บทที่ 1 : เธอต้องหนี
บทที่ 1 : เธอต้องหนี
ท่ามกลางเปลวไฟที่ล้อมรอบ ลู่ม่าน นอนอย่างหมดแรงอยู่บนพื้นมองดูคนรักกำลังโอบกอดน้องสาวต่างแม่ของเธอ
“สารเลว!* ลู่ม่านจ้องไปที่คู่รักไร้ยางอายเบื้องหน้า
“โธ่ พี่สาว...คุกก็ติดมาแล้ว ถึงจะถูกปล่อยตัวออกมา ก็ไม่มีวันมีอนาคตที่ดีอีก แม่พี่ก็ตายไปแล้วด้วย ไม่เหลือใครที่จะสนใจพี่อีกแล้วในโลกใบนี้! แล้วจะมีประโยชน์อะไรที่ยังมีชีวิตอยู่?”
“แกสองคนวางแผนส่งฉันไปเข้าคุก ทำให้แม่ฉันต้องตาย ตอนนี้แกยังต้องการชีวิตฉันอีกงั้นเหรอ!” ทั้งร่างของลู่ม่านไร้เรี่ยวแรง ดวงตาของเธอแดงก่ำด้วยความโกรธแค้น
“สมควรแล้วนี่” เจิ้งไป๋กล่าว
“ถ้าแกยังมีชีวิตอยู่ แกก็จะต้องบอกคนอื่นว่าเกิดอะไรขึ้นแน่ ฉันจะไม่มีวันปล่อยให้แกทำลายพวกเราตอนนี้ได้หรอก”
“สู่สุคตินะพี่สาว พ่อรู้เรื่องทั้งหมดแล้ว และเขายังจะเตรียมหลุมศพให้แกด้วย เขาจะจดจำสิ่งที่พี่ทำเพื่อตระกูลลู่ และจะทำให้แน่ใจว่าพี่อยู่อย่างสงบหลังตายไปแล้ว” ลู่ฉีกล่าว
ลู่ม่านหัวเราะลั่น ดวงตาแดงก่ำ
นั่นคือพ่อแท้ๆตามสายเลือดของเธอ และเพื่อลู่ฉีแล้ว เขาทำได้แม้กระทั่งฆ่าลูกสาวของเขา!
พ่อและคนรักที่คบกันตั้งแต่เด็กของเธอ เป็นผู้ชายสองคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตเธอ
ทว่า พ่อของเธอยอมรับลู่ฉีเป็นลูกเพียงคนเดียว ในขณะเดียวกัน คนรักของเธอก็ดูแลปกป้องลู่ฉีประหนึ่งสมบัติล้ำค่า แต่ใส่ใจเธอเพียงเล็กน้อยพอเป็นพิธีเท่านั้น
และตอนนี้ พวกเขาต้องการให้เธอตาย!
เธอเหลือบเห็นเศษแก้วที่อยู่ใกล้มือของเธอ ลู่ม่านกดมือของเธอลงบนเศษแก้วพวกนั้น ความเจ็บปวดทำให้สมองของเธอแจ่มชัดยิ่งขึ้น
ลู่ม่านขบกรามแน่น ก่อนจะพุ่งตัวเข้าใส่ลู่ฉีทันที
ลู่ฉีกรีดร้อง ขณะที่เธอถูกกดลงกับพื้นโดยลู่ม่าน
“ลู่ม่าน! ออกห่างจากเธอเดี๋ยวนี้!!” เจิ้งไป๋ตะโกนลั่น และรีบเข้าไปช่วยลู่ฉี
ลู่ม่านใช้แรงทั้งหมดที่มีพยายามดึงลู่ฉีเข้าไปในกองเพลิง และกัดเข้าที่หูของลู่ฉีอย่างแรง จนเลือดไหลออกมา เธอกรีดร้องโหยหวน
“ในเมื่อแกอยากให้ฉันตาย งั้นก็ตายไปด้วยกัน!” ลู่ม่านคำราม
“ไม่! ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้! พี่เหอ ช่วยฉันด้วย” ลู่ฉีกรีดร้องอย่างหนักด้วยความกลัว แต่ไม่ทันการ เปลวไฟได้เริ่มเผาไหม้พวกเธอทั้งคู่แล้ว
ขณะที่เหอเจิ้งไป๋รีบวิ่งเข้าไป ตู้เสื้อผ้าที่ถูกไฟไหม้อย่างหนักก็ตกลงมาใส่เขา ลู่ม่านมองเห็นใบหน้าของเหอเจิ้งไป๋บิดเบี้ยวด้วยความกลัวขณะที่ติดอยู่ใต้ตู้เสื้อผ้า
แสงจากเปลวเพลิงที่ลุกไหม้สะท้อนให้ใบหน้าของลู่ม่านเป็นสีแดง
“พวกแกทั้งคู่สมควรที่จะตายอย่างน่าเวทนา” ลู่ม่านสาปแช่งคนทั้งคู่ และในท้ายที่สุด เธอใช้แรงเฮือกสุดท้ายดึงลู่ฉีเข้าไปท่ามกลางเปลวเพลิงพร้อมๆกัน
...............
