ตอนที่ 571+572 ต่างประเทศ
ตอนที่ 571 ต่างประเทศ
“คุณเจียง”
เฉิงจินหยางถือกุญแจรถในมือก่อนจะก้าวลงจากรถ และกำลังจะเข้าไปในร้านกาแฟ “ยินดีที่ได้พบคุณที่นี่ครับ”
หลังจากทักทายเธอแล้ว เขาสังเกตเห็นชายรูปร่างดีและตัวสูง ท่าทางเย็นชา ยืนอยู่ข้างเจียงเหยา “สามีของคุณเหรอ?”
“เปล่าคะ?” เจียงเหยาคิดว่าไม่จำเป็นสำหรับเขา คนที่เธอเพิ่งพบเพียงครั้งเดียวจะต้องแนะนำอะไรให้เขารู้เสียมากมาย ช่วงเวลาต่อมา พวกเขากำลังเดินทางโดยรถยนต์ของเจียงเหยา
“ผู้ชายคนนั้นเป็นใคร?” เหลียงเยวื่อจือถาม “เขามองเธอด้วยสายตาแปลก ๆ”
“เฉินจินหยางเป็นหุ้นส่วนธุรกิจใหม่ของหวงเฉิงจิ้ง ที่เป็นผู้จัดการของไห่หรุ่นกรุ๊ปค่ะ” เจียงเหยายิ้ม
“พี่นี่สมกับที่จบจากวิทยาลัยทหารจริง ๆ เลยนะคะ พี่เหลียง! ทักษะการสังเกตของพี่นี่ยอดเยี่ยมมาก! เขาคิดว่าฉันดูคล้ายกับคนที่เขารู้จักค่ะ”
เหลียงเยวื่อจือพูดว่า “คนนั้นคือซุนเซียวจ้านใช่ไหม?”
เจียงเหยาตกใจ เธอมองไปที่เหลียงเยวื่อจือทันทีและถามเขาด้วยความประหลาดใจ “พี่รู้จักเธอด้วยเหรอคะ?”
“ฉันไม่รู้จักหรอก แต่เคยได้ยินฮ่าวอวี้พูดถึงก่อนหน้านี้น่ะ เขาเคยเจอเธอมาก่อน” เหลียงเยวื่อจือขมวดคิ้ว “ครั้งแรกที่ฮ่าวอวี้เห็นเธอ เขาบอกฉันว่าเธอดูคล้ายกับซุนเซียวจ้านและคิดว่าเธอมีความเกี่ยวข้องกับอีกฝ่าย”
“ชิงสีเขารู้เรื่องของเธอด้วยหรือเปล่าคะ?” เจียงเหยาถาม
“เขาจะทำไม” เพราะเหลียงเยวื่อจือตระหนักถึงเจตนาของเจียงเหยา เขาจึงยิ้มและพูดว่า “เธอยังไม่คุ้นเคยกับวิธีที่ชิงสีปฏิบัติต่อเธออีกเหรอ? ผู้หญิงทุกคนก็เหมือนกันหมด เอาแต่คิดมากไปได้”
“หมายความว่ายังไงคะ? พี่พูดดี ๆ เลยนะ พี่เหลียง พูดแบบนี้ถ้าเหลาหรุนได้ยิน กลับไปเขาต้องโกรธพี่แน่” เจียงเหยาคิดว่ามันก็คงจะเป็นคำถามที่โง่จริง ๆ
เธอไม่ควรสงสัยในความรักและความมุ่งมั่นของลู่ชิงสีที่มีต่อเธอ
“ตอนนี้เธออยู่ที่ต่างประเทศกับฮ่าวอวี้” เหลียงเยวื่อจือยิ้มเยาะ “เธอรู้อะไรไหม ถ้าจะพูดก็ต้องพูดว่า ถ้าเธอกลับมาแล้วจะโกรธฉัน ถึงจะถูก”
เมื่อได้ฟังเหลียงเยวื่อจือพูดแล้ว เจียงเหยารู้สึกว่าอุณหภูมิรอบตัวพวกเขาลดลงอย่างกะทันหัน ดังนั้นเธอจึงทำในสิ่งที่ฉลาดที่สุดเท่าที่จะทำได้ ก็คือการหุบปากเงียบไว้นั่นเอง
ดูเหมือนเหลียงเยวื่อจือและหลัวเหลาหรุนจะไม่ได้พูดคุยกัน
..
