ตอนที่ 182 นายช่างใหญ่ไทเลอร์และเจ้าหญิงจิ้งจอก(อ่านฟรี)
ตอนที่ 182 นายช่างใหญ่ไทเลอร์และเจ้าหญิงจิ้งจอก
กายมองไปที่ชื่อกิลด์ของตนเอง ซึ่งกำลังแสดงอยู่ด้านหน้า เขายิ้มออกมาอย่างพอใจ ก่อนจะทำการเชิญไทเลอร์และเมญ่าเข้าร่วมกิลด์
“ผู้เล่น [นายช่างใหญ่ไทเลอร์] ตอบรับการเข้าร่วมกิลด์ของคุณ”
“ผู้เล่น [เจ้าหญิงจิ้งจอก] ตอบรับการเข้าร่วมกิลด์ของคุณ”
ไทเลอร์นั้นใช้ชื่อในดินแดนสงครามว่า [นายช่างใหญ่ไทเลอร์] เพราะเขาอยากเป็นนายช่างสินะ ส่วนเมญ่าใช้ชื่อ [เจ้าหญิงจิ้งจอก] สินะ สองคนนี้ใช้ชื่อง่าย ๆ ต่างจากเราพอสมควรเลยแหะ
กายอดคิดถึงชื่อของตัวเองและก็ยิ้มไม่ได้ ดูเหมือนตอนนั้นเขาจะคิดชื่อมากไปหน่อย แต่ก็ช่วยไม่ได้ แถมตอนนี้ชื่อ [ลอร์ดเจ็ดโลหะ] ยังโด่งดังมากอีกด้วย
“ต้องทำยังไงต่อ” ไทเลอร์ถาม
“เจ้ากับเมญ่าควรลองเข้าไปเล่นในแดนสงครามดูเพื่อทำความคุ้นเคยกับการควบคุมและเผชิญการต่อสู้ดูก่อนที่คืนนี้จะค่อยเข้าไปในโลกราชันก็ได้ เดี๋ยวข้าจะส่งเงินไปให้ อ้อแล้วก็อย่าลืมเข้ามาในนี้แล้วก็พยายามใช้ภาษาให้เหมือนคนอื่น ๆ ด้วย เพราะพอเข้าไปในโลกราชันจะได้คุ้นเคย”
“ต้องทำขนาดนั้นเลยอย่างนั้นเหรอ” เมญ่าถามด้วยความสงสัย
“อืม” กายพยักหน้า ก่อนจะกล่าวต่อว่า “อย่ามองว่า NPC ในโลกราชันคือ NPC เหมือนเกมอื่น ๆ พวกเขามีความคิดที่เป็นอิสระมาก บางทีอาจจะเหมือนคนจริง ๆ เลยก็ได้ ถ้าเข้าไปในโลกราชันสักครั้งก็จะรู้เอง” กายอธิบายสั้น ๆ
“แล้วนาย...เจ้าละ จะไปไหนต่อ”
“ข้าจะลองไปสำรวจดูดินแดนเยือกแข็ง” กายเงยหน้ามองดูดวงดาวเยือกแข็งที่ลอยเด่นอยู่บนท้องฟ้า เขาตัดสินใจแล้วว่าเหรียญต่อไปจะเป็นที่นั่น กายจึงต้องเริ่มเก็บข้อมูลก่อนเป็นอันดับแรก
“ถ้าอย่างก็ค่อยเจอกัน”
“อืม โชคดี”
...