ลู่ม่านค่อยๆลืมตาขึ้น อาการปวดหัวอย่างรุนแรงก็แล่นขึ้น เธอรู้สึกเหมือนเพิ่งหลุดออกมาจากนรก เมื่อเธอมองภาพเบื้องหน้าชัดเจนขึ้น ก็ตกใจอย่างสุดขีด
เธอพบว่าตัวเองอยู่บนพรมของห้องพักในโรงแรมแห่งหนึ่ง ห่างจากเธอราวหนึ่งเมตร มีร่างของชายคนหนึ่งนอนอาบเลือดอยู่
ภาพเบื้องหน้าช่างคุ้นเคยสำหรับลู่ม่าน เธอเคยอยู่ในสถานการณ์เดียวกันนี้มาแล้วครั้งหนึ่ง แต่มันก็นานมาแล้ว เหมือนกับว่าเคยเกิดขึ้นเมื่อชาติก่อน
ชาติที่แล้ว....
ลู่ม่านสับสนเมื่อจู่ ๆเธอก็นึกได้ถึงเหตุการณ์นั้น เธอควรตายในกองไฟไปแล้ว แต่ทำไมถึงยังมีชีวิตอยู่ได้?
เธอยกมือทั้งสองข้างขึ้นและพบว่าตัวเธอเองกำลังถือโคมไฟตั้งโต๊ะที่เปื้อนเลือดอยู่ เธอรีบโยนมันทิ้งไปทันทีด้วยความตกใจ อย่างไรก็ตามแขนและมือทั้งสองข้างของเธอไม่มีร่องรอยใดๆ แม้กระทั่งรอยขีดข่วนเล็กๆ
หลังจากเห็นหน้าของผู้ชายคนนั้น เธอก็มั่นใจได้ในทันทีว่าเธอได้ย้อนกลับมายังช่วงที่เธออายุ 22 ปี
ในชาติที่แล้วของเธอ ช่วงเวลานี้ ลู่ม่านได้เป็นผู้ช่วยของลู่ฉีแล้ว ลู่ฉีเข้าสู่วงการบันเทิงเมื่อตอนอายุ 16 ปี และเมื่อเธออายุได้ 20 ปี เธอก็กลายเป็นดาราดัง
การเข้าสู่วงการบันเทิงนั้นไม่เคยเป็นความฝันของลู่ม่าน และยิ่งแล้วใหญ่กับการเป็นผู้ช่วยของใครสักคน ความฝันของเธอคือการเป็นแฟชั่นดีไซน์เนอร์
เพียงเพราะน้องสาวที่อายุน้อยกว่าเธอ 2 ปี ลู่ฉี อยากจะเป็นนักแสดง ลู่ฉีหยวน พ่อแท้ๆผู้ให้กำเนิดของลู่ม่าน ได้ร่วมลงทุนในบริษัทผลิตภาพยนตร์เพื่อสนับสนุนลู่ฉี อีกทั้งเขายังกลัวว่าลู่ฉี “ผู้ใสซื่อ” จะพ่ายแพ้ในการแข่งขันอันซับซ้อนของวงการบันเทิง ดังนั้น ลู่ฉีหยวนจึงบังคับลูกสาวในสายเลือดของเขา ลู่ม่าน ซึ่งในเวลานั้นกำลังเรียนออกแบบแฟชั่นอยู่ ให้ลาออกจากโรงเรียนเพื่อเป็นผู้ช่วยของลู่ฉี อันที่จริง ทุกคนในบริษัทต่างเข้าใจว่าลู่ฉีเป็นลูกสาวเพียงคนเดียวของตระกูลลู่ และไม่รู้ว่า ลู่ม่าน ก็เป็นลูกสาวของตระกูลลู่เช่นกัน
น่าขัน แม้ว่าเธอจะเป็นลูกสาวแท้ๆของตระกูลลู่ ลูกในสายเลือดของลู่ฉีหยวน แต่ลู่ฉี คนที่เข้าสู่ตระกูลลู่เพราะแม่ของเธอนั้นแต่งเข้าตระกูล กลับได้รับการปฏิบัติราวกับเป็นทายาทที่แท้จริงของตระกูล
แต่เธอไม่เคยใส่ใจกับเรื่องนี้ เพราะเธอยังต้องรักษาแม่ของเธอที่เจ็บป่วย ถ้าเธอเอาแต่โกรธเคืองเรื่องนี้ แม่เธอจะเป็นยังไง?