หลังจากโอนกรรมสิทธิ์แล้ว เจียงเหยาได้ยื่นขอกู้และได้รับเงินกู้มาหนึ่งหมื่นห้าแสนล้านจากธนาคารในอีกสองวันต่อมา
การเพิ่มทรัพย์สินบางส่วนของเธอและเงินสดที่ลู่ชิงสีมอบให้ จึงทำให้เธอมีเงินเพียงพอต่อการดำเนินทั้งสองกิจการ
หลังจากนั้น ผู้จัดการซุนได้รับมอบหมายให้จัดตั้งบริษัท รวมไปถึงจัดการเรื่องต่าง ๆ ด้วย เช่นการจดทะเบียนบริษัท การเลือกสถานที่ และอื่น ๆ ทั้งหมดนี้เจียงเหยามอบหมายให้ผู้จัดการซุนเป็นคนจัดการ ขณะที่เธอยังอยู่ที่มหาวิทยาลัยและให้ความสนใจกับการเรียนอย่างเต็มที่ในช่วงสองสามวันนี้
ในระหว่างนั้น เธอได้รับแจ้งจากผู้จัดการซุนว่า คุณเฟิงต้องการพบเธอ
เจียงเหยารู้ทันทีว่าเจตนาของคุณเฟิงคืออะไรและปฏิเสธไป
มันเป็นช่วงบ่ายวันศุกร์ หลังเลิกเรียน เจียงเหยาไปที่สำนักงานของอธิการบดีเหวิน
มีคนอื่นอยู่ที่นั่น เมื่อเธอมาถึง เมื่อเห็นว่าพวกเขากำลังคุยกันอยู่ เจียงเหยาจึงรออยู่นอกสำนักงานและเข้ามาก็ต่อเมื่อผู้มาเยือนคนก่อนหน้าจากไปแล้ว
“นั่งก่อน มีอะไรหรือ?” อธิการบดีเหวินเทน้ำให้เจียงเหยาหนึ่งแก้ว แล้วถูคิ้วของเขาไปมา เห็นได้ชัดว่าผู้มาเยือนคนก่อนหน้าไม่ได้นำข่าวดีมาให้เขา
“หนูอยากขอให้ท่านอธิการบดีเหวิน แนะนำให้หนูรู้จักกับคนที่ทำวิจัยทางการแพทย์ค่ะ หนูกำลังจัดตั้งสถาบันวิจัยและกำลังมองหานักวิจัย คิดว่าบางทีท่านอาจจะแนะนำคนให้หนูได้ หนูเลยมาขอความช่วยเหลือค่ะ”
__
ตอนที่ 572 ความประทับใจแรก
“สถาบันวิจัย?” อธิการบดีเหวินมองไปที่เจียงเหยาด้วยความประหลาดใจ “การจัดตั้งน่ะไม่ใช่เรื่องยากอะไรหรอก แต่การรักษาให้มันคงอยู่และใช้งานได้จริงกลับเป็นเรื่องยาก แม้แต่แผนกวิจัยของมหาวิทยาลัยเราก็ประสบปัญหาในการขอรับทุนและการสนับสนุน การจัดหาเงินทุนสำหรับสถาบันวิจัยของคุณจะเป็นความท้าทายที่ใหญ่มาก”
“ถ้าเป็นเรื่องเงินไม่ต้องกังวลไปหรอกค่ะ ตอนนี้หนูต้องการแค่คนค่ะ” เจียงเหยากล่าว “หนูมีโรงพยาบาลเฉิงอ้ายที่เป็นของหนู นอกจากนี้เรากำลังสำรวจพื้นที่เพื่อจะจัดตั้งโรงงานผลิตยา อย่างที่หนูพูดไปก่อนหน้านี้ ตราบใดที่มีคนเต็มใจเข้าร่วมห้องวิจัยของหนู หนูยืนยันได้เลยว่าเงินจะไม่ใช่ปัญหาค่ะ”
อธิการบดีสะดุ้งอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหัวเราะออกมาและส่ายหน้า “เด็กสมัยนี้ช่างอัศจรรย์เสียจริง! เจียงเหยา คุณอายุแค่สิบเก้าปีเองไม่ใช่เหรอ?”
