539 - อสูรโบราณที่หลุดจากการจองจำ
539 - อสูรโบราณที่หลุดจากการจองจำ
"มอบเมล็ดพันธุ์กิเลนม่วงมา เจ้าแพ้แล้ว”
"ชัยชนะปรากฏขึ้นอย่างชัดเจน พวกเจ้าเลิกลีลาและมอบสมบัติมาเดี๋ยวนี้”
ทายาทของตระกูลขุนนางโบราณเริ่มส่งเสียงกดดันอีกครั้ง
“ไร้สาระ!”
เสียงเย็นชาสั่นสะเทือนจิตวิญญาณของทุกคนดังขึ้น นักพรตมังกรแดงก้าวไปข้างหน้าและมองดูผู้คนจากตระกูลขุนนางโบราณด้วยสีหน้าเย็นชา
“หากพวกเจ้ายังคงทำตัวดื้อด้านเช่นนี้ พวกเจ้าก็อยู่เป็นวิญญาณเฝ้าที่นี่ก็แล้วกัน!”
คำพูดของนักพรตมังกรแดงนั้นเป็นการข่มขู่อย่างชัดเจน
ทุกคนหวาดกลัวจนตัวแข็ง นักพรตมังกรแดงมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับกู่เฟิงอย่างแน่ชัด แม้แต่อันเหมียวอี้ เหยาเยว่กงและ บุตรศักดิ์สิทธิ์อื่นๆ ก็ยังตกใจในเรื่องนี้
ใบหน้าของหนานกงจี้และคนอื่นๆเปลี่ยนเป็นสีขาว พวกเขาพยายามขอความช่วยเหลือจากผู้อาวุโสระดับปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์หลายคน
แต่สิ่งที่พวกเขาได้รับกลับมีเพียงสีหน้าดูถูกเหยียดหยาม
"พวกเราเป็นฝ่ายพ่ายแพ้จริงๆ" หนานกงจี้ก้มศีรษะยอมรับความพ่ายแพ้
เมื่อนักพรตมังกรแดงอยู่ที่นี่ผู้ใดจะกล้าปฏิเสธคำพูดของเขา ต่อให้พวกเขาได้รับชัยชนะจริงๆพวกเขาก็ไม่กล้าส่งเสียงอยู่แล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงผลแพ้ชนะที่ทุกคนต่างก็ประจักษ์ตั้งแต่แรก
“ขอบคุณผู้อาวุโส!” เย่ฟ่านประสานมือโค้งคำนับ
นักพรตมังกรแดงพยักหน้าแล้วเหลือบมองทุกคนด้วยสายตาที่เฉียบแหลมก่อนจะกล่าวว่า
"ถ้าผู้ใดไม่พอใจในคำตัดสินนี้ก็ให้ปรมาจารย์ของพวกเจ้ามาถกเหตุผลกับนักพรตผู้น่าสงสารด้วยตัวเอง”
เมื่อคำพูดเหล่านี้ออกมาทุกคนก็สูดลมหายใจเย็นเยือก หากมีอสูรโบราณที่น่ากลัวคนนี้ปกป้อง จะมีผู้ใดกล้าหาเรื่องพวกเย่ฟ่านอีก
“กู่เฟิงเจ้าเอาชนะปรมาจารย์ศิลปะต้นกำเนิดและกลายเป็นคนมีชื่อเสียงในคราวเดียว เจ้าต้องการคนช่วยดูแลต้นกำเนิดหลายล้านจินหรือไม่ พี่สาวคนนี้สามารถช่วยเหลือเจ้าได้” อันเหมียวอี้ส่งเสียงหยอกเย้าอย่างลับๆ
แม้ว่าบุคคลระดับบุตรศักดิ์สิทธิ์จะหยิ่งหยิ่งผยองไม่เห็นผู้ใดอยู่ในสายตา แต่กับเย่ฟ่านที่จะกลายเป็นปรมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์ในอนาคต พวกเขาต่างก็ยกย่องว่าเป็นบุคคลระดับเดียวกันแล้ว
“แครง”
จู่ๆเสียงระฆังปราศจากจุดเริ่มต้นก็ดังขึ้นอีกครั้ง!