สามชั่วโมงผ่านไป ในชั้นใต้ดินของฐานบันทึกลับแห่งรุ่งอรุณ แคปซูลเกมทั้งสามเครื่องยังคงทำงานอยู่ แต่ไม่กี่วินาทีต่อมาเครื่องทั้งสามก็หยุดทำงานพร้อมกัน ก่อนที่พวกเขาจะลืมตาขึ้น
“สุดยอด ไม่คิดว่ามันจะเป็นความรู้สึกที่สมจริงมากขนาดนี้ ตอนโดนฟันรู้สึกเหมือนจะโดนจริง ๆ เลย”
“นายเล่นอ่อนมาก” เมญ่ากล่าวออกมา ก่อนจะลงจากเครื่องแคปซูล
ไทเลอร์ได้แต่เกาหัว เพราะเมื่อเทียบกับเมญ่าแล้วเขานั้นเล่นอ่อนกว่าเธอจริง ๆ แต่ใครจะไปรู้ว่าเมญ่านั้นเก่งมาก เธอสามารถหลบการโจมตีจากผู้เล่นคนอื่น ๆ ได้หลายครั้ง แถมยังสู้กลับและปลิดชีพผู้เล่นหน้าใหม่เหมือนกันได้หลายคน
แม้เธอจะแพ้พวกผู้เล่นเก่าที่มีระดับสูงกว่า แต่ก็มีครั้งหนึ่งซึ่งเธอนั้นเกือบจะติดหนึ่งในร้อย ซึ่งต่างจากไทเลอร์ที่เขามักจะตายก่อนเธอตลอด
แน่นอนว่าไม่ใช่ไทเลอร์นั้นอ่อนเกินไป แต่เมญ่าดันเล่นได้เก่งเกินไปต่างหาก
ผู้หญิงมักจะละเอียดรอบคอบมาก แถมถ้าเธอสู้ขึ้นมาก็น่ากลัวมาก กายกล่าวชื่นชมในใจ
ที่จริงแล้วผู้เล่นหญิงแม้จะมีน้อยกว่าผู้ชาย แต่ถ้าเทียบเปอร์เซ็นต์กันแล้ว ผู้เล่นหญิงกับมีผู้เล่นที่เก่งมากกว่าผู้ชายซะอีก อาจจะเพราะผู้เล่นชายนั้นชอบการต่อสู้และมักทำอะไรบ้า ๆ ตลอด ทำให้ตายได้ง่าย แต่กับผู้เล่นหญิงนั้นกับสู้แบบมีแบบแผนมากกว่า
แน่นอนว่านี่คือการสรุปกับผู้เล่นทั่วไป เพราะเมื่อเป็นผู้เล่นอาชีพพวกเขาทุกคนนั้นไม่อาจจะใช้ความคิดแบบนี้มาตัดสินได้
“ไปหาอะไรกินกันเถอะ” กายชวนทั้งสอง ก่อนจะลุกจากแคปซูลเกมและตรงไปที่ตู้เย็น อาหารทั้งหมดนั้นเป็นอาหารแช่แข็ง ซึ่งก็มีหลากหลายมาก พอที่จะไม่ทำให้ทุกคนนั้นรู้สึกเบื่อ
กายออกมาและกินอาหารอย่างอารมณ์ดี เพราะหลังจากทดลองใช้แคปซูลเกมที่ดีขึ้นก็ทำให้รู้สึกแตกต่างมาก หลังจากเล่นเกมในแดนสงครามแล้ว ร่างกายของเขาไม่รู้สึกเหนื่อยล้าเหมือนเมื่อก่อนอีก กายจึงมีแรงทำอย่างอื่นได้อีกมาก
ส่วนไทเลอร์และเมญ่านั้นทั้งสองกำลังพูดคุยกันเกี่ยวกับประสบการณ์ในเกมกันอย่างสนุกสนาน ซึ่งกายก็จะเข้าร่วมพูดด้วยเป็นบางครั้ง
หลังจากกินอาหารเย็นกันเสร็จแล้ว กายก็เริ่มบอกเล่าถึงข้อมูลโลกราชันกับไทเลอร์และเมญ่าอย่างจริง ๆ ซึ่งจากลิงก์เกมทั้งสองจะไปโผล่ยังที่เดียวกัน ดังนั้นการหากันนั้นจะง่าย แต่ไม่รู้ว่าพวกเขาจะไปยังจุดไหนของโลกราชัน ดังนั้นพวกเขาต้องรู้เรื่องราวคร่าว ๆ ในแต่ละนครไว้ให้ดี
ในเรื่องของนครดาราฟ้านั้นกายมีข้อมูลอยู่จำนวนมาก แต่นครที่เหลือนั้นกายไม่ค่อยทราบสักเท่าไหร่ ทำให้ต้องเปิดช่องที่ทำเกี่ยวกับข้อมูลเหล่านี้
และช่องที่ดีสุดในตอนนี้คงหนีไม่พ้นช่องเกี่ยวกับเกมอย่าง ช่อง VWG นอกจากการดูเรื่องของเกมแล้ว พวกเขายังยอกกันไปพักผ่อนตามแต่สะดวกของตนเองด้วย
