บทที่ 3 : พวกคนที่สมควรถูกล้อ จะต้องถูกล้อ
บทที่ 3 : พวกคนที่สมควรถูกล้อ จะต้องถูกล้อ
เหอะ สิบหยวน เขาพยายามกำจัดเธอราวกับเธอเป็นแค่ขอทาน
เหอเจิ้งไป๋ นายน้อยคนที่สองแห่งบริษัท ล่งฉิง ผู้ยิ่งใหญ่ ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในนักแสดงที่เก่งที่สุดและยังเป็นโปรดิวเซอร์ที่มีความสามารถ
ในขณะนั้นเอง กริ่งประตูห้องพักของโรงแรมก็ดังขึ้น ในขณะที่ หานจงหลี หันไปมองรอบๆเขาก็ปล่อยมือที่คางของเธอโดยไม่รู้ตัว ลู่ม่านใช้โอกาสนี้ในการวิ่งหนีเข้าไปในห้องน้ำที่อยู่ใกล้ๆ
สายตาของหานจงหลีหรี่ลงเมื่อได้ยินเสียง คลิก เบาๆจากการที่ลู่ม่านล็อคประตูห้องน้ำ
ขณะที่เสียงกริงประตูดังขึ้น เขากำลังคิดว่าเธอเข้ามาทางหน้าต่างได้อย่างไร และเกิดความโกลาหนอะไรในห้องข้างๆ เขาหัวเราะอย่างเย็นชาก่อนจะเปิดประตู
ด้านนอกมีตำรวจ 2 นาย ผู้จัดการโรงแรม พนักงาน และชายหญิงที่ดูไม่คุ้นตา
เหอเจิ้งไป๋รู้สึกประหลาดใจเมื่อเห็นชายที่อยู่ตรงหน้า ลู่ฉีก็ไม่ต่างกัน ไม่มีใครคาดคิดว่า ห้องข้างๆนี่จะเป็นห้องของหานจงหลี!
“นายน้อยหาน ขออภัยที่รบกวนคุณ” ผู้จัดการโรงแรมกล่าว
“แขกห้องข้างๆได้รับบาดเจ็บสาหัส และผู้ต้องสงสัยน่าจะหลบหนีออกไปได้ไม่นาน ไม่ทราบว่าคุณพอจะเห็นบุคคลต้องสงสัยหรือไม่”
หานจงหลียิ้มอย่างเย้ยหยัน ผู้หญิงคนนั้นคือผู้ต้องสงสัยข้อหาทำร้ายร่างกายอย่างนั้นหรือ?
ทันใดนั้น เสียงอันทรงเสน่ห์ของหญิงสาวก็ดังขึ้นจากด้านหลังหานจงหลี
“หลี ทำไมนานจังคะ ฉันรอคุณอยู่นะ....” เสียงอันไพเราะจนทำให้ทุกคนที่ได้ยินแทบอ่อนระทวย ยกเว้น ลู่ฉี เมื่อมองไปยังที่มาของเสียง เหอเจิ้งไป๋และลู่ฉีถึงกับตกตะลึงทันทีที่เห็นผู้หญิงคนนั้น
เสียงนั้นไม่ใช่ของใครอื่นนอกจาก ลู่ม่าน
เสียงอันทรงเสน่ห์นี้เป็นของลู่ม่านผู้ไม่มีความโรแมนติกใดๆจริงหรือ? เหอเจิ้งไป๋เผลอตัวขยี้ตาอย่างไม่อยากเชื่อ
แต่ไม่ว่าอย่างไร ผู้หญิงที่สวมผ้าเช็ดตัวและกำลังเดินตรงเข้ามาหาพวกเขานั้น คือลู่ม่าน!
ผ้าขนหนูสีขาวทำให้ผิวของเธอดูขาวและอ่อนเยาว์ยิ่งขึ้น เหอเจิ้งไป๋ไม่เคยรู้เลยว่าผิวของเธอจะเรียบเนียนราวกับแพรไหม รวมถึงรูปร่างของเธอนั้นน่าดึงดูดจนผู้คนไม่อาจละสายตาจากมันได้เพราะกลัวจะหายไปเมื่อกระพริบตา
ใช่ เขาไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน
นั่นเพราะลู่ม่านเป็นคนเจ้าระเบียบและค่อนข้างหัวโบราณ เธอไม่เคยปล่อยให้เขาแตะเนื้อต้องตัว แต่ตอนนี้เธอกลับสวมเพียงผ้าเช็ดตัวผืนเดียวอยู่ในห้องของหานจงหลี
หานจงหลีหันหลังให้คนที่อยู่นอกประตู ก่อนจะเลิกคิ้วขึ้นเมื่อมองลู่ม่าน
ลู่ม่านพยายามข่มความกังวลและรวบรวมความกล้าเพื่อแสดงภาพลักษณ์ของหญิงสาวผู้แสนเย้ายวน เธอขยับสะโพกผอมบางขณะเดินไปหาหานจงหลีอย่างสบายๆ
โชคดีที่การเป็นผู้ช่วยของลู่ฉีทำให้เธอได้เรียนรู้ทักษะการแสดงมาบ้าง
เธอหยุดอยู่ตรงหน้าหานจงหลีก่อนจะยกมือขึ้นโอบรอบคอของเขา หานจงหลีหรี่ตาลงเล็กน้อย สงบสติอารมณ์ตัวเองและรอดูว่าเธอต้องการทำอะไรกันแน่
เขาเหมือนกับเสือดาวแสนขี้เกียจตัวหนึ่ง เบื่อหน่ายเมื่อจ้องมองเหยี่อที่วิ่งอยู่รอบตัว แม้จะสามารถฆ่าเหยื่อได้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว แต่เขาต้องการเล่นสนุกกับมันเสียก่อน
ขณะที่เขายังคงนิ่งเฉย ลู่ม่านเห็นว่าเขาไม่ต้องการจะร่วมมือกับเธอ เธอจึงตัดสินใจหลับตาลง ก่อนจะประกบริมฝีปากของตัวเองเข้ากับของเขา
พระเจ้า!
เธอจูบกับเทพบุตรจริงๆ!
ทันใดนั้น ลู่ม่านก็รู้สึกว่าชีวิตก่อนของเธอนั้นช่างสูญเปล่า การใช้ชีวิตอย่างซื่อสัตย์และดีงาม มีประโยชน์อย่างไร?
ตั้งแต่นั้นมาเธอถูกรังแก ถูกแฟนหนุ่มหักหลัง ถูกกลั่นแกล้งโดยน้องสาวต่างแม่ นอกจากนี้เธอยังถูกพ่อแท้ๆทอดทิ้งอีกด้วย ทั้งหมดนี่เป็นเหตุให้เธอตายอย่างน่าสยดสยอง
คราวนี้ เธอจะไม่ใช้ชีวิตแบบนั้นอีก!
เธอต้องการดูแลแม่ของเธอและหาทางแก้แค้น เธอไม่อยากเป็นคนดีที่ถูกใครต่อใครรังแกอีกแล้ว!!
ในชาตินี้ เธอปรารถนาที่จะบรรลุทุกเป้าหมายที่เธอตั้งใจ
นอกจากนี้เธอยังต้องการแก้แค้นชายโฉดหญิงชั่วสำหรับสิ่งที่พวกเขาได้ทำกับเธอ
ส่วนพ่อเทพบุตรข้างๆเธอนั้น ใครควรโดนล้อ ก็ต้องโดนล้อ!