ในขณะเดียวกันเมืองศักดิ์สิทธิ์ก็เกิดการสั่นสะเทือนเล็กน้อย ผู้คนมากมายต่างก็ใบหน้าซีดขาว หรือว่าสถานการณ์ในภูเขาสีม่วงปรากฏผลลัพธ์ขึ้นแล้ว
“โฮก!”
ทันใดนั้นก็มีเสียงคำรามที่น่ากลัวดังขึ้นมาพร้อมกันกับเสียงระฆัง
"เกิดอะไรขึ้น?"
ทุกคนใบหน้าเปลี่ยนสี พวกเขารู้ดีว่าเสียงคำรามที่น่ากลัวขนาดนี้จะต้องไม่ได้มาจากปากของอสูรผู้ยิ่งใหญ่ของดินแดนรกร้างตะวันออกอย่างแน่นอน
"โฮก!"
เสียงคำรามเขย่าท้องฟ้าและทำให้ผู้คนหวาดผวาถึงขีดสุด
“เกิดอะไรขึ้นกันแน่” ผู้ฝึกตนหลายคนประหลาดใจ
“แย่แล้ว! อสูรโบราณหลุดออกมาจากภูเขาสีม่วง!” มีเสียงกรีดร้องดังออกมาจากระยะไกล
"ภูเขาสีม่วงถูกทำลาย อสูรโบราณนับหมื่นหลุดออกมาแล้ว!"
เสียงคำรามดังกึกก้องทั่วท้องฟ้า ในเวลาไม่นานประตูมิติมากมายก็เปิดขึ้นที่ด้านบนของเมืองศักดิ์สิทธิ์และผู้อาวุโสที่แก่ชราหลายคนก็ปรากฏตัวขึ้นในสภาพที่น่าสังเวช
เสียงระฆังจากภูเขาสีม่วงข้ามผ่านความว่างเปล่า ในขณะเดียวกันสิ่งมีชีวิตโบราณมากมายก็เดินทางผ่านประตูมิติเข้าสู่เมืองศักดิ์สิทธิ์โดยตรง!
โฮก!
เสียงกรีดร้องด้วยความกลัวดังขึ้นทั่วทั้งเมืองศักดิ์สิทธิ์ ผู้คนมากมายเต็มไปด้วยความตื่นตระหนกและหนีตายกันอย่างอลหม่าน
“พวกคนแก่เหล่านั้นทำอะไรกับภูเขาสีม่วง?”
หลายคนคำรามด้วยความโกรธ แต่ในห้วงความเป็นความตายเช่นนี้พวกเขาทําได้เพียงแค่หลบหนีออกจากความวุ่นวายให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้
“ปัง!”
รัศมีสังหารพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า คลื่นกระแทกจากการปะทะกันของพลังสองชนิดนั้นมาจากการกระทำของปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์คนใดคนหนึ่งอย่างไม่ต้องสงสัย
“พวกมันมีความแข็งแกร่งถึงขนาดนี้เชียวหรือ”
ใบหน้าของผู้คนมากมายซีดเผือด ตัวตนระดับราชันย์ศักดิ์สิทธิ์ต่างก็ไม่สามารถอยู่เฉยๆ พวกเขาหยิบอาวุธของตัวเองออกมาพร้อมกับบินขึ้นสู่ท้องฟ้าอย่างรวดเร็ว
“คลืน!”
ทันใดนั้นความว่างเปล่าก็สั่นไหวเนื่องจากพลังศักดิ์สิทธิ์อันน่ากลัวที่พุ่งมาจากทิศตะวันตก
เพียงชั่วพริบตามือขนาดยักษ์ที่เต็มไปด้วยเกล็ดสีเขียวก็ตัดผ่านความว่างเปล่าก่อนที่จะกระแทกเข้าใส่กำแพงเมืองศักดิ์สิทธิ์อย่างรุนแรง
“ปัง!”
ในเมฆที่มืดมิดนั้น กรงเล็บขนาดใหญ่ที่ปกคลุมไปด้วยเกล็ดสีเขียวทำลายส่วนหนึ่งของเมืองศักดิ์สิทธิ์อย่างราบคาบ ไม่มีผู้ใดทราบว่าการโจมตีเมื่อสักครู่นี้เกิดความสูญเสียมากเท่าใด
“พัฟ!”
