535 - ต่อสู้กับลิงศักดิ์สิทธิ์!
535 - ต่อสู้กับลิงศักดิ์สิทธิ์!
เปลือกหินโบราณแตกออก สิ่งที่อยู่ภายในใสเหมือนเจดีย์เคลือบ บานสะพรั่งราวกับสิ่งงดงามที่สุดในโลกมนุษย์
เย่ฟ่านเริ่มถอยหลังอย่างช้าๆก่อนจะกลืนเข้ากับฝูงชนอย่างรวดเร็ว
ทุกคนต่างหวาดกลัว สิ่งมีชีวิตที่ถูกปิดผนึกในต้นกำเนิดสวรรค์นั้นล้วนเป็นสิ่งที่ไม่ธรรมดาทั้งสิ้น ต่อให้พวกมันไม่ใช่สิ่งมีชีวิตอมตะก็คงไม่ห่างไกลมากนัก
หลังจากตั้งสติได้ ทุกคนก็ตกอยู่ในความกลัวอย่างไม่รู้จบและถอยหลังออกจากบริเวณนี้อย่างรวดเร็ว ต่อให้กลิ่นอายที่ปลดปล่อยออกมานั้นจะเต็มไปด้วยความเป็นมงคล แต่ลิงศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ข้างในนั้นผู้คนไม่มั่นใจว่ามันจะเป็นมิตร
“ถอยกลับทันที!”
"ออกไปจากที่นี่!"
ผู้อาวุโสหลายคนตะโกนด้วยความตื่นตระหนก แม้แต่ตัวตนเช่นพวกเขาก็ยังไม่มีความมั่นใจในการจัดการต่อลิงตัวนี้ได้
"มันออกมาแล้ว!" ผู้คนมากมายแตกฮือกันไปคนละทาง
ภายในสวนหินของดินแดนศักดิ์สิทธิ์แสงช่วงเกิดความปั่นป่วนครั้งใหญ่ พลังความกดดันที่ถูกปลดปล่อยออกมาจากลิงศักดิ์สิทธิ์ทำให้พวกเขาหวาดกลัวอย่างถึงที่สุด
สิ่งมีชีวิตลึกลับเข้ามาในโลก พลังนั้นดุร้าย ผู้คนอดไม่ได้ที่จะสั่นเทา นี่คือความกดดันจากระดับชั้นของชีวิต มันเป็นเหมือนเทพผู้ยิ่งใหญ่ที่กำลังมองดูมดแมลงที่ไร้ค่า
ในตอนนั้นเองผู้สูงสุดของตระกูลจี้ยกมือข้างหนึ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า สายฟ้าทั้งห้าถูกยิงและพันกันเพื่อสร้างเป็นตาข่ายเทพ
สิ่งนี้ถูกสร้างจากอักขระเต๋าของเรือนจำสวรรค์ มันถูกย้ายออกมาจากแท่นบูชาโลหิตเพราะปัญหาทางนั้นดูเหมือนจะไม่สามารถเทียบกับสุสานเซียนได้เลย
“พัฟ”
ทันทีที่ตาข่ายสายฟ้าตกลงมาก็มีมือที่คล้ายกับมนุษย์ยื่นออกมาจากก้อนหินอย่างรวดเร็ว
ผู้สูงสุดของตระกูลจี้ใบหน้าซีดขาว เขาเร่งมือประสานอินให้รวดเร็วมากยิ่งขึ้นเพื่อให้ตาข่ายสายฟ้าบดขยี้มือข้างนั้น
“คชา!”
สุสานเซียนแตกออกอย่างสมบูรณ์พร้อมกับดวงตาสีแดงเพลิงที่กวาดมองผู้คนมากมายในสวนหินอย่างเย็นชา
“สิ่งมีชีวิตนี้คืออะไรกันแน่?”
สายตาของทุกคนจับจ้องไปยังลิงตัวใหญ่ที่มีเส้นขนสีทองปกคลุมทั่วร่างกาย ดวงตาของมันเป็นสีแดงฉานในขณะที่ผิวหนังของมันเป็นสีม่วงดูแข็งแกร่ง
ลานหินแห่งดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดมีข้อกำหนดว่าไม่สามารถบินได้ แต่ตอนนี้ยังมีใครสนใจเรื่องนี้อีก การมีชีวิตอยู่เท่านั้นจึงเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด กฎเกณฑ์อะไรล้วนไร้สาระทั้งสิ้น
“อัญเชิญคชสารสวรรค์!”
จักรพรรดิเซี่ยระเบิดปราณมังกรออกจากร่างกาย เสียงคำรามที่น่ากลัวดังออกมาจากก้อนเมฆขนาดใหญ่ที่อยู่บนท้องฟ้า
ทันใดนั้นภาพธรรมของช้างสีขาวขนาดยักษ์เก้าตัวก็ปรากฏขึ้น พวกมันวิ่งเข้าหาวานรสีทองโดยไม่เกรงกลัวและพยายามผลักดันวานรศักดิ์สิทธิ์ให้เข้าไปในประตูที่เชื่อมต่อกับเรือนจำสวรรค์
“ปัง!”
