บทที่ 620 หามัน!(ตอนฟรี)
บทที่ 620 หามัน!
คืนนั้น หวังหู่และหวังซินไม่ได้กลับไปที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ภายใต้การจัดการของจี้เฟิง เขาได้แนะนำให้ทั้งสองคนพักที่หอพักพนักงานของโรงงานเถิงเฟยเป็นการชั่วคราว และทั้งหมดนั่นเป็นเพราะจี้เฟิงได้ยินคำว่า ‘หวางฉาว’ จากปากของหวังซินในตอนที่เขาถามเธอเกี่ยวกับแก๊งแบล็กเมล์ออนไลน์ที่เธอเข้าร่วม
จี้เฟิงตกตะลึงในทันที แก๊งแบล็กเมล์ออนไลน์นี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับหวางฉาวได้อย่างไร?
องค์กรลับใต้ดินหวางฉาว... แพร่หลายไปทั่วเลยจริงๆ!
ด้วยความระมัดระวังจี้เฟิงจึงไม่อยากพูดถึงหวางฉาวต่อหน้าหวังหู่และหวังซินในตอนนั้น เขามาถามหวังซินอย่างละเอียดอีกครั้งในตอนค่ำ
“บอส! หวางฉาวอะไรนี่มีความสำคัญต่อคุณหรือเปล่า?” เมื่อเห็นการแสดงออกอย่างระมัดระวังของจี้เฟิง หวังซินก็อดไม่ได้ที่จะถามด้วยความสงสัย
จี้เฟิงส่ายหัวเล็กน้อยและพูดว่า “ฉันไม่สามารถพูดได้ว่ามันเกี่ยวข้องกันฉันในตอนนี้มั้ย... แต่มันมีลางสังหรณ์แปลกๆอยู่เสมอเวลาที่ได้ยินชื่อหวางฉาว ฉันรู้สึกว่าการได้รู้ข้อมูลของหวางฉาวให้ได้มากที่สุดจะเป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับฉัน!”
ทันใดนั้นหวังซินก็พูดด้วยความเสียใจว่า “บอส ฉันต้องขอโทษจริงๆ ความจริงแล้วฉันแค่ได้ยินการพูดคุยของคนอื่นมาอีกที แล้วก็ได้ยินชื่อหวางฉาว...
หลังจากฟังคำอธิบายของหวังซิน จี้เฟิงก็เข้าใจแล้วว่าทำไมหวังซินถึงรู้ชื่อหวางฉาว
ปรากฏว่าก่อนหน้านี้ชื่อ WX มีบทบาทอย่างมากบนโลกอินเทอร์เน็ต แต่ในตอนนั้นชื่อ WX จะปรากฏเฉพาะในฟอรั่มแฮ็กเกอร์และฟอรั่มอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์เท่านั้น และจะใช้ความสามารถในการแก้ไขปัญหาเพื่อแลกกับรางวัลเป็นการสร้างรายได้และเป็นกองทุนให้กับสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า
และแก๊งแบล็กเมล์ออนไลน์ได้ติดต่อหวังซินในฟอรั่มของเธอเพื่อขอให้เธอช่วยโจมตีเซิร์ฟเวอร์หลายแห่ง ในเวลานั้นหวังซินต้องการเงินจำนวนมากเพื่อช่วยเหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า หลังจากลังเลและเก็บไปครุ่นคิดอยู่วันสองวัน หวังซินก็ตอบตกลง
แต่หวังซินนั้นมีเงื่อนไขอยู่อย่างหนึ่ง นั่นก็คือเธอจะไม่ไปพบอีกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นระหว่างปฏิบัติงานหรือหลังจบงานแล้วก็ตาม การทำข้อตกลงหรือการติดต่อสื่อสารทุกอย่างจะต้องทำผ่านอินเทอร์เน็ตเท่านั้น ส่วนสาเหตุที่เธอยื่นเงื่อนไขไปแบบนี้เพราะเธอไม่ต้องการนำสิ่งที่ไม่จำเป็นและอาจจะก่อปัญหาไปยังสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า
และเป็นเพราะความคิดนี้เอง หวังซินได้สร้างมาตรการป้องกันบางอย่าง เธอเจาะเข้าไปในไฟล์วอลล์ของอีกฝ่าย และใช้แบล็กดอร์(ประตูหลัง)*คอยฟังการสนทนาของอีกฝ่ายในที่ทำงาน!