สีหน้าของผู้คนเต็มไปด้วยความหวาดผวา ยอดฝีมือรุ่นอาวุโสหลายสิบคนที่พยายามต่อต้านมือข้างนั้นร่างกายแหลกละเอียดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยภายใต้การโจมตีเพียงครั้งเดียว
“นั่นมันตัวอะไรกันแน่!”
ต้องเข้าใจว่าเหล่าผู้อาวุโสหลายคนที่เสียชีวิตเมื่อสักครู่นั้นล้วนเป็นยอดฝีมือระดับผู้สูงสุด
สิ่งที่สามารถฆ่าพวกเขาได้ในการโจมตีเพียงครั้งเดียวหรือว่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตอมตะซึ่งผู้คนจากดินแดนรกร้างตะวันออกไม่เคยเห็น?
“ปัง!”
กรงเล็บขนาดใหญ่กดลงมาอีกครั้งโดยที่ไม่มีผู้ใดสามารถหยุดมันได้ ยอดฝีมือหลายสิบคนล้มลงกลางอากาศ ทันทีที่มันกวาดผ่านทุกชีวิตที่ขวางทางจะแหลกละเอียดกลายเป็นหมอกเลือด
“เจิ้ง เจิ้ง”
เสียงพิณโบราณดังขึ้นจากทิศใต้ของเมือง เมื่อผู้คนเหลือบมองไปก็เห็นหญิงสาวคนหนึ่งที่นั่งอยู่บนก้อนเมฆ นางกำลังเล่นเครื่องดนตรีบางอย่างที่มีลักษณะคล้ายพิณ
แต่ทุกครั้งที่เสียงดนตรีของนางดังขึ้น มันจะมีลำแสงสีทองขนาดใหญ่ที่ถูกยิงออกมา และพลังของมันก็กวาดเข้าหาเมืองศักดิ์สิทธิ์โดยไม่สนใจว่าเป้าหมายนั้นจะเป็นมนุษย์หรือสัตว์อสูรจากภูเขาสีม่วง
“พัฟ”, “พัฟ”, “พัฟ...”
ศพที่ร่วงลงมานั้นมีทั้งสัตว์อสูรและมนุษย์ทำให้สถานที่อันกว้างใหญ่ในทิศใต้ของเมืองศักดิ์สิทธิ์ไม่มีผู้ใดกล้าผ่านเข้าไป!
“ปัง!”
หลังจากนั้นไม่นานพลังปราณสีม่วงก็พุ่งสูงขึ้นทางทิศตะวันออก กลิ่นอันทรงพลังของมันเหมือนกับหินหลอมเหลวสีม่วงที่พุ่งพล่านก่อนจะครอบคลุมทั่วทั้งทิศตะวันออกของเมืองทั้งหมดในเวลาเพียงเสี้ยวลมหายใจ
“ปัง!”
ในขณะนี้มือยักษ์สีม่วงได้กดลงมาอย่างรุนแรง ขนาดที่ใหญ่โตมโหฬารของมันแทบจะบดขยี้ฝั่งตะวันออกของเมืองศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดในการโจมตีเพียงครั้งเดียว
“อา...”
ผู้คนหลายล้านถูกฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยม เสียงกรีดร้องดังขึ้นเพียงชั่วขณะก่อนที่ทุกอย่างจะเงียบสนิทในทันที!
“ราชันย์ศักดิ์สิทธิ์ของพวกเรามาแล้ว!”
มีเสียงตะโกนโห่ร้องดังขึ้นจากผู้คนที่รอดชีวิต ในตอนนี้ราชันย์ศักดิ์สิทธิ์ของตระกูลเจียงและตระกูลจี้ได้พุ่งเข้าหามือยักษ์สีม่วงโดยไม่หวั่นเกรงต่อความตาย!
โครม โครม!!!!
แต่ทันทีที่เกิดการปะทะใบหน้าของทุกคนก็เปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง ในตอนนี้ราชันย์ศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองถูกฝ่ามือสีม่วงขนาดใหญ่ตบกระเด็นออกจากเมืองศักดิ์สิทธิ์โดยไม่ทราบชะตากรรม!
“นั่นเป็นราชาอมตะในตำนานหรือไม่!”