ผู้ชายที่กำลังนอนอยู่บนพรมนี้ เป็นผู้กำกับที่มีชื่อเสียงอย่างมากคนหนึ่ง ลู่ฉีต้องการจะเป็นนางเอกของภาพยนตร์ของเขาและมาที่ห้องพักนี้เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับบทบาท
นัดเจอกันในห้องพักโรงแรมเช่นนี้ จะมีการพูดคุยอะไรได้อีกนอกเสียจาก.....?
ลู่ฉีเข้าใจดี แม้แต่ลู่ฉีหยวนก็ไม่มีอำนาจมากพอจะขอร้องจากผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ แม้ตระกูลลู่จะร่ำรวย แต่พวกเขาก็ยังขาดผู้หนุนหลังในแง่สถานะทางสังคม
ลู่ฉีเรียกลู่ม่านเข้าร่วมประชุมนี้ด้วยเช่นกัน แต่ผู้กำกับนั้นแทบไม่พูดอะไรเลย เขาเริ่มสัมผัสลู่ฉีอย่างถือวิสาสะ ทั้งยังต้องการตัวลู่ม่านอีกด้วย ลู่ฉีจึงตัดสินใจให้ลู่ม่านอยู่สร้างความบันเทิงแก่ผู้กำกับ โดยที่ตัวเธอจะออกไปก่อน
แน่นอน ลู่ม่านไม่ยินยอม เธอขืนตัวและพยายามผลักลู่ฉีเพื่อให้ยอมปล่อยตัวเธอออกไป ลู่ฉีคว้าโคมไฟที่อยู่บนโต๊ะและฟาดเข้าไปที่หัวของลู่ม่าน ทำให้ลู่ม่านหมดสติไป
เมื่อเธอเหวี่ยงโคมไฟไปรอบๆ ลู่ฉีดันใช้โคมไฟที่แตกเป็นเศษแหลมคมนั้น บาดคอผู้กำกับอย่างไม่ตั้งใจ ส่งผลให้เลือดไหลออกมาทันที
ลู่ม่านหันมองนาฬิกา ก่อนจะนึกได้ว่า เธอเหลือเวลาราวสองนาทีเท่านั้น ก่อนจะมีคนเข้ามาและจับตัวเธอ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของฝันร้าย
เธอต้องหนี!
ขณะที่ลู่ม่านกำลังจะปีนออกไปทางหน้าต่าง เธอได้เหลือบไปเห็นโคมไฟเจ้าปัญหาที่ล้มอยู่ข้างๆเธอ
ในชาติก่อน ลู่ฉีใช้ช่วงที่เธอหมดสติไปเช็ดลายนิ้วมือของตัวเองออกและเปลี่ยนให้เป็นลายนิ้วมือของลู่ม่าน และในชาติก่อนเธอไม่ได้ฟื้นขึ้นมาเร็วขนาดนี้ แม้ว่าพนักงานของโรงแรมจะเข้ามาในห้องแล้ว เธอก็ยังคงไม่ได้สติและโคมไฟที่อยู่ในมือเธอถือเป็นหลักฐานอย่างดีว่า เธอได้ทำร้ายผู้กำกับ
คราวนี้ ลู่ม่านไม่พลาดที่จะทำความสะอาดลายนิ้วมือของเธอบนโคมไฟและสำรวจโดยรอบอย่างระมัดระวังเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีเส้นผมของเธอเหลืออยู่แม้แต่เส้นเดียว
เมื่อเวลาเหลือเพียงไม่ถึงนาที เธอก็ปีนออกไปทางหน้าต่างอย่างรวดเร็ว
*******************************
สวัสดีค่ะ นี่เป็นผลงานแปลเรื่องแรกอย่างจริงจังของเรา ภาษาอาจจะไม่สวยนัก แต่จะพยายามพัฒนาต่อไปเรื่อยๆค่ะ