“ผู้คนที่นั่นดูเหมือนจะเป็นคนที่หมกมุ่นด้านคอมพิวเตอร์เหมือนกับฉัน พวกเขาทั้งหมดเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์ที่ชอบท่องไปตามฟอรั่มของแฮ็กเกอร์ คนเหล่านี้ถูกสั่งการโดยใครบางคนเพื่อสร้างความหายนะบนอินเทอร์เน็ต มีการโจมตีบริษัทผ่านทางเครือข่ายบางแห่งทำให้ตำรวจเจียงโจวและผู้เชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์บางคนทำอะไรไม่ถูก!
หวังซินรู้ตัวดีว่าปกติแล้วบุคลิกของเธอค่อนข้างจะเก็บตัวและไม่ค่อยพูด เธอเชื่อว่าถ้าไม่ใช่จี้เฟิงเป็นคนถาม เธอจะไม่พูดมากขนาดนี้ “ตอนนั้นฉันกังวลว่าอีกฝ่ายอาจจะมีเจตนาร้ายกับฉัน ดังนั้นหลังจากการโจมตีครั้งแรกบนเซิร์ฟเวอร์ร่วมกัน ฉันจึงเปิดแบล็กดอร์เข้าสู่ไฟร์วอลล์ของพวกเขา และพวกเขาก็หามันไม่พบ!”
จี้เฟิงอดไม่ได้ที่จะยิ้ม เพราะแบบนี้ เซียนคอมพิวเตอร์จำนวนมากถึงหาไม่เจอ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าระดับฝีมือของหวังซินสามารถจัดการเรื่องบางเรื่องภายใต้จมูกของพวกเขาได้อย่างง่ายดาย
“แล้วเธอก็ได้ยินชื่อหวางฉาวในตอนนั้น?!” จี้เฟิงถาม
“ไม่ หลังจากการโจมตี ทุกคนต่างก็แยกย้ายไป แต่มีหนึ่งคนที่ยังอยู่ ดูเหมือนเขาจะดูข้อมูลที่คัดลอกมาจากเซิร์ฟเวอร์ของบริษัทเครือข่ายแห่งหนึ่ง เขาโทรหาใครบางคน แต่ลักษณะการคุยเหมือนเป็นการรายงานมากกว่า!” หลังจากที่เขาวางหูโทรศัพท์ เขาเหมือนพึมพำกับตัวเอง ซึ่งตอนนั้นแหละที่เขากล่าวถึงหวางฉาว!”
“อย่างนี้นี่เอง!”
จี้เฟิงพยักหน้าอย่างครุ่นคิด แต่หัวใจของเขารู้สึกหนักอึ้งขึ้นเล็กน้อย เงาของหวางฉาวโผล่ขึ้นมาอีกแล้ว! ตั้งแต่ที่เขากลับมาเจียงโจว จี้เฟิงไม่ได้ตั้งใจที่จะสืบค้นเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้อีก หลังจากเรื่องทั้งหมดที่ผ่านมา เขารู้แล้วว่าเบื้องบนรับทราบเรื่องหวางฉาวอยู่แล้ว และพวกเขาก็คงมีมาตรการรับมือบางอย่างเอาไว้บ้างแล้ว
อย่างไรก็แล้วแต่ เงาของหวางฉาวเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ และมักจะเจออยู่เรื่อย ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม ซึ่งทำให้จี้เฟิงรู้สึกหมดหนทางมาก
“บอส หวางฉาวนี่เป็นชื่อของผู้หญิงคนหนึ่งใช่มั้ย?” หวังซินถามยิ้มๆ ในความคิดของเธอ สิ่งเดียวที่ทำให้เจ้านายของเธอประหม่าได้น่าจะเป็นสาวๆอย่างแน่นอน เพราะขนาดเมื่อเช้า ที่สถานีรับซื้อขายของเก่า มีทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่บริหารเมืองจำนวนมาก ก็ไม่เห็นเขาจะแสดงอาการประหม่าใดๆออกมาเลย
“ผู้หญิง?!” จี้เฟิงตกใจ จากนั้นเขาก็หัวเราะและส่ายหัว “ไม่ใช่หรอก หวางฉาวไม่ได้เป็นชื่อของคนๆหนึ่ง แต่มันก็ทำให้ฉันเป็นกังวลจริงๆนั่นแหละ...”
