533 - ราชาอมตะ
533 - ราชาอมตะ
หลายคนรู้สึกหดหู่ใจอย่างอยากที่จะลบล้าง ในตอนแรกพวกเขาคิดว่าสิ่งที่อยู่ด้านในจะเป็นหญิงสาวผู้งดงามอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ แต่มันกลับกลายเป็นทวนสนิมเขรอะเล่มหนึ่ง
มีทวนอยู่ในหิน แดงดุจเลือด ปกคลุมไปด้วยสนิม มันเกือบจะเน่าเปื่อยเป็นเศษอาวุธ แต่ไอสังหารของมันนั้นน่ากลัวอย่างถึงที่สุด!
มันทำให้ร่างกายของผู้คนสะท้าน ทวนที่เปื้อนเลือดแสดงถึงความพินาศและความตาย!
อย่างไรก็ตามหลังจากที่มันถูกเปิดเผยขึ้นไม่นาน กลิ่นอายอันน่ากลัวของมันก็ถูกลบล้างออกไปอย่างรวดเร็ว
"นี่เป็นอาวุธชั่วร้ายที่ไม่มีใครเทียบได้ มันต้องการฆ่าสิ่งมีชีวิตทั้งหมดที่อยู่ในโลก!"
เหล่าผู้อาวุโสเริ่มปิดผนึกสถานที่ให้แน่นหนาอีกครั้ง พวกเขาจับจ้องมันและวิเคราะห์อย่างใจเย็น
"ทวนนี้แสดงเจตนาที่ต้องการสังหารสิ่งมีชีวิตทั้งหมดในโลก นี่เป็นอาวุธชั่วร้ายที่เปื้อนเลือด แม้ว่ามันจะถูกทำลายไปแล้วแต่เจตจำนงอันบ้าคลั่งของมันยังคงต้องการล้างแค้นให้กับตัวเอง!"
เทพธิดาในศิลาจะเข้าสู่โลกพร้อมกับอาวุธที่ชั่วร้ายหรือไม่?
เมื่อคิดถึงปัญหานี้ หลายคนสั่นสะท้าน ความกลัวไม่รู้จบห่อหุ้มหัวใจของพวกเขาไว้ ผู้คนต่างหวาดกลัวและถอยหนี
หนานกงจี้สงบลงและใช้เวลานานก่อนที่เขาจะก้าวไปข้างหน้าอีกครั้ง แต่มีดเงินที่เขาหยิบออกมานั้นสั่นเทา
"พัฟ!"
ทันทีที่กระบี่สีเงินคมกริบอยู่ใกล้ทวน ด้ามทวนสีแดงที่น่ากลัวเล่มนั้นก็แหลกสลายกลายเป็นฝุ่นผง
"ถอยออกไป"
ผู้อาวุโสสูงสุดตระกูลจี้ก้าวไปข้างหน้าและใช้มีดของเขากวาดเอาฝุ่นผงที่เกิดจากทวนไม่ให้ตกลงสู่พื้น
“คชา!”
เปลือกหินที่เหลืออยู่บนแท่นบูชาโลหิตตกลงมาเรื่อยๆ กลิ่นอายแห่งความศักดิ์สิทธิ์ได้กระจัดกระจายออกมามากขึ้น
"กลิ่นอายที่เข้มข้นของต้นกำเนิดสวรรค์?" เหล่าผู้เฒ่าเริ่มแสดงความตื่นเต้นออกมาอีกครั้ง
"หรือจะมีเทพธิดาอยู่ข้างในจริงๆ!" หลายคนตกใจ
เย่ฟ่านก็ไม่รู้ว่าสิ่งนั้นจะเป็นต้นกำเนิดแบบไหน แต่เขาค่อนข้างมั่นใจว่ามันจะมีมูลค่าสูงจนน่าเหลือเชื่อ
ในขณะที่ผู้อาวุโสของตระกูลจี้เปิดหินมากขึ้นเรื่อยๆก็มีเสียงกรีดร้องดังขึ้น ร่างกายของทุกคนแข็งค้างก่อนจะถอยหลังด้วยความกลัวอีกครั้ง
ในช่วงเวลาที่ทุกคนกำลังตกใจ ภาพธรรมของหญิงสาวคนหนึ่งก็บินออกจากแท่นบูชาโลหิต แม้ว่าจะมีผ้าม่านสีม่วงปิดบังใบหน้าของนางไว้แต่ผิวพรรณอันงดงามของนางนั้นยังหาที่เปรียบไม่ได้
ทุกคนตกตะลึงอย่างถึงที่สุด มีหญิงสาวอยู่ในต้นกำเนิดสวรรค์จริงๆ!
“เป็นภาพลวงตาหรือไม่!”
"เด็กสาวที่มีชีวิตชีวา นางเป็นราชาอมตะหรือเปล่า?!"