กายขึ้นไปยังชั้นสองของอาคารก่อนจะมองออกไปนอกหน้าต่างอย่าง ๆ บางครั้งการจ้องมองเขต 7 และโอเอซิสก็ทำให้เขารู้สึกสงบได้บ้าง เพราะมันช่วยย้ำเตือนว่าโลกใบนี้นั้นมีจริง เขากลัวว่าตัวเองนั้นจะสับสนระหว่างโลกจริงและโลกราชัน
“สักวันนายจะขึ้นไปบนนั้นจริง ๆ ใช่ไหม” ไทเลอร์เดินเข้ามายืนข้าง ๆ กาย
“อืม...ฉันจะขึ้นไปบนนั้นสักครั้ง” กายตอบกลับไป ขณะที่สายตามองไปที่โอเอซิส
“เพราะผู้หญิงคนนั้นใช่ไหม ตกลงนายชอบเธอใช่ไหม” ไทเลอร์ถาม
กายเงียบ เขาไม่ได้ตอบในทันทีเพราะเริ่มจะรู้สึกสับสนเล็ก ๆ ขึ้นมาในใจ
“เมื่อก่อนนายอาจจะตอบว่าใช่ทันที ไม่ก็ต่อยฉันสักหมัด แต่ตอนนี้ดูเหมือนนายจะเปลี่ยนไปมาก หวังว่านายคงรู้นะว่าตัวเองต้องการอะไร” ไทเลอร์ตบไปที่ไหลของกายเบา ๆ ก่อนจะปล่อยเขาไว้คนเดียว
“บางทีฉันความรู้สึกของฉันอาจจะเปลี่ยนไปแล้วก็ได้หลังจากได้เข้าไปในโลกใบนั้น” กายพึมพำกับตนเอง ในใจเขาปรากฏภาพผู้หญิงคนหนึ่ง กายยิ้มให้กับตัวเองอีกครั้ง ก่อนจะลงไปที่ชั้นใต้ดิน
เวลาเที่ยงคืนมาถึงอย่างรวดเร็ว แคปซูลเกมทั้งสามเดินระบบอีกครั้ง
“ถ้าอยู่ในอาณาเขตของนครดาราฟ้า ให้ไปที่ทุ่งหญากิรา ที่นั่นมีเมืองที่ชื่อเลมิสไปที่นั่นแล้วก็ใช้พวกพิราบขาวส่งจดหมายมาให้ฉัน แล้วฉันจะไปหา” กายกล่าวเตือนทั้งสองคน
ไทเลอร์และเมญ่าพยักหน้ารับ ก่อนจะนอนลงไปที่แคปซูลเกม
“ลิงก์เกม” ทั้งสามกล่าวออกมาพร้อมกัน ก่อนจะเข้าไปในโลกราชันอย่างรวดเร็ว
...
ภายในโลกราชัน
ดินแดนทางตะวันตกของนครดาราฟ้านั้นติดกับเทือกเขาก่อกำเนิดซึ่งกั้นกลางระหว่างพวกเขากับนครพยัคฆา นครพยัคฆานั้นเป็นดินแดนแห่งความหนาวเย็น ฤดูหนาวกินเวลายาวนานครึ่งปีทำให้ชีวิตยากจะอยู่รอดได้
ความหนาวเย็นไม่ได้ปกคุมเพียงดินแดนนครพยัคฆาแต่มีอาณาเขตยาวลงไปจนถึงรอยต่อระหว่างสามดินแดนล่างสุดของเทือกเขาก่อกำเนิด ซึ่งสถานที่นั้นมีทะเลสาบอยู่หนึ่งแห่ง ที่ได้ชื่อว่า ทะเลสาบดับตะวัน
ผิวหน้าของทะเลสาบดับตะวันนั้นจะเป็นแผ่นน้ำแข็งอยู่ตลอดเวลา ส่วนด้านล่างนั้นเป็นกระแสน้ำที่เชี่ยวและเย็นจัด ถึงที่นี่จะอันตราย แต่กลับเป็นเส้นทางที่มีผู้คนเดินทางกันอยู่ เพราะสถานที่นี้เป็นรอยต่อของสามนครคือ นครดาราฟ้า นครพยัคฆาและสุดท้ายคือ สถานที่ต้องสาปและเป็นดินแดนที่อาชญากรชั่วร้ายในโลกราชันมาอาศัยอยู่อย่างนครทมิฬ
ริมทะเลสาบดับตะวันมีเต็นท์หนังสัตว์หลังหนึ่งถูกกางไว้แอบริมขอบหิน ด้านในนั้นเต็มไปด้วยสิ่งของเก่าเก็บและเสื้อผ้าอยู่หลายชุด แต่ที่แปลกกว่านั้นคือ ในเต็นท์ที่หนาวเย็นกลับมีร่างของคนสองคนนอนอยู่
ตอนนั้นเองร่างทั้งสองก็ลืมตาขึ้นมาพร้อม ๆ กัน
“พระเจ้า ทำไมถึงหนาวแบบนี้ไทเลอร์ลุกขึ้นมา ก่อนจะกอดตัวเองและถูไปมาด้วยความหนาวเย็น”