“อายุน่ะเป็นแค่ตัวเลขค่ะ” เจียงเหยาขยิบตา
“ฮ่า ฮ่า” อารมณ์ที่มืดมนก่อนหน้านี้ของอธิการบดีเหวินหายไปและถูกแทนที่ด้วยรอยยิ้มกว้างบนใบหน้าของเขา “เตรียมสำเนาข้อมูลสถาบันวิจัยของคุณแล้วส่งมาให้ฉัน ฉันจะคุยกับคนอื่นให้ คุณมาหาถูกคนแล้ว งานแบบนี้ ฉันนี่แหละถนัดนักล่ะ! รุ่นพี่จำนวนมากของคุณที่เพิ่งจบไป ล้วนแต่เป็นคนที่มีความสามารถในสาขาเหล่านี้ การวิจัยของพวกเขาถูกระงับเพราะปัญหาทางการเงิน และตอนนี้คุณในฐานะรุ่นน้องกำลังเป็นความหวังใหม่ให้แก่พวกเขา”
อธิการบดีเหวินรู้สึกยินดี เป็นความภาคภูมิใจของเขาที่มีนักศึกษาที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ในมหาวิทยาลัย
ถึงแม้เขาอาจจะไม่มีส่วนร่วมในผลการวิจัย แต่เขาก็มีความสุขที่ได้เห็นกิจกรรมการวิจัยทางการแพทย์ได้รับการสนับสนุน
เจียงเหยารู้สึกยินดีที่อธิการบดีเหวินตกลงที่จะช่วยเธอ แต่เธอไม่สามารถจัดทำข้อมูลใด ๆ เกี่ยวกับสถาบันวิจัยได้ในตอนนี้
เธอถอนหายใจ “เรายังคงจัดตั้งห้องวิจัยไม่เสร็จเลยค่ะ และยังไม่ได้เอกสารอะไรออกมาเลย ท้ายที่สุดเราต้องการพูดคุยกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียก่อนที่จะตัดสินใจ”
“หากไม่มีอะไรเลย อาจไม่ง่ายที่จะโน้มน้าวพวกเขาถึงความสามารถของห้องวิจัยนะ” อธิการบดีเหวินพยักหน้า หลังจากหยุดไปครู่หนึ่งและให้กำลังใจเจียงเหยา “ไม่เป็นไรนะ ฉันจะคุยกับพวกเขา ถ้ามีอะไรอัปเดตจะบอกอีกที”
เขาต้องการให้บริษัทของเจียงเหยาประสบความสำเร็จอย่างแท้จริง
“ขอบคุณมากค่ะ อธิการบดีเหวิน หนูขอขอบคุณในความช่วยเหลือของท่านมากจริง ๆ ค่ะ” เจียงเหยายืนขึ้นและหันไปทางประตู
อธิการบดีเหวินพยักหน้าก่อนจะหยุดเจียงเหยาและถามว่า “เจียงเหยา! เดี๋ยวก่อน! ฉันขอถามอะไรสักหน่อย? คุณเคยได้ยินเกี่ยวกับเทวแพทย์ตอนที่อยู่ทางภาคเหนือช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมาบ้างไหม?”
“เทวแพทย์!” เจียงเหยาพยักหน้า “พอจะได้ยินมาเหมือนกันค่ะ” บางทีอธิการบดีเหวินอาจจะรู้ว่าเทวแพทย์ได้ช่วยชีวิตลู่ชิงสี เขาคงอยากจะถามรายละเอียดจากเธอ
แม้ว่าเจียงเหยาไม่รู้ว่าทำไมคำถามนี้ถึงออกมาจากปากของอธิการบดีเหวินก็ตาม
“คุณรู้จักใครที่สามารถติดต่อเทวแพทย์หรือเปล่า? ฉันต้องการให้เทวแพทย์ช่วยดูคนไข้ให้คนหนึ่ง” อธิการบดีเหวินถอนหายใจ “ผู้ชายที่เพิ่งออกไปเมื่อกี้เป็นเพื่อนสนิทฉันเอง ใบหน้าของลูกสาวเขาถูกไฟไหม้อย่างรุนแรงจากอุบัติเหตุเมื่อสองสามปีก่อน ทำให้เธอเปลี่ยนไป ภรรยาของเขาเสียชีวิตไปนานแล้ว ทิ้งเขาไว้กับลูกสาวเพียงคนเดียว เขามาหาฉันก็เพื่อขอความช่วยเหลือ น่าเสียดายที่ฉันไม่ได้ไปเมืองจินโดมาสองสามปีแล้ว และขาดการติดต่อกับผู้คนจากที่นั่นน่ะสิ”