดูหมิ่นเขา และในชาติที่แล้ว จนถึงตอนที่เธอตายไป หานจงหลีก็ยังไม่แต่งงาน เธอไม่เคยแม้กระทั่งได้ยินว่าเขามีแฟนด้วยซ้ำ
แต่ดูจากการกระทำของคนเอาแต่ใจตอนนี้แล้ว ช่างต่างจากที่เคยได้ยินมาในชาติก่อนลิบลับ
“ผมก็ไม่ได้จับมือคุณอยู่นี่” หานจงหลีปล่อยมือของเธอไปนานแล้ว แต่มือของเขายังคงอยู่ที่เอวของเธอ ลู่ม่านยังไม่ทันได้พูดอะไร หานจงหลีก็มองไปยังหน้าจอโทรศัพท์ของเธอและถาม
“ลู่ฉีหยวน พ่อของคุณ?” เธอเซฟเบอร์พ่อของเธอไว้ด้วยชื่อจริงๆ ลู่ม่านไม่ตอบคำถาม
“ปล่อยฉันก่อน” เธอกัดฟันพูด หานจงหลีเข้าใจทันทีว่าสิ่งที่เขาคิดถูกต้อง
“รับสายตรงนี้ก็ได้นี่” ลู่ม่านหลับตาลง ปล่อยให้โทรศัพท์ดังต่อไปอย่างไม่รีบร้อน ริมฝีปากแสยะยิ้ม
หานจงหลีคุ้นเคยกับรอยยิ้มประเภทนี้ดี ตอนนี้เธอยิ้มเหมือนกับเหอเจิ้งไป๋และลู่ฉี
แต่รอยยิ้มของเธอนั้นให้ความรู้สึกเย้ายวนกว่ามาก แม้ว่าหานจงหลีจะจิตแข็งแค่ไหน แต่เขาก็ยังอดไม่ได้ที่จะฟุ้งซ่านเพราะรอยยิ้มของเธอครู่หนึ่ง
ผู้หญิงคนนี้เป็นนางจิ้งจอกโดยธรรมชาติ!
ในขณะที่เขากำลังฟุ้งซ่านอยู่นั้น ลู่ม่านก็ใช้จังหวะนี้ยกขาขึ้นเตะเข้าที่หัวเข่าของเขา
ก่อนหน้านี้ เธอรีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าและถอดรองเท้าออกเพื่อความสมจริงในการเล่นละครตบตา และเมื่อเธอยืนด้วยเท้าเปลือยเปล่าบนพรมสีเข้ม ทำให้ผิวของเธอดูผ่องยิ่งขึ้น
แม้ว่าการเตะของเธอทำให้เข่าของหานจงหลีนั้นเจ็บอยู่บ้าง ลู่ม่านใช้จังหวะนี้คว้าผ้าเช็ดตัวและวิ่งเข้าไปในห้องน้ำ
ขณะที่หานจงหลีก้มลงกดหัวเข่าตัวเองด้วยความเจ็บปวด สายตาของเขากลับไม่สามารถละจากลู่ม่านได้ เขามองตามแผ่นหลังอันขาวเนียนของเธอไป หานจงหลีรู้สึกกระสับกระส่าย และเมื่อเริ่มจินตนาการว่าขาของลู่ม่านกำลังเกี่ยวรอบเอวของเขาไว้แน่น เอวของเขาก็คล้ายจะบีบรัดขึ้น
ทันใดนั้น เขาก็รู้สึกร้อนราวกับจะระเบิด
ลู่ม่านรับรู้ได้ถึงสายตาอันเร่าร้อนที่จ้องมองเธออยู่ ทำให้รู้สึกอัดอึดเป็นอย่างมาก เธอรีบเข้าไปในห้องน้ำเพื่อสวมเสื้อผ้า และถึงแม้จะเป็นอย่างนั้น ร่างกายของเธอก็ยังคงรู้สึกร้อนขึ้นมาตามจุดที่เคยถูกเขาสัมผัส ราวกับว่ามือของเขายังสัมผัสเธออยู่
โทรศัพท์หยุดส่งเสียงไปแล้ว แต่ยังไม่ทันไรก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง
‘ลู่ฉีหยวน’
ลู่ม่านมองชื่อที่ปรากฏบนหน้าจอด้วยสายตาเย็นยะเยือก
คนๆนี้คือพ่อผู้ให้กำเนิดเธอ พ่อที่เลือกจะเชื่อลู่ฉีมากกว่าเธอ
เขาเชื่ออย่างสุดหัวใจว่าเธอเป็นคนที่ทำร้ายคนอื่นและรู้สึกว่าเธอเป็นความอับอาย แม้ว่าเธอจะถูกจับเข้าคุก เขาก้ไม่เคยมาเยี่ยมเธอเลยสักครั้ง
เธอจำได้เป็นอย่างดีว่า เมื่อเธอเดินออกมาจากประตูเรือนจำหลังจากถูกจำคุกมาแปดปี ไม่มีใครมารับเธอสักคน ราวกับไม่มีใครรู้ว่าเธอจะถูกปล่อยตัวในวันนั้น
ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่ได้สนใจ สิ่งเดียวที่เธอห่วงคือแม่ที่กำลังป่วยของเธอ เธอไม่ได้กลับไปยังบ้านตระกูลลู่ทันที แต่กลับตรงไปยังบ้านของแม่ แต่สิ่งที่พบเมื่อไปถึง คือบ้านที่ว่างเปล่า...