“ไม่ใช่คนเหรอ?” หวังซินไม่เข้าใจคำพูดของจี้เฟิง ความเข้าใจที่แตกต่างทำให้ตีความในคำๆเดียวแตกต่างกัน
“เธอควรจะพักผ่อนแต่หัววันนะ และฉันก็ควรจะกลับได้แล้วด้วย!” จี้เฟิงยืนขึ้นและพูดด้วยรอยยิ้ม “สิ่งที่เราคุยกันวันนี้ อย่าบอกใครเด็ดขาดนะ เข้าใจมั้ย?!”
“อ่า..”
หวังซินดูเหมือนจะตระหนักถึงบางสิ่งบางอย่างจากการแสดงออกของจี้เฟิง เธอจึงพยักหน้า “เข้าใจแล้วบอส!”
จี้เฟิงยิ้มเล็กน้อยและผายมือเป็นท่าเชิญ และทั้งสองคนก็เดินออกจากสำนักงาน ทันใดนั้นพวกเขาก็เห็นว่าท้องฟ้ามืดแล้ว เพราะแม้แต่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของโรงงานก็เริ่มเปิดไฟฉายพร้อมกับเดินลาดตระเวนแล้ว....
“บอส!” จู่ๆ หวังซินก็ตะโกน
“หือ?!” จี้เฟิงตอบด้วยท่าทีสบายๆ “มีอะไรเหรอ?”
“จำที่ฉันบอกคุณเกี่ยวกับผู้เชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์เหล่านั้นได้มั้ย ที่มีคนหนึ่งโทรไปหาใครบางคน มานึกๆดูตอนนี้ ดูเหมือนว่าเขากำลังมองหาอะไรบางอย่างอยู่ แต่ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขากำลังมองหาอะไรกันแน่!” หวังซินกล่าวอย่างลังเล
“เธอว่าไงนะ?!” จี้เฟิงตกใจ “เขามองหาอะไรบางอย่างอยู่งั้นเหรอ?!”
“ดูเหมือนว่าจะเป็นแบบนั้น แต่ฉันก็ไม่แน่ใจนะ!” หวังซินพยักหน้าเล็กน้อยและพูดว่า “ตอนที่ฉันแอบฟัง ฉันได้ยินเขาพูดขึ้นมาประโยคหนึ่งว่า ‘ยังหามันไม่เจอ’ นอกจากนั้นฉันก็ฟังไม่ได้ศัพท์เลย เพราะมันมีแต่คำว่า ‘อืมๆ’ ‘เข้าใจแล้วๆ’ มันไม่น่าจะมีประโยชน์อะไร และหลังจากนั้นฉันก็ไม่ได้ยินเขาพูดถึงมันอีก!”
จี้เฟิงยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น คิ้วของเขาขมวดเข้าหากันท่าทางเคร่งเครียด
คนในหวางฉาวกำลังมองหาอะไรบางอย่าง...
พวกเขากำลังมองหาอะไรกันแน่?
“มีอะไรหรือเปล่าคะบอส?” หวังซินจ้องมองจี้เฟิงที่จู่ๆก็มีใบหน้าที่เคร่งเครียด ดูเหมือนว่าตั้งแต่เธอพูดถึงหวางฉาว จี้เฟิงก็ดูแปลกไปมาก
“อ่า..”
จี้เฟิงยิ้มเล็กน้อยและพูดว่า “ไม่มีอะไรหรอก ฉันแค่นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้น่ะ จำสิ่งที่ฉันบอกเธอได้มั้ย อย่าบอกใครว่าคืนนี้เราพูดคุยเรื่องอะไรกัน โดยเฉพาะคนใกล้ตัว ไม่ใช่ว่าเราไม่ไว้ใจเขา แต่อะไรๆก็ไม่แน่นอนทั้งนั้น จำได้มั้ย?”