ราชาอมตะนั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่ยิ่งใหญ่กว่าสิ่งมีชีวิตอมตะธรรมดา พวกเขาเป็นราชาของดินแดนขนาดใหญ่และมีอำนาจควบคุมสวรรค์และปฐพี
แม้ว่าหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้านี้จะมีใบหน้าเปิดเผยออกมาเพียงครึ่งเดียว แต่ผู้คนยังสัมผัสได้ว่านางอายุน้อยมากเกินไป บางทีอาจจะไม่เกินสิบหกหรือสิบเจ็ด
เมื่อมองเห็นความเคลื่อนไหวนี้ หัวใจของทุกคนก็สั่นสะท้าน เด็กสาวดูสงบและเงียบ แต่ไม่มีผู้ใดรู้อายุที่แท้จริงของนาง บางทีนางอาจจะเป็นราชาอมตะผู้ยิ่งใหญ่จากยุคโบราณก็ได้
ในฝูงชน พระจันทร์น้อยของตระกูลจี้และแม่ชีชุดขาวตัวน้อยคว้าตัวหนอนไหมสวรรค์อย่างแรง อสูรตัวน้อยสีทองตัวนี้ดิ้นรนอย่างดุเดือดโดยและพยายามบินเข้าหาหญิงสาวที่อยู่ต้นกำเนิด
"บูม"
ไอสังหารที่สวรรค์สั่นสะท้านก็เหมือนกระแสน้ำขึ้นๆ ลงๆ และผู้คนที่อยู่ภายในสวนหินก็เหมือนตกลงไปในนรก หลังจากที่ทวนผุพังถูกเปิดเผย หลายคนก็ทนไม่ได้
“ปูตง”
ไอสังหารแทรกซึมเข้าไปในกระดูกของผู้ที่มีระดับบ่มเพาะต่ำต้อย พวกเขาตกใจและกรีดร้องด้วยความกลัว
“ถอยออกไปให้หมด!”
ผู้อาวุโสของตระกูลจี้ที่ทำหน้าที่เปิดก้อนหินออกคำสั่งด้วยใบหน้าซีดขาว
“ติง”
ในขณะเดียวกันมีสีเงินของเขายังคงกรีดลงไปเรื่อยๆอย่างระมัดระวังและทวนขึ้นสนิมก็ถูกเปิดเผยมากยิ่งขึ้น
สิ่งที่ทุกคนเห็นน้ำตกตะลึงเป็นอย่างมาก เพราะทวนเล่มนี้ดูเหมือนจะไม่ได้อยู่ในมือของหญิงสาว
“นี่ไม่ใช่อาวุธของเทพธิดา”
“มันเหมือนกับว่าเทพธิดาโบราณคนนี้ถูกโจมตีด้วยทวนที่น่ากลัว!”
ผู้คนต่างประหลาดใจที่ค้นพบความจริงข้อนี้
ทวนเล่มนี้ไม่ใช่อาวุธของหญิงสาวเพราะในความเป็นจริงมันได้ปักเข้าไปในหน้าอกของนางอย่างแน่นหนา!
“ปัว!”
ด้วยเสียงสุดท้าย หินทั้งหมดก็ร่วงลงมาและสิ่งที่อยู่ในแท่นบูชาโลหิตก็ถูกเปิดเผยสู่สาธารณชน
นี่เป็นต้นกำเนิดแปลกๆที่สูงเกือบวา มันล่องลอยอยู่กลางอากาศมีลักษณะคล้ายกับต้นกำเนิดสวรรค์ แต่ผู้คนที่อยู่ที่นี่ไม่มั่นใจว่ามันเป็นต้นกำเนิดสวรรค์หรือไม่
มีหญิงสาวผมสีม่วงอยู่ข้างใน ใบหน้าที่ถูกเปิดเผยเพียงครึ่งเดียวของนางงดงามอย่างไม่มีผู้ใดเทียบได้ แต่ทุกคนต้องถอนหายใจด้วยความเศร้าโศกเพราะเห็นได้ชัดว่านางเสียชีวิตไปแล้ว
ทวนศักดิ์สิทธิ์ที่น่ากลัวนี้แทงทะลุผ่านต้นกำเนิดอย่างรุนแรง และมันแทงเข้าสู่หัวใจของนางโดยตรง คาดว่ามันจะเกิดขึ้นในตอนที่นางหลับไหลอยู่ในต้นกำเนิด
ไม่มีผู้ใดคาดคิดว่าราชาอมตะที่อยู่ในต้นกำเนิดนี้จะถูกฆ่าจากวัตถุภายนอก!