“หนาวมาก รีบก่อไฟก่อนเร็ว” เมญ่าบอกไทเลอร์หลังจากที่เธอเห็นกองฟืนด้านข้างเต็นท์
ไทเลอร์ได้ยินก็พยักหน้าพยักรับ ก่อนจะเดินไปหยิบฟื้นมา ทั้งสองช่วยกันก่อไฟ ซึ่งการกว่าไทเลอร์และเมญ่าจะหาที่จุดไฟได้ก็แทบแข็งตายกันแล้ว
ที่จุดไฟนั้นเป็นหินประกายเพลิงสองก้อนที่ขุดกันเบา ๆ ก็เกิดประกายไฟรุนแรงออกมา ซึ่งมันง่ายมากในการก่อไฟ
หลังจากก่อกองไฟเสร็จทั้งสองก็รีบหาเสื้อผ้าที่ใส่ได้มาสวมใส่และกอดกันแน่นหน้ากองไฟ
“ซวยมาก พวกเรามาอยู่ในดินแดนที่หนาวมาก” ไทเลอร์พึมพำและปากสั่น
“ดินแดนที่หนาวเย็นน่าจะเป็นนครพยัคฆา แต่ไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหน เราควรจะหาตำแหน่งก่อน”
“อืม ๆ”
หลังจากนั้นทั้งสองก็ค้นทุกอย่างในเต็นท์ ก่อนจะเจอเข้ากับแผนที่ ซึ่งก็เป็นแบบที่กายบอกพวกเขาว่าในสถานที่เกิดอาจจะเจอกับแผนที่
“ทะเลสาบดับตะวัน รอยต่อของสามนคร” มีอามองดูในแผนที่ ซึ่งมีการกาเครื่องหมายไว้อยู่
“ค่อยยังชั่วอย่างน้อยก็ยังเดินทางไปที่นครดาราฟ้าได้ เราเก็บของกันเถอะ” ไทเลอร์กล่าว
“อืม” เมญ่าพยักหน้ารับ
พวกเขาช่วยกันเก็บของทุกอย่างที่ใช้ได้ใส่ในเลื่อนที่วางทิ้งไว้ข้างเต็นท์ แม้จะไม่มีสุนัขหรือกวางให้ลาก แต่ไทเลอร์เพียงคนเดียวก็สามารถลากเลื่อนไปอย่างง่ายดาย
เมญ่าคิดจะเดินไปพร้อมกับไทเลอร์ แต่ไทเลอร์บอกให้เธอนั่งไปด้านบนเลื่อนและค่อยบอกทิศทางกับเขา
จริง ๆ แล้วไทเลอร์แค่ใช้เรื่องนี้เป็นข้ออ้างเท่านั้น เพราะเขาไม่อยากให้เมญ่ามาลำบากเดิน เพราะแม้ที่นี่จะเป็นเกม แต่กลับให้ความรู้สึกที่สมจริงมากไม่ต่างจากของจริง
หลังจากเดินทางไปตามเส้นทางที่พวกเขาประมาณ 4 กิโลเมตร ตอนนั้นพวกเขาทั้งสองก็เจอเข้ากับกลุ่มคนพอดี
“พวกเจ้าสองคนเป็นใครกัน” ชายวัยกลางคนที่ดูเหมือนจะเป็นผู้นำกลุ่มหันมาถามพวกเขาด้วยสีหน้าระแวดระวัง ด้านหลังของชายคนนั้น มีชายหนุ่มคนหนึ่งและหญิงวัยกลางคน กับเด็กสาวอยู่ด้วย
“พวกเราเป็นนักเดินทาง กำลังจะไปที่นครดาราฟ้า” ไทเลอร์ตอบกลับไป โดยอ้างว่าเป็นนักเดินทาง ซึ่งมีผู้เล่นจำนวนมากได้บอกว่าถ้าใช้วิธีนี้พวก NPC จะไม่ถามอะไรมาก แน่นอนว่าใช้ไม่ได้ผลตลอด แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่มีปัญหา
“นักเดินทาง พวกเจ้าจะไปที่นครดาราฟ้าอย่างนั้นเหรอ ค่อยยังชั่วข้าก็คิดว่าพวกโจรจากนครทมิฬ” ชายวัยกลางคนถอนหายใจ ส่วนคนที่อยู่ด้านหลังทั้งสามก็คลายสีหน้าระวังลง
หลังจากทั้งสองฝ่ายแนะนำตัวกัน ก็ทำให้ไทเลอร์และเมญ่าทราบว่าทั้ง 4 นั้นเป็นครอบครัวเดียวกันและพวกเขากำลังจะเดินทางไปยังดินแดนของนครดาราฟ้าเช่นกัน
นั้นทำให้ไทเลอร์ขอติดตามไปด้วยในทันที อย่างน้อยมี NPC ไปด้วยก็อุ่นใจขึ้นมาก