แม้ว่าหวังซินจะรู้สึกแปลกๆในใจ แต่เธอก็พยักหน้าอย่างหนักแน่น เธอรับรู้ได้อย่างชัดเจนว่าสิ่งที่จี้เฟิงบอกและกำชับขนาดนี้ต้องเป็นเรื่องที่สำคัญมากอย่างแน่นอน
“ไปกันเถอะ!” จี้เฟิงยิ้มและไม่พูดถึงเรื่องนี้อีก
หลังจากส่งหวังซินกลับไปที่หอพักพนักงานของโรงงานผลิตยาเถิงเฟย จี้เฟิงก็ขับรถกลับไปที่วิลล่าของเขา ตอนนี้เป็นเวลาสองทุ่มกว่าแล้ว เขาคิดว่าหยูซวนกับเล่ยเล่ยน่าจะรอเขาอยู่ที่วิลล่าแล้ว
อากาศในยามค่ำคืนของเดือนพฤษภาคมยังคงเย็นอยู่เล็กน้อย จี้เฟิงลดกระจกลง มือซ้ายของเขาเคาะไปบนขอบหน้าต่างรถเป็นครั้งคราว คิ้วของเขาขมวดเข้าหากันดูเหมือนว่าเขาจะคิดอะไรบางอย่างอยู่
อันที่จริง สิ่งที่หวังซินเล่าในวันนี้ ทำให้จี้เฟิงตระหนักในทันทีว่าแก๊งแบล็กเมล์ออนไลน์ดูเหมือนจะห่างไกลจากความเรียบง่ายมากกว่าที่เขาคิด
แน่นอนว่าเรื่องนี้จบไปแล้ว และนั่นก็เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะคอยดูแลคดี
แต่เมื่อสิ่งต่างๆมีหวางฉาวเข้ามาเกี่ยวข้อง จี้เฟิงก็ไม่สามารถผ่อนคลายได้
ยิ่งกว่านั้น ตามที่หวังซินบอก หวางฉาวเป็นผู้อยู่เบื้องหลังคอยจัดการให้คนเหล่านั้นโจมตีบริษัทเครือข่ายของเจียงโจว ราวกับว่าพวกเขากำลังมองหาอะไรบางอย่าง? พวกเขากำลังมองหาอะไร?
หลังจากพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้ว จี้เฟิงก็ตัดสินใจที่จะยังไม่โทรบอกเรื่องนี้กับใคร เขาตัดสินใจที่จะคอยดูท่าทีไปก่อน ตอนนี้เขามีหยางหยูและหวังซินอยู่ภายใต้คำสั่งของเขา ตราบใดที่คนของหวางฉาวปรากฏตัวทางอินเทอร์เน็ต จี้เฟิงมั่นใจมากว่าคนพวกนั้นจะไม่สามารถหนีพ้นสายตาของสองคนนี้ไปได้อย่างแน่นอน
แม้ว่าระหว่างจี้เฟิงและหวางฉาวจะไม่ได้มีความบาดหมางกันมากนักในตอนนี้ แต่มีสิ่งหนึ่งที่จี้เฟิงมั่นใจ ในไม่ช้านี้หวางฉาวจะต้องคุกคามมาถึงเขาแน่!
ภายใต้สถานการณ์เหล่านี้ จี้เฟิงจะไม่นิ่งนอนใจแน่นอน ดังคำกล่าวที่ว่า เริ่มก่อนได้เปรียบ! จี้เฟิงตัดสินใจที่จะเริ่มเตรียมการอย่างลับๆ ก่อนที่หวางฉาวจะตระหนักถึงตัวเขา เขาจะสร้างสิ่งกีดขวางเพื่อสนองเจตนาร้ายของอีกฝ่ายอย่างเต็มที่!
กล่าวโดยสรุปก็คือ มีพื้นฐานอยู่บนหลักการเดียว ไม่ว่าหวางฉาวต้องการจะทำอะไรก็ตาม ก็มักจะมีอุปสรรคโผล่ขึ้นมาให้สะดุดอยู่เสมอ และอาจจะถูกลอบทำร้ายโดยไม่รู้ตัวคนทำ แม้ว่าอีกฝ่ายอยากจะจัดงานวันเกิด เขาก็จะทำให้มันกลายเป็นงานศพซะ!
จี้เฟิงหยิบโทรศัพท์มือถือของเขาออกมาทันทีและส่งข้อความถึงหวังซิน < “ห้ามเปิดเผยตัวตนและห้ามบอกเรื่องนี้กับใคร ให้พยายามตามหาแก๊งแบล็กเมล์ออนไลน์ที่คล้ายกันบนอินเทอร์เน็ตและพยายามหาคนของหวางฉาว!”>
“Rrrrr~!”
จี้เฟิงเพิ่งส่งข้อความเสร็จ ก่อนที่เขาจะเก็บโทรศัพท์ เขาก็เห็นสายเรียกเข้าจากเจิ้งหยวนซาน
เขากดรับสายทันที “ครับอาเจิ้ง!”
“จี้เฟิง แก๊งแบล็กเมล์ออนไลน์ที่ถูกจับเมื่อคืนเกือบถูกฆ่าปิดปากแล้ว โชคดีที่มันถูกค้นพบได้ทันเวลา เลยไม่มีใครเสียชีวิต... เธอต้องใส่ใจในความปลอดภัยของเสี่ยวหยางและคนอื่นๆให้ดี!” เสียงของเจิ้งหยวนซานเคร่งขรึมมาก และเขาก็วางสายทันทีที่พูดจบ
“เอี๊ยดดดด—!”
จี้เฟิงเหยียบเบรกกะทันหัน และรีบจอดรถที่ข้างถนนอย่างรวดเร็ว ใบหน้าของเขามืดมนลง
เขาจุดบุหรี่ตามความเคยชินและสูบมันอย่างช้าๆ
“ในอดีต หวางฉาวเคยใช้นักฆ่าโดยตรง และมีคนที่อยู่เบื้องบนรู้ถึงการดำรงอยู่ของหวางฉาว ซึ่งหมายความว่าหวางฉาวถูกเปิดโปงมานานแล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงกระทำการอย่างอุกอาจไร้ความปรานี และไม่จำเป็นต้องทำมันอย่างเงียบๆ!” จี้เฟิงคิดอยู่ในใจ “ยิ่งไปกว่านั้น ที่หวังซินบอกว่าผู้เชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์เหล่านั้นได้รับคัดเลือกทางอินเทอร์เน็ต และพวกเขาก็ไม่น่าจะรู้เรื่องอะไรมาก ดังนั้นก็ไม่เห็นจำเป็นจะต้องปิดปากพวกเขา...”
“เว้นเสียแต่ว่า... หวางฉาวจะกลัวคนอื่นจะรู้ว่าพวกเขากำลังมองหาอะไร.. หืม?!” จี้เฟิงคาดเดาสิ่งที่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุด “ดังนั้นสิ่งที่หวางฉาวกำลังมองหาอยู่นั้นมันจะต้องเป็นอะไรที่สำคัญมาก อย่างน้อยก็สำหรับองค์กรหวางฉาว!”
ปัง—!
จี้เฟิงตบพวงมาลัยและกัดฟัน “หามัน! ไม่ว่าพวกหวางฉาวมันกำลังมองหาอะไร ฉันจะต้องหามันให้เจอก่อนอีกฝ่ายให้ได้!”
…จบบทที่ 620~❤️
Backdoor หรือ ประตูหลัง ในทางคอมพิวเตอร์ หมายถึง รูรั่วของระบบรักษาความมั่นคงที่ผู้ออกแบบหรือผู้ดูแลจงใจทิ้งไว้ โดยเป็นกลไกลับทางซอฟต์แวร์หรือฮาร์ดแวร์ที่ใช้ข้ามผ่านการควบคุมความมั่นคง เพื่อเปิดทางให้ผู้ไม่ประสงค์ดีสามารถเข้ามาในระบบและก่อความเสียหายได้