พวกเขารู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก หญิงสาวคนนี้มีรูปร่างเหมือนมนุษย์ไม่ผิดเพี้ยน เห็นได้ชัดว่านางแตกต่างจากสิ่งมีชีวิตอมตะที่อาศัยอยู่ในเกมืองโบราณต้นกำเนิด
หากนางเป็นราชาอมตะจริงๆ การปรากฏตัวของนางจะมีส่วนช่วยเหลือเผ่าพันธุ์มนุษย์และอสูรในดินแดนรกร้างตะวันออกเป็นอย่างมาก
“ทำไมราชาอมตะผู้ยิ่งใหญ่แบบนี้ถึงถูกฆ่าตายได้!”
แม้แต่ผู้ยิ่งใหญ่เช่นนักพรตมังกรแดงก็ยังถอนหายใจด้วยความเศร้าโศก หากหญิงสาวคนนี้ยังมีชีวิตอยู่การบุกเข้าไปในเหมืองโบราณต้นกำเนิดซึ่งเป็นสิ่งที่เขาเฝ้าใฝ่ฝันอาจเป็นจริงขึ้นมา
“วู้...”
จู่ๆก็มีเสียงร้องแห่งความเศร้าโศกดังขึ้น เสียงนั้นมันมาจากต้นกำเนิดก้อนใหญ่ที่บรรจุร่างกายของหญิงสาวอย่างแม่นยำ
“หรือว่านางยังไม่ตาย!” ผู้สูงสุดของตระกูลจี้ไม่อาจหยุดนิ่งได้
แต่ทันใดนั้นผู้คนก็รู้ว่าเสียงร้องไห้ด้วยความเศร้าโศกมาจากหนอนไหมสวรรค์ที่ดิ้นรนหลุดออกจากมือของแม่ชีชุดขาว มันฝังตัวเข้าไปในต้นกำเนิดและน้ำตาของมันก็ไหลออกมาไม่หยุด
แม่ชีน้อยชุดขาวรู้สึกสะเทือนใจเป็นอย่างมากกับสิ่งที่นางเห็น
หนอนไหมสวรรค์ร้องไห้คร่ำครวญในขณะที่มันพยายามใช้มือเล็กๆลูบใบหน้าของหญิงสาวที่อยู่ในต้นกำเนิดอย่างแผ่วเบา
“เสี่ยวไฉอย่าร้องไห้”
แม่ชีน้อยชุดขาวพยายามเกลี้ยกล่อมจากระยะไกล เป็นเพราะไอสังหารที่ปรากฏออกมาจากทวนสี่แดงนั้นน่ากลัวเกินไปนางจึงไม่สามารถเดินเข้าใกล้หนอนไหมสวรรค์ได้
“อย่าร้องไห้ ไม่อย่างนั้นเจ้าจะทำให้ข้าเสียใจไปด้วย” เสี่ยวเยว่ของตระกูลจี้ก็กล่าวด้วยน้ำเสียงเศร้าโศก
ในสถานการณ์ตอนนี้ต่อให้เป็นคนโง่ที่สุดก็รู้ว่าหนอนไหมสวรรค์มีความสัมพันธ์ลึกลับกับหญิงสาวที่เสียชีวิตอยู่ตรงหน้า?
เมื่อเห็นความโศกเศร้าและการร้องไห้ของมันแม้แต่คนที่ใจแข็งที่สุดก็ยังสั่นสะท้านในหัวใจ
เหตุการณ์การเสียชีวิตของหญิงสาวนี้ผ่านมานานแค่ไหนแล้ว เหตุไฉนมันจึงไม่ถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์
อสูรน้อยสีทองร้องไห้เสียใจจนเกือบหมดสติ มันยื่นอุ้งเท้าสีทองเล็กๆลูบแก้มของหญิงสาวซ้ำแล้วซ้ำเล่า และเสียงร้องของมันก็ทำให้ผู้คนรู้สึกเจ็บปวดใจ
มันส่งเสียงร้องด้วยคำพูดเดิมอยู่ตลอดเวลา แม้คำพูดของมันจะไม่มีผู้ใดเข้าใจแต่พวกเขาก็คาดว่าสิ่งที่มันพูดออกมาน่าจะเป็นชื่อของหญิงสาว
สิ่งมีชีวิตตัวน้อยสีทองเกาะติดกับเสาและร้องไห้อย่างเศร้าโศก แม้ว่ามันจะส่งเสียงร้องอยู่ตรงนั้นแต่ก็เป็นเพียงเสียงร้องอย่างแผ่วเบาราวกับกลัวว่าจะปลุกนางให้ตื่นขึ้น
ในตอนนี้ผู้สูงสุดของตระกูลจี้อุ้มนอนไหมสวรรค์กลับเข้าหาจี้จื่อเยว่และแม่ชีตัวน้อย
“เสี่ยวไฉอย่าร้องอีกเลย” หญิงสาวทั้งสองก็เจ็บปวดใจเช่นกัน