ความว่างเปล่าเป็นเหมือนกลองขนาดใหญ่ เสียงสั่นสะเทือนที่ดังขึ้นทำให้ผู้คนมากมายตกลงมาจากท้องฟ้า คชสารสวรรค์ทั้งเก้าตัวที่จักรพรรดิ์เซี่ยปล่อยออกมาถูกทำลายด้วยลำแสงสองเส้นในครั้งเดียว
"นั่นคือพลังจากดวงตาของมัน!"
“นี่คือสิ่งมีชีวิตใดเหตุไฉนถึงแข็งแกร่งขนาดนี้!”
แม้แต่บุคคลรุ่นอาวุโสก็ยังสั่นสะท้านถึงขีดสุด พลังที่วานรศักดิ์สิทธิ์แสดงออกมานั้นมันเกินกว่าระดับผู้สูงสุดไปไกลแล้ว
บุตรศักดิ์สิทธิ์และสตรีศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดดูจริงจัง แม้ว่าจะเกิดความวุ่นวายทางด้านล่างมากมายแต่พวกเขาก็ยืนอยู่บนท้องฟ้าและจ้องมองไปยังหลุมศพเซียนโดยไม่ละสายตา
“บูม!”
ทันใดนั้นโจรผู้ยิ่งใหญ่คนที่สามสวีเทียนเซี่ยงก็ได้พลิกฝ่ามือให้กระแทกเข้าหาวานรร่างทองอย่างหักโหม
“บูม!”
วานรตัวนั้นไม่มีเล่ห์เหลี่ยมใดๆ มันก้าวออกมาข้างหน้าเล็กน้อยก่อนจะกระแทกกำปันเข้าหาฝ่ามือของสวีเทียนเซี่ยงโดยไม่หลบเลี่ยง
“ฮัวลา”
แรงสั่นสะเทือนอันยิ่งใหญ่ทำให้ความว่างเปล่าในบริเวณสวนหินของดินแดนศักดิ์สิทธิ์แตกออกจากกันจนเกิดประตูมิติเล็กๆขึ้นมากมาย
ผู้ยิ่งใหญ่ระดับปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์ทั้งสามลงมืออย่างแข็งขัน เห็นได้ชัดว่าพวกเขามีความเข้าใจถึงบางสิ่งบางอย่าง แต่ในฐานะผู้สูงสุดพวกเขาย่อมมีศักดิ์ศรีของตัวเองจึงเลือกที่จะไม่ลงมือพร้อมกัน
วานรสีทองที่ออกมาจากสุสานเซียนนั้นไม่ได้เลือกที่จะโจมตีต่อ มันยืนอยู่ตรงนั้นอย่างสงบราวกับว่ากำลังใช้ความคิดบางอย่าง
"อสูรตัวนี้คือ..."
ในระยะไกลก็มีเสียงร้องอุทานเมื่อพวกเขามองเห็นวานรเทพทั้งตัว
มันมีความสูงประมาณหนึ่งวา มีเส้นขนสีทองส่องแสงระยิบระยับ แม้ว่ามันจะไม่ได้มีขนาดสูงใหญ่จนน่าเหลือเชื่อ แต่กลับให้ความรู้สึกที่แข็งแกร่งจนน่ากลัว
มันเหมือนลิง แต่ก็คล้ายมนุษย์มากกว่า มันมีใบหน้าและรูปร่างคล้ายกับมนุษย์ เพียงแต่มีเส้นขนสีทองปกคลุมทั่วทั้งร่าง?
“วานรเทพซุนหงอคง?”
เย่ฟ่านก็มีความคิดนี้เช่นกัน แน่นอนเขาแค่คิดเกี่ยวกับเรื่องนั้นมันไม่มีทางที่เขาจะพูดออกมาอย่างแน่นอน
ที่เท้าของสิ่งมีชีวิตนี้เป็นเศษซากของต้นกำเนิดสวรรค์ที่แตกร้าว พลังที่ถูกปลดปล่อยออกมาจากต้นกำเนิดสวรรค์พวกนั้นทำให้ทั่วทั้งสวนหินเต็มไปด้วยกลิ่นอายมงคล
ใบหน้าของยอดฝีมือจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์เปลี่ยนไปอย่างรุนแรง การปรากฏตัวของอสูรตัวนี้ทำให้พวกเขารู้สึกกดดันเป็นอย่างมาก
ไม่มีผู้ใดรู้ว่าสุสานเซียนตั้งอยู่ที่นี่มานานกี่ปีแล้ว ตั้งแต่ที่มันถูกปฏิเสธโดยปรมาจารย์ต้นกำเนิดของดินแดนศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วง ก็ไม่มีผู้ใดคิดว่าจะมีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ข้างในจริงๆ
“บูม!
ทันใดนั้นผู้สูงสุดตระกูลจี้ได้ดำเนินการอีกครั้ง มือสีดำขนาดใหญ่ของเขาปรากฏออกมาจากความว่างเปล่าและกดเข้าหาสวนหินทั้งหมดอย่างรุนแรง
มือสีดำเป็นเหมือนก้อนเมฆขนาดใหญ่ เพียงแค่มันเคลื่อนตัวเข้ามาความมืดก็ปกคลุมทุกสิ่งทุกอย่าง ในขณะเดียวกันความว่างเปล่าที่อยู่รอบๆก็เริ่มแตกสลายลงเรื่อยๆ
สิ่งมีชีวิตที่มีเส้นขนสีทองตัวนี้ส่งเสียงคำรามต่ำและร่างกายของมันก็ปลดปล่อยแสงสีทองอันยิ่งใหญ่ออกมา
มันไม่ได้แสดงท่าทีหวาดกลัวต่อมือขนาดใหญ่ของผู้อาวุโสตระกูลจี้ ทันทีที่มือสีดำข้างนั้นใกล้เข้ามามันก็กระแทกกำปั้นสีทองสวนขึ้นไปอย่างรวดเร็ว
โครม!
คลื่นพลังอันรุนแรงกวาดไปทั่วสวนหินทำให้ต้นไม้และก้อนหินมากมายปลิวกระเด็นไปคนละทิศคนละทาง
“ทายาทของราชาอมตะ!”
มันเป็นคำพูดจากนักพรตมังกรแดง เขาจับจ้องไปยังสิ่งมีชีวิตตัวนั้นด้วยสีหน้าหวาดกลัวเล็กน้อย
“ราชาอมตะ?!”
หลังจากได้ยินประโยคนี้ หลายคนก็สูดลมหายใจเย็นยะเยือกและหลายคนก็รีบบินออกจากสวนหินของดินแดนศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงโดยไม่รอดูผลลัพธ์จากการต่อสู้
“พี่ใหญ่ท่านแน่ใจนะ?” โจรผู้ยิ่งใหญ่คนที่สามสอบถามด้วยความเคารพ
นักพรตมังกรแดงพยักหน้าและพูดว่า
"มันเป็นผู้สืบสายเลือดของตระกูลราชาอมตะแน่นอน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะกลายเป็นราชาอมตะด้วย หากข้ามองไม่ผิด ลิงตัวนี้น่าจะเป็นลิงน้อยที่ยังไม่เติบโตเต็มที่"
ผู้คนรู้สึกประหลาดใจมากยิ่งขึ้น ยังมีที่ว่างสำหรับการเติบโต ในตอนที่มันยังเป็นลิงน้อยมันก็มีพลังที่น่ากลัวยิ่งกว่าผู้สูงสุดแล้ว หากมันจะเติบโตมากขึ้นกว่านี้พลังของมันจะไปจบอยู่ที่ใด?
"นี่คือทายาทเซียนวานรหนึ่งในราชาอมตะผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคอดีต ในยุคที่บรรพบุรุษของมันครองความยิ่งใหญ่นั้น ต่อให้เป็นราชาอมตะด้วยกันก็ยากที่จะหาคู่ต่อสู้ได้!"
คำพูดของนักพรตมังกรแดงทำให้ผู้คนตื่นตระหนกอย่างถึงที่สุด เซียนวานรที่เกิดมาเพื่อการต่อสู้โดยเฉพาะ ผู้คนในยุคปัจจุบันนี้มีความรู้ต่อสิ่งมีชีวิตอมตะน้อยยิ่งกว่าน้อย
แต่สำหรับเซียนวานร ต่อให้ผู้คนที่มีความรู้น้อยที่สุดก็ยังต้องเคยได้ยินชื่อเสียงของพวกมันมาบ้าง
ผู้สูงสุดหลายคนที่อยู่ในสวนหินไม่สามารถนิ่งเฉยได้อีกต่อไป พวกเขาต่างร่วมมือกับผู้สูงสุดของตระกูลจี้ในการสร้างค่ายกลขนาดใหญ่เพื่อผลักดันเซียนวานรให้เข้าไปในทางเชื่อมต่อของเรือนจำสวรรค์
"บูม"
เซียนวานรระเบิดพลังศักดิ์สิทธิ์ออกมาจากร่าง กำปั้นสีทองขนาดใหญ่ของมันกวาดเข้าหาผู้สูงสุดห้าคนอย่างต่อเนื่อง
“บูม!”
มีเสียงแตกกระจายอยู่ในสวนหิน เซียนวานรที่ยังไม่ได้รับการพัฒนาอย่างเต็มที่กลับสามารถทำร้ายผู้สูงสุดห้าคนให้กระเด็นกระดอนออกไปคนละทาง
“มันมีความแข็งแกร่งเฉกเช่นเซียนนักรบตั้งแต่กำเนิด!”
จักรพรรดิเซี่ยอุทานด้วยความตกใจ