ตอนที่ 9 ซอมบี้ที่หลงเข้ามา(อ่านฟรี)
ตอนที่ 9 ซอมบี้ที่หลงเข้ามา
ลูอิสกลับมานอนลงข้างแอนเดรีย เนื่องจากสภาพอากาศในตอนกลางคืนนั้นหนาวมาก การนอนข้างแอนเดรียทำให้เขารู้สึกอุ่นขึ้นมาก แต่ขณะที่เขาหลับตา ตอนนั้นเองก็มีการแจ้งเตือนจากระบบ
“ติ้ง!”
“พลังงานศรัทธา 30 แต้ม ผู้เล่นต้องการเก็บเกี่ยวหรือไม่”
ลูอิสเผยรอยยิ้มออกมาด้วยความยินดีในทันที เพราะคิดว่าจะไม่ได้ค่าพลังงานศรัทธาจากเจียน่าซะแล้ว
‘ดูเหมือนเธอจะเชื่อมั่นฉันขึ้นมาหลังจากให้ผลึกค่าสถานะ’ เขาไม่รอช้าสั่งให้ระบบเก็บเกี่ยวค่าพลังงานศรัทธาในทันที
...
เช้าวันต่อมาทุกอย่างยำดำเนินต่อไปตามปกติ หลังจากแต่ละครต่างกินอาหารของตนเองแล้วก็พากันเก็บของและออกเดินทางต่อในทันที การเดินทางด้วยเท้าในแต่ละวันนั้นอาจจะได้ระยะทางประมาณ 40-60 กิโลเมตร ถ้าเป็นพื้นที่ไม่ซับซ้อน แต่ส่วนใหญ่แล้วพวกเขายังต้องระวังตัวในพื้นที่อันตรายเหล่านี้
เพราะแม้ว่าอันเดดส่วนใหญ่จะปรากฏออกมาให้เห็นในตอนกลางคืน แต่ก็ใช่ว่าพวกมันจะหายไปในตอนกลางวัน กลับกันอันเดดส่วนใหญ่จะเลือกซ่อนตัวซะมากกว่า เพราะพวกมันไม่ค่อยชอบแสงแดดซักเท่าไหร่
จากการสังเกตของเขา อันเดดส่วนใหญ่จะอ่อนแอลงเมื่อเจอแสงแดด
แต่ตอนนี้ลูอิสไม่ได้สนใจพวกมันนัก เนื่องจากเขากำลังมองดูการเก็บเกี่ยวพลังงานศรัทธาของเข้าวันนี้อยู่ แอนเดรียนั้นให้พลังงานศรัทธา 100 แต้มเต็มเสมอ ส่วนพ่อบ้านนั้นไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ส่วนที่เขาสนใจคือ เด็กสาวอย่างเจียน่า
‘เมื่อวานเป็นการเก็บเกี่ยวครั้งแรก เธอให้ค่าพลังงานศรัทธามาแค่ 30 แต่วันนี้กลับเพิ่มเป็น 50 แล้ว ถ้าเป็นแบบนี้อาจจะถึง 80 และ 100 ได้ในไม่ช้าถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง’ ลูอิสยิ้มอย่างอารมณ์ดี
‘แต้มพลังงานตอนนี้มาถึง 710 แต้มแล้วมากพอจะให้ฉันอัพเลเวลได้อีกครั้ง ฮ่า ๆ ในที่สุดฉันก็ใกล้จะแข็งแกร่งขึ้นอีกแล้ว’ ลูอิสหัวเราะคิกคักออกมา ทำเอาแอนเดรียมองดูเขาด้วยความสุข
“วันนี้ลูกมีความสุขจังเลยนะ สงสัยจะมีแต่สิ่งดี ๆ เข้ามา” แอนเดรียใช้มือหยอกล้อและจี้เอวของเขา
‘เฮ้ ๆ อย่าจี้แบบนั้น แม้ฉันเมื่อก่อนจะไม่บ้าจี้ แต่ตอนนี้มัน ฮ่า ๆ ๆ บ้าเอ๊ย! ร่างกายเด็กทารกทำไมถึงไวต่อสัมผัสแบบนี้กันเนี่ย ท่านแม่ผมยอมแล้วครับ’ ทารกน้อยลูอิสดิ้นไปมาด้วยเสียงหัวเราะทำเอาบรรยากาศในงกลุ่มนั้นดีขึ้นตามไปด้วย
ซาฟหันมามองแอนเดรีย พอเห็นว่าแอนเดรียเงยหน้ามองตน ซาฟก็เผยรอยยิ้มออกมาตอบกลับไป แต่ลูอิสนั้นรู้สึกไม่ค่อยชอบซาฟสักเท่าไหร่
‘หึ รอยยิ้มนั้นอีกแล้ว หมอนี่มันคิดจะทำอะไรกันแน่’
‘เอ๊ะ! นั้นคืออะไร!!’ ทารกน้อยลูอิสเบิกตากว้าง มองออกไปบนท้องฟ้า ก่อนจะยกมือขึ้นไปมาเพื่อให้แอนเดรียมองตาม
“ลูอิสลูกกำลังมองอยูไรอยู่” แอนเดรียเงยหน้ามองตามมือของลูอิส ไม่ใช่เพราะเธอเข้าใจ แต่เธอแค่อยากรู้ว่าลูกชายในอ้อมกอดกำลังดูอะไรก็เท่านั้น แต่หลังจากที่แอนเดรียเห็นสิ่งที่ลูอิสกับลังยกมือโบกไปมาทางทิศนั้นเธอก็ต้องตกใจ
“พายุทราย” แอนเดรียพึมพำออกมาด้วยน้ำเสียงที่คนรอบข้างได้ยิน
ทุกคนหันไปมองตามแอนเดรียก็เห็นว่ามีพายุทรายลูกใหญ่กำลังพัดผ่านมาทางนี้ ซึ่งน่าจะใช้เวลาอีกไม่นานก็จะมาถึงยังที่พวกเขาอยู่
“หาที่หลบกันก่อนเร็ว” ซาฟกล่าวออกมา ก่อนที่ทุกคนจะวิ่งไปหลบยังอาคารหลังหนึ่งที่สภาพดูดีและมีพื้นที่ปิดมิดชิดให้หลบได้
...
‘นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ได้มาเห็นพายุทรายใกล้ ๆ แบบนี้ เมื่อก่อนเห็นแต่ในอันเตอร์เน็ตเท่านั้น’
‘รุนแรงเหมือนกันนะเนี่ย ขนาดว่าพายุทรายยังมาไม่ถึงนะเนี่ย’
ลูอิสมองดูและฟังเสียงของลมที่พัดผ่านอย่างสนใจ
ทุกคนต่างเข้ามาและหาที่หลบพร้อมกับมุมของตนเอง พ่อบ้านชราสำรวจรอบ ๆ และเจอจุดที่ให้แอนเดรียหลบได้อย่างปลอดภัย ก่อนจะลงมือวางข้างของทุกอย่างและจัดพื้นที่ให้นายหญิง
ส่วนเจียน่านั้นก็ช่วยพ่อบ้านเฟรดอย่างชำนาญ หลังจากจัดการเสร็จแอนเดรียก็พยักหน้าขอบใจและนั่งพักลง
“พ่อบ้านและเจียน่าก็ควรไปพักผ่อนด้วย ตอนนี้พายุทราบกำลังมาคงไม่มีอะไรให้ทำหรอก” แอนเดรียกล่าวด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง
“ข้าจะเฝ้าอยู่ทางนั้น” พ่อบ้านเฟรดกำลังจะลุกเดินออกไป แต่ตอนนั้นเองก็มีคนมาหาพวกเขา
“พ่อบ้านเฟรด ท่านมาช่วยพวกเราหน่อยได้หรือไม่” ซาฟถามขึ้นมาด้วยท่าทีร้อนใจเล็กน้อย
“เกิดอะไรขึ้น” พ่อบ้านเฟรดถาม
“มีซอมบี้เข้ามาใกล้ที่เราอยู่ เราควรจะออกไปจัดการพวกมันก่อนพายุจะถล่มเข้ามา อย่างน้อยก็น่าจะล่อพวกมันออกไปให้ไกลจากตรงนี้สักหน่อย แต่กำลังคนของเราไม่พอ อีกอย่างงานนี้ควรจะเป็นระดับครึ่งดาว ผมจะออกไปพร้อมกับคนอีกสองคนด้วย” ซาฟอธิบายพลางยกไม้ยกมือ
พ่อบ้านเฟรดขมวดคิ้วเข้าหากัน ‘ถ้าเกิดซอมบี้พวกนั้นเข้ามาที่นี่คงเป็นปัญหาแน่นอน และอีกอย่างถ้าเป็นแบบนั้นการจะหนีในพายุก็อันตรายเกินไป ควรจะรีบจัดการให้เสร็จ’
“นายหญิงระวังตัวด้วย” พ่อบ้านชราหันมาพูดกับแอนเดรีย
“อืม ข้างในนี้น่าจะปลอดภัย พ่อบ้านเองก็ระวังด้วย” แอนเดรียพยักหน้าและเตือนพ่อบ้านเฟรด
“ขอรับนายหญิง”
ขณะที่ทั้งสามคนกำลังเดินออกไปนั้น ทุกอย่างที่เกิดขึ้นก็อยู่ภายใต้สายตาของทารกน้อยลูอิส เขาสังเกตเห็นว่าทั้งสามคนที่ไปกับพ่อบ้านเฟรดนั้นดูจะร้อนใจมาก
‘ถ้าเป็นเรื่องของซอมบี้ก็พอจะเข้าใจ แต่ทำไมคนพวกนั้นถึงมองไปที่พ่อบ้านเฟรดไม่วางตาเลยละ’
‘หวังว่าจะไม่เกิดเรื่องอะไรหรอกนะ’ ลูอิสพูดใจใจคนเดียว
...
หลังจากที่พ่อบ้านเฟรดและซาฟกับพวกออกไปด้านนอกแล้ว ผ่านไปไม่นานก็มีเสียงฝีเท้าเดินมาทางประตูอาคาร ซึ่งพวกเขาช่วยกันหาอะไรมาปิดไว้
“น่าจะเป็นเสียงซาฟ ฉันจะไปเปิดให้เอง” พูดจบหนึ่งในคนในกลุ่มอพยพก็ลุกขึ้น ก่อนจะเดินไปเปิดประตูโดยไม่คิดอะไรมาก แต่แล้วพอเปิดประตูออกมาก็ต้องตกใจเพราะไม่ใช่ซาฟและพวกแต่เป็นซอมบี้ มีซอมบี้ตัวหนึ่งลงเข้ามา ก่อนที่มันจะกระโจนเข้าใส่ผู้อพยพที่ไปเปิดประตู กัดเข้าไปที่คอ บริเวณเส้นเลือดใหญ่จากนั้นก็กระชากเนื้อออกมากินในทันที
“อ๊ากกก!!!” เสียงกรีดร้องดังขึ้นมาทำให้ทุกคนที่อยู่ด้านในทุกคนรู้ว่าเกิดเรื่องขึ้นแล้ว ก่อนจะมีคนร้องตะโกนเตือนคนอื่น ๆ
ซอมบี้ที่พึ่งกัดคอคนที่ไปเปิดประตู พอสัมผัสได้ว่ายังมีเนื้อสด ๆ อีกมันจึงลุกขึ้นออกจากคนที่พึ่งฆ่าไป ก่อนจะพุ่งตรงไปยังมนุษย์คนต่อไป
“ฆ่ามันเร็ว”
“ช่วยกันจับไว้”
“อ้า...มันกัดฉัน”
ผู้อพยพที่มีกันราว 9 คนนั้นดูวุ่นวายอย่างมาก พวกเขาพยายามช่วยกันล็อกตัวและสังหารซอมบี้ แต่พลังกายของซอมบี้ก็มีมากเนื่องจากพวกมันนั้นไม่มีความรู้สึก ไม่เจ็บปวดหรือเหนื่อยล้า
“มีซอมบี้หลงเข้ามา...” แอนเดรียอุ้มลูอิสไว้ ก่อนจะแอบอยู่มุมหนึ่งของอาคารเนื่องจากตรงที่เธอพักนั้นห่างจากพวกผู้อพยพเล็กน้อย ทำให้ตอนนี้ซอมบี้ยังไม่เห็นพวกเธอ สีหน้าแอนเดรียดูกังวลอย่างชัดเจน
เจียน่าที่แอบอยู่ก็เห็นซอมบี้ด้วย มือทั้งสองสั่นด้วยความกลัว แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นก็ยังชักมีดออกมาพร้อมที่จะแทงใส่ซอมบี้ได้ทุกเวลา
“ตายซะ ตาย!!!”
ทุบไปที่หัวของซอมบี้ “”
ผู้อพยพทั้ง 8 คนช่วยกันฆ่าซอมบี้ตัวนั้นจนตาย แต่แล้วในตอนนั้นผู้อพยพที่ไปเปิดประตูและโดนกัดไปที่คอคนแรกก็ลุกขึ้นมาก่อนจะจู่โจมใส่พวกเขา และยังมีคนที่พึ่งโดนกัดไปก่อนหน้านั้นอยู่ ๆ ก็ล้มลงไปชักดิ้นน้ำลายฟูปากอยู่ที่พื้น
แผลที่โดนกัดบริเวณแขนนั้นมีของเหลวสีดำกำลังวิ่งไปตามแขน ก่อนจะกระจายไปทั่วทั้งร่างกาย
‘เฮ้ย ๆ แบบนี้มันแย่แล้ว ซอมบี้นั้นพึ่งโดนฆ่าตาย แต่คนที่โดนกัดก็กำลังกลายเป็นซอมบี้ด้วยอย่างนั้นเหรอเนี่ย!’ ลูอิสมองดูหญิงสาวผู้อพยพที่กำลังกลายร่างเป็นซอมบี้
ขณะที่ผู้อพยพคนอื่น ๆ ก็พากันถอยหลังมาทางพวกเขาด้วย
ตอนนี้ในอาคารมีคนเป็นอยู่ 11 คนและคนตายอย่างซอมบี้อยู่สองตัว
‘ฉันควรลงมือไหม บ้าจริงแบบนี้ถ้าลงมือความลับแตกแน่’ ทารกน้อยลูอิสขมวดคิ้วเข้าหากัน
‘ไม่มีทางเลือกแล้ว’ ลูอิสเตรียมจะยกมือขึ้นและใช้ทักษะ [ประกายแสงแห่งโชค lv.1] แต่ตอนนั้นเองก็มีเสียงดังขึ้น ซึ่งเป็นซาฟกับพวกอีกสองและพ่อบ้านชราที่กลับมาทันพอดี
“คนละตัว” ซาฟกล่าวก่อนจะตรงเข้าหาซอมบี้ชายอพยพที่โดนกัดคนแรก
ส่วนพ่อบ้านเฟรดนั้นตรงเข้าหาซอมบี้หญิงสาวที่พึ่งกลายร่าง ทั้งสองใช้เวลาไม่นานก็จัดการฟันพวกมันจนหัวขาดและทำลายสมองปิดฉากพวกมันอย่างสมบูรณ์
การหลงมาของซอมบี้ตัวนี้ทำให้มีคนตายไป 2 คน ซึ่งหลายคนต่างก็มีสีหน้าเคร่งเคลียดมาก แต่จะให้ย้ายไปที่อื่นตอนนี้ก็คงไม่ทันแล้วห เพราะพายุทรายได้เคลื่อยตัวเข้ามาแล้ว
เมื่อไม่มีทางเลือกพวกเขาจึงทำได้เพียงขุดหลุมและโยนศพทั้งสามลงไปก่อนจะกลบฝังเพื่อไม่ให้กลิ่นเลือดล่อซอมบี้หรืออันเดดตัวอื่น ๆ มาอีก
ลูอิสมองดูซอมบี้ที่กำลังถูกโยนลงไปในหลุมอย่างสนใจ เนื่องจากซอมบี้ตัวที่หลงเข้ามานั้นเหมือนจะใส่เสื้อผ้าที่ดีพอควร ‘นักล่า? ถ้าอย่างนั้นอีกไม่นานเราก็คงจะถึงเมืองเอลดิลที่แอนเดรียพูดถึงแล้วสินะ’
ซาฟถอดเอาชุดเกราะหนังของซอมบี้ที่หลงออกมาก่อนจะสวมใส่ ซึ่งก็ไม่มีใครว่าอะไรเพราะนี่ถือว่าเป็นเรื่องปกติมาก
“คนที่ตายไปแล้วมีไปก็ไร้ค่า” ซาฟพึมพำออกมาก่อนจะถีบศพซอมบี้ลงไปในหลุม
พวกผู้อพยพช่วยกันกลบหลุมในทันที ทำให้กลิ่นเริ่มจางหายไปบ